บทนำ
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาในขณะนี้สองทุ่มตรง พ่อเลี้ยงคาวีลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินออกมาข้างนอกเพื่อตามหาเด็กเลี้ยงของเขา โดยปกติเธอจะต้องมาถึงบ้านอย่างช้าสุดคือห้าโมงเย็น แต่นี่สองทุ่มแล้วยังไม่เข้าบ้านอีก
"ชักจะเกเรไปแล้ว!"
เขาเดินมาตรงระเบียงตอนนี้พวกแม่บ้านกำลังช่วยกันทำความสะอาดอยู่ ป้าพาหรือแม่บ้านคนเก่าแก่ที่อยู่มานาน หรืออีกฐานะหนึ่งคือป้าแท้ๆของขนมผิงกำลังยืนช่วยคนอื่นๆอยู่
"ป้าพาครับ ขนมผิงทำไมยังไม่กลับ"
เขาเอ่ยถามผู้ใหญ่กว่าอย่างใคร่รู้ ป้าพาที่ได้ยินเจ้านายเรียกก็ถึงกับสะดุ้งเพราะหลานสาวของเธอยังไม่กลับมาที่บ้าน เธอไม่น่าพาหลานสาวมาที่นี่เมื่อสามปีที่แล้วเลย ด้วยความที่ขนมผิงเป็นเด็กที่หน้าตาสวยมากผิวพรรณดีเหมือนคุณแม่ของเธอ จึงเป็นที่ถูกชะตาของพ่อเลี้ยงไร่คาวีวิลล่าอย่างไม่ยาก และในคืนหนึ่งทั้งสองคนไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันจนเธอไม่สามารถหยุดทั้งสองคนได้ เพราะพ่อเลี้ยงคาวีไม่ยอมปล่อยหลานสาวของเธอไป
"คือ.. เอ่อ ไอ้ผิงบอกว่าไปฉลองกับเพื่อนเจ้า อาจจะกลับดึกหน่อยเดี๋ยวป้าให้ไปนอนที่บ้านเจ้าพ่อเลี้ยงไม่ต้องห่วงเน้อ"
"ฉลองที่ไหน ร้านไหนผมจะไปรับเอง"
เขายังไม่ยอมแพ้ยืนยันจะไปตามกลับมาด้วยตัวเอง ป้าพาถึงกับกุมขมับเพราะแบบนี้แหละเธอถึงห่วงหลานสาวมาก พ่อเลี้ยงไม่ยอมปล่อยขนมผิงให้ออกไปไหนแทบจะกักขังไว้ที่ไร่ด้วยซ้ำ จะออกจากที่นี่ได้ก็คือไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น
"เหมือนว่าจะเป็นร้านหมูกระทะในตัวอำเภอเจ้า อำเภอข้างๆนี่เอง น่าจะร้านอิ่มพุงอะไรซักอย่างเนี่ยเจ้า"
"ใครอนุญาตให้ไปครับ"
ป้าพาอ้ำอึ้งก่อนจะยิ้มแห้งออกมา
"ป้าเห็นว่านานๆไปทีเลยไม่ว่าอะไรเจ้า อีกเดี๋ยวกินเสร็จไอ้ผิงก็กลับมาเองแหละพ่อเลี้ยงอย่าห่วงเลย"
"เสร็จนี่ป้ากลับบ้านไปพักเลยนะครับ"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปหยิบกุญแจรถพร้อมโทรศัพท์เดินออกไปทันที ป้าพามองตามพ่อเลี้ยงก่อนจะเอ่ยถามเสียงหลง
"จะไปไหนเจ้าพ่อเลี้ยง"
"ไปตามหลานตัวดีของป้าพาไง"
เขาไม่พูดอะไรอีกก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถทันทีพร้อมกับคนขับรถของไร่ เวลานี้เขาขี้เกียจขับรถเองอีกอย่างร้านอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ให้คนขับรถพาไปน่าจะรู้ทางกว่า
"ไปร้านหมูกระทะชื่ออิ่มพุงอะไรซักอย่างเนี่ยลุง"
"อ่อ ผมรู้จักครับพ่อเลี้ยง เดี๋ยวพาไปเลย"
ลุงรงค์คนขับรถของไร่ร้องอ๋อออกมาก่อนจะรีบขับไปอย่างรวดเร็ว เพราะดูเหมือนว่าอารมณ์ของเจ้านายจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อมาถึงหน้าร้านพ่อเลี้ยงคาวีเดินลงจากรถมองไปโดยรอบร้านก็เจอขนมผิงกำลังกินหมูกระทะพร้อมกับหัวเราะร่ากับเพื่อนอย่างสนุก เขาหันไปหาลุงคนขับรถก่อนจะสั่งให้เขาไปตามเธอออกมาพร้อมกับเงินแบงค์พันสองใบ
"ไปตามขนมผิงออกมา แล้วเอาเงินสองพันนี้จ่ายค่าอาหารของเธอและเพื่อนด้วย ผมจะรอตรงนี้"
เขากอดอกยืนมองหญิงสาวอยู่ข้างนอก ลุงรงค์เห็นขนมผิงก็ถึงบางอ้อทันที คราวซวยมาเยือนเด็กสาวอีกแล้ว ทุกคนในไร่จะรู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่แค่มีฐานะเป็นหลานของป้าพา แต่ยังมีฐานะเป็นเด็กเลี้ยงของพ่อเลี้ยงด้วย ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแบบไหน แต่เท่าที่ทุกคนทราบคือพ่อเลี้ยงไม่ยอมห่างเธอเลยหวงมากด้วย
เขารีบเดินเข้าไปในร้าน ขนมผิงที่กำลังสนุกอยู่หันมามองลุงรงค์ก็นิ่วหน้าอย่างประหลาดใจ
"ลุงรงค์มาได้ยังไงคะ"
เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย เขาชี้นิ้วไปยังพ่อเลี้ยงที่ยืนจ้องหน้าเธออยู่นอกร้านก่อนจะกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก
"ซวยแล้ว"
"รีบกลับเถอะไอ้ผิง ลุงไม่อยากให้เอ็งเดือดร้อนเลย กลับไปกับพ่อเลี้ยงเถอะ นี่เงินค่าบุฟเฟ่ต์พ่อเลี้ยงฝากมาให้"
ขนมผิงในชุดนักศึกษาหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะยิ้มแห้งออกมา คนที่สนิทกันจริงก็จะพอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและพ่อเลี้ยง จึงไม่มีใครกล้าขอร้องให้เธออยู่ต่อ
"พ่อมาตามเหรอ.."
"อือ อยู่ต่อไม่ได้แล้ว นี่เงินพ่อเลี้ยงจ่ายให้ ฉันไปก่อนนะเจอกันที่มหาวิทยาลัย"
"โชคดีนะแก อย่าเพิ่งช้ำนะ"
คำอวยพรของเพื่อนนั้นทำให้เธอเครียดกว่าเดิม ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากสถานะนี้ซักที ใครจะมาอิจฉาว่าเธอเป็นเด็กของพ่อเลี้ยงก็ตามใจ แต่ถ้าเป็นเธอจริงจะรู้ว่ามันไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเป็นที่ระบายความใคร่ของผู้ชายหรอก ทุกคนล้วนแต่อยากมีชีวิตเป็นครอบครัวทั้งนั้น แต่สำหรับเธอที่เป็นแค่หลานแม่บ้านในเรือนของเขา ไม่มีทางที่เขาจะยกย่องขึ้นเป็นเมียแต่งหรอก
'อย่างเธอก็เป็นได้แค่นางบำเรอเท่านั้น'
ขนมผิงเดินออกจากร้านตรงมาหาพ่อเลี้ยงที่รถ เขาดึงเธอให้ขึ้นไปนั่งข้างในก่อนจะเงียบไม่พูดอะไรปล่อยให้ลุงรงค์ขับไปจนถึงไร่
ขนมผิงรู้ดีว่าเขาไม่พูดตอนนี้คงเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่เดี๋ยวถ้าถึงบ้านเธอไม่พ้นโดนหนักแน่นอน
"รีบตามพ่อเลี้ยงไปเถอะไอ้ผิง โชคดีนะ"
ลุงรงค์อวยพรตามหลังก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ขนมผิงค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเขาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสั่น
"ป้าพากลับแล้วเหรอคะพ่อเลี้ยง งั้นผิงกลับบ้านนะคะวันนี้"
เธอเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะรีบเดินถอยหลังออกไป พ่อเลี้ยงเห็นดังนั้นก็ดึงหญิงสาวเข้ามาในห้องนอนก่อนจะล็อคประตูแล้วดันเธอไปที่เตียงนอน
"ใครอนุญาตให้เธอไปฉลองกับเพื่อน"
"ผิงโทรศัพท์บอกป้าพาแล้วนะคะ อีกอย่างผิงอยากกินหมูกระทะนี่นา เพื่อนชวนพอดีก็เลยไปค่ะ"
"อยากกินทำไมไม่ทำที่บ้าน บอกแม่บ้านสิอยากกินอะไรทำไมต้องออกไปข้างนอก เดี๋ยวนี้เธอไม่เชื่อฟังฉันเหรอขนมผิง"
เขาเอ่ยเสียงดุจนหญิงสาวหน้าหงอย ตกลงเธอเป็นอะไรกับเขากันแน่ ทุกวันนี้นอกจากไปเรียนเธอไม่สามารถออกไปไหนได้เลยถ้าไม่มีเขาไปด้วย เขาทำเหมือนรักและแคร์เธอตลอดเวลา แต่คำพูดที่กรอกหูทุกวันคือ เธอเป็นแค่คนคั่นเวลาเท่านั้น
"ผิงแค่อยากไปกับเพื่อนบ้าง เดี๋ยวก็ต้องฝึกงานแล้วผิงต้องไปที่อื่นอยู่ดี"
"ฝึกที่นี่จะไปที่อื่นทำไม เราคุยกันแล้วอย่ามาอ้าง เธอทำฉันโมโหมากเลยนะ"
เขาดึงเธอขึ้นมาก่อนจะพรหมจูบเพื่อระบายความโกรธ ขนมผิงน้ำตาซึมก่อนจะปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเอง พ่อเลี้ยงผละออกเล็กน้อยมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ร้องไห้เหมือนคนไม่มีความสุข เขาพ่นลมหายใจเพื่อระบายความหงุดหงิดก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ่อนลง
"ช่วงหลังเธอดื้อกับฉันนะผิง ไปไหนทำไมไม่บอก"
"ผิงไม่ได้ไปไหนไกลซักหน่อย ถ้ามันผิดมากผิงขอโทษค่ะ จะไม่ทำอีก"
เธอร้องไห้ออกมาเสียงสะอื้น เขานั่งลงก่อนจะดึงเธอมานั่งลงบนตักแล้วโอวรอบเอวไว้หลวมๆ
"ฉันไม่ชอบให้เธอไปกับคนอื่น อยากไปไหนบอกฉันจะพาไปเอง"
"พ่อเลี้ยงไม่สามารถขังผิงไว้ได้ตลอดหรอกนะ วันหนึ่งพ่อเลี้ยงต้องมีครอบครัวของตัวเอง ถึงเวลานั้นผิงก็หมดประโยชน์แล้ว"
หญิงสาวเอ่ยอย่างน้อยใจ สามปีมานี้ไม่ใช่เวลาน้อยเลยนะที่เธอยอมเขาทุกอย่าง จะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็จะเป็นการโกหกตัวเองเสียเปล่า ทนทั้งๆที่รู้ว่าสุดท้ายตัวเองต้องอยู่ในสถานะไหน
"ตอนนี้ฉันมีเธอคนเดียวนี่ เธอก็รู้ว่าฉันหวงเธอมากขนาดไหน อย่าทำอีก... เธอไม่แคร์ฉันแล้วเหรอ"
เขาเอ่ยเสียงอ่อนโยน ตอนแรกว่าจะลงโทษแต่พอเห็นน้ำตาแล้วมันใจอ่อนซะงั้น
"ถ้าผิงถามแบบนี้บ้าง พ่อเลี้ยงจะใจอ่อนแบบที่ผิงกำลังเป็นอยู่รึเปล่า"
เธอเอ่ยออกมาอย่างน้อยใจชายตรงหน้า เขาไม่ตอบอะไรดึงหญิงสาวมาจูบอย่างดูดดื่มก่อนจะกอดรัดกันแน่นอย่างต้องการกันและกัน
'บางทีเธอก็สงสัยว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร.. หึงหวงอย่างกับคนรักกันแต่ไม่ใช่คนรักกัน และสถานะของเธออย่างเดียวที่ได้รับคือ นางบำเรอบนเตียงเท่านั้น'