ตอนที่ 9

1349 Words
ขวางกั้น สลับไปมากับการควานลงต่ำ ขยี้ขยำ คลำคลึงไปตามหนั่นเนื้อเนินสาวน่าบีบเคล้น “โอว…” นาวินอุทาน ตาวาว พ่นลมหายใจอันร้อนผะผ่าวออกมาจากริมฝีปากหยักลึก เมื่อรู้สึกถึงความเปล่าเปลือยของเนินเนื้อที่ค้นพบ ไม่มีแม้กางเกงชั้นในสักชิ้นจะมาขวางกั้นให้รำคาญใจ “อย่า…..” เดือนร้อง ทว่านาวินไม่ให้แม้โอกาสจะทัดทาน ดักเสียงร้องที่กำลังจะเล็ดลอดออกมาด้วยริมฝีปากและเรียวลิ้นอันเชี่ยวชาญ บดนาบไปกับร่องปากละมุน ริมฝีปากอุ่นเบียดบดกดเกยกันไปมา เสียงลมหายใจของเดือนขาดหายเป็นช่วงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงครางออกมาแทนที่ ในวินาทีที่จุดอ่อนไหวถูกรุกเร้ารุนแรง อุ้งมือแกร่งที่ไม่เพียงขยี้ขยำ กอบกำพูเนื้อที่กึ่งกลางกายของหญิงสาว หากลำนิ้วแกร่งยังแยงย้ำ แทรกเข้าไปในแอ่งน้ำผึ้งหวานที่นาวินปรารถนาจะได้พบพานมันมาทั้งชีวิต “วินใจร้าย…” เดือนว่า น้ำเสียงแหบพร่าที่เคล้นออกมา จนเกือบจะกลายเป็นเสียงคราง เมื่อลำนิ้วแกร่ง นิ้วกลาง ถูกใช้เป็นเครื่องนำทางขับเคลื่อนเข้าสู่รวงรังอันชื้นลื่นที่แววตาหื่นของชายหนุ่ม เหลือบมองมันด้วยความกระหาย ร่างของเดือนแอ่นระแน้ ปลายเท้าเล็กๆถูกันไปมาบนพื้นแคร่ที่แฉะไปด้วยน้ำค้าง จากท่าทางดิ้นรน ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นบิดเร่า หนีบหน้าขาเอาไว้แน่น             “วินต้องการเดือน” ชายหนุ่มพร่ำออกมาด้วยอารมณ์รักที่กำลังพร่างพรู รู้ว่าเดือนอาจจะโกรธและเกลียดตนไปจนตาย หรืออาจจะรักจะหลงจนลืมไม่ลง…กับสิ่งที่ตนกำลังจะหยิบยื่นให้             คำพูดของนาวินทำให้เดือนตั้งคำถามอยู่ในใจว่า ‘นาวินเอาดาวไปไว้ที่ไหน’ “เป็นของวินนะ” ชายหนุ่มขอออกมาง่ายๆ ไม่ว่าทำลงไปแล้วผลลัพธ์จะออกมาในรูปใด หากมันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง เร็วเท่าความคิด มือของนาวิน บังคับเรียวขาขาวของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน “ไม่นะวิน….” เดือนอุทาน ใบหน้าหวานส่ายสั่นปฎิเสธ ใจคอของหล่อนหายวาบ เมื่อนาวินกระเสือกบั้นท้าย แทรกลำตัวหนาเข้าไปอยู่ตรงกลางเรียวขาที่อ้าง้าง นาวินรู้ว่าเธอพร้อมแล้วสำหรับเขา เมื่อปลายนิ้วได้สัมผัสกับรวงรังที่มีหยาดน้ำผึ้งอุ่น หลั่งชโลมรอบเยื่อใยบางๆของกลีบกุหลาบสีชมพูจาง ซึมซ่านเมื่อผ่านการปลุกเร้า นาวินไม่สนใจว่ามันจะออกมาจากความรัก…หรือเป็นไปตามกลไกธรรมชาติที่ไม่อาจต้านแรงปลุกเร้าจากเขา เพราะในวินาทีนั้น เขาตระหนักดีว่าต้องการความสาวของหล่อน มากกว่าความจริงจังในรัก ซึ่งยังอีกไกลในอนาคต “โอ๊ะ…..”  เดือนถึงกับสะดุ้ง ไรฟันซี่สวย ขบกรอดไปถึงกราม ดวงตาปรือปรอย คล้อยเคลิ้ม เมื่อรับรู้ถึงความเป็นชายอันอุ่นแน่นที่นาวินพยายามแค่นเข้าหา แทรกผ่านเยื่อบุปผาบางๆ เติมเต็มเข้ามาในร่างกายของหล่อน เสียดสีอยู่ในผนังบางๆของความรู้สึก เบียดลึกเข้ามาในร่างกาย ชำแรกผ่านช่องทางอันคับแคบที่เดือนเองก็เพิ่งได้ค้นพบเดี๋ยวนี้เอง…ว่ามันเป็นช่องทางที่ซุกซ่อนเอาไว้ด้วยความรู้สึกอันล้ำลึก ที่หล่อนไม่เคยได้รู้และไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เกิดจากการเสียดสีและอาการตอดรัดนั้นมาก่อน    ความเสียดเสียวรุมรอบร่องหลืบอันลึกเร้น กระทั่งวินาทีที่มันถูกเติมเต็มจนแน่นสนิท ด้วยความเป็นชายที่แข็งแกร่งของนาวิน แน่นจนอากาศไม่อาจแทรกสวน “โฮววว…” เสียงร้องนั้นไม่ชัดเจนว่า ‘โอย’ หรือ ‘โอว’ เหมือนมันเป็นสองคำที่โพล่งออกมาพร้อมๆกัน จากริมฝีปากสั่นระริก ปลายเล็บแหลมจิกลงบนต้นแขนของเขาจนเจ็บแปลบ เหมือนเร่งเร้าให้เขาเพิ่มแรงกระทำกับเนื้อตัวของหล่อน ใบหน้าสวยส่ายสะบัด ดิ้นรนไปมา…สุดท้ายก็คว้าได้แต่แผ่นหลังบึกบึน เรียบรื่นไปด้วยหยาดเหงื่อโทรมกายของชายที่ขยับขโยกอยู่บนเรือนร่างของหล่อน “ดีเหลือเกิน” นาวินพร่ำออกมาเบาๆ มองใบหน้าเหยเกของหญิงสาวที่กำลังสับสนใจกับความสุขและความเจ็บ ก่อนจะรั้งแผ่นหลังของเดือนขึ้นจากแคร่ โน้มริมฝีปากเข้าหาปลายถันชูชัน หยอกเย้าด้วยปลายลิ้นอุ่นสากจนเกิดเสียงซวบซาบจากริมฝีปากที่กำลังกำซาบซด เบียดบด จมูกและปาก ดูดดุนจนปลายถันชื้นไปด้วยรื้นน้ำลาย เท่านั้นยังไม่หนำ จึงลากไล้ตอเคราไปตามทรวงอกสาวที่ส่ายรับสัมผัสแรกจากปลายลิ้นและริมฝีปากของชายคนแรกในชีวิตของหล่อน เสียงแคร่ไม้ไผ่ขยับไปพร้อมๆกับบั้นท้ายของชายหนุ่มที่ขย่มโยกโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่ใส่ใจในกาลเวลา ไม่สนว่าแสงแห่งอรุณแรกกำลังจะเบิกฟ้า เดือนแหงนหน้าขึ้นมองดวงดาวพร่างพราว  เรือนผมยาวสยาย ยุ่งเหยิง แผ่คลุมไปตามแคร่ไม้   หล่อนพยายามไม่มองหน้าเขา เบือนสายตาไปมองใบกล้วยสั่นไหวอยู่ในสายลม ในหูได้ยินแต่เสียงเอียดออดของแคร่ไม้ที่เหวี่ยงไหวไปตามแรงโยกขย่ม ได้ยินแต่เสียงเนื้อกระทบเนื้อ ทั่วทุกสรรพางค์กายของหญิงสาวรู้สึกได้ถึงสัมผัสแห่งความสุขสันต์ แปลบปลาบวาบลึก ท้นท่วมอยู่ในความเป็นสุขอันมหัศจรรย์ ที่ส่งผ่านกันระหว่างกึ่งกลางของร่างกาย หญิงสาวผ่อนเสียงหายใจอันระทดระทวยออกมาในบางครั้ง เมื่อมันติดขัดจวนเจียนจะขาดใจเสียให้ได้ และบางจังหวะมันก็อิ่มเอมจนจุกเจ็บ แน่นอยู่ที่พูเนื้อ ความร้อนวูบแล่นไปทั่วช่องท้องแขม่วเกร็ง ในขณะที่บางส่วนในร่างกายของเขายังคงแทรกเป็นส่วนหนึ่งในกายหล่อน “โอว…วิน เดือนไม่ไหวแล้ว” สองแขนของหญิงสาว เกี่ยวรั้งไปที่แผ่นหลังของชายที่โยกโยนบั้นท้ายไม่หยุด กระหน่ำหนักอยู่บนร่างกายของเธอซึ่งกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอยู่ในขณะนั้น “เดือนจ๋า” นาวินครางเบาๆ ก้มลงไปขบเม้มที่ติ่งหู หญิงสาวขนลุกซู่ เมื่อเขาถ่ายเทน้ำหนักไปข้างหน้า ทั้งที่จมูกและริมฝีปากยังไม่หยุดซุกไซร้ไปมาตามทรวงอกอวบยวบยาบตรงหน้า “จะ..จะ…ใจจะขาดแล้ว” เดือนพร่ำแทบไม่เป็นภาษา รู้สึกตัวเหมือนร่างกายกำลังจะแตกสลาย ในสมองว่างโหวงและเบาหวิว โลกรอบตัวเงียบสงัดจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงขยับปีกของค้างคาวที่กำลังเฉี่ยวโฉบผลกล้วยน้ำว้าสุกคาเครือ             “อะ..อะ…อีกนิดนะเดือน.” ชายหนุ่มละล่ำละลักออกมาอย่างคนที่กำลังสำลักความสุข บอกให้หล่อนรอเขา เดือนรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ส่งผ่านมาจากบั้นท้ายที่กดลงแรงๆ ถี่ยิบไม่ยั้ง ลึกราวจะหลอมรวมร่างของกันและกันให้เป็นหนึ่ง             กระทั่งถึงที่สุดแห่งเพลิงปรารถนาของชายหนุ่มที่กำลังจะดับลง…ภายหลังจากที่ได้รับการสนองตอบอันเร่าร้อนรุนแรงจากหลืบรักของหล่อน ที่รูดรัด ขมิบตอดตัวตนของเขาราวจะกลืนกิน             แคร่ไม้ถึงกับเขยื้อนไปกระแทกกับต้นกล้วย เรี่ยวแรงมหาศาลของนาวินที่ไม่รู้ว่าหลั่งไหลมาจากขุมไหนในร่างกาย ได้นำพาเอาความอุ่นซ่าน ชื้นชุ่ม ฉีดเป็นสายเข้าสู่ร่างกายที่กระตุกเกร็งไปพร้อมกับเสียงหายใจที่ขาดหายเป็นห้วงๆ เป็นอีกการค้นพบทางความรู้สึกของหญิงสาว จากจังหวะกระตุกตอดสอดรับ จากปฏิกิริยาบีบรัดรุนแรงในแอ่งอารมณ์อันล้ำลึก ที่ไม่อาจบ่งบอกด้วยคำพูดใดๆ นอกจากขบเม้มริมฝีปากของตัวเองไปมา กระทั่งอาการเกร็งนั้นคลายลงช้าๆ ทั้งหล่อนและเขาก็หอบโหยจนแทบจะทิ้งร่างหลับลงที่ตรงนั้น 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD