นาวินขึ้นมาแต่อย่างใด ต่างจากนาวินที่แอบกลัวใจตัวเองอยู่บ่อยๆในยามที่ใด้อยู่ใกล้ชิดเดือน
เดือนไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มตรงหน้า ต้องรวบรวมความพยายามเพื่อข่มความปรารถนาที่เขามีต่อหญิงสาวแสนสวยท่ามกลางดงกล้วยที่มืดเปลี่ยว มีเพียงแสงจันทร์รำไร…ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจนั้นมันทรมานเพียงใด
และคืนนี้ ดูเหมือนว่านาวินกำลังจะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ความรู้สึกอยากครอบครองก่อตัวขึ้นรุนแรง เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่ตนจะต้องจาก ความสับสนเริ่มประเดประดังเข้ามาในความรู้สึกของนาวินอย่าง ยิ่งตอนได้รู้ว่าเดือนเองก็กำลังหวั่นไหวต่อท่าทีของเขา
“คิดลามกอะไรอยู่?” หล่อนเกาะมือของเขาที่กุมมือของเธอออกเบาๆ
“ปะ…ปะ…เปล่า” น้ำเสียงของนาวินกึกกัก
“แล้วทำไมต้องทำน้ำเสียงร้อนตัว”
“เปล่าร้อนตัว”
“อืม.....ถ้าเดือนเหมือนทุเรียน อยากรู้จังว่าดาวเหมือนผลไม้อะไร?” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง เงยใบหน้าชดช้อยขึ้นถาม อดไม่ได้ ด้วยความอยากรู้ อยากถูกเปรียบเทียบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นไปตามอารมณ์ของผู้หญิงที่อยากฟังความเห็นจากผู้ชายที่หล่อนเองก็แอบมีใจให้กับเข้า ทั้งที่รู้ว่านาวินเป็นแฟนของน้องสาว ทั้งที่พยายามหักห้ามใจอย่างที่สุด
“ถ้าเดือนเหมือนทุเรียน ดาวก็คงเหมือนแอ๊ปเปิ้ล” เขาตอบออกมาโดยเร็ว
“ยังไงคะ?”
“ดาวเหมือนแอ๊ปเปิ้ล ไม่ว่าจะกินทั้งเปลือกหรือปอกเปลือก.....รสชาติของมันก็ยังคงเป็นแอ๊ปเปิ้ลอย่างไม่ต้องสงสัย กินง่ายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก…ไม่ต้องเฉาะไม่ต้องผ่า ก็กินได้”
นาวินเปรียบเทียบถึงความต่างระหว่างกินแอ๊ปเปิ้ลกับทุเรียนได้อย่างเห็นภาพ
“แล้ววินชอบแอบเปิ้ลหรือทุเรียนมากกว่ากัน” เดือนถามทีเล่นทีจริง ด้วยความอยากรู้
“ข้อนั้นเดือนยังต้องสงสัยอีกหรือ?” นาวินกล่าวเป็นนัย ทิ้งความสงสัยให้หล่อนนิ่งคิด
“งั้นเดือนไม่สงสัยก็ได้...ไม่อยากรู้แล้ว ไม่ต้องบอกก็ได้” หล่อนแกล้งทำหน้าบึ้ง
“แต่วินอยากบอก”
“จะบอกอะไร?” ดวงตาคมประกาย เบิกโตด้วยความสงสัย
“อยากบอกว่าวินอยากกินทุเรียน วินรักเดือน รักมาตลอด รักไม่น้อยกว่าดาว และจะไม่เปลี่ยนแปลง” มือใหญ่ของชายหนุ่มรวบรั้งมือบางทั้งสองข้างของหญิงสาวเอาไว้แน่น
“ปล่อย...วินอย่าทำให้เดือนอึดอัด เดือนลงมานานแล้ว เดี๋ยวยายน้อมก็ลงมาเพ่นกบาลเอาหรอก”
“ปล่อยก็ได้ แต่เดือนต้องหอมแก้มวินหนึ่งที.....นะๆๆ” คนเจ้าเล่ห์เริ่มต่อรอง ใบหน้าหล่อเหลาเว้าวอนอ่อนหวาน
“อืม...ก็ได้” เดือนพยักหน้า ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่าตัดรำคาญ
ชายหนุ่มเอียงใบหน้าคมคร้ามเข้าหา ดวงตาวาวทอประกาย พริ้มพรายอยู่ใต้แสงจันทร์สลัวเลือน
“หลับตาก่อนสิ” เดือนกระซิบบอก
ความกระดากอายที่ยังเหลืออยู่ ทำให้หล่อนไม่อยากสบสายตากับเขาตรงๆ
ดวงตาคมเข้มของนาวินเผลอมองทรวงอกอวบยวบยาบที่ขยับไปตามจังหวะหายใจอย่างลืมตัว พร้อมๆกับพริ้มตา รอให้ปลายจมูกเชิดรั้นของเดือนกดลงกลางแก้มครึ้มเคราของเขาเบาๆ
“ชื่นใจ…” นาวินรำพึงขึ้นมาเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้เขาเป็นสุข แต่ก็ทุกข์ทรมานในอารมณ์ปรารนาที่มีต่อหญิงสาว
“จูบเสร็จแล้ว…เดือนไปละนะ” พูดจบก็ทำทีว่าจะเดินจากมา
ทว่าอยู่ๆ มือใหญ่ของนาวินก็คว้าเข้าที่ข้อมือเล็กๆของหญิงสาวเต็มแรง
“วิน…” หล่อนเรียกชื่อเขา พร้อมๆกับสะบัดข้อมือ ไม่คิดว่าเขาจะใจกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้
เดือนรู้แต่เพียงว่าหล่อนอยากวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ชายหนุ่มหาได้ปล่อยไม่
“เดือนจ๋า…วินต้องการมากกว่าจูบ” เขาเรียกร้องและรวบร่างรัดรึงของหล่อนขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนกำยำอย่างถือวิสาสะ
“ว้าย!...” เสียงอุทานด้วยความตกใจ เมื่อรู้สึกถึงปลายเท้าละลิ่วลอยขึ้นจากพื้นหญ้า
“อย่านะวิน…ปล่อยเดือนเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเดือนจะโกรธและเกลียดวินไปตลอดชีวิต” กำปั้นน้อยๆ ทุบตีไปที่แผงอกแกร่งของนาวิน ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านให้กับร่างกายกำยำนั้นแม้แต่น้อย
แววตาที่อ่อนโยนของนาวินเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวกับว่ามันเป็นแววตาของคนที่เดือนไม่เคยรู้จักมาก่อน
“วินไม่ปล่อย…..แต่วินจะทำให้เดือนรักวิน” น้ำเสียงของเขาฟังดูนิ่ง เยียบเย็นจนเดือนรู้สึกว่ามันเป็นเสียงของคนแปลกหน้า
“ปล่อยเดือนเถอะ” หญิงสาวละล่ำละลักเพราะความกลัว หลอกล่อเท่าที่สติจะคิดได้
หากชายหนุ่มกลับไม่หยุดง่ายๆ
“เป็นของวินนะ” พูดพลางพาร่างที่ดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขน เดินอ้อมดงกล้วยไปช้าๆ ลึกเข้าไปกลางป่ากล้วย หลบใบกล้วยที่ยื่นไขว้สานกันไปมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างแคร่ไม้ไผ่เก่าผุ ที่ถูกทิ้งร้างไว้ข้างกอกล้วยต้นใหญ่
นาวินวางร่างของเดือนลงบนแคร่ไม้เบาๆ เสียงแคร่ไม้ดังออดแอดรับเรือนร่างรัดรึงที่เพิ่งถูกวางลง
“อย่านะวิน…เดือนกลัว” น้ำเสียงหวาดกลัวและสั่นน้อยๆของเดือน บ่งบอกว่าเธอกำลังพยายามทำใจดีสู้เสือ และต่อสู้กับสำนึกดีชั่วของตัวเองอย่างถึงที่สุด
“มันไม่มีอะไรยากเย็น…วินจะสอนให้” เขาปลุกปลอบไปพร้อมๆกับถอดเสื้อของตนออกช้าๆ เสียงแคว่กของซิบกางเกงยีนส์ที่รูดลงจนสุดแนว ดังขึ้นในความดึกสงัด
ชั่วจังหวะสั้นๆที่เดือนแทบกลั้นหายใจ…มองดูกางเกงเลื่อนไหลลงไปกองกรอมอยู่ที่ข้อเท้า เดือนมองร่างกำยำ เต็มไปด้วยมัดกล้าม เปล่าเปลือยและสูงใหญ่ กำลังก้าวออกมาจากกองกางเกง ตรงเข้ามาทรุดร่างลงใกล้ๆ เขาทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรง
“ไม่นะวิน…!”
หญิงสาวพยายามหยัดร่างขึ้นจากพื้นด้วยการชันข้อศอกทั้งสองข้าง แต่ยังช้ากว่ามือใหญ่ที่กดไหล่ของหล่อนให้ลงไปแนบกับแคร่ไม้
“โอ๊ย!” หญิงสาวร้องเบาๆ รู้สึกถึงแผ่นหลังสัมผัสกับหยดน้ำค้างที่ชื้นอยู่บนแคร่ไม้
ชายหนุ่มขยับขึ้นทาบจนเกือนจะคร่อมร่างบางที่ดิ้นรนอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ มืออันซุกซนของนาวินกระชากผ้าถุงจากเอวหล่อนจนลงมากองหลุดรุ่ยอยู่ที่ข้อเท้า
“อย่า!...” ใบหน้าสวยสะบัด บ่ายหนีใบหน้าคมคร้ามที่กดจมูก ซุกไซร้ลงข้างซอกคอขาว ฝังความรู้สึกที่ทำเอาหญิงสาวร้อนผะผ่าวไปทั่วสรรภางค์ จูบหนักๆไปที่พวงแก้มและหน้าผาก มือซ้ายสอดเข้ารองศีรษะหญิงสาว แทนหมอนด้วยท่อนแขน มือขวาสอดเข้าใต้ชายเสื้อยืดตัวบาง ควานคว้าไปคลึงคลำปทุมถันที่ไร้ซึ่งเสื้อชั้นในจะมา