ตอนที่ 7 ฝันร้าย

1203 Words
“สิ่งที่ฉันอยากบอก คือเธอไม่มีวันหนีฉันไปไหนได้” เธอรีบลุกนั่ง จ้องมองอีกฝ่ายแววตาไหววูบ “นี่คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่!” “ต้องการร่างกายเธอ” “คุณหาผู้หญิงมานอนกับคุณสักกี่คนก็ได้ ไม่ใช่หรือไง หน้าตาแบบคุณ ไม่ต้องเสียเงิน ก็คงมีผู้หญิงอยากนอนรวมเตียงอยู่แล้ว ทำไมคุณไม่ไปหาพวกเธอเล่า!” เขายกยิ้ม ทอดสายตามอง ไปยังทรวงอกพอดีมือ มันกำลังแตะตาเพราะอีกคนเผลอ อโรชารู้ตัวรีบก้มมอง ดึงผ้าห่มมาปกปิดเอาไว้ “นี่คุณ!” “เป็นผู้หญิงของผมซะ ผมจะรักษาความลับระหว่างเราเอาไว้” “พูดออกมาได้ยังไง ฉันกำลังจะแต่งงาน คุณได้ยินไหม!” อโรชาตะโกนลั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ยกมือปาดมันออกแววตาแข็งกร้าว “แต่งงาน ทั้งที่นอนกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ คุณแต่งลงเหรอครับ” “ทำไมคุณทำกับฉันแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้คุณ เราไม่มีความแค้นต่อกันไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่” “แล้วทำไมต้องทำให้ฉันหมดหนทางแบบนี้เล่า!” ราชินทร์เลือกยิ้ม แทนคำตอบ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาบอกความจริง อโรชาไม่ควรรู้อะไร เพราะการแก้แค้น อาจมีปัญหา ต้องทำให้มัน รู้สึกเหมือนตัวเองโดนพรากสิ่งสำคัญไป “ขอถามอีกคำ จะเป็นผู้หญิงของผมหรือเปล่า” คนถูกถามกรอกตา สับสน ครุ่นคิดหนัก ควรทำอย่างไรดี “ไม่รู้!” ริมฝีปากบางสั่นระริก “ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม เวลาเพื่อจัดการกับเรื่องต่าง ๆ” “ผมให้เวลาคุณสามวัน ในการตัดสินใจ ก่อนที่ผมจะเอาภาพพวกคุณ ไปขายในเว็บอย่างว่า!” “ไอ้ทุเรศ!” อโรชาเกรี้ยวกราด หยิบหมอนฟาด จนอีกฝ่ายต้องคว้าเรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ ร่างเปลือยเปล่าทำเอาหัวใจราชินทร์เต้นหนักอีกครั้ง ยิ่งเห็นทรวงอกกำลังกระเพื่อมไหว เพราะแรงโทสะ ยิ่งเรียกความต้องการได้อย่างดี เขากระตุกยิ้มมุมปาก “วอนหาเรื่องเองนะ!” อโรชากรีดร้องทันที ที่อีกฝ่ายโน้มกายเข้าหา เธอไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างตนเองกับชายผู้นี้ มันจะจบลงตรงไหน เพราะตอนนี้ เขากลับเป็นคนคนเดียวที่ได้ครอบครองเธอ หลายต่อหลายครั้ง อโรชาจอดรถแล้วรีบลง สาวเท้าขึ้นชั้นบนทันที ทิ้งกายลงบนเตียง แทนที่ชายคนนั้น จะจบเรื่องทุกอย่างกับเธอ กลับเดินเข้าไปในกับดักจนตัวเอง ต้องเจอเหตุการณ์เหมือนเดิม ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ คนคนนั้นทำร้ายกันขนาดนี้เพื่ออะไรกันแน่ ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู ทำเอาอโรชาลุกนั่ง แล้วรอฟัง “คุณโรสคะ คุณนพรุจมาขอพบค่ะ” อโรชานิ่งงัน หยิบมือถือตนเองมาดู เห็นข้อความกับเบอร์โทรนับร้อย เธอไม่ควรหลบหน้าแฟนตัวเอง ไม่เช่นนั้นคงมีพิรุธมากกว่านี้ ตัดสินใจล้างหน้ามองตัวเองในกระจก แล้วเดินลงมา เห็นเขารออยู่ในห้องรับแขก พูดคุยกับบิดาสีหน้าแช่มชื่น “โรส” เขาเรียกชื่อ แล้วตรงเข้ามาหา ดึงร่างบางมานั่งข้างกัน “ผมโทรหาคุณ ส่งข้อความทักคุณ ทำไมไม่ตอบผมบ้างเลย” อโรชายิ้มเศร้า แววตาหม่น มือบางจับกันไปมา รู้สึกกระอักกระอ่วน น้ำท่วมปาก ไม่รู้ควรเอ่ยเช่นไรกับคนรักดี เธออยากหนีให้พ้นจากตรงนี้ “ขอโทษค่ะ พอดีช่วงนี้โรสยุ่งนิดหน่อย ตั้งใจจะเปิดร้านอาหารอีกสาขา ก็เลยไม่มีเวลาตอบแชทรุจเลยค่ะ” นพรุจยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไรครับ ไม่ใช่ความผิดเลย ผมแค่เป็นห่วงโรส เพราะปกติโรสจะตอบข้อความผมตลอด” “วันนี้อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยสิรุจ จะได้ปรึกษาเรื่องงานแต่งด้วย” “ได้ครับคุณอา” หกโมงตรง ทุกคนพร้อมกันตรงโต๊ะอาหาร เสียงรถยนต์จอดเทียบ ธนิดาก้าวเข้ามาทอดสายตามองไปยังพี่สาว กับแฟนหนุ่ม รวมถึงมารดา พร้อมด้วยบิดาเลี้ยง กำลังร่วมโต๊ะ ขาดเพียงเธอที่ไม่มีใครโทรหรือส่งข้อความมาบอก “นิดกลับมาแล้วเหรอ มาทานข้าวด้วยกันสิ” อโรชาเอ่ยชวน ธนิดาข่มกลั้นความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ “นิดทานมาแล้วค่ะ ตามสบายนะคะ” เธอบอกปัด แล้วเดินขึ้นชั้นบน นิพาดาเหลือบมองบุตรสาว สีหน้าหนักใจ ก่อนตัดอาหารใส่จานสามกับลูกเลี้ยง เธอไม่อยากมีปัญหา ต้องการให้ลูกสาวอยู่ที่อย่างสงบสุข ไม่ต้องเหนื่อยกับการทำงาน เพื่อครอบครัว ยิ่งเธอทำดีกับอโรชามากเท่าไหร่ สามียิ่งเอ็นดูบุตรสาวมากเท่านั้น เธอคิดเช่นนี้ ทว่าดูเหมือนลูก แสดงท่าทีไม่พอใจ แต่คนเป็นแม่กลับต้องเลือกเมินเฉยไม่สนใจ “ไปตามนิดมาทานข้าวดีกว่าไหมครับ เผื่อโรสจะคุยเรื่องให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย” นพรุจเสนอ ธาดาครุ่นคิดตาม ก่อนหันไปทางคนใช้วัยกลางคน “สงวน ไปตามคุณนิดมาหน่อยไป” “ค่ะคุณผู้ชาย” สงวนยืนอยู่ด้านนอก ง้างมือหมายเคาะ ก่อนได้ยินเสียงบางอย่าง เพล้ง! ตามด้วยเสียงกรีดร้อง ทำเอาคนรับใช้นิ่งงัน ไม่กล้าเคาะ มันเกิดอะไรขันกันแน่ ทำไมคุณนิดถึงอาละวาดหนักขนาดนี้ แล้วเธอควรทำเช่นไร หรือต้องรอให้หายเสียก่อน “อ้าวพี่สงวน มายืนทำอะไรเนี่ย!” จุ๋มเอ่ยทัก ทำเอาคนถูกทักสะดุ้ง เบิกตากว้าง “เอ่อ... พอดีคุณผู้ชายให้มาตามคุณนิดน่ะ ยังไม่ได้เรียกคุณนิดเลย!” เจ้าของห้องหยุดมือ สูดหายใจเข้าปอด จัดเสื้อผ้า ยกมือปาดน้ำตาออก เดินมาถึงหน้ากระจกตรวจดูความเรียบร้อย หยิบทิชชู่เช็ดเครื่องสำอางออก เม้มริมฝีปากแน่น แล้วเปิดประตูออกมา “มีอะไรเหรอคะ” เธอถามสาวใช้เสียงแผ่วเบา “คุณผู้ชายให้มาตามน่ะค่ะ” “เข้าใจแล้วค่ะ นิดจะลงไปเดี๋ยวนี้” ธนิดาก้าวลงบันได มายังห้องรับประทานอาหาร หย่อนกายลงข้างพี่สาว มองดูแฟนหนุ่ม กำลังตักอาหารให้เอาอกเอาใจ มือกำช้อนแน่น “ทานข้าวแล้ว ก็ทานขนมได้นะนิด พ่อเห็นว่ามีของโปรดนิดด้วย” ธาดาออกปาก แล้วยิ้มอ่อนโยน “ค่ะพ่อ” “พอดีพี่โรสใกล้แต่งงานแล้ เลยอยากปรึกษานิดเรื่องเพื่อนเจ้าสาวน่ะ” คนเป็นแม่เอ่ยปากบ้าง เธอหันมองพี่สาว “อยากให้นิดเป็นเพื่อนเจ้าสาวเหรอคะ” “ใช่จ้ะ เป็นให้พี่หน่อยได้ไหม” ธนิดายิ้มกว้าง “ได้สิคะ ทำไมจะไม่ได้ พี่สาวแต่งงานทั้งที่ ว่าแต่พี่โรส... จะไปจัดการเรื่องลองชุดวันไหนเหรอคะนิดอยากไปเห็นบ้างจัง พักหลังนิดเห็นพี่โรสบ้างคืนไม่กลับบ้าน นิดเป็นห่วงกลัวไม่ทันงานค่ะ” นพรุจชะงักมือตักอาหาร มองหน้าว่าที่เจ้าสาวแววตาสับสัน ทำไมเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย ธาดาสะอึกไม่กล้าเอ่ยปากอะไร ทว่ามือบางกลับสั่นเทากำช้อนแน่น ธนิดากระตุกยิ้มมุมปาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD