เช้าวันถัดมา
เลียมเดินลงมายังห้องรับประทานอาหารในเช้าของวันใหม่ เขาแปลกใจที่มีอาหารหน้าตาแปลกๆเรียงรายอยู่บนโต๊ะหลายอย่าง
"ใครทำอาหารพวกนี้" เจครู้สึกแปลกใจที่เจ้านายถามเช่นนี้ เพราะปกติเจ้านายหนุ่มไม่เคยถามเรื่องจุกจิกแบบนี้มาก่อน
"พัฟฟินครับ"
"ใครให้มันทำอาหาร?"
"นายบอกให้เอาเธอไปไว้ที่โรงครัว เธอก็ต้องทำอาหารสิครับ"
"มึงกวนประสาทกูอยู่หรือเปล่า งานอื่นในโรงครัวมีเยอะแยะทำไมไม่ให้ทำ?"
"สาวใช้ที่ทำอาหารให้นายป่วยครับ พัฟฟินเลยอาสาทำให้"
"เอาไปเททิ้งให้หมด! แล้วมึงก็ไปสืบประวัติเซย่ามาให้กูด้วย" เลียมออกคำสั่งด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"ครับ ว่าแต่เธอไม่ลงมาทานมื้อเช้าหรือครับ?"
"มึงถามแบบนี้หมายความว่ายังไง?"
"ผมคิดว่าเธอนอนอยู่กับนายนี่ครับ"
"ไอ้เจค! มึงก็รู้ว่ากูไม่นอนกับผู้หญิงคนไหน มึงถามแบบนี้หมายความว่ายังไง?" เลียมมองลูกน้องคนสนิทที่เปรียบเสมือนพี่ชายของตนตาขวาง
"ขอโทษครับ ขอตัวนะครับ" เจคโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
โรงครัว
"ไง?" เจคยืนมือไขว้หลังทักทายพัฟฟินในขณะที่หญิงสาวกำลังเก็บถ้วยชามที่บรรดาบอดี้การ์ดทานเสร็จแล้วกลับเข้ามาในครัวเพื่อล้างทำความสะอาด
"คุณเจค..."
"บอกความจริงนายไปเถอะ"
"บอกความจริงอะไรคะ คุณคิดว่าฉันจะยอมเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงอยู่แบบนี้เพื่อปกป้องผู้ชายที่ฉัน...จะเรียกว่าไม่รู้จักเลยก็ได้ เขาเลิกกับแม่ตั้งแต่ที่ฉันยังไม่ถึงขวบด้วยซ้ำ" เธอหมายถึงบิดาที่เลิกรากับมารดาของตนตั้งแต่ที่หญิงสาวยังเป็นเด็กน้อยแบเบาะ
"แล้วทำไมเขาถึงช่วยแม่เธอหนีออกนอกประเทศล่ะ?" ไม่รู้ทำไมเจคถึงรู้สึกเชื่อคำพูดของเด็กสาวมากเป็นพิเศษว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นเรื่องของบิดา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขาสงสัยยิ่งขึ้นว่าเหตุใดพรินซ์ถึงช่วงยมารดาของพัพฟินทว่าไม่ช่วยบุตรสาวแท้ๆของตน
"ถ้าจับตัวพ่อของเธอไม่ได้ เธอต้องตายสถานเดียว จำคำฉันไว้ เพราะฉะนั้นหากเธอติดต่อกับแม่เธอได้ เราก็รู้ว่าพรินซ์อยู่ไหน หากเขาไม่มีความสำคัญอะไรกับเธอเลยจริงๆ เธอจะต้องช่วยฉันกับคุณเลียมตามหาเขาให้เจอ"
"ฉันจะช่วยได้ยังไง ในเมื่อฉันถูกขังไว้ก้นครัวของพวกคุณแบบนี้!" หญิงสาวพูดจาฉะฉานผิดกับเมื่อวานราวคนละคนเสียจนเจครู้สึกแปลกใจ
"ถ้าเธอตกลงจะช่วย ฉันจะคุยกับนายเรื่องใช้เธอเป็นเป้าล่อ"
"ได้! ฉันเต็มใจช่วย แต่ฉันมีข้อต่อรอง" พัฟฟินทำให้เจคแปลกใจได้อีก มองภายนอกเด็กสาวคนนี้แลดูอ่อนหวาน แต่ในฐานะที่ชายหนุ่มทำงานที่ขึ้นชื่อว่าหินและต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณเช่นการเป็นบอดี้การ์ดของมาเฟียใหญ่ในอเมริกาแล้ว เขาย่อมมองออกว่าแท้จริงแล้วพัฟฟินเป็นเด็กที่ฉลาดมาก
"ข้อต่อรองอะไร?" เจคพเยิดหน้าถาม
"ฉันจำเป็นที่จะต้องต่อรองกับคนที่ไม่สามารถให้ผลประโยชน์กับฉันด้วยหรอ? ฉันจะคุยกับเจ้านายของคุณเท่านั้น"
"หึ! ดูเหมือนเธอจะไม่รู้จักเลียม เกรย์สันมากพอสินะ" เขาแค่นหัวเราะออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
"หึ! ฉันไม่รู้จักเขาหรอก ฉันรู้แค่ว่าของที่เขากำลังตามหา มันสำคัญมากก็แค่นั้นเอง" คำตอบของเด็กสาวทำให้เจคถึงกับรู้สึกหงุดหงิด เขาดันลิ้นแตะกระพุ้งแก้มและแค่นหัวเราะประชดประชันเพราะดูเหมือนเด็กสาวหน้าจะมาแย่งงานของตนเสียอย่างนั้น
"ได้...ฉันยอมเธอก็ได้ แต่เธอรักษาเนื้อรักษาตัวดีๆก็แล้วกัน ปากดีแบบนี้ระวังไอ้พวกบอดี้การ์ดจอมกระหายมันจะลากเธอไปข่มขืนซะก่อนที่จะได้ต่อรองอะไรกับเจ้านายฉัน" เจคพูดเช่นนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป พัฟฟินได้แต่มองซ้ายมองขวาเพื่อระวังตัวให้มากขึ้นในสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อครู่
"มึงว่าอะไรนะ?" เลียมพ่นควันบุหรี่ออกจากปากและหันขวับมาหาบอดี้การ์ดคนสนิท
"นายถูกเชิญให้ไปงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่ในเครือบริษัทแถวหน้าของประเทศไทยในอีกสองวันข้างหน้า ผมอยากให้นายทำให้พัฟฟินและนายครองหน้าสื่อให้ได้ ถ้าพ่อแม่ของพัฟฟินดูข่าวแล้วเห็นว่าลูกสาวของพวกเขาก้าวขึ้นมาอยู่เคียงข้างมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลได้ มันจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่โผล่หน้าออกมาแน่นอน" เจคแนะนำเจ้านาย
"ได้! แต่กูจะใช้แผนของ" เลียมครุ่นคิดอะไรบางอย่างและดูดควันบุหรี่เข้าปากอีกครั้ง
"ผมคุยกับพัฟฟินคร่าวๆแล้ว เธอยอมช่วยทุกอย่างแต่เห็นบอกว่ามีข้อต่อรองกับนาย"
"มันคิดว่ามันเป็นใครถึงจะกล้ามาต่อรองกับกู"
"เธอน่าจะแค่ต่อรองเรื่องแม่ เพราะดูเหมือนเธอจะรักแม่มาก แล้วยังบอกอีกว่าพรินซ์เลิกกับแม่ของเธอตั้งแต่เธอยังไม่ถึงขวบด้วยซ้ำ"
"กูขอวันเดือนปีเกิดของพัฟฟินหน่อย แล้วไปตามเซย่ามาให้กูด้วย" เจคสงสัยกับคำขอของเจ้านายทว่าก็ไม่กล้าทำอะไรออกไป เขาโน้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป
'ก๊อกๆๆ'
หลายสิบนาทีต่อมาเซย่าเดินเข้ามาหาเลียมในห้องทำงานของเขา หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามมาเฟียหนุ่ม ใบหน้าจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มบางเบา เธอรู้สึกสงสัยที่เขาเรียกมาหาในเวลากลางวันเช่นนี้ เพราะโดยปกติแล้วหากไม่ใช่เวลาขึ้นเตียงเลียมก็ไม่เคยเรียกหาตนเลย
"เธอเกิดวันที่เท่าไหร่?" เซย่าฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ยินมาเฟียหนุ่มถามเช่นนั้น
"วันที่สิบสองเดือนที่แล้วค่ะ ครบยี่สิบปีบริบูรณ์"
"อื้ม! หยิบเอาของขวัญแล้วออกไปได้แล้ว" เลียมพเยิดหน้าไปยังกล่องของขวัญซึ่งวางอยู่ตรงหน้าหญิงสาว เธอแสดงสีหน้าตื่นเต้นและหยิบมันขึ้นมาเปิดดูก็เห็นว่าเป็นสร้อยเพชรซึ่งน่าจะมีมูลค่าหลายล้านบาท หญิงสาวจึงฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ
"ขอบคุณนะคะ คุณใจดีที่สุด ขอบคุณนะคะ"
"พูดมากน่ารำคาญ จะขอบคุณอะไรนักหนา ออกไปได้แล้ว!" เขาชักสีหน้าหงุดหงิดก่อนที่จะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือเพื่อต่อสายหาเจคเพื่อเรียวเขามาพบ
"นี่ครับนาย บัตรประชาชนของพัฟฟิน" เจคยื่นบัตรประชาชนใบเล็กให้เจ้านายหนุ่ม
"มึงรู้จักนามสกุลเซย่ามั้ย?"
"มอร์แกนครับ"
"หึ พัฟฟิน มอร์แกน กับเซย่า มอร์แกน" เจคตกใจในสิ่งที่เจ้านายหนุ่มพูดออกมา เขานึกถึงหน้าตาของเด็กสาวทั้งสองคนก็รู้ได้ทันทีว่าเลียมกำลังจะบอกอะไร
"ถ้าแค่นามสกุลเดียวกันคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่เกิดวันเดือนปีเดียวกัน และยังหน้าตาเหมือนกันอีก ร้อยเปอร์เซ็นต์เซย่าเป็นลูกสาวของพรินซ์ มอร์แกน ผู้ชายคนนี้มันเอาลูกมาขายให้กลุ่มมาเฟียของเรา"
"แต่ผู้หญิงสองคนไม่รู้จักกันนะครับ นายจะทำยังไงต่อไป"
"กูจะใช้แผนของกู!" สีหน้าของเลียมแสดงออกถึงความน่ายำเกรง เจครู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน