พัฟฟินค้นหาของหลายอย่างในห้องที่พอจะช่วยให้เธอหนีออกไปได้ ทว่าบังเอิญเจอกับปืนกระบอกหนึ่งเข้า และตอนนี้มันกลับทำให้เธอหายสงสัยว่าทำไมมารดาถึงให้เธอไปเรียนยิงปืนบ่อยๆ แต่กลับรู้สึกสงสัยมากขึ้นว่าแท้จริงแล้วมารดาของเธออาจจะยังติดต่อกับผู้เป็นบิดามาตลอดก็เป็นได้
หญิงสาวถือปืนพร้อมกับเชือกเดินออกไปริมยังระเบียง เธอหลบตัวกับกำแพงระเบียงและผูดเชือกกับระเบียงเพื่อใช้สำหรับโรยตัวลงไป จากนั้นจึงเล็งกระบอกปืนไปยังกำแพงบ้านอีกฝั่งหนึ่ง
"ปัง! ปัง!"
เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้บอดี้การ์ดหลายคนวิ่งไปดูที่จุดเกิดเหตุ รวมถึงบอดี้การ์ดอีกสองคนที่อยู่บริเวณประตูบ้านด้วย
พัฟฟินใช้วิชาปีนเขาที่ตนชื่นชอบรีบโรยตัวลงไปจนถึงสนามหญ้าอย่างช่ำชอง จากนั้นจึงรีบวิ่งหลบไปตามพุ่มไม้ออกไปบริเวณประตูบ้าน
โชคดีที่ประตูบานเล็กถูกเปิดไว้ ทำให้พัฟฟินวิ่งออกไปจนเจอกับถนนที่มีรถวิ่งไปมา หญิงสาววิ่งข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นซอยเข้าสู่ชุมชน กว่าที่เลียมจะรู้ตัวว่าเธอหนีออกมาได้เธอก็น่าจะเข้าไปคลุกคลีกับชาวบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เลียมได้ยินเสียงกระสุนปืนดังสองนัดเขาก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาอะไรมากนักเพราะมีเจคคอยดูแลให้อยู่แล้ว ชายหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วจึงเดินออกไปดูเหตุการณ์ที่ริมระเบียง ทว่าสิ่งที่เขาเห็นก็คือเชือกที่ผูกอยู่กับกำแพงระเบียงยาวลงไปจนถึงสนามหญ้า
"บ้าชะมัด!" มาเฟียหนุ่มสบถเสียงดัง เขารีบวิ่งเข้าไปดูในห้องลึกลับก็เห็นว่าของทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิม มือหนาทุบลงบานประตูอย่างแรง ความเจ็บปวดตอกย้ำว่านี่คือความแค้นที่หญิงสาวต้องชดใช้
"พัฟฟินหนีออกไป! น่าจะประมาณยี่สิบนาทีที่แล้ว คงยังหนีไปได้ไม่ไกล ใช้คนเท่าไหร่ก็ได้ออกไปตามหาเด็กคนนี้ให้เจอ ถ้าภายในหนึ่งในชั่วโมงยังหาไม่เจอ กูจะเล่นงานพวกมึงทุกคน!" เลียมออกคำสั่งเสียงแข็ง แววตาของเขาดุร้ายและกำลังลุกเป็นไฟ เจคสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในตัวของเจ้านายหนุ่มอย่างบอกไม่ถูก
"มีเรื่องอะไรกันหรอคะ บอดี้การ์ดออกไปไหนกันเต็มไปหมดเลยคะ?" เซย่าเดินตรงเข้ามาหาเลียมพอดี หญิงสาวถามคำถามที่ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดยิ่งขึ้น
"หุบปากแล้วก็ไสหัวออกไป!" เขาเดินหนีหญิงสาว
"ขอโทษค่ะ เมื่อคืนเห็นว่าคุณไม่ได้เรียกเซย่ามาหา ก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าคุณจะไม่สบาย" หญิงสาวทำเสียงออดอ้อนน่าสงสาร เธอไม่รู้ว่ามีผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาเหมือนตนอยู่ในบ้าน และเธอก็จะไม่มีทางได้เห็นข่าวเมื่อคืนเพราะการเป็นผู้หญิงของเลียม เกรย์สันทุกคนจะต้องถูกตัดขาดจากสื่อมีเดียและโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
"ดูเหมือนเธอจะไม่สำเหนียกตัวเองนะ จำใส่สมองของเธอไว้เสมอว่าถ้าฉันไม่อนุญาตให้เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้เธอก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามา ไสหัวกลับห้องของเธอไปซะ!" เขาออกปากไล่อีกครั้งด้วยความหงุดหงิด ทำให้เซย่าจำใจต้องเดินก้มหน้าก้มตากลับไปยังห้องของตนเองซึ่งอยู่อีกฝั่งของบ้าน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
เลียมต่อสายหาเจคหลังจากที่หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้วยังไม่มีใครรายงานภารกิจเลยสักคน
"ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวที่หายไปเมื่อประมาณชั่วโมงที่แล้วเนี่ยนะ พวกมึงไปกันตั้งหลายสิบคนแต่หาไม่เจอ พวกมึงคิดว่ากูควรจะทำยังไงกับพวกมึง ฮะ?" เขาตะคอกเสียงดังไปตามสาย จากนั้นจึงเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือราคาแพงติดผนังจนหน้าจอมันแตกร้าว
"คิดจะหนีคนอย่างฉันหรอ?" มาเฟียหนุ่มเลือดร้อนกัดฟันจนกลามนูนเป็นสัน ร่างสูงกำยำเดินไปเตะเก้าอี้ตัวหนึ่งจนติดผนังด้วยอารมณ์ความโมโหเลยขีดจำกัดการควบคุม
เลียมเดินไปหยิบโทรศัพท์บ้านและต่อสายไปยังหัวหน้าใหญ่ของตนเพื่อขอเพิ่มกำลังในการตามหานกน้อยที่บินหนีออกจากรังไปอย่างอาจหาญ เขายอมโดนลงโทษหากการใช้กำลังคนในกลุ่มมาเฟียครั้งนี้มันดูไม่สมเหตุสมผล แต่เพื่อแลกกับการได้ตัวแปรสำคัญของการตามหาของสำคัญในครั้งนี้กลับมาได้เขาก็ยอม
ด้านพัฟฟินที่วิ่งหนีเข้ามาในชุมชนซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้แออัดอย่างที่คิด หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งจึงอ่านชื่อกับนามสกุลของเจ้าของบ้าน คิดไม่ถึงว่าบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านของรุ่นพี่คนสนิทแต่เรียนอยู่ปีสี่ด้วยกัน ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในเพื่อนคนสนิทของเธอนั่นเอง มือเรียวเอื้อมไปกดกริ่งประตูหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบพร้อมกับมองซ้ายมองขวา
"ฟิน! มาได้ไงเนี่ย?" คนินเห็นรุ่นน้องคนสนิทยืนกดกริ่งประตูหน้าบ้านอยู่จึงรีบเดินออกมารับ
"เปิดให้หน่อยได้ไหมคะ"
"ได้สิ ว่าแต่ทำไมทำหน้าเหมือนหนีใครมา?"
"ใช่ค่ะ หนีพวกมาเฟียมา"
"เดี๋ยว มาเฟียแบบพวกอันธพาลหรอ ให้พี่โทรเรียกตำรวจมั้ย?"
"เข้าไปข้างในก่อนดีกว่า เร็วเข้า!" พัฟฟินดึงแขนรุ่นพี่คนสนิทให้เข้าไปในบ้าน
"ฟิน ตกลงมาเฟียที่ว่ามันเป็นหน้าตายังไงหรอ?" ด้วยความที่คนินเป็นบุตรชายของรัฐมนตรีระดับประเทศ เขาจึงไม่ได้เกรงกลัวที่จะช่วยเหลือหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย
"มาเฟียแบบมาเฟียจริงๆเลยอ่ะ มาเฟียเหมือนในหนังมาเฟียอ่ะ แบบฝรั่งตัวโตๆหน้าตาหล่อมากๆ แล้วก็มีบอดี้การ์ดใส่ชุดดำคอยอารักขาเต็มบ้านไปหมดเลย" หญิงสาวพยายามอธิบาย
"นี่ๆใจเย็นๆ ไปเอามาจากหนังเรื่องไหนหรือเปล่า?"
"เปล่านะ เจอมากับตัวเลย" สองหนุ่มสาวพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงกดกริ่งประตูบ้านอีกครั้ง พัฟฟินสะดุ้งโหยงเพราะความตกใจและหวาดกลัว
"นายครับ เธออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง" เจคโทรรายงานเจ้านายหนุ่ม
"อีกห้านาทีกูจะไปถึงที่นั่น เฝ้าไว้ให้ดี" เลียมเดินพรวดพราดออกมาขึ้นรถซึ่งถูกเตรียมไว้แล้ว
เลียมเดินทางมาถึงหน้าบ้านหลังนี้ซึ่งคณินกำลังยืนเจรจากับบอดี้การ์ดของมาเฟียหนุ่มอยู่ ร่างสูงกำยำก้าวลงจากรถและจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาดุดัน
"ผู้หญิง อยู่ที่ไหน!?" เขาถามเสียงดัง
"พวกคุณเป็นใคร?" คนินถามกลับเสีเเข็งอย่างไม่เกรงกลัว
"ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของมึง!" เจคสวนกลับไป
"เธอบอกว่ากำลังถูกคนไล่ล่าและคุกคาม เราจะแจ้งความ!" เลียมเหยียดยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะตวัดสายตาสั่งให้ลูกน้องล็อคตัวชายหนุ่มไว้ จากนั้นร่างสูงกำยำจึงเดินบุกรุกเข้าไปในบ้านพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสามคน
เลียมเห็นพัฟฟินนั่งอยู่บนโซฟากลางบ้านก็รู้สึกแปลกใจ ทีแรกเขาคิดว่าหญิงสาวจะหลบซ่อนตัวจนเขาต้องใช้คนเพื่อค้นหา ดวงตากลมโตจ้องมองมายังมาเฟียหนุ่มด้วยแววตาท้าทาย
"กล้ามากนะที่หนีออกมา!" เขาเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าและเหยียดยิ้มมุมปาก
"ฆ่าฉันเลยสิ! ในเมื่อเจอตัวฉันแล้วก็ฆ่าฉันเลยสิ!"
"ฉันจะฆ่าไอ้ผู้ชายที่มันยืนอยู่ข้างนอก เธอจะว่ายังไงล่ะ?" เลียมเลิกคิ้วถาม
"อย่านะ! อย่าเด็ดขาดนะ"
"หึ! หวงมันมากหรอ?"
"อย่าทำอะไรเขานะ ฉันยอมกลับไปกับคุณก็ได้แต่อย่าทำอะไรเขา!" พัฟฟินรู้สึกใจคอไม่ดี
"หึ! หวงมันมากขนาดนั้นหรอ?" สีหน้าของเลียมแปรเปลี่ยนเป็นเคียดแค้นดุดัน
"เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะ!"
"หึ! ดี! พวกมึงออกไปให้หมด!" มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งเสียงดัง ทำให้พัฟฟินแปลกใจและรู้สึกหวาดกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะทำ