Chapter​ 2 ข่าวที่ไม่อยากได้ยิน (1)

1177 Words
Chapter​ 2 ข่าวที่ไม่อยากได้ยิน (1) เชียงใหม่… 'บ้านเสวกุล'​ แทนไทมองไปยังตัวอักษรสีดำที่ติดอยู่ตรงรั้วบ้าน​ เมื่อคนขับจอดรถนิ่งขณะกำลังรอให้ประตูรั้วค่อย​ ๆ​ เลื่อนเปิด​ แววตาคมกล้าแฝงไว้ซึ่งความหยิ่งยโสมองสำรวจบรรยากาศโดยรอบ​ เหมือนอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มลอบผ่อนลมหายใจบางเบา...นานมากแล้วที่ไม่ได้เหยียบย่าง​มาที่นี่ กลับมาคราวนี้เขาจึง​รู้สึกแปลกแยกไม่คุ้นชิน​เอาเสียเลย หลายสิ่งอย่างดูแปลกตาไปมาก​ ดอกไม้บานสะพรั่งรับลมหนาว​ สวนในบ้านถูกรื้อจัดใหม่จนคิดว่าเข้าผิดบ้าน​ ภายใต้กรอบแว่นตากันแดดสีดำทรงทันสมัย​ แววตาของแทนไทกำลังฉายความรู้สึกบางอย่าง​ เป็นความหลากหลายที่ประเดประดังเข้ามาในคราเดียว​ กลัวหรือ? หรือความขุ่นเคืองยังคงกรุ่นอยู่ในใจ​ ทำให้รู้สึกว่าเข้ามาอยู่ในอาณาเขตของศัตรู​ เขาถามตัวเอง​ มันกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก...เขารู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าที่แค่มาเยือน​ หาใช่มาในฐานะลูกชายเจ้าของบ้าน รถแล่นมาจอดเทียบถึงหน้าบ้านหลังใหญ่...บ้าน...ที่จากไปนานมาก​ ยามนี้มือของแทนไทชื้นไปด้วยเหงื่อทั้งที่อากาศเย็น​ เขายังคงนั่งนิ่งมองไปยังคนที่มายืนรอรับด้วยสีหน้าที่ปกปิดถึงความตื่นเต้นไว้ไม่ได้...นั่นคือคนเก่าแก่พอ​ ๆ​ กับบ้านหลังนี้​ แม้จะผ่านมานานแต่เขาก็จำรำพึงได้​ นอกนั้นเขาไม่รู้จัก​ มีแต่เด็กหน้าใหม่เวียนเข้ามา​ และในขณะเดียวกัน​ แววตาคมกล้าสอดส่ายมองหาใครบางคน​ พวกเธออยู่ไหน...ภัคภัสสร​ นันท์ภัสสร ควรจะมารับหน้าเขา​ แต่นี่กลับพากันหลบหน้า​ เขาคิดไปเองว่าพวกหล่อนกลัวกับการต้องเผชิญหน้ากับเขา​ แต่ก็ช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย​ เขากลับมาทั้งทีแต่ไม่มีใครยินดียินร้าย​ โดยเฉพาะธามไท​ วันนี้เป็นวันอาทิตย์​ เป็นวันครอบครัว​ ทุกคนน่าจะอยู่บ้านด้วยซ้ำ 'อื้อหืม…'​ เตือนใจใจสั่นไหวเมื่อประตูรถถูกเปิดออกแล้วคนในนั้นก้าวลงมา​ หล่อนยืนนิ่งเหมือนถูกสาป​ ได้แต่จับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ตาไม่กระพริบเพราะความตื่นตะลึง​ แน่นอนหล่อนบ้าผู้ชายหล่อ​ ๆ​​ หุ่นนายแบบ​ลุคหนุ่มตะวันตก​ แทนไท...ตัวจริงเขาดูดีกว่าในไอจีหลายเท่า​ เขาอยู่ในเชิ๊ตดำสวมทับด้วยเบลเซอร์ดำจนดูลึกลับเคร่งขรึม​ แม้จะไม่เห็นแววตาของเขาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นกันแดดดำสนิท​ หากแต่หล่อนก็ไม่กล้ามองหน้าเขาตรง​ ๆ​ ไม่รู้ว่าแววตาคู่นั้นกำลังมองใคร​ หากแต่หล่อนก็เก้อเขินไปแล้ว​ คล้ายจะได้กลิ่นหอมจาง​ ๆ​ ลอยมาตามลม​ เซ็กส์แอพพรีลเต็มพิกัดทำให้หล่อนประหม่าจนทำตัวเก้​ ๆ​ กัง​ ๆ​ จนลืมที่จะไปรับกระเป๋าของเจ้านายที่คนขับรถนำลงมาวางไว้ให้ แต่เขาไม่เหมือนธามไทแฝดคนพี่​ แทนไทดูเข้าถึงยากกว่าหลายขุม​ ผู้ชายคนนี้ดูเย่อหยิ่งจองหองเหลือเกิน​ เขาทำเหมือนทุกคนที่ยืนกันหน้าสลอนคืออากาศธาตุที่ไร้ตัวตน​ ได้แต่ยิ้มอ่อน​ ๆ​ ให้รำพึงก่อนเดินเลยไปโดยไม่ทักทายใครอีกนอกจากคนที่เขารู้จัก​ ขณะเดียวกันนั้นผกามาศก็เดินออกมาพอดี "สิงห์…" "สวัสดีครับคุณแม่" ผู้หญิงคนนี้คือคนเดียวที่เขาพูดดีด้วย​ แทนไทโผเข้าหาอ้อมกอดที่กางรอรับ​ แววตาของผกามาศทอประกายระยิบระยับเมื่อเห็นหน้าลูกชาย อ้อมกอดจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง​ คือภาษากายที่ใช้แทนคำพูดมากมาย​ สองคนต่างกอดกันแน่นด้วยความคิดถึง​​ จมูกคมสันฝังลงบนพวงแก้มของมารดาแล้วสูดแรง​ ๆ​ เพื่อให้คลายความห่วงหา...อย่างน้อยแทนไทก็รู้สึกว่าตัวเองไม่โดดเดี่ยวไปเสียทีเดียว​ ยังดีที่มีมารดาอยู่ในบ้านหลังนี้​ แต่ถึงอย่างไร​ คนเป็นใหญ่ก็คือบิดาของเขาอยู่ดี เตือนใจมองตามแผ่นหลังกว้าง​แสนหยิ่งผยองที่เดินเคียงข้างผกามาศเข้าไปในบ้าน​ เมื่อได้เจอตัวจริงจึงเชื่อแล้วถึงวีรกรรมที่มีคนเล่าให้ฟัง​ เขาดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก​ ดูไม่น่าเข้าใกล้​ เหตุเพราะท่าทีเย่อหยิ่งนั่น​ ใบหน้าที่เคร่งขรึมจนยากจะเข้าใจว่าคิดอะไรอยู่ภายในใจ​ ขนาดรำพึงที่อยู่มานานเขายังทำห่างเหิน​ นับประสาอะไรกับพวกหล่อนที่มาทีหลัง​ ไม่อยากคิดเลยว่าหากเผลอทำอะไรไม่ถูกใจพ่อเจ้าประคุณ​ หล่อนจะโดนอะไรบ้าง 'นี่น่ะเหรอ​ สภาพของคนที่เคยเกรี้ยวกราดไล่เราออกจากบ้าน...'​ ห้องพักสำหรับคนป่วยนั้นดูโปร่งโล่งสบายตา​ บานประตูด้านข้างเตียงถูกเปิดกว้างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก​ มองเลยออกไปเห็นแมกไม้เขียวขจีและทิวเขาน้อยใหญ่ทอดตัวยาวลดหลั่นจนสุดลูกหูลูกตา...แทนไทยืนนิ่งอยู่ปลายเตียง​ แม้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงคือบิดา​ หากแต่ชายหนุ่มยังคงยืนเว้นระยะห่างโดยไม่ยอมขยับเข้าไปใกล้​ ๆ​ เพียงเพราะทิฐิยังคงเกาะแน่นอยู่ในใจ​ แม้ท่านจะป่วย แต่​ความกรุ่นโกรธนั้นยังคงไม่จางหาย​ บางที...เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลากันสักพักนึง เขารู้แค่ว่าก่อนหน้านั้นท่านเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกบริเวณท้ายทอย​ เป็นเนื้อร้ายที่ตัวท่านเองไม่รู้เพราะไม่มีใครบอก​ เอฟเฟคจากการให้คีโมทำให้ท่านกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง​ จนที่บ้านต้องจ้างพยาบาลมาดูแลเป็นการส่วนตัว เหมือนมีก้อนบางอย่างแล่นมาจุกอก​ สภาพของบิดาทำให้เขาบดกรามเข้าหากันเพื่อข่มความอ่อนแอของจิตใจเอาไว้​ หากแต่ว่าขอบตากลับร้อนผ่าวเพราะความรู้สึกหลายอย่างที่ประเดประดัง​ แววตาแดงก่ำคู่นั้นไม่อาจรอดพ้นสายตาคนมองไปได้...ภัคภัสสร หล่อนสังเกตได้ถึงความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเข้มแข็ง​ ลอบมองเมื่อยามเขาเผลอ​ รู้สึกถึงความแปลกแยกห่างเหิน​ เพราะความที่ห่างกันไปหลายปี "สิงห์​ เข้าไปใกล้​ ๆ​ คุณพ่อสิจ๊ะ​ ให้ท่านได้รับรู้ว่าสิงห์กลับมาแล้ว" ผกามาศกระซิบกระซาบกับคนที่ยังคงยืนเว้นระยะห่างกับคนป่วย หล่อนแค่หวังดี​ อยากเห็นพ่อลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม หากแต่คำปฏิเสธ​ ก็ทำให้หล่อนถึงกับหน้าเสีย “ไม่ล่ะครับ​ ท่านคงได้ยินเสียงผม​ ก็คงรู้ได้เองว่าผมมาเยี่ยม​ อย่างน้อย... ก็ยังมา​ ไม่ได้ใจดำไปเสียทีเดียว" น้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง​ แน่นอนคนที่นอนหลับตา​อยู่บนเตียงต้องได้ยิน​ถ้าหากว่าท่านไม่ได้หลับ​ แต่แค่ไม่อยากลืมตาขึ้นมามองใครเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD