bc

ก้อนหินกลิ่นดอกไม้

book_age12+
4
FOLLOW
1K
READ
HE
drama
detective
office/work place
like
intro-logo
Blurb

'หนึ่งตะวัน' ลูกสาวโชติโจรชั่วฆ่าคนตายเป็นเบือเมื่อหลายปีก่อน

'หฤษฎ์' ลูกชายของคนที่พ่อเธอฆ่า พวกท่านเสียชีวิตต่อหน้าเขา

กลายเป็นปมร้ายฝังใจมาถึงปัจจุบัน

ทั้งสองโคจรมาเจอกันในสถานะ คนใกล้ตาย และ ผู้ช่วยชีวิต

หนึ่งตะวันถูกว่าจ้างให้ดูแลหฤษฎ์ระหว่างรอการผ่าตัดดวงตา

ความใกล้ชิดก่อเกิดความรักและความผูกพัน

แต่แล้วความรักก็ค่อยๆ หมดไป หลังจากหฤษฎ์กลับมามองเห็น

และมองเห็นย้อนกลับไปถึงอดีตของหนึ่งตะวัน!

.................................................................................

"คุณไม่เคยรอรถเมล์เหรอคะ"

"ไม่เคย ผมไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีคนมากๆ"

"ทำไมไม่เคยนั่งล่ะคะ ราคาถูกกว่ารถแท็กซี่ตั้งเยอะ"

"ผมมีรถส่วนตัว" หฤษฎ์ตอบสั้น

"อ๋อ มีรถส่วนตัว อ้าว แล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะคะ ดึกมากแล้ว นึกว่าคุณรอรถเมล์เหมือนกันถึงตามมา" ย่นคิ้วเข้าหากัน เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ ว่าเขาตามมาถึงตรงนี้ทำไม

เปรียบว่าหฤษฎ์เป็นโจร หนึ่งตะวันคงจะเป็นเหยื่อที่หลอกง่ายและเข้าถึงตัวง่ายมากที่สุด

หฤษฎ์อ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรให้ตัวเองดูดี เขาสาบานได้ว่าไม่เคยกระอักกระอ่วนใจมากเท่านี้มาก่อนในชีวิต ถ้าเบญญาอยู่ตรงนี้ คงจะมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด

"ลมเย็นดี เลยออกมาเดินเล่น"

"จริงด้วย ดีนะที่ฝนไม่ตกไม่อย่างนั้นลำบากแย่เลย"

หฤษฎ์เปลี่ยนจากอ้ำอึ้งเป็นแปลกใจ ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเชื่อคนง่าย แถมยังดูเหมือนว่าจะเชื่อสนิทใจ

หล่อนสูดอากาศ ยื่นมือไปข้างหน้าตรวจดูว่ามีเม็ดฝนหล่นลงมาหรือเปล่า พลิกฝ่ามือตัวเองเล่น มีรอยยิ้มสดใส ทำให้หฤษฎ์ยิ้มตาม

"ทำไมถึงแย่ล่ะ"

"รถเมล์บางคันหลังคารั่ว กว่าจะถึงบ้านเปียกหมด"

"ฟังไม่น่าสนุก แต่ทำไมคุณถึงหัวเราะ"

"หัวเราะให้ลืมความทุกข์ คุณไม่เคยได้ยินเหรอคะว่าความสุขอยู่กับเราแป๊บเดียว แต่ความเศร้าอยู่กับเราน๊านนาน ถ้ามัวแต่เศร้ากับเรื่องแค่นี้ ฉันคงเศร้ากับมันทุกวันไปตลอดชีวิต"

"คุณจะนั่งรถเมล์ไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ"

"ใช่ค่ะ สบายออก รอนานหน่อยแต่อีกเดี๋ยวก็คงมา"

หนึ่งตะวันมองผ่านชายหนุ่มหน้าตาดีไปทางท้องถนนที่มีรถวิ่งตลอดทั้งคืน รอคอยว่ารถเมล์สายที่ตัวเองรออาจจะกำลังมา

chap-preview
Free preview
1
“ฟ้า ฝน เร่งมือหน่อยสิจ๊ะ ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว” เบญญา สาวสวยวัยสามสิบสองแห่งบ้านชลทิพย์บอกคนงานเสียงหวาน ขณะเดียวกันก็ไม่อยู่นิ่งช่วยหยิบจับ กลัวจัดเตรียมของเสร็จไม่ทันเวลานัด เพราะเช้าวันนี้บริษัทเอชพีพาวเวอร์ที่เบญญาทำงาน มีงานทำบุญใหญ่ ฉลองครบรอบสามสิบปีในการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศไทย “ขอโทษนะคะคุณหนู เมื่อวานเด็กสองคนน่าจะง่วงนอนมาก สมองถึงเบลอ จำไม่ได้ว่าคุณหนูสั่งงานอะไรบ้าง” แม่นมบัว คนเลี้ยงเบญญามาตั้งแต่แรกเกิดตอบแทนฟ้ากับฝนที่เร่งทำงานมือระวิง “ไม่เป็นไรค่ะนม ช่วยกัน เรายังพอมีเวลา” “ทำไมคุณหนูให้ฟ้ากับฝนจัดของเยอะคะ” “เบญอาสาจัดเผื่อหินด้วยค่ะ ทั้งที่บริษัทกับที่วัด เบญจะชวนหินไปทำบุญให้พ่อแม่ของเขา เบญคิดว่าหินน่าจะไม่ได้ไปนานแล้ว” เบญญาตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่ปิดบังว่าแอบหลงรักเพื่อนชาย “ถ้าคุณหินรู้ จะต้องดีใจที่คุณหนูใส่ใจเธอมากขนาดนี้” แม่นมบัวยิ้มปลาบปลื้ม แตะฝ่ามือเหี่ยวย่นลงบนท่อนแขนเล็ก “นมอยากให้คุณสองคนแต่งงานกันค่ะ” “พูดอะไรอย่างนั้นคะนม เบญกับหินเป็นเพื่อนกันเท่านั้น” เบญญาหลบสายตา รอยยิ้มแสนหวานบนกรอบใบหน้างดงามเศร้าลงทันตาเห็น ไม่อยากคิดไปเองกลัวจะเจ็บปวดในตอนท้ายหากเขาไม่เปิดใจให้ เพราะตลอดเวลาหลายปีที่รู้จักกันเขามองตัวเองเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น เขาให้เกียรติ ไว้ตัว ราวกับว่าไม่ต้องการให้คนรอบข้างเข้าใจผิด ด้วยเหตุนี้เบญญาถึงไม่อยากออกตัวแรงขออยู่เงียบๆ ตามแบบกุลสตรี สีหน้าแม่นมบัวไม่ได้ต่างไปจากเดิม ยังคงมั่นใจว่าคุณหนูของตัวเองดีที่สุดสำหรับชายหนุ่มคนนั้น “นมเชื่อว่าความดีของคุณหนูจะเอาชนะใจคุณหินได้ แค่รอวันที่คุณหินเปิดใจคุณหนูก็จะสมหวัง” “ถ้าไม่ใช่อย่างที่นมคิดล่ะคะ” เบญญาช้อนสายตาขึ้นมองหญิงชรา ขณะเดียวกันฟ้ากับฝน สาวรับใช้ประจำบ้านก็แทรกเสียงเข้ามา “ฟ้าเห็นด้วยกับคุณนมนะคะ คุณเบญดีที่สุดสำหรับคุณหิน” “ใช่ค่ะ ถ้าคุณหินไม่ชอบคุณเบญ ฝนว่าคุณหินตาถั่ว” “เอ๊ะ! แม่สองคนนี้ พูดมากจริงเชียว คุณหนูอย่าถือสาเลยนะคะ” แม่บัวเอ็ดเสียงเขียว เบญญาไม่คิดมากมอบรอยยิ้มให้ทุกคน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะนม เบญว่าดีเสียอีก ถือว่าฟ้ากับฝนอวยพรให้เบญ” อนาคตจะเป็นอย่างไรใครจะล่วงรู้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ เพราะนอกจากเขาเบญญาก็ไม่รู้สึกอยากอยู่กับใครได้เท่านี้ นึกถึงใบหน้าปราศจากอารมณ์ของเพื่อนชายคนสนิทแล้วเบญญาสุขใจ ชีวิตของเขากว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์วนเวียนอยู่กับงาน เขาไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบดื่ม ไม่ชอบไปในที่คนมากๆ คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กินเหมือนเดิม มาทำงานเวลาเดิม กลับเวลาเดิม อยู่บ้านหลังเดิม เขาเป็นคนเดียวที่ต่อให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเบญญาก็รู้ว่าเขาอยู่ไหน และกำลังทำอะไร ‘หฤษฎ์ หิรัญพฤกษ์’ เขาเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิด กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุสิบห้า พวกท่านเสียชีวิตต่อหน้าโดยที่เขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้ บาดแผลครั้งนั้นใหญ่เกินกว่าจะรักษาให้หายด้วยตัวเอง หฤษฎ์เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางกลุ่มญาติละโมบ อยากแย่งบริษัทที่พ่อแม่เขาสร้าง หฤษฎ์เข้ามาบริหารบริษัทหลังเรียนจบและทำได้ดีเรื่อยมา ทำงานไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายชีวิต เขามีบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพ แต่กลับชอบไปอยู่บ้านหลังเล็กในหัวหิน บ้านแห่งความทรงจำที่พ่อมอบให้แม่เป็นของขวัญ หฤษฎ์ไม่เคยคบผู้หญิงคนไหน เบญญาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีโอกาสใกล้ชิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เว้นระยะห่าง ไม่ให้เบญญาล่วงล้ำข้ามเขตแดนเข้าไปใกล้ เขาปิดกั้นตัวเอง ด้วยความกลัวว่าจะดูแลปกป้องคนรักไม่ได้ ถ้าเขาสูญเสียคนรักไป เขาจะอ่อนแอลงและอาจจะรุนแรงถึงขั้นไม่อยากมีชีวิต ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เบญญาไม่เคยท้อกับการรอคอย ไม่ว่าปลายทางคนที่อยู่ข้างหฤษฎ์จะใช่ตนเองหรือไม่ แต่ถ้าหากเขามีความสุข กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปเบญญาก็จะยินดีกับเขา เบญญาจัดเตรียมของยังไม่เสร็จมีเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาในบ้านชลทิพย์ เบญญาหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองคนงานสองสาวที่พร้อมใจกันทิ้งงานวิ่งออกไปชะเง้อคอมองนอกหน้าต่างดูว่ารถใคร “แอบมองอยู่ตรงนั้นจะเห็นไหมจ๊ะ ไป! ออกไปดูข้างนอก!” แม่นมบัวร้องไล่หลังสองสาว หน้าต่างบานเล็กนิดเดียวเบียดกันอยู่ได้ สองสาวรับคำสั่งทันใดวิ่งออกไปไม่นานก็เหนื่อยวิ่งกลับมารายงาน “คุณหนู คุณนม คุณหิน… คุณหินมาถึงแล้วค่ะ!” “ตายแล้ว! ทำไมคุณหินมาถึงเร็วนักคะคุณหนู นมจัดของยังไม่เสร็จเลย แม่ฟ้า แม่ฝน เลิกยืนค้ำหัวฉันได้แล้ว นั่งลงเดี๋ยวนี้! เร่งมือเตรียมของ จะได้ช่วยกันยกออกไปใส่รถคุณหิน ประเดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์” แม่นมบัวพลอยตื่นเต้นตกใจตามไปด้วย วิ่งเต้นเป็นเจ้าเข้าให้แม่สองคนกลับมาทำงาน ในห้องครัวดูเหมือนจะมีแค่เบญญาที่มีสติมากที่สุด “ใจเย็นๆ ค่ะนม หินน่าจะเผื่อเวลามาทักทายคุณพ่อคุณแม่ เบญจะออกไปรับหน้า ทางนี้ฝากนมช่วยดูแลงานด้วยนะคะ” “ได้ค่ะคุณหนู อ้าว! แม่สองคนเร่งมือเข้า” หญิงชรายังไม่หายตื่นเต้นสั่งงานเสียงดังลั่นห้องครัว เบญญาไม่ได้อยู่มองนาน เคลื่อนตัวออกจากเก้าอี้ไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาด ยกถ้วยน้ำชาหนึ่งชุดออกไปด้วย เบญญาสวยดุจดั่งนางฟ้าในชุดกระโปรงยาวสีขาว หล่อนสวยงามทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน การเดิน คนในครัวมองตามเป็นทิวแถวไปจนถึงชายหนุ่มผู้มาใหม่ที่นั่งบนโต๊ะน้ำชา บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านร่วมกับบิดาและมารดาของเบญญา เบญญาเอียงอายไม่กล้าประสานสายตาเพื่อนชาย ก้มหลบ ขณะที่เขาปลีกตัวออกจากโต๊ะมาช่วยรับชุดน้ำชา นำไปวางตรงกลางโต๊ะ ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกย้ายไปนั่งบนเก้าอี้ตัวว่าง “น้ำชารสชาติโปรดของพ่อมาแล้ว พ่อกำลังบ่นว่าไม่มีเด็กในบ้านออกมาต้อนรับแขกพอดีเลย” คุณชรัสชวนลูกสาวคุยหลังจากยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับภรรยา ที่ได้เห็นภาพน่ารักกุ๊กกิ๊กของเด็กๆ “ฟ้ากับฝนจัดเตรียมของทำบุญอยู่กับนมในครัวค่ะ เบญก็เลยยกออกมาแทน คุณพ่อคุณแม่กำลังคุยอะไรกับหินเหรอคะ” เบญญาเอ่ยถามพลางรินน้ำชาลงถ้วยเล็ก เพิ่งจะหกโมงเช้าบิดามารดาอยู่ในชุดสบาย ออกมานั่งพักรับสายลมเย็นเป็นกิจวัตร “หินเพิ่งมาถึงจ้ะ กำลังถามไถ่สุขภาพของพ่อแม่ เบญก็เข้ามาพอดี” คุณเบญญาภา สตรีวัยกลางคนผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับลูกสาวโปรยรอยยิ้มไปให้ ‘ว่าที่ลูกเขย’ คุ้นเคยกับชายหนุ่มตั้งแต่เขายังเด็ก กลายเป็นความชินชาที่ได้เห็นใบหน้าไม่สื่ออารมณ์ ดังนั้นคุณเบญญาภาจึงไม่ใส่ใจมากแม้ว่าตอนนี้เขาจะวางตัวเรียบเฉย “เบญตอบแทนก็ได้นะคะ คุณแม่สบายดี สุขกาย สบายใจ มีความสุขอยู่กับร้านเพชรสาขาใหม่ที่หุ้นกับเพื่อน ส่วนคุณพ่อไม่ค่อยสบาย เครียดว่าสุดสัปดาห์หน้าจะไปออกรอบตีกอล์ฟที่ไหนดี” “ลูกคนนี้ร้ายนัก นินทาพ่อได้ลงคอ” คุณชรัสหัวเราะชอบใจ ส่งผลให้บรรยากาศบนโต๊ะน้ำชาครื้นเครง “ถ้าคุณอาอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปต่างจังหวัด สนามที่กอล์ฟหัวหินใกล้บ้านพักของผมก็สวยนะครับ ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด” หฤษฎ์เสนอความคิดเห็น ชายวัยกลางคนฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าพอใจ

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook