4

1241 Words
“ขอดูก่อนแล้วกันนะ” หฤษฎ์ตอบกลับสั้นๆ ขณะนั้นมีเด็กชายตัวเล็กวิ่งออกจากบันไดเลื่อนผ่านหน้าพวกเขาไป เกือบจะชนเบญญา ดีที่หฤษฎ์เบี่ยงตัวไปขวางได้ทัน แม่ของเด็กวิ่งกระหืดกระหอบตามมา หยุดชั่วคราวเพื่อยกมือไหว้พวกเขาจากนั้นวิ่งไล่ตามหลังลูกชาย “เบญเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ได้ตกใจใช่ไหม” หฤษฎ์เลิกสนใจสองแม่ลูก กลับมามองดวงตาหวานซึ้งของเพื่อนคนสนิท หล่อนอึกอักพูดไม่เป็นคำ หฤษฎ์เพิ่งรู้ตัวว่ากอดหล่อนรีบปล่อย “ขอโทษครับ ผมกลัวเด็กคนนั้นจะวิ่งชนเบญ” “เบญสิควรจะต้องขอบคุณ เราเข้าไปในร้านกันเถอะค่ะ จะได้มีเวลาพักผ่อนก่อนงานเลี้ยงช่วงเย็น” เบญญาเป็นฝ่ายชวน แต่กลับเขินเสียจนไม่กล้ารอคำตอบ เดินนำทางเข้าไปห้องเสื้ออารานี พนักงานในร้านถูกเทรนด์มาให้จำลูกค้าประจำได้ เข้ามารับรองพาไปยังห้องลองวีไอพี มีมุมหรูหราให้ลูกค้านั่ง เบญญาดูความเรียบร้อยชุดออกงานของมารดาก่อนจะดูชุดของตัวเอง มาด้วยตัวเองก็ดีกว่าตรงได้ลอง ถ้าหากขัดข้องส่วนไหนทางร้านสามารถขยับขยายให้ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป๊ะ เพราะผ่านการวัดไซซ์อย่างละเอียด เบญญามองตนเองในกระจกห้องลอง ตั้งใจจะออกมาข้างนอกให้เพื่อนชายได้เห็นก่อนใคร ทว่ากลับต้องพบกับความผิดหวัง พนักงานบอกเขาออกไปข้างนอก โปรดปราณ เด็กชายวัยห้าขวบตัวเล็กนิดเดียววิ่งหลบผู้คนในห้างสรรพสินค้า มุ่งตรงไปยังบ้านบอลสวนสวรรค์ของเด็ก ใจเด็กชายลอยไปอยู่กับเครื่องเล่น ไม่ยอมฟังเสียงคุณอาสาวที่วิ่งกระหืดกระหอบตามหลังมาติดๆ แต่จับแกไว้ไม่ได้ เพราะมัวแต่ขอโทษคนที่เด็กชายเผลอวิ่งเข้าไปเบียด บนหลังแกมีกระเป๋าลายการ์ตูนผู้ชายบรรจุอุปกรณ์วาดภาพระบายสีถ่วงน้ำหนัก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค แกออกวิ่งอยู่นานในที่สุดก็มาถึงทางเข้าสวนสวรรค์ ด้านหน้ามีพนักงานนั่งประจำเคาน์เตอร์คอยแลกเงิน เด็กชายมองพี่สาวคนสวยตาแป๋ว หมดเนื้อหมดตัวไม่มีเงินสักบาท จำเป็นต้องหยุดรอคุณอาสาว ที่ชั่วอึดใจเดียวก็วิ่งตามมาทัน “น้องโปรด อย่าวิ่งแบบนี้อีกนะครับ อาหนึ่งวิ่งตามไม่ไหว” หนึ่งตะวัน หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีผู้มีรูปร่างหน้าตาธรรมดาบอกหลานชายทั้งที่หอบหายใจถี่ยิบ เสน่ห์ของหล่อนคือเส้นผมสีดำยาวสลวยไม่เคยผ่านการทำสี มือหล่อนวางมือบนเครื่องเล่นชนิดหนึ่งก้มหน้าหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย เส้นผมลู่ลงแนบใบหน้า หล่อนวิ่งมากไม่ได้ การใช้พละกำลังหรือความเร็วมากเกินไปทำให้หัวใจหล่อนเต้นไม่เป็นจังหวะ ช้าบ้าง เร็วบ้าง รู้สึกเหมือนตัวเองจะขาดใจตายทุกครั้ง หล่อนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเด็ก กลัวจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ แต่ไม่เคยเข้ารับการตรวจจริงจัง “น้องโปรดอยากเล่นบ้านบอลครับอาหนึ่ง ขอเล่นก่อนเข้าโรงเรียนได้ไหม นะๆ นะครับ น้องโปรดขอเล่นนิดเดียว” เด็กพลังช้างออดอ้อนสุดแรงเกิด เข้ามาเกาะขาคุณอาสาวขอเล่นอาณาจักรบอล ที่มีทั้งลูกบอลกลมๆ ให้โยนเล่นไปมากับสไลเดอร์ขนาดใหญ่ “ไม่ได้ครับ อาหนึ่งต้องรีบไปทำงาน ไปช้าอาเรจะหักเงิน” หนึ่งตะวันให้เหตุผล หลานชายรู้ดีว่างานนี้สำคัญมากแค่ไหน หนึ่งตะวันตกงานหนึ่งเดือน ส่งใบสมัครไปหลายที่ไม่มีที่ไหนตอบรับ ต้องทำงานรายวันพอได้เงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โอกาสในการเลือกงานของหล่อนมีน้อยมาก เพราะเรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย ทำอะไรไม่เป็น หรือถึงทำเป็นก็ไม่เก่ง เปลี่ยนงานมาหลายที่ถูกเพื่อนร่วมงานกับเจ้านายด่า สมองนิ่ม ประจำ หนึ่งตะวันทำได้แค่ยิ้ม รู้ตัวนานแล้วว่าตัวเองหัวช้า ไม่เอาไหนมาแต่ไหนแต่ไร เรณุกา รุ่นพี่ที่หนึ่งตะวันเคารพทำงานในบริษัทรับจัดงานเลี้ยงมีใจอยากช่วยเหลือ จำได้ว่าหนึ่งตะวันทำขนมเก่งเรียกเข้ามาช่วยงานแทนพนักงานที่ลาคลอด สถานที่ทำงานค่อนข้างไกลบ้านต้องนั่งรถเมล์เข้ามาหนึ่งชั่วโมงกว่า แต่ต้องอดทน ดีกว่าไม่มีงานทำ “อาหนึ่งสัญญาว่าจะพามาเล่นหลายครั้ง ไม่เคยพามา” แกว่าอย่างนั้น สะเทือนเข้ามาถึงกลางใจหนึ่งตะวันที่เลี้ยงหลานมาตั้งแต่แบเบาะ ทั้งพ่อและแม่ของแกมีแกในวัยเรียน ไม่พร้อมเลี้ยงลูก คลอดมาเลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ แม่แวะมาดูแลเป็นครั้งคราวเฉพาะวันที่หนึ่งตะวันไม่ว่าง นอกนั้นไปอยู่บ้านแฟนใหม่ ส่วนพ่อแก ได้ดิบได้ดีทำงานเป็นวิศวกรที่ประเทศสิงคโปร์ ทำงานเข้าสู่ปีที่สามก็เตรียมตัวแต่งงานใหม่กับสาวชาวสิงคโปร์ ทำงานที่นู่นเงินเดือนเยอะแต่ค่าครองชีพสูง นานๆ ทีจะได้คุยกันได้ยินพี่ชายบ่นเรื่องเงินทุกครั้ง เขาอยากขายทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กที่เคยซื้อไว้เมื่อนานมาแล้ว ให้หนึ่งตะวันกับลูกชายอาศัย แต่ไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เพราะเท่ากับว่าหนึ่งตะวันต้องหาที่อยู่ใหม่ ใจหายที่สุดคงจะเป็นความห่างเหินที่มากขึ้นทุกวัน ในไม่ช้าหนึ่งตะวันกับน้องโปรด อาจจะไม่ใช่คนในครอบครัวพี่อาทิตย์อีกต่อไป อาจจะเพราะเรื่องนี้ หนึ่งตะวันอยากหางานทำเร็วๆ หล่อนอยากมีเงินเก็บสักก้อนไว้เช่าบ้านและทำร้านขนมเป็นของตัวเอง มันคือความใฝ่ฝัน เพื่อจะได้ทำงานที่รักและดูแลหลานชายเต็มตัว วงหน้าเล็กเบะปากออกมาเหมือนจะร้องไห้ เสียใจที่บ้านบอลอยู่ตรงหน้าแต่เข้าไปเล่นไม่ได้ ต้องยืนมองเพื่อนคนอื่นเล่นสนุก โปรดปราณเป็นแก้วตาดวงใจ หลานเศร้า หล่อนจึงเศร้าตาม หนึ่งตะวันคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชายที่ก้มวงหน้าเศร้าลงมองพื้น “อาหนึ่งขอโทษ ที่ไม่มีเวลาพาน้องโปรดมาเที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนๆ เอาเป็นว่าวันนี้อาหนึ่งจะให้น้องโปรดเล่นบ้านบอล แต่ให้เล่นแค่ครึ่งชั่วโมงแล้วไปเรียนพิเศษ อย่างอแงอีกนะครับ อาหนึ่งอยู่นานไม่ได้ ต้องรีบไปทำงาน ไม่อย่างนั้นอาหนึ่งไม่มีเงินซื้อขนมให้น้องโปรด” “ครับ อาหนึ่งไปทำงาน น้องโปรดไปเรียน รอแม่ปลามารับ แล้วเราเจอกันตอนเย็นที่บ้าน” เด็กชายพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายที่ได้เล่นสมใจ เข้าไปกระโดดโลดเต้นร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน ปีนขึ้นไปบนยอดสไลเดอร์คอยโบกไม้โบกมือก่อนจะสไลด์ตัวลงมาจากที่สูง เล่นได้เกือบยี่สิบนาทีเด็กชายวิ่งสายฟ้าแลบออกจากบ้านบอลมายืนตรงหน้าคุณอาสาว สองมือประสานตรงเป้ากางเกง หนีบขา บิดสะโพกไปมาสื่อภาษากายว่าปวดฉี่ หน้าของแกแดงน่าจะกลั้นมานานเพราะติดเล่น “อาหนึ่งครับ น้องโปรดปวดฉิ่งฉ่อง จะราดแล้วๆๆ” “อดทนก่อนนะครับ กลั้นไว้ ห้ามฉี่ใส่กางเกง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD