หนุ่มๆ รุมรัก

1220 Words
อินเอวาตั้งหน้าตั้งตาเก็บหัวกะหล่ำปลีที่คนงานตัดไว้แล้วใส่ตะกร้า เธอเพลิดเพลินกับการเก็บผักได้ราวสองชั่วโมง โชคดีที่เป็นคนออกกำลังกายเป็นประจำจึงไม่รู้สึกเหนื่อยมาก อีกอย่างคงเป็นเพราะอากาศเย็นทำให้ทำงานได้นาน หากอากาศร้อนป่านนี้คงเป็นลมไปแล้ว อินเอวามีความสุขเมื่อเห็นคนงานคนอื่นๆ ทำงานกันอย่างขะมักเขม้นและพูดคุยกันไปด้วย แม้พวกเขาจะพูดภาษาท้องถิ่นและเธอฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็พลอยยิ้มตาม คนงานทั้งผู้หญิงผู้ชายทุกคนต่างเป็นกันเองและช่วยสอนงานให้อย่างจริงจัง ขณะที่พ่อเลี้ยงเสือเดินตรวจงานส่วนต่างๆ เขาคอยชำเลืองมองอินเอวาเป็นระยะ ส่วนผู้จัดการไร่ทั้งสองคนช่วยงานกันอย่างขะมักเขม้น ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครตำแหน่งอะไร ทุกคนต่างช่วยกันทำงานไม่เว้นแม้แต่เจ้าของไร่ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเก้าโมงเช้า การเก็บผ้าเสร็จสิ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นเวลาที่คนงานพากันแยกย้ายไปพักผ่อนและรับประทานมื้อเช้า อินเอวาจึงเดินมานั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ต้นใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากกลุ่มคนงาน ในขณะที่พ่อเลี้ยงสิงห์เป็นคนจัดการเรื่องส่งผักไปยังตลาดใหญ่กับไม้และช้าง "สวยจัง อากาศก็สดชื่น นี่เราไปทำอะไรอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งนาน" เธอพูดกับตัวเอง พลางกวาดสายตามองไปยังภูเขาเบื้องหน้า ไร่ชาและไร่ผักกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทว่าทันใดนั้น รถกระบะคันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดใต้ต้นไม้ที่ตนนั่งอยู่ บุรุษคนหนึ่งก้าวลงจากรถ รูปร่างสูงกำยำแลดูภูมิฐาน ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย คงเป็นใครสักคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนงานในไร่ อินเอวาอดที่จะชะเง้อมองไปยังเขาไม่ได้ "สวัสดีดีครับ พ่อเลี้ยงเสืออยู่หรือเปล่าครับ?" เสียงทุ้มของบุรุษคนนั้นเอ่ยถาม อินเอวาจึงส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม พลันมองหาพ่อเลี้ยงเสือทว่ากลับไม่เห็นเขา "เมื่อกี้ก็เก็บผักกันอยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ ตอนนี้ไม่รู้พ่อเลี้ยงเสือหายไปไหนแล้ว ให้ฉันไปตามให้ไหมคะ?" ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงระรื่นหูพูดเป็นภาษาไทย ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้มและตั้งอกตั้งใจจ้องมองใบหน้าของอินเอวา ถึงได้พบความสวยสะดุดตาที่แตกต่างจากสาวชาวไร่ท้องถิ่นที่นี่ ทว่าเธอกลับสวมเสื้อแขนยาวที่บ่งบอกว่าเป็นเสื้อคนงาน เนื้อตัวมอมแมม เหงื่อเปียกชุ่มที่หน้าผากเล็กน้อย "ว่าแต่คุณเป็นคนงานใหม่ใช่หรือเปล่า ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย อีกอย่างคุณก็พูดภาษาไทยไม่ได้พูดภาษาเหนือเหมือนคนที่นี่" "เอ่อ กำลังหัดพูดค่ะ พอดีว่ามาจากกรุงเทพฯ แต่ว่าเป็นคนงานใหม่ที่นี่ค่ะ เพิ่งเริ่มเก็บผักวันแรกแต่สนุกมากเลยนะคะ เหนื่อยนิดเดียวเอง" คนช่างเจรจาพูดกับคนแปลกหน้าราวกับรู้จักกันมานาน ทำเอาเขาถึงกับหัวเราะร่าชอบใจ "ท่าทางคุณจะเป็นคนอารมณ์ดีนะครับ ไม่เคยได้ยินใครบอกว่าทำงานแล้วก็สนุกงาน ที่ไร่มีแต่งานเหนื่อยๆ ทั้งนั้น" อันนี้อินเอวาก็เห็นด้วย เธอทำงานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันถึงเป็นเรื่องสนุก แต่หากต้องทำตากแดดตากฝนตลอดทั้งวันเหมือนคนงานที่นี่มีหวังคงได้บ่นคำเดียวว่าเหนื่อย นึกแล้วก็อยากจะถอนคำพูดก่อนหน้านี้ "จริงด้วย งั้นเราไปหาพ่อเลี้ยงเสือนะคะ เขาก็น่าจะอยู่แถวๆ สำนักงานนั่นแหละ" ว่าแล้วจึงเดินตรงกลับไปยังสำนักงาน ผู้มาเยือนจึงเดินตามหญิงไปยังสำนักงานไร่เช่นเดียวกัน เสือเดินออกมาจากสำนักงานพร้อมกับกระดาษหนึ่งแผ่นในมือยื่นให้สิงห์ ช้างและไม้กำลังยกตะกร้าผักขึ้นรถเพื่อที่จะเอาออกไปส่ง อินเอวาจึงเดินตรงเข้าไปหาหนุ่มๆ "ฉันขอไปด้วยคนนะคะคุณสิงห์ อยากไปดูจังเลยว่าตลาดที่ไปส่งผักจะใหญ่สักแค่ไหนกัน" หญิงสาวเอ่ยขอด้วยท่าทางตื่นเต้น ไม้และช้างมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ก่อนจะเดินไปช่วยคนงานยกตะกร้าขึ้นรถอีก "ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น เธอยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวาน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน เป็นผู้หญิงอะไรมีแต่อยากจะไปโน่นนี่นั่น ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องเลยหรือยังไง?" พ่อเลี้ยงเสือพูดขึ้นเสียงดุ เป็นจังหวะที่เพื่อนสนิทของเขาเดินมาถึง "สวัสดีครับสารวัตรลม" สิงห์เอ่ยทักเพื่อนสนิทพี่ชาย "สวัสดีสิงห์ ว่าแต่แกเถอะไอ้เสือ เป็นห่วงลูกน้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ" พันตำรวจตรีลมปราณ เปรมณัชเอ่ยขึ้น นายตำรวจหนุ่มเพิ่งย้ายมาเป็นสารวัตรประจำในพื้น หลังจากที่ประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ มานานหลายปี "ไม่เห็นโทรมาบอกว่าจะมา" เสือทักทายเพื่อนตามประสาคนสนิทกัน "ก็คิดว่าสายแล้วคงว่าง" ลมปราณบอก ทว่าสายตากลับเอาแต่มองอินเอวาพร้อมกับรอยยิ้มอิ่มเอมใจ "เข้าไปคุยในสำนักงาน" เสือบอกและกำลังจะหมุนตัวเดินไป "เดี๋ยวสิวะ ไม่คิดจะแนะนำคุณคนงานคนนี้ให้รู้จักหน่อยเหรอ เห็นแกเป็นห่วงเป็นใยออกหน้าออกตา" ลมปราณแซวเพื่อน "คุณคนนี้ไม่ใช่คนงานหรอกครับ ทำไมสารวัตรถึงคิดว่าเป็นคนงานล่ะครับ?" สิงห์ตอบแทนพี่ชาย พลันมองหน้าอินเอวาด้วยแววตาจับผิด "ก็คิดไว้แล้วแหละว่าต้องไม่ใช่คนงาน คุณเขาคงนึกอยากเล่นสนุกเฉยๆ ใช่หรือเปล่าครับคุณคนสวย" ลมปราณหันมาพูดกับอินเอวา เธอยิ้มเจื่อนก่อนที่จะถูกสายตาพิฆาตของพ่อเลี้ยงเสือมองมา "ก็คุณเป็นคนทักเองว่าฉันเป็นคนงานใหม่ใช่หรือเปล่า ฉันไม่รู้จะตอบว่าอะไรก็เลยตอบว่าเป็นคนงาน แต่ความจริงแล้วฉันก็มาอยู่ที่ไร่นี้เพราะว่าฉันมาทำงาน" "พอได้แล้ว ฉันขอเวลาคุยกับสารวัตรลมก่อนแล้วฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน" พ่อเลี้ยงเสือบอก จากนั้นจึงเดินนำหน้าสารวัตรเข้าไปในสำนักงาน อินเอวาได้แต่มองตามหลังทั้งสองหนุ่ม ก่อนจะหันมามองพ่อเลี้ยงสิงห์ด้วยแววตาละห้อย "ตกลงไปด้วยไม่ได้จริงๆ เหรอคะ?" เธอหันมาถามสิงห์อีกครั้ง "ที่นี่พ่อเลี้ยงเสือใหญ่สุด เขาพูดอะไรก็ตามนั้นล่ะครับ อย่าไปขัดใจเขาให้มาก" สิงห์บอก ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินตรงไปขึ้นรถและขับออกไปเพื่อส่งผัก "พ่อเลี้ยงเสือใหญ่สุดอย่างนั้นเหรอ ลุงขุนกับป้านีต่างหากที่ใหญ่สุด คิดจะขัดใจคนอย่างอินเอวาฝันไปเถอะ" อินเอวาพึมพำ แต่แล้วก็ถอนหายใจ ใบหน้าสวยง้ำงอเมื่อถูกขัดใจ จากนั้นจึงทิ้งตัวนั่งลงบนแคร่ไม้หน้าสำนักงานเพื่อรอพ่อเลี้ยงเสือพากลับบ้าน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD