ซื้อชีวิตใหม่

1624 Words
“นายอยู่ตรงหน้าคุณน่ะ” คเชนทร์เดินมาบอก วิชิตจึงเงยหน้าขึ้นทีละนิดเรียกได้ว่าเจียมเนื้อเจียมตัวอย่างสุดๆ เท่านั้นแหละเขาก็ตกใจราวกับเห็นผี “พะ! พะ! พ่อเลี้ยงแสน!” วิชิตเรียกชื่อ ราวกับรู้จักดี ส่วนมารินทร์ก็เงยหน้ามองและต้องตะลึกไปกับความหนุ่มและหล่อดูดีมาก “นี่ฉันมีชื่อเสียงขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย” แสนลักษณ์กล่าวเสียงทุ้มต่ำ แววตาดุเข้ม มีรอยเยาะหยันอยู่ในที “มะ... มะ... มหาเศรษฐีอันดับ 1 คะ... คะ... ใครจะไม่รู้จักล่ะครับ” ก็แล้วทำไมวิชิตต้องทำเสียงสั่นด้วยเล่า แสนลักษณ์คิด “เขาคือใครพี่ชิต” มารินทร์กระซิบถามสามี “เจ้าของโรงแรมที่นี่ แล้วก็รีสอร์ตบนเขา ธุรกิจสวนผลไม้ส่งออก” วิชิตกระซิบบอก แน่นอนว่าวิชิตรู้จักเพราะตัวเองก็เป็นผู้อยู่ในวงการธุรกิจ เป็นเลขานักการเมือง “ผู้ช่วยฉันบอกรายละเอียดแล้วนะ” แสนลักษณ์เริ่มถามเสียงเข้มขึ้น “บะ บะ บอกแล้วครับ ว่าแต่พ่อเลี้ยงพูดจริงๆ เหรอคับ เรื่อง” “เรื่องราคาเหรอ ก็ตามนั้น ลูกสาวอยู่ไหน” “อยู่... อยู่บ้านครับ” “ฉันมีข้อแม้ก่อนจะให้เงินเธอทั้งสองคน ถ้าทำตามที่ตกลงได้ จะเพิ่มเป็นสิบล้านให้” “ข้อ... ข้อตกลงอะไรครับ ว่ามาเลย” “นับจากนี้ไป ลูกสาวนาย คือเมียฉัน นายกับเมียไม่มีสิทธิ์ในตัวลูกสาวอีกเป็นอันขาด” “เอ่อ...” “ฉันจะพาลูกสาวนายไปอยู่ที่บ้านสวน ไม่ใช่ที่นี่ สิบล้านขายขาด ตัดขาด ห้ามติดต่อกันอีก” “เอ่อ เราเป็นแม่เป็นพ่อ จะไม่มีสิทธิ์ติดต่อลูกเลยหรือยังไงคะ” มารินทร์แทรกขึ้น “สิบล้าน คงจะพอทำให้ชีวิตของเธอสองคนมีกินไปจนตาย ถ้าใช้เป็น และชีวิตของนมัสวีเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว” แสนลักษณ์ยื่นคำขาด แต่ดูท่าสองผัวเมียยังอยากจะเกาะลูกกินอยู่กระมัง “หรือคิดจะยกลูกให้ใครอีก” แสนลักษณ์เสริมขึ้น “มะ มะ ไม่ครับ ในเมื่อยกให้เป็นเมียพ่อเลี้ยง ก็เท่ากับว่าออกเรือนไปแล้ว” “นั่นสิ ทันทีที่หนูวีออกจากบ้าน จะไม่มีการติดต่อกันอีกเลย” “ทำไมพ่อเลี้ยงถึงยื่นคำขาดแบบนี้คะ ฉันเป็นแม่ก็คิดถึงลูก อยากติดต่อลูกบ้าง” “ติดต่อในฐานะแม่ หรือในฐานะผู้มีพระคุณที่ทวงบุญคุณยังไม่เสร็จ” แสนลักษณ์บอกเสียงเข้มขึ้น แววตาดุจนสองผัวเมียก้มหน้าลงอีกครั้ง “เอ่อ คือ” “ฉันในฐานะสามี และลูกเขยเธอสองคน จะดูแลมนัสวีให้ดีที่สุด ไม่ให้มีอะไรมาแตะต้องกระทบกระเทือนจิตใจอีกเป็นอันขาด ฉะนั้นสิ่งชั่วร้ายที่ผ่านมา ฉันก็จะไม่ให้หนูวีพบเจออีก” แสนลักษณ์บอกน้ำเสียงดุ แต่คำพูดฟังดูแปลกๆ เหมือนไปรู้อะไรมา “อย่างน้อยก็ให้เราได้โทรถามไถ่สารทุกข์สุกดิบบ้าง” มารินทร์บอกเช่นนี้เหมือนจะตักตวงไม่พอสินะ แสนลักษณ์คิด “เอาเถอะ ถ้ารับข้อเสนอนี้ไม่ได้ เดินออกไปจากที่นี่ ตอนนี้” แสนลักษณ์ขู่ และนั่นหมายความว่า เงินสิบล้านหายวับไปกับสายลม จะยอมได้อย่างไร “แกเลิกพูดแบบนี้กับพ่อเลี้ยงซะทีรินทร์ พี่ตัดสินใจแล้ว” วิชิตกระซิบกับภรรยา ทว่าแสนลักษณ์ก็ได้ยินแหละ “รีบตัดสินใจ เวลาฉันเป็นเงินเป็นทอง รออะไรนานๆ ไม่ได้” แสนลักษณ์ขู่เสียงเข้มอีกครั้ง “เอ่อ ตกลงครับ เราตกลง สิบล้านเป็นค่าสินสอดค่าน้ำนม ไม่ต้องแต่งงานไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น พ่อเลี้ยงรับยัยวีไปเป็นเมียได้เลย” วิชิตรีบละล่ำละลักตอบเพราะกลัวจะเสียเงินก้อนนี้ไป “ได้ข่าวว่ามีคนจองตัวหนูวีแล้วนี่” แสนลักษณ์แสร้งถามอีก “เอ่อ ก็แค่คุยๆ กันน่ะครับ” “หวังว่าคนนั้น คงจะไม่สร้างปัญหาให้ฉันทีหลัง” “ไม่ครับ ผมสัญญาผมจะจัดการเอง” “และ อย่าสร้างปัญหาให้ฉันกับหนูวีเป็นอันขาด” “ไม่ครับ” “ก็ดี” สิ้นคำ พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยื่นมือไปหาคเชนทร์ผู้ช่วยมือหนึ่ง คเชนทร์ก็รู้หน้าที่ด้วยการยื่นกระเป่าสีดำให้ ในนั้นบรรจุเงินสด สิบล้านบาทเอาไว้ พ่อเลี้ยงหนุ่มรับมา ก่อนจะยื่นให้วิชิต ทว่ายังยื้อเอาไว้ยังไม่ปล่อยให้ “จำคำของตัวเองเอาไว้ จะไม่มีการติดต่อกันเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ล่ะก็ นายกับเมียจะได้รู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง แม้กระทั่งท่านทรงกรช ยังต้องก้มหัวให้ฉัน” แสนลักษณ์พูดเป็นนัยๆ คล้ายกับจะบอกให้รู้อ้อมๆ เรื่องท่านทรงกรชกับน้องวี “ครับ / ค่ะ ผมกับเมียยินดีให้น้องวีออกเรือนไปอยู่กับพ่อเลี้ยงตลอดไป และจะไม่ติดต่ออีก” สิ้นคำ แสนลักษณ์ก็ยื่นกระเป๋าเงินให้ แต่ก็มองด้วยความไม่เชื่อใจ จากนั้นสองผัวเมียรีบรับมาอย่างเร็ว เพราะกลัวถูกเรียกคืนไปอีก “นับก่อนก็ได้นะ เผื่อไม่ครบ” พ่อเลี้ยงหนุ่มบอกอีกครั้ง “ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อใจว่าพ่อเลี้ยงไม่โกงกับเรื่องเท่านี้หรอก” “น้องวีจะสุขสบายใช่ไหมคะ” มารินทร์แทรกถามขึ้น “ก็น่าจะสบาย กว่าชีวิตที่เป็นอยู่ ฉันคงไม่พาลงนรกซ้ำสองหรอก” แสนลักษณ์พูดและมองหน้ามารินทร์ เหมือนกำลังโกรธอยู่แต่ไม่แสดงออกมาก “อ่อ แล้วอีกเรื่อง สบายใจได้ ฉันไม่ใช่พ่อม่าย ยังโสด ไม่มีเมีย ฉะนั้นน้องวีเป็นเมียหลวง ถ้าเขายอมที่จะนอนกับผัวแก่คนนี้อ่ะนะ” “เอ่อ อุ้ย พ่อเลี้ยงไม่แก่เลยค่ะ หล่อ สมาร์ท ภูมิฐาน น่าเกรงขามมากๆ ต่างหาก” ได้เงินไปก็ต้องชมกันเป็นธรรมดา แสนลักษณ์คิด “กลับไปบอกลูกสาวเรื่องนี้ คุยให้เขายอม ฉันจะพากลับสวนเย็นนี้เลย ให้เวลา 5 ชม. คเชนทร์จะรอรับอยู่ที่นั่นเลย” “ได้ครับได้ ผมจะรีบไป” “งั้นก็เชิญ” แสนลักษณ์ออกปากไล่อย่างสุภาพ แต่สีหน้าไม่รับแขก และเมื่อได้รับอนุญาต สองผัวเสียก็รีบลุกแล้วไหว้ลาพ่อเลี้ยงทันที อายุต่างกันเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลต้องไหว้ไว้ก่อน “ไปรอรับหนูวีเลย แล้วพากลับบ้านเรา” แสนลักษณ์กระซิบบอก “นี่ใจเย็นมากเลยนะครับเนี่ย” คเชนทร์เอ่ยปากแซว “ฉันโคตรพยายามใจเย็น เห็นหน้าแล้วนึกโมโห ไปได้แล้ว” “โอเคครับ” ว่าแล้วคเชนทร์ก็ขอตัว แล้วพาสองผัวเมียกลับบ้านเพื่อจะได้พูดคุยกับมนัสวี ตะล่อมให้จงได้ ต่อให้ใช้วิธีไหนก็ตาม “ดูหน้าตาท่าทาง หิวเงินเหลือเกินนะครับสองผัวเมียนี้” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “มันเห็นลูกเป็นแค่สิ่งของ ขายกิน เอาไปบำรุงบำเรอให้ไอ้พวกนั้นลวนลาม พอไม่ได้ดั่งใจก็ตบตี หนูวีโตเติบมาแบบไหน ถึงได้เป็นคนแบบที่ฉันเห็น” “ไม่เหมือนพ่อกับแม่เลยครับ” “ใช่ สองคนนี้เหมือนพ่อเล้าแม่เล้า แม่ผู้ให้กำเนิดแท้ๆ แต่กลับ... หลงไอ้จู๋มากกว่าจะรักลูกตัวเอง ฉันอยากรู้นักว่าน้องวีถูกไอ้แมงดานี่ลวนลามบ้างหรือเปล่า” “อย่าหาว่าผมมองในร้ายเลยนะครับ สวยขนาดประกวดนางงามได้ขนาดนี้ แถมยังเป็นแค่ลูกเลี้ยง ผมว่าอาจจะมีบ้าง” สิ้นคำของลูกน้อง พ่อเลี้ยงหนุ่มก็หันมามองหน้าพลางขึงตาใส่ “ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากคิดขนาดนั้น แต่การที่มันยอมขัดสีฉวีวรรณให้ลูกขนาดนี้ ก็ย่อมต้องทำให้ผุดผ่องถึงจะได้ราคาดี” “ราคาดีจริงๆ ด้วยครับ สิบล้านแน่ะ” “อันนี้อย่าแซว ฉันซื้อขาดตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้มันมายุ่งกับน้องวีอีก” “แต่ดูเหมือนจะไม่พอ เหมือนเสียดาย” “หึๆ ทำอย่างกับไอ้ทรงกรชนั้นให้เยอะอย่างนั้นแหละ แค่เศษเงินโปรยให้ เพื่อจะได้ฟันเด็กเอ๊าะๆ” “แล้วพ่อเลี้ยงล่ะครับ มีความคิดเหมือนท่านทรงกรชหรือเปล่า” “ใช่ ก็เอามาเป็นเมีย จะต่างกันก็ตรงที่ ไม่ได้เอามาเป็นทาส และ... เขาต้องสมบูรณ์แบบที่สุดให้สมกับค่าสินสอด ฉันจะไม่บังคับ” “หมายถึง จะไม่...” “คงไม่มีใครอยากนอนเป็นศพ ให้ผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รักเอาหรอกน่า เท่าที่ถูกซื้อตัวขนาดนี้ แล้วไปอยู่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ คงเจ็บปวดหัวใจจะแย่อยู่แล้ว คงไม่ซ้ำเติมแบบนั้นหรอก” “เทพบุตรตัวจริงเลยนะครับ” “ไม่ ฉันเป็นซาตาน ทำได้ทุกอย่างถ้ามีใครมาแตะต้องของรักฉันนับจากนี้” “แล้วพ่อเลี้ยงจะทำยังไงกับว่าที่ภรรยาครับ ถ้าเธอไม่รัก” “ฉันก็จะทำให้เธอรัก เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ ให้เวลาค่อยๆ สร้างสายใย” “ทนไหวเหรอครับ น่ารักขนาดนั้น” “ทนไม่ไหวก็ช่วยตัวเองไปสิวะ” อันนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดทีเล่นทีจริงหรอก แต่ถ้าจำเป็นคงทำแบบนั้นแหละ คนอย่างเขาไม่เลือกซื้อกิน หนักแน่น เลือกใครแล้วก็จะทำให้คนนั้นมีความสุขเพียงคนเดียว “ระดับพ่อเลี้ยงเนี่ยนะครับ” “มึงนี่นะ แซวเก่ง ไปไกลๆ ไป จะโทรศัพท์ไปบอกทางนั้นให้เตรียมตัวเอาไว้” “หึๆ ครับ” ว่าแล้วลูกน้องก็ถอยห่างออกไป ให้พ่อเลี้ยงหนุ่มได้อยู่ลำพัง เพื่อจะได้โทรศัพท์อย่างที่บอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD