Chapter 11

1309 Words
สองวันต่อมา... วันนี้พ่อเลี้ยงพาขนมผิงมาดูพืชหายาก เขาว่าจะเพิ่มแปลงเมล่อนญี่ปุ่นเข้าไปซึ่งต้องใช้ความยากพอสมควรในการปลูก ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีถึงจะออกผลมาสวยงามและมีราคาซึ่งเขาต้องทำการทดลองก่อนเพราะที่ไร่ยังไม่เคยปลูกมาก่อน "ท่าทางยากนะเนี่ย" "แต่ราคาดีมากเลยนะครับพ่อเลี้ยง กิโลกรัมละ100บาทขึ้นไปยิ่งถ้าสวยและเป็นพันธุ์ที่หายากราคายิ่งสูงขึ้นไปอีก" เขาพยักหน้าอย่างพอเข้าใจ หันไปรอบๆมองหาขนมผิงที่ไม่ได้อยู่ข้างกายเขาเขาซักพักแล้ว "ขนมผิงไปไหนดิน" "นั้นไงครับพ่อเลี้ยง" ผู้ช่วยของเขาชี้ไปยังศาลาของไร่ ขนมผิงกำลังนั่งกินเมล่อนอยู่กับพนักงานในไร่ เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ "เผลอเป็นไม่ได้เลยเด็กคนนี้" เขาเดินตรงไปหาหญิงสาวมองขนมผิงที่ตอนนี้กำลังถามคำถามอย่างเด็กใครรู่ "ทำไมมันหวานจังเลยคะ" "มันเป็นเมล่อนราคาแพงมากเลยค่ะ พันธุ์นี้ปลูกยากที่สุดถ้าผิดพลาดคือเสียทั้งแปลงเลยค่ะ ดูแลอย่างกับเลี้ยงลูกแหนะ" "อ่อ อย่างนี้นี่เองสงสัยต้องแพงแน่ๆเลย" ขนมผิงใช้ส้อมจิ้มกินอีกชิ้นก่อนจะร้องว้าวออกมาอย่างตื่นเต้นสุดๆ มันทั้งหวานทั้งกรอบไม่เคยกินที่ไหนอร่อยขนาดนี้มาก่อน "กิโลกรัมละเป็นพันค่ะ บางสายพันธุ์สองสามพันธุ์แล้วแต่เกรด" "หูย! แพงเวอร์" หญิงสาวหยิบน้ำเมล่อนปั่นขึ้นมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นเจอเข้ากับพ่อเลี้ยงที่ยืนกอดอกมองเธออยู่ เธอยิ้มออกมาทันทีก่อนจะกวักมือเรียกยิกๆ "พ่อเลี้ยงลองชิมเมล่อนมั้ยคะแพงมากเลยอ่ะ แต่ว่ามันอร่อยและหวานมากเลยค่ะ" เขาเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะนั่งลงข้างๆ ขนมผิงถือแก้วมาป้อนเขาถึงปาก พ่อเลี้ยงลองชิมตามที่เธอแนะนำก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "อร่อย หวานด้วย" "เอาพันธุ์นี้ไปปลูกดีมั้ยคะ ราคาแพงมากด้วย อีกอย่างคนอย่างพ่อเลี้ยงคาวีขายได้อยู่แล้วเพราะมีตลาดอยู่ในต่างประเทศน่าจะส่งออกไปได้สบายเลย" ขนมผิงเอ่ยแนะนำอย่างปกติ เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ตอนแรกกำลังเล็งว่าจะเอาต้นเมล่อนราคาไม่แพงมากไปก่อน แต่ฟังจากหญิงสาวพูดก็ดูมีเหตุผล ราคานี้ส่งออกได้สบายมาก "ก็น่าสนนะ ผิงว่าไงก็ว่างั้นแหละ" "งั้นถ้าพ่อเลี้ยงจะซื้อต้นไปปลูก ซื้อเมล่อนให้ผิงด้วยนะจะเอาไปกินที่ไร่ค่ะ" "จ๊ะ สั่งพนักงานเก็บให้สิ จะเอากี่ลูกก็บอกเขาเลย" "ลูกเดียวก็พอค่ะ" ขนมผิงทำมือหนึ่งนิ้วก่อนจะดูดชิมน้ำเมล่อนปั่นอย่างอารมณ์ดี เขาหันไปสั่งพนักงานให้เก็บมาสิบกิโลกรัม นานๆจะมาถึงสวนทั้งทีก็เอาไปให้เยอะหน่อย เผื่อหญิงสาวจะเอาไปฝากป้าหรือครอบครัวคนอื่นๆของเธอด้วย "ช่วยเก็บให้ผมสิบกิโลนะครับ คิดเงินกับผู้ช่วยผมเลยนะ" "ได้ค่ะพ่อเลี้ยง" ขนมผิงมองชายหนุ่มก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัย เขาจะซื้อไปทำไมตั้งเยอะแยะกัน "ซื้อไปฝากใครคะตั้ง10กิโล" "เราไง ลูกหนึ่งก็เกือบสองกิโลแล้วผิง สิบกิโลคัดเกรดดีๆก็คงไม่เกิน5ลูก เรานะกินหมดอยู่แล้ว" เขาลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู ลูกเดียวมันจะพออิ่มอะไรกัน รายนี้ชอบกินผลไม้มากที่ไร่คนงานจะเก็บมาส่งให้ที่บ้านตลอดโดยแบ่งจากที่ส่งไปขาย เพราะเธอชอบกินผลไม้ทุกอย่าง "ผิงกินไม่หมดหรอกน่า งั้นเอาไปฝากป้าพาได้มั้ยคะ" "ตามใจแล้วกัน ซื้อให้แล้วไง" ขนมผิงยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มแนบอก เขาลูบผมเธออย่างเอ็นดูก่อนจะลองชิมเมล่อนในจานต่อ "อร่อยจริงกรอบด้วย น่าเอาไปปลูก งั้นผิงอยู่ตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวไปคุยกับเจ้าของสวนแป๊บ" "ได้ค่ะพ่อเลี้ยง" เธอนั่งลงรอเขาที่เดิมอย่างว่าง่าย พ่อเลี้ยงเดินไปคุยกับผู้ช่วยและเจ้าของสวนเรื่องที่จะเอาเมล่อนพันธุ์ที่ขนมผิงเสนอไปปลูก มันอร่อยจริงๆอย่างที่เธอบอกเขาก็เลยจะลองเอาไปปลูกก่อนดูซักแปลง หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่ามันคุ้มและไปรอดรึเปล่า ใช้เวลาอยู่ในสวนเมล่อนไม่ถึงชั่วโมง ทั้งสองคนก็เดินทางกลับมาที่รีสอร์ทพร้อมกับเก็บกระเป๋าพร้อมเดินทางกลับไร่คาวีวิลล่า ใช้เวลาเดินทางสองชั่วโมงทุกคนก็มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ขนมผิงเดินลงจากรถก่อนจะบิดขี้เกียจเนื่องจากเธอนั่งรถนานและสองสามวันมานี้เดินทางตลอดจึงรู้สึกเหนื่อย "ฮ้า! เหนื่อยจังผิงอยากนอนแล้ว" "ไปนอนที่ห้องสิ อาบน้ำก่อนนะจะได้สบายตัวเดี๋ยวตามเข้าไป" หญิงสาวสวมกอดเอวชายหนุ่มแน่นก่อนจะยื่นริมฝีปากไปจุ๊บแก้มเขาพร้อมกับยิ้มหวาน "รีบมานะคะ ต้องการคนกอด" "ไม่ต้องมาอ้อนรีบไปเลย" เขาส่ายหน้าอย่างปลงๆก่อนจะหอมแก้มเธอแล้วปล่อยให้เป็นอิสระ ขนมผิงเดินขึ้นมาบนบ้านกำลังจะเดินเข้าไปในตัวบ้านก็ตาโตอย่างตกใจเมื่อป้าพาและคุณหญิงหรืออีกอย่างที่ทุกคนรู้จักดีคือคุณแม่ของพ่อเลี้ยงคาวีนั้นเอง "คุณหญิง!" "ตกใจอะไรกันจ๊ะหนูผิง ฉันมาที่นี่มันน่าตกใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ" คุณหญิงยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ขนมผิงรีบวิ่งไปนั่งลงข้างๆก่อนจะยกมือกราบท่านทันที "สวัสดีค่ะคุณหญิง ผิงขอโทษนะคะที่เสียมารยาท คือมันตกใจนิดหน่อยนะคะแหะๆ" เธอไม่รู้จะแก้ตัวยังไงก็เลยแถไปตามประสาเด็ก ท่านมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู ทำไมจะไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงคาวีพาขนมผิงไปดูไม้บนดอยด้วย ก็รู้มาจากป้าแท้ๆของเธอนั้นแหละ "แล้วลูกชายฉันล่ะอยู่ที่ไหน มายังไม่เจอเลยนะ" "เดี๋ยวก็ขึ้นมาแล้วค่ะ พ่อเลี้ยงคาวีไปบนดอยมาค่ะเพิ่งมาถึงเอง คุณหญิงมาเหนื่อยๆเดี๋ยวผิงไปเอาน้ำส้มคั้นเย็นๆให้นะคะ" "ไม่ต้องหรอกฉันยังไม่หิว มานี่สิมานวดให้หน่อย" "ได้ค่ะ" ขนมผิงขยับเข้าไปใกล้ท่านก่อนจะค่อยๆนวดขาให้อย่างเบามือ คุณหญิงมองเด็กสาวตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เป็นเด็กที่มารยาทดีมากและได้รับการอบรมมาดีจากคนเป็นป้าเธอจึงชอบและไม่เคยอคติกับเด็กคนนี้ พักหลังเธอไม่ได้มาที่นี่นานเป็นปีเกือบสองปีจึงไม่รู้เลยว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พ่อเลี้ยงคาวีเดินเข้ามาในตัวบ้านหลังจากที่เคลียร์งานเสร็จ เขาจะเข้าไปอาบน้ำแล้วนอนกอดขนมผิงตามที่เธออ้อนไว้แต่ก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะมาได้ มาโผล่อยู่ที่นี่ "คุณแม่!" "ไงลูกชาย ตกใจแม่อีกคนแล้วเหรอ เมื่อกี้ก็หนูผิงตกใจไปแล้วลูกก็มาตกใจอีกคน... มีพิรุจเนาะสองคนนี้" คุณหญิงยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย พ่อเลี้ยงคาวีหันไปมองหน้าขนมผิงก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก 'แม่มา ซวยแล้ว...'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD