กว่าจะรู้สึกตัวออกจากภวังค์อีกครั้งก็พบว่ายามนี้ชายหนุ่มได้จัดการร่นกระโปรงตัวสวยของเธอไปอยู่ตรงปลายเท้าเสียแล้ว หญิงสาวรีบหดขาขึ้นตามสัญชาตญาณแต่ก็ช้าไปเมื่อเขาไวกว่ารีบโน้มตัวลงมาคร่อมร่างเธอเอาไว้ ทอเลเมียสยืดขาสองข้างที่อยู่ในท่าคุกเข่าให้เหยียดตรงไปทางด้านหลัง โดยระมัดระวังเรื่องเท้าข้างที่เจ็บเป็นพิเศษ
อันที่จริง...มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แค่เดินหน้าเล่นเกมรักไม่ค่อยสะดวกเท่านั้นเอง แต่ถึงแผลจะฉีกจนต้องเย็บใหม่อีกรอบมันก็คุ้มนะ...
“คุณนาซี...”
“อย่าร้องคนดี ผมจะถนอมคุณให้มากที่สุด” ก็แค่คำปลอบเด็กลอยๆ คนพูดยังตั้งหน้าตั้งตาเล้าโลมคนฟังอย่างไม่บันยะบันยัง ข้อมือเล็กสองข้างของเธอถูกเขารวบมัดไว้ด้วยมือเดียวแล้วตรึงไว้เหนือศีรษะเพื่อกันความรำคาญเมื่อเธอพยายามปัดป้อง มือหนาอีกข้างไล่ลูบคลำตรงโคนขาขาวเรียว เรื่อยขึ้นมาทาบคลำตรงความอวบอูมแห่งความเป็นสาวเต็มตัว ในขณะที่ริมฝีปากร้ายก็ยังครอบครองไล่จูบเม้มทั่วใบหน้าและกลีบปากบวมเป่งเร่าร้อน
อรุโณรีย์รับรู้ถึงการถูกคุกคามเบื้องล่างแต่ก็นั่นแหละเธอจะทำอะไรได้เล่า นอกจากนอนรอรับทัณฑ์สวาทจากเขาอย่างจำยอม เพราะตอนนี้แม้แต่ขยับตัวเพียงน้อยนิดก็ยังทำไม่ได้เลย ชั้นในชิ้นสุดท้ายที่ติดกายสาวถูกดึงฉีกขาดคามือ ทอเลเมียสทั้งถลกทั้งดึงทึ้งจนผิวเนื้อขาวๆ แดงเถือกเป็นรอยตามอารมณ์ปรารถนาที่ยากหยุดยั้งของเขา
“อ๊ะ...คุณนาซี...อย่าค่ะ ได้โปรด...” ทันทีที่ปากหลุดพ้นจากการกวาดควานของชิวหา หญิงสาวก็วอนขอเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า สติสตังล่องลอยเช่นเดียวกับดวงตาที่ฉ่ำปรือแทบลืมไม่ขึ้น เธอหายใจหอบถี่จนทรวงอกกระเพื่อมท้าทายการสำรวจให้หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
“ผมโปรดคุณแน่ๆ....เอพริล” เสียงทุ้มสั่นตอบกลับในขณะที่สติเขาเองก็หลุดหล่นหายไปกว่าครึ่ง ที่กำลังครอบครองอารมณ์อยู่ในตอนนี้มีเพียงตัณหาที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ เขาปล่อยมือเรียวงามที่ถูกบีบมัดจนแดงเป็นรอยคามือ ทันทีที่เป็นอิสระอรุโณรีย์ก็ปัดป้องผลักดันเข้าด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิดอย่างถึงที่สุด มันไม่ระคายเขาหรอก เพียงแต่มันน่ารำคาญตรงที่เสียเวลาการรุกรานเท่านั้นเอง
ทอเลเมียสหยุดภารกิจทุกอย่างก่อนจะเอี้ยวตัวไปเอื้อมหยิบแพนดี้ตัวจิ๋วที่หล่นอยู่ข้างๆ เตียงด้วยฝีมือตัวเอง มันขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี แต่ก็ยังใช้ประโยชน์ได้ เรียวแขนขาวเนียนที่เต็มไปด้วยร่องรอยแดงๆ จากการดิ้นรนและถูกจับตรึงถูกชายหนุ่มรวบไว้เหนือศีรษะอีกครั้งแล้วใช้เศษแพนดี้ตัวนั้นมัดพอเป็นพิธีแต่มั่นใจได้ว่าเธอจะไม่สามารถดึงมันให้ขาดอีกรอบได้แน่ๆ
คราวนี้ก็ถึงตาปทุมถันคู่งามถูกจับจองเอาไว้ด้วยมือและปากอีกครา ครั้งนี้ทอเลเมียสใช้แรงหนักกว่าเก่าในการคลึงเคล้น อีกทั้งยังใช้อุ้งปากครอบครองขบกัดเสียอย่างไม่ปรานี เสียงคนถูกลงทัณฑ์ครางสะอื้นเป็นระยะๆ ผ่านเข้าหูช่วยกระตุ้นการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี ความฮึกเหิมยิ่งเพิ่มเท่าทวีคูณยามเสียงหวานๆ แว่วมาให้ได้ยิน
ทั้งมือและปากของทอเลเมียสทำหน้าที่อย่างไม่เกียจคร้าน เขาละมือข้างหนึ่งเลื่อนลงไปตามชายโครงลูบคลำไปจนถึงเนื้อสะโพกผาย จับบีบเน้นหนักๆ แล้วลากวนมาด้านหน้ากลางลำตัวตรงเนินเนื้อแห่งความสาวที่หวงแหนและไม่เคยมีใครได้สัมผัสหรือแม้แต่มองเห็น
สองเต้าอวบอัดที่ดีดเด้งรับศึกกับปากและมืออีกข้างที่สลับวนเวียนกันทำหน้าที่จนเปียกชื้นเย็นวาบเมื่อถูกลมแอร์เป่าพ่น ในขณะที่มือด้านล่างก็จวบจ้วงนวดคลึงเต็มฝ่ามือ ไม่ร้ายเท่ากับที่เขาคลี่นิ้วแล้วสอดแทรกไปตามรอยปริแห่งห้วงหฤหรรษ์สัมผัสไปถึงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่เกิดจากการกระตุ้น โคนขาขาวนวลจึงถูกจัดยกให้แยกออกจากกันเพื่อความสะดวกในการล่วงล้ำ แต่ทอเลเมียสก็ยังระวังไม่รุกหนักเสียทีเดียวด้วยรู้ว่าเธอยังไม่เคยผ่านอะไรแบบนี้มาก่อนเป็นแน่ คนถูกมัดมือที่ถูกโอ้โลมทุกทางเริ่มเลื่อนลอยไร้สติ ได้แต่นอนหายใจระรัวจนลำคอแห้งผากราวกับไม่ได้ดื่มน้ำมาแรมปี
หยาดน้ำใสๆ ก็ยังรินไหลออกจากดวงตาด้วยอารมณ์ที่ยังตั้งรับไม่ถูก ด้วยว่าตัวเธอไม่เคยประสบพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ซ่านสยิวเสียจนไม่อาจครองสติให้แน่นิ่งได้อีกต่อไป แม้ความกังวลและความกลัวก็ยังถูกกลืนหายไปกับความเสียวที่ถูกเขาป้อนให้จนแทบสำลัก เมื่อมองเห็นอรุโรณีย์ที่นอนบิดส่ายอยู่ใต้ร่างมีอาการคล้ายคนเมามาย ทอเลเมียสจึงฉวยโอกาสนั้นผละออกชั่วครู่เพื่อถอดกางเกงขายาวและชั้นในของตัวเองออกต้องใช้ความระมัดระวังนิดหน่อยเพราะเขามีบาดแผลที่กำลังระบมอยู่ จากนั้นก็โถมทับมาบนร่างงามอีกครั้งโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว คราวนี้เขายกสะโพกมนขึ้นแล้วแยกขาสองข้างออกห่างจากนั้นก็แทรกตัวเองให้อยู่ระหว่างกลาง ความสาวที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นไหมเผยให้เขาประจักษ์ถึงความงามอันแท้จริงของอิสตรีเพศ ยิ่งเขายกโคนขาขึ้นและโยกไปด้านหน้าร่องรักของเธอก็แยกออกจากกันให้เห็นกลีบกุหลาบสีหวานที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำปริ่มเอ่อเหมือนน้ำค้างยามเช้าอันบริสุทธิ์และสะอาดด้วยความเป็นธรรมชาติของตัวมันเอง ถึงจะมองแล้วทำให้เกิดความหิวกระหายมากสักเพียงใด แต่...เขาก็ไม่คิดจะปรนเปรอความสุขด้วยวิธีนั้นให้กับผู้หญิงคนนี้หรอก เธอไม่ได้คู่ควรสักนิด ก็แค่ลูกไอ้คนชั่วช้าที่ทรยศคดโกงซ้ำยังใจดำอำมหิตผิดมนุษย์ สมควรแล้วหรือที่เขาจะปรานีทายาทหนึ่งเดียวที่เปรียบเสมือนดวงใจของมัน
“โอ๊ย!!...” คนตัวเล็กร้องเสียงหลงเมื่อดัชนีเรียวยาวรุกล้ำช่องหลืบแห่งกายสาวอย่างรุนแรงจนลึกสุดโคนนิ้วในคราเดียว มันอาจไม่ได้ใหญ่โตเอาหนักหนาแต่สำหรับคนที่ไม่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้มาก่อนก็นับว่าสร้างความเจ็บปวดให้ไม่น้อย
หญิงสาวปรือตามองผู้ที่ลงมือกระทำการอันป่าเถื่อน แล้วหยดน้ำใสๆ ก็ไหลรินออกทางหางตาเปียกปอนไปถึงขมับและผมดำสลวยตรงบริเวณนั้น สีหน้าที่เย็นชาผิดจากเมื่อครู่ของเขาทำให้เธอจำต้องหลับตาลงนอนรอด้วยใจหวาดหวั่นกับสิ่งที่ต้องพบเจอ กว่ามันจะจบลงไม่รู้ว่ามันจะเนิ่นนานแค่ไหน และเธอจะต้องปวดร้าวไปมากมายเท่าไหร่กัน
เธอไม่รู้หรอกว่าการเสพสมระหว่างชายหญิงในทางปฏิบัติจริงๆ มันเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนเด็กอมมือพอจะเคยได้ฟังได้ยินมาบ้างจากเพื่อนๆ สมัยเรียนว่าครั้งแรกจะเจ็บระบมมาก แม้แต่ในหนังสือสุขศึกษาก็มีสอนเรื่องแบบนี้เอาไว้บ้าง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าวิธีการมันจะต้องรุนแรงและหนักหน่วงถึงขนาดนี้ หรือนี่เป็นปกติทั่วไปของการมีความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องแปลกกันนะ
ในขณะที่อีกคนกำลังสับสนกับหลายสิ่งหลายอย่างอีกคนที่มีอำนาจเหนือกว่ากลับไม่มีความเห็นใจแม้แต่น้อยถึงจะเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ก็เถอะ เขายังคงบรรจงใช้นิ้วหมุนวนสำรวจความคับแน่นในช่องทางปรารถนาด้วยความกระสันในอารมณ์ แทบรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัสแบบล้ำลึกด้วยตัวตนแท้จริงของเขา
แต่ก็ต้องรอให้ความพร้อมของหญิงสาวมีมากกว่า อีกอย่าง...ถือเสียว่านี่คือความบันเทิงใจอย่างหนึ่งก็แล้วกันที่จะได้เห็นความเจ็บปวดปนเสียวซ่านจนบิดกายสะดุ้งเร่าๆ อย่างไม่มีทางออกของลูกสาวศัตรูตัวฉกาจ