ตอนที่3 สลับตัว

1308 Words
พัฟฟิน หญิงสาวเจ้าของฉายานกดำน้ำในรั้วมหาลัย เธอเป็นคนที่มีนิสัยน่ารักและมีไหวพริบเฉลียวฉลาด ทำให้กลายเป็นคนโดดเด่นจนมีแต่คนอยากเข้าหา ทว่าในวันนี้หญิงสาวกับกลายเป็นคนที่ไร้ตัวตนในรังมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งไม่รู้โชคชะตาเสียด้วยซ้ำว่าจะมีชีวิตรอดถึงวันไหน พัฟฟินจ้องมองตนเองในกระจกเงาก็ได้แต่เวทนาโชคชะตาของตนเอง ร่างบอบบางอรชรในชุดราตรีเกาะอกสีดำยาวลงไปถึงพื้นทว่าแหวกสูงมาถึงขาอ่อน เธอเดินออกมาจากห้องแต่งตัวภายในคฤหาสน์ของเลียมซึ่งมาเฟียหนุ่มนั่งรออยู่ด้านล่างแล้ว ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแลดูงดงามประดุจหญิงสาวผู้ที่อยู่ในตำนานเล่าขาน ดวงตากลมโตน่าเสน่หา จมูกโด่งรั้นบ่งบอกถึงความกล้าหาญไม่ยอมคน ริมฝีปากอวบอิ่มสีกลีบกุหลาบนั้นราวมีมนต์สะกด แม้พัฟฟินจะมีใบหน้าที่เหมือนกันกับเซย่าเป็นอย่างมาก ทว่าเลียมกลับแยกแยะออกว่าหญิงสาวสองคนนี้ นอกจากหน้าตาแล้วก็ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยแม้แต่น้อย ความน่าหลงใหลในอิสตรีที่เลียมไม่เคยเห็นในตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อนทำให้มาเฟียหนุ่มจ้องมองหญิงสาวอยู่เนิ่นนานโดยที่เขาไม่รู้ตัว แววตาของเขาเรียบเฉยทว่าไฟกำลังสุมอยู่ในทรวง เจคแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่เจ้านายของตนยอมปล่อยให้หญิงสาวเดินเข้ามาประชิดตัวได้ถึงเพียงนี้ "นายครับ..." เจคเรียกเจ้านายหนุ่มทว่าเขากลับยังไม่ละสายตาจากพัฟฟิน "เอ่อ...คุณ!" เสียงเรียกสั้นๆของพัฟฟินทำให้เลียมหลุดจากภวังค์ความคิด เขาละสายตาจากความงดงามตรงหน้าจนเหลือบไปเห็นรองเท้าส้นสูงที่หญิงสาวถือไว้ในมือ มาเฟียหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที "ทำไมไม่ใส่รองเท้า?" เขาถามเสียงเกรี้ยวกราดราวกับเป็นเรื่องใหญ่ "ส้นสูงขนาดนี้ใครใส่ได้ก็บ้าแล้ว" เธอเถียงคอเป็นเอ็น ทำให้เจคและบรรดาบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่บริเวณนั้นหันมามองพัฟฟินเป็นตาเดียวกัน ในขณะที่เลียมนั้นจ้องมองเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉยทว่าดวงตาของเขานั้นกำลังลุกเป็นไฟ "กูเปลี่ยนใจตอนนี้ทันมั้ย?" มาเฟียหนุ่มถามเจคทว่าดวงตายังคงต้องมองหญิงสาวตรงหน้าอยู่ "ไม่ทันแล้วครับนาย จะถึงเวลาแล้วครับ" เจคเดินนำออกไปเปิดประตูรถให้เจ้านายหนุ่ม ทำให้พัฟฟินจำใจสวมรองเท้าส้นสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานเลี้ยง รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดบริเวณหน้างานซึ่งเต็มไปด้วยช่างภาพที่รอถ่ายรูปบรรดานักธุรกิจและดารานางแบบที่เดินทางมาร่วมงานในวันนี้ เลียมก้าวลงจากรถก่อนพัฟฟินและยื่นแขนออกไปให้หญิงสาวควง คนตัวเล็กจ้องมองแขนกำยำสลับกับใบหน้าหล่อคมคายของมาเฟียหนุ่มด้วยความรู้สึกแปลกใจ "เธอไม่เคยมางานแบบนี้หรอ?" เขากระซิบถาม "ไม่เคยมาน่ะสิ" ใบหน้าสวยจิ้มลิ้มบึ้งตึงเมื่อมองออกไปเห็นกองทัพสื่อด้านนอก "ควงแขนฉันไว้ เพราะเธอมางานวันนี้ในฐานะคู่ควงของฉัน เข้าใจหรือเปล่า?" เลียมทำหน้าดุ ทำให้พัฟฟินจำใจยอมทำตามคำสั่งของเขา "ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยสิ" พัฟฟินตัดสินใจเอ่ยขึ้นระหว่างที่เดินควงแขนเลียมเข้างานโดยที่เขาไม่คิดจะพูดอะไรกับเธอเลยสักนิด "เธอไม่มีสิทธิ์ถาม" เขาพูดขึ้นและน้ำเสียงก็ยังคงดุดันเช่นเคย "ฉันขอถาม แค่ถาม" มาเฟียหนุ่มหันขวับมาหาคนดื้อรั้นข้างกาย เลียมไม่เคยคิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าท้าทายอำนาจของเขามากถึงเพียงนี้ "ดื้อรั้น!" "พรินซ์เขาขโมยอะไรของคุณไปหรอ มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอ?" "เรื่องที่เธอไม่จำเป็นต้องรู้!" "แต่ฉันคือตัวประกันที่มีค่าเท่ากับศูนย์ ถึงคุณฆ่าฉันทิ้งเขาก็ไม่มีทางเอาของมาคืนคุณหรอก" พัฟฟินพูดออกไปตามความเป็นจริง เพราะเธอและผู้เป็นบิดาไม่เคยมีความผูกพันธ์ใดๆต่อกันเลย "ดูเหมือนเธอจะเข้าใจอะไรผิดนะ ช่างภาพเขาขอถ่ายรูป ยิ้มด้วย" เลียมออกคำสั่งเสียงเรียบ "คุณเลียมคะ กล้องนี้ด้วยค่ะ" ช่างภาพคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "น้องผู้หญิงสวยงดงามมากเลยค่ะ เหมาะสมกันมากเลยค่ะ" ช่างภาพอีกคนหนึ่งเอ่ยชื่นชมขึ้น "ขอบคุณครับ เซย่าเธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของผม ช่วยเขียนข่าวให้ก็ดีนะครับ" เลียมตอบสีหน้าเรียบ แม้จะอยู่ต่อหน้าสื่อเขาก็ไม่มีทางยิ้มออกมาเลยแม้แต่น้อย คำตอบของมาเฟียหนุ่มสร้างความฮือฮาและตกใจให้กับบรรดาช่างภาพ พัฟฟินแหงนหน้าขึ้นไปมองมาเฟียหนุ่มด้วยความแปลกใจทว่าเธอก็ยังคงฝืนยิ้มออกมาและทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด "ขอไวน์อีกนะคะ" พัฟฟินถูกปล่อยไว้ให้อนู่กับเจคในระหว่างที่เลียมต้องเข้าไปพูดคุยกับนักธุรกิจผู้ใหญ่อีกหลายๆคน หญิงสาวกระดกไวน์เข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่าจนผิวขาวเนียนละเอียดกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เจคได้แต่ยืนมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย "เจ้านายของคุณ เปลี่ยนชื่อให้ช้าานน...เฉยเลย" น้ำเสียงของหญิงสาวบ่งบอกว่าเธอกำลังเมา เจคส่ายหน้าเบาๆกับภาระตรงหน้าที่จะต้องรับผิดชอบในคืนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ "ชื่อเซ...เซอะไรก็ไม่รู้ เจ้านายของคุณ...มันจอมบงการ" หญิงสาวยังคงพร่ำเพ้อออกมาในขณะที่กระดกไวน์เข้าปากอีกครั้ง ในที่สุดเจคก็อดทนเห็นสภาพของหญิงสาวไม่ได้ บอดี้การ์ดหนุ่มจึงเดินเข้าไปแย่งแก้วไวน์ออกจากมือของพัฟฟิน "อื้อ เอาคืนมานะ!" คนตัวเล็กโวยวายเสียงดังจนแขกเหรื่อบริเวณนั้นหันมาจ้องมองกันเป็นตาเดียวรวมถึงเลียมด้วย มาเฟียหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินกลับมาหาพัฟฟินซึ่งกำลังยืนจ้องมองเจคอย่างเอาเรื่องอยู่ "มีเรื่องอะไรกัน?" เสียงดุดันของเลียมดังขึ้น ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มหันกลับไปหาเจ้าของร่างสูงกำยำที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาตน "ก็ลูกน้องคุณห้ามไม่ให้ฉันดื่มไวน์ ไม่ใชไวน์ของเขาเสียหน่อย" พัฟฟินแหงนหน้าขึ้นไปฟ้องมาเฟียหนุ่ม "ใครอนุญาตให้เธอดื่ม?" เขากดเสียงต่ำถามด้วยความโกรธเมื่อเห็นสภาพที่ยืนแทบไม่ไหวของหญิงสาว "อึก!...อื้อ อยากอ้วก" ร่างอรชรซวนเซลงไปซบบนแผงอกแกร่งของเลียม ชายหนุ่มจำใจต้องประคองร่างบางไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้นก่อนที่เขาจะส่งสัญลักษณ์ทางสายตาไปยังเจคเพื่อเป็นการขอทางเดินออกจากงานไป คฤหาสน์เกรย์สัน เจครีบเปิดประตูวิ่งลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้เจ้านายหนุ่ม เขารู้ดีว่าวันนี้ตนทำงานพลาดโดยการปล่อยให้หญิงสาวเมาจนไม่ได้สติเช่นนี้ "นายไปพักผ่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาเด็กคนนี้ไปเก็บไว้ที่ห้องพักในโรงครัวเอง" บอดี้การ์ดหนุ่มกำลังจะเอื้อมมือมาช้อนเอาร่างบางทว่าถูกเลียมมองตาขวาง เขาจึงรีบดึงมือของตนเองกลับมาอย่างรวดเร็ว "มึงกลับไปพักเถอะ สั่งทุกคนไว้ว่าห้ามเซย่าขึ้นมาบนห้องกู" เจ้านายหนุ่มออกคำสั่งเสียงเรียบ "ครับนาย" เจคโค้งศีรษะลงเล็กน้อยและเดินออกไปด้วยสีหน้าหนักใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD