” แค่ดูงานที่บ้านกับดูแลหนู เฮียก็น่าจะหมดเวลาแล้วล่ะครับ“
” หนูโตแล้วนะคะ เฮียไม่ต้องห่วงนะ หนูอยากให้เฮียมีแฟน เฮียจะได้ไม่เหงาไงคะ“ มารีนเอ่ยกับผู้เป็นพี่ชาย
” เฮียก็ไม่ได้เหงานิครับ“
” หนูรู้ว่าเฮียมีผู้หญิงเยอะแยะ แต่พวกนั้นเขาก็แค่คู่นอนไม่ใช่เหรอคะ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย“
” ไว้พร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวเฮียก็มีเองแหละครับ ตอนนี้เฮียยังไม่อยากคิดเรื่องนั้น“
” หนูจะคอยดู ถ้าเฮียมีแฟนนะหนูว่าเฮียต้องคลั่งรักมากแน่ๆเลย“
” ถึงขนาดคลั่งรักเลยนะครับ เฮียดูเป็นแบบนั้นหรอ เห็นปกติมีแต่คนบอกว่าเฮียน่ากลัว“
” เฮียน่ากลัวกับคนอื่นไงคะ แต่กับคนที่เฮียรักเฮียใจดีจะตายไป“
มาเฟียเผยรอยยิ้มที่น้อยคนจะเห็นกับมารีน น้องสาวที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
มหาวิทยาลัยXX
“ วันนี้เฮียมารับมั้ยครับ?”
“ เฮียทำงานเถอะค่ะ หนูเรียนแค่วิชาเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ ตอนบ่ายว่าจะไม่เข้าเรียน วันนี้ดานีน้องไม่ได้มาเรียนหรอกค่ะหนูเหงา”
“ อ้าวทำไมเพื่อนไม่มาล่ะ”
“ ทักแชทมาบอกหนูเมื่อเช้าว่าแม่ไม่ค่อยสบายค่ะ”
“ งั้นเฮียไปทำงานนะ กลับบ้านดีๆนะครับ ถ้าเปลี่ยนใจจะให้เฮียมารับ ก็โทรมาหาเฮียนะ”
“ ค่ะเฮีย บ๊ายบาย”
DA-NEEN TALK
วันนี้ตั้งแต่เช้า หญิงสาวที่เฝ้าผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาล ก็เอาแต่กดมือถือเพื่อหางานพิเศษทำโดยที่ไม่ให้ผู้เป็นแม่รู้ หากแม่ของเธอรู้เธอจะไม่ได้ทำงานแน่ เธอต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และอยากให้แม่ของเธอทำงานน้อยลง ตอนนี้ร่างกายของแม่เธอกำลังแย่ ลูกสาวแบบเธอก็ต้องหาทุกทางเพื่อช่วยแม่ของเธอแบ่งเบาบ้าง
พ่อของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุสามขวบ ในความทรงจำของเธอ เธอเห็นแม่ทำงานหนักมาตลอดชีวิต ตั้งแต่เล็กจนโตหากวันไหนแม่ของเธอต้องเข้าเวร เธอก็จะต้องอยู่กับพี่เลี้ยงบ้าง แอบไปอยู่ที่โรงพยาบาลกับแม่บ้าง แต่พอโตจนดูแลตัวเองได้ ก็เบาภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ้างพี่เลี้ยงลงไปได้ค่อนข้างมาก แลพยังโชคดีที่บ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่บ้านเช่า แต่เป็นบ้านที่พ่อและแม่ของเธอซื้อไว้ในตอนที่แต่งงานกันใหม่ๆ
” วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอลูก“
” อ๋อ อาจารย์ยกคลาส หนูเลยได้อยู่เฝ้าแม่ค่ะ“
” เดี๋ยววันนี้แม่ก็กลับบ้านแล้ว“
” ไม่นอนที่โรงพยาบาลต่ออีกซักคืนค่ะแม่ แม่ไหวแล้วหรอคะ“
” ไหวสิลูก หนูไม่ต้องห่วงนะ“
หลังจากออกจากโรงพยาบาล แม่ของเธอมีนัดให้คีโม มันทำเอาร่างกายของแม่เธออ่อนเพลียลงไม่น้อย แต่ก็ยังพยายามที่จะไปทำงาน ดานีน้องเริ่มเป็นกังวล เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่
ออกจากโรงพยาบาลมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ แม่ของเธอก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดทำงาน และไปตรวจร่างกายอยู่เรื่อยๆ
ทางด้านมาเฟียที่วันนี้กำลังออกจากท่าเรือใหญ่ เพราะเรือส่งสินค้ากำลังจะเข้าเทียบท่าในตอนเที่ยงคืนวันนี้ และเขาก็มีเรื่องที่ต้องจัดการกับคนที่มันกล้าคิดที่จะปล้นเรือสินค้าของเขา
“ พวกมันมาแล้วครับนาย”
“ ไอ้พวกสวะ!”
มาเฟียเอ่ยขึ้นในขณะที่เขาจอดเรือตามเส้นทางปิดไฟและดับเครื่องยนต์จนเงียบสนิทในความมืด เรือสินค้าใหญ่ต้องเข้าทางปากอ่าว จู่ๆมีเรือสองลำ ที่ขับด้วยความเร็วตรงไปยังเรือสินค้าลำใหญ่ของเขา ในจังหวะที่เรือทั้งสองลำนั้นกำลังจะผ่านเส้นที่มาเฟียดักอยู่ เขาก็เปิดไฟเรือที่เขาดักซุ่มทันที มันค่อนข้างสร้างความตกใจให้อีกฝ่าย เพราะมาเฟียดักซุ่มอยู่ด้วยเรือเร็วหกถึงเจ็ดลำ
“ ยิง”
คำสั่งสั้นๆ ที่ออกจากปากของมาเฟียหนุ่ม ทำให้เสียงปืนสาดกระสุนปะทะกันทันที นานนับ 10 นาที เสียงก็เงียบลงและไม่มีความเคลื่อนไหวในเรือฝั่งตรงข้าม
มาเฟียที่จอดเทียบท่าก็ก้าวขาเดินขึ้นไปบนเรือของอีกฝ่าย ศพนอนตายเกลื่อนเมื่อถูกกระสุนของฝั่งเขาสาดใส่
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีอีกสองคนที่ยังไม่ตายและแอบนอนเนียนเป็นศพ ยกปืนขึ้นยิงใส่มาเฟียทันที กระสุนสองนัดพุ่งเข้าร่างของชายหนุ่ม แต่เขายังมีสติ ยกมือปืนขึ้นยิงสวนกลับทำให้อีกสองคนที่เหลือตายในทัน
“ นายครับ!!!! เตรียมเรือนายถูกยิง!!!!”
มาเฟียหนุ่มกำลังเสียเลือดอย่างหนัก และตอนนี้เขาก็อยู่ที่ปากอ่าว แน่นอนว่าการเดินทางไปโรงพยาบาลต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ทำให้ลูกน้องทั้งหมดกังวลในทันที
“ เอาระเบิดมา....” มาเฟียเอ่ยก่อนที่จะรับระเบิดจากมือของลูกน้อง เขากดตั้งเวลา และขว้างมันทิ้งใส่เรือของอีกฝ่ายทันที
หลังจากเรือของเขาพ้นรัศมี เวลาที่ถูกตั้งก็จุดชนวนระเบิด เรือทั้งสองระเบิดเป็นจุน
แต่มาเฟียเองก็เสียเลือดไม่ใช่น้อยจนเกือบจะโคม่า ในนาทีที่กลับมาถึงโรงพยาบาล มาเวลผู้เป็นน้องชาย ซึ่งเป็นหมอที่กำลังเข้าเวรอยู่ในตอนนี้ ต้องตกใจทันที
“ เฮีย!!!! เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย เฮียกูเป็นอะไร!!!!”
“ นายถูกยิงครับ ตั้งแต่ที่ปากอ่าวแล้วครับ” ลูกน้องคนสนิทของมาเฟียเอ่ย
“ เตรียมห้องผ่าตัด กูจะเป็นคนผ่าตัดเฮียกูเอง!!”
มาเฟียหนุ่มที่นอนโคม่าเพราะเสียเลือดอย่างหนัก ก็ไม่มีสติจนกระทั่งถูกพาเข้าห้องผ่าตัด
มาเวลซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆและเป็นหมอฝีมือดีที่สุดในตอนนี้ของโรงพยาบาล ตลอดเวลาเขาเคยแต่รักษาคนไข้ที่ไม่ใช่ญาติตัวเอง แต่วันนี้กลับเป็นชีวิตของผู้คนพี่ชายแท้ๆ ทำให้เขาค่อนข้างกังวลไม่น้อย
” เฮียต้องไม่ตายคามือกูดิวะ“มาเวลเอ่ยขณะที่เริ่มลงมือผ่าตัด
การผ่าตัดกินเวลากว่า 2 ชั่วโมง หมอนุ่มอย่างมาเวล ที่ตั้งใจจนสุดฝีมือ เพื่อรักษาผู้เป็นพี่ชาย มาเฟียเสียเลือดจนโคม่าและเขาถูกยิงสองแผล จุดหนึ่งเข้าลำตัวอีกจุดไปกระทบกับเส้นประสาทที่วิ่งไปยังแขนข้างถนัด แม้ว่าหลังการผ่าตัด มาเฟียจะดีขึ้นจากอาการโคม่าก็ตาม แต่หลังจากฟื้นขึ้น เขาคงต้องหยุดพักงานและทำกายภาพเพื่อให้แขนข้างที่บาดเจ็บกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
“ คุณหมอพักก่อนนะคะ เข้าห้องผ่าตัดนานแล้วนะคะ” พยาบาลส่วนตัวเอ่ยขึ้นในขณะที่หมอมาร์เวลกำลังยืนมองผู้เป็นพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียงห้องไอซียู
“ ให้พยาบาลเข้ามาดูแลพี่ชายผมตลอดเวลาด้วย และห้ามให้ใครที่ผมไม่อนุญาตเข้ามาในนี้เด็ดขาด”
“ ค่ะคุณหมอ”
ผ่านมาสองวัน มาเฟียที่ฟื้นจากอาการโคม่า ก็ดูร่างกายแข็งแรง จนแทบไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาฟื้นตัวได้รวดเร็วราวกลับเป็นมนุษย์เหล็กแบบนั้น
“ เฮียอย่าเพิ่งลุกนะ” มาเวลเอ่ยกับผู้เป็นพี่ชาย
“ เก่งนี่หว่า ไม่ได้มึงป่านนี้กูไปเฝ้ายมบาลแล้ว”
“ ระดับเฮียไม่ไปง่ายๆหรอก ถ้าไปจริงเฮียคงเฮี้ยนมาก เฮียห่วงมารีนกว่าอะไรทั้งหมดอีกนะ”
“ มึงนี่เก่งนะ แต่แม่งปากหมาไม่เลิกจริงๆ” มาเฟียเอ่ย
“อ่อ! ผมจะบอกเฮียว่า เฮียต้องทำกายภาพทุกวันนะ ไม่งั้นเฮียจะกลับมาจับปืนไม่ถนัดนะ เดี๋ยวผมส่งพยาบาลไปทำกายภาพให้เฮียเอง”
“ ไม่ต้อง พยาบาลที่นี่มีแต่เด็กๆ ไม่รู้จะไปกายภาพหรือจะไปกินกูกันแน่”
ที่มาเฟียเอ่ยเช่นนั้น เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับบาดเจ็บและเรียกพยาบาลไปล้างแผลที่บ้าน สุดท้ายพยาบาลแทบจะไม่ได้ล้างแผลเขาจริงจังเลย เพราะมัวแต่ให้ท่าทางยั่วยวนจนเขาสั่งให้การ์ดลากตัวออกไป จนสุดท้ายมาเวลผู้เป็นน้องชายและเป็นหมอต้องมาทำให้แทน
“ ก็ไม่ให้เขากินซะหน่อย”
“ กูไม่ใช่มึงนะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูหาพยาบาลเอง”
“ ตามใจเฮียเลยครับ”
“ เรื่องนี้ห้ามบอกให้มารีนรู้เด็ดขาดนะ พ่อกับแม่ก็ห้ามบอก ถ้าเรื่องกูถูกยิงจนโคม่าไปถึงหูพ่อแม่เมื่อไหร่ กูจะไล่ฟาดเรียงคนเลย”
“คร้าบบบบบบ”
บ้านดานีน
ดานีนที่วันนี้ไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เพราะมารีนเพื่อนสนิทของเธอไม่อยู่ ทำให้ตลอดทั้งวันเธออยู่ที่บ้าน แต่จู่ๆช่วงบ่าย แม่ของเธอที่เดินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยใบหน้าอิดโรย ทำให้เธอตกใจไม่น้อย
“ แม่ค่ะ... เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ ให้ยามาแม่เพลียนิดหน่อยน่ะ หนูไม่ต้องห่วงนะลูก เดี๋ยวนอนพักสักหน่อยก็จะดีขึ้น”
แต่หญิงสาวที่ไม่ได้เชื่อคำพูดของแม่เธอมากนัก เพราะปกติหากไม่สุดๆจริงๆ แม่ของเธอจะไม่ยอมลางานเด็ดขาด
หลังจากที่กลับมาได้ไม่นาน แม่ของเธอก็นอนหลับอยู่ที่โซฟา เธอรู้ดีว่า หากปล่อยไว้แบบนี้มันจะไม่ใช่เรื่องนี้แน่ เพราะแม่ของเธอจะไม่ยอมหยุดทำงานและพักผ่อน เพราะกลัวว่าจะไม่มีรายได้พอให้เธอไปเรียน หรือใช้จ่าย แม้จะมีเงินเก็บอยู่บ้างก็ตาม
ครืด ครืด ข้อความในมือถือของแม่เธอดังขึ้น ดานีน หยิบมันขึ้นมาแล้วเห็นข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าจอ ทำให้เธอสนใจและกดเข้าไปอ่านทันที
เนื้อหาด้านในเป็นของเพื่อนคนหนึ่งของแม่เธอ ที่เธอเองจำได้ว่าเธอเจออยู่บ่อยครั้ง มันเป็นบทสนทนาที่ขอให้แม่เธอรับงานพยาบาลที่บ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งเขาต้องการพยาบาลคอยดูแลชั่วคราวและทำกายภาพ งานนี้จะทำจนกว่าทำกายภาพครบกำหนดเวลา และราคาที่จ่ายต่องานนี้มันแทบจะตกวันละหกหลักเลยทีเดียว แต่แม่ของเธอไม่ได้ตกปากรับคำรับงาน เพราะร่างกายไม่ไหว และไม่อยากทิ้งให้ลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆในช่วงนี้ เพราะเธอได้ข่าวมาว่า มีเด็กวัยรุ่นสองคนที่ชอบมาแอบมองลูกสาวเธอ หายตัวไปอย่างลึกลับทำให้คนในซอยต่างพากันกลัวไม่น้อยเพราะคิดว่าเกี่ยวกับอิทธิพลมืด
ดานีนที่เกิดความคิดที่ค่อนข้างไม่สู้ดีนัก ทำให้เธอบันทึกเบอร์ของนายจ้างที่เพื่อนแม่ของเธอทิ้งไว้ และพิมพ์ข้อความบอกเพื่อนของแม่เธอว่า ไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้อีกเดี๋ยวเธอจะรับงานเอง แสร้งทำเป็นว่าตอนนี้ เพื่อนของแม่เธอกำลังคุยกับแม่เธอแบบนั้น โดยให้เหตุผลว่ากลัวลูกสาวไม่ให้ไปทำงานเพราะกำลังไม่สบาย
หลังจากคุยเสร็จ ดานีนรีบกดลบข้อความออกทันที เธอรีบเดินกลับขึ้นห้อง ก่อนจะใช้ถือของตัวเอง โทรติดต่อฝั่งนายจ้าง
(สวัสดีครับ)
(ดิฉันเป็นพยาบาลที่จะไปรับงานทำกายภาพค่ะ) ดานีนเอ่ย
(อ๋อ คุณดาริกาใช่ไหมครับ)
(ใช่ค่ะ ดิฉันต้องไปเริ่มงานที่ไหนคะและเอกสารมีอะไรบ้างคะ)
(เริ่มงานได้ทันทีครับ อีก 1 ชั่วโมงไปพบผมที่ร้านกาแฟตรงซอย 15 นะครับ)