แกรบบบบ!!! ส้นเท้าสัมผัสกับสิ่งของบางอย่างที่ไปเหยียบเข้าด้วยความบังเอิญ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันใดด้วยรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างอยู่ใต้รองเท้าของเธอ
“ไปเหยียบโดนอะไรเข้าก็ไม่รู้” มี่อิงพูดพร้อมถอนเท้าออกอย่างรวดเร็วพลางเพ่งสายตามองพื้นเบื้องล่าง
หากแม้นหญิงสาวสังเกตจะพบว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ด้วยพื้นเบื้องล่างในยุคปัจจุบันเป็นพื้นซีเมนต์แต่ในยุคอดีตเบื้องล่างคือพื้นดิน มี่อิงเอื้อมมือลงเก็บสิ่งที่อยู่ใต้เท้านำขึ้นมาจากพื้นก่อนจะพบว่ามีลักษณะเป็นถุงผ้าบรรจุบางอย่างเอาไว้ภายในมีน้ำหนักมากพอสมควร
“มันคืออะไร” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยพลางชั่งน้ำหนักถุงผ้าดังกล่าวบนฝ่ามือ
“หนักเหมือนก้อนหินเลยวุ้ย” พูดพร้อมหันหลังกลับเดินเข้าไปในประตูเมืองมองหาแสงสว่างเพื่อคลี่ถุงผ้าในมือของเธอ โดยไม่ได้มองทิศทางตรงหน้าแต่อย่างใดว่าบัดนี้มีร่างสูงใหญ่ของบุรุษยืนขวางหน้าเธออยู่ในขณะนั้น
พลั่ก! ร่างของมี่อิงปะทะเข้ากับอกกว้างของผู้ชายตรงหน้า ซึ่งเธอมีความสูงเพียงระดับหน้าอกของเขาเท่านั้น
พรืดดด!!! จู่ๆ มี่อิงก็ถูกแรงมหาศาลกระชากท่อนแขนเรียวของหญิงสาวเอาไว้
“เจ้านี่เอง!ที่ขโมยถุงเงินของข้าไป!เจ้าหัวขโมย!!!” เสียงบุรุษดังกระหึ่มอยู่ตรงหน้าเธอ
ในขณะที่ร่างระหงของมี่อิงถูกแรงมหาศาลกระชากท่อนแขนเรียวเอาไว้ และถูกบีบจนแน่นมิยอมให้เธอดิ้นหลุดไปจากอุ้งมือดังกล่าวนั้นได้
“โอ๊ยไอ้บ้ามาจับฉันเอาไว้ทำไม! ถุงเงินอะไรของนาย!!!!” มี่อิงตวาดพร้อมเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่กำลังจับแขนเธอเอาไว้แน่น และไม่มีทีท่าว่ายอมปล่อยง่ายๆ เสียด้วยท่ามกลางความมืดมิด
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว! เสียงดอกไม้ไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบนก่อนจะแตกตัวออกจากกันทันที
ปัง!ปัง!ปัง! แสงสีสันมากมายกระจัดกระจายออกไปเป็นพื้นที่กว้าง พร้อมแสงสว่างวาบปรากฏขึ้นเผยให้เห็นรูปร่างสูงใหญ่และใบหน้าของบุรุษที่กำลังกล่าวหาสตรีตรงหน้าว่าเป็นหัวขโมยอยู่ในขณะนั้น
“เจ้า!!!” คำพูดที่กำลังจะพรั่งพรูออกจากปากเตรียมจัดการหัวขโมยตรงหน้าหยุดชะงักลงทันใด ครั้นเห็นโฉมหน้าของหัวขโมยสาวพร้อมเสียงของอีกฝ่ายดังแทรกขึ้น
ชิ! เสียงฮึมฮัมบังเกิดขึ้นอยู่ในลำคอของมี่อิงครั้นเห็นใบหน้าของผู้ชายที่กล่าวหาเธออยู่ในขณะนั้น ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงชะงักงันยืนนิ่งอยู่กับที่เช่นนั้น ดวงตาคู่สวยของมี่อิงเหลือบสายตาไปเห็นกลุ่มคนนั่งอยู่บนหลังม้าปรากฏขึ้นทางด้านหลังของผู้ชายตัวใหญ่กำลังควบอาชาห้อตะบึงตรงมาที่ประตูเมืองพร้อมเสียงร้องเรียก
“ท่านแม่ทัพ!!!”
ฮือ!!!! มี่อิงส่งเสียงออกมาในลำคอด้วยความแปลกใจครั้นได้ยินเสียงตะโกนร้องเรียกเช่นนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างอารมณ์เสียให้กับคนสวยต้องเดือดพล่านขึ้นมาทันทีนั้นก็คือ แขนเรียวดั่งลำเทียนของเธอถูกมือใหญ่ของผู้ชายตัวโตตรงหน้าบีบเค้นกระดูกแทบจะแหลกคามือเสียให้ได้เลยทีเดียว
“อะ..โอ้ย...โอ้ย!เจ็บนะ...ทำไมต้องทำกับฉันรุนแรงแบบนี้ด้วย จู่ๆ ก็มาฉุดกระชากและบีบแขนจนกระดูกจะแตกแล้ว ตำรวจคะ! ตำรวจอยู่ที่ไหนช่วยด้วย! ฉันโดนผู้ชายคนนี้ทำร้าย!!!”
มี่อิงตะโกนร้องเรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองซีอานเข้ามาช่วยเธอโดยหารู้ไม่ว่าบ้านเมืองที่เห็นอยู่ตรงหน้า คือเมืองหลวงฉางอาน ในยุคของถังไท่จงฮ่องเต้ซึ่งอยู่ในช่วงปีสุดท้ายก่อนจะเสด็จสวรรคตลงในเวลาหลังจากนี้
ท่ามกลางสายตาของชาวเมืองฉางอานที่กำลังเดินเที่ยวชมงานกันอย่างมีความสุขอยู่ในขณะนั้น ต่างหันกลับมามองหญิงสาวเป็นจุดเดียวกัน ในขณะที่มี่อิงกวักไม้กวักมือให้ผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาในเวลานั้นให้ช่วยเหลือเธอ
“พี่ชาย!พี่ชาย!ช่วยไปแจ้งตำรวจให้หนูหน่อย ลากคอไอ้หมอนี้ไปส่งสถานีตำรวจให้หนูที เขาจับแขนหนูไม่ปล่อยเลยพี่ดูสิคะ!” หญิงสาวพูดพลางชี้นิ้วไปที่มือใหญ่ที่แข็งราวกับคีมเหล็กของผู้ชายตัวโตที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“เจ้าร้องหาผู้ใดกัน! พูดจาฟังมิรู้ความร้องหาสมุนของเจ้าอยู่อย่างนั้นเหรอ!” เสียงก้องกังวานของอีกฝ่ายถามหญิงสาวกลับไป
“ร้องหาสมุนบ้าที่ไหนเล่า หาคนช่วยต่างหาก! ตำรวจ! ตำรวจ!” มี่อิงร้องเรียกหาผู้พิทักษ์สันติราษฎรในยุคอนาคต ทว่าดูท่าคำที่เธอใช้ คนที่นี่มิอาจรู้ความหมายว่าคืออะไร
“อะไรวะเนี่ย! พวกเขาฟังฉันไม่รู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ...ไม่ได้การแล้ว ขืนให้อีตาบ้านี่ยืนจับอยู่แบบนี้มีหวังสาวสวย รวยเสน่ห์และยังโสดบริสุทธิ์อยู่ของฉันจะต้องตกอยู่ในสภาวะล่อแหลมแน่ๆ” มี่อิงพูดพึมพำอยู่คนเดียวพร้อมพยายามสะบัดแขนให้หลุดออกจากมือหนาที่แข็งดั่งคีมเหล็กนั้นอยู่ตลอดเวลา
ทว่าทุกถ้อยคำของเธออีกฝ่ายกลับได้ยินอย่างชัดเจนแต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พร้อมเสียงหัวเราะดังอยู่ในลำคอ
“จะทำอะไรเจ้าหัวขโมย! คิดหรือว่าจะหนีการจับกุมของข้าพ้น! ไม่มีทางเสียหรอกเลิกคิดไปได้เลย” ถ้อยคำเชิงข่มขู่เอื้อนเอ่ยออกมาทันทีพร้อมยกมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ส่งสัญญาณให้กองทหารที่กำลังควบม้าตรงมาทางประตูเมืองให้หยุด
“หยุด!!!!” เสียงสั่งดังขึ้นอยู่ภายในกองทหารม้าที่พากันหยุดชะงักอยู่บนถนนสายสำคัญที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานชีซีในวันนี้ของเมืองฉางอาน ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมาจัดงานตรงกับวันเวลาในยุคปัจจุบัน
“ฉันไม่ได้เป็นหัวขโมย! นายอย่ามากล่าวหาฉันแบบนี้นะ สุภาพสตรีแสนสวยและการงานมั่นคงอย่างฉันไม่มีทางคิดสั้นไปขโมยของใครหรอก! ตรงกันข้ามฉันจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย! ทำให้ฉันตกใจจนถึงขีดสุดและได้รับบาดเจ็บอยู่ตอนนี้! โอ้ย...เจ็บ! เมื่อไรจะปล่อยสักที!!” มี่อิงพูดโวยวายไม่ยอมหยุด
“ไม่ปล่อย! จะจับเอาไว้อยู่แบบนี้แหละเจ้าหัวขโมย..ข้าจะส่งตัวเจ้าไปที่กรมอาญาให้ลงโทษคุมขังไปนอนเล่นอยู่ในคุกดัดนิสัยขี้ขโมยนี้ซะ!...ไป!!!” กล่าวพร้อมออกแรงกำท่อนแขนเรียวของอีกฝ่ายเอาไว้จนแน่นลากร่างระหงให้เดินออกมาจากทางเข้าของประตูเมืองฉางอาน หากแต่ครั้งนี้เบาแรงลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว
ครั้นมี่อิงได้ยินเช่นนั้นถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกขึ้นมาเลยทีเดียว ในขณะที่กำลังถูกลากพยายามขืนตัวเองไปตลอดทางที่กำลังก้าวเดิน ดวงตาคู่งามกวาดสายตาหากลุ่มคนที่เธออาจจะพอรู้จักเพื่อขอความช่วยเหลือไปทั่วบริเวณงานก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ แต่ยังมิทันที่จะเริ่มสังเกตอะไรต่อไป หูของเธอแทบดับเมื่อเสียงของผู้ชายที่กำลังใช้แรงลากเธออยู่ตะโกนก้องขึ้นมาโดยพลัน
“เอาม้ามา! ข้าจะกลับจวน!!!”
“โอ้ย! อยู่ก็ไม่ไกลแค่ไม่ถึง 50 เมตรด้วยมั้งอีตาบ้านี่ตะโกนออกมาทำไมหูดับแล้วฉัน” มี่อิงพูดพร้อมทำหน้าทำตาคล้ายกำลังหูจะตึงก็ว่าได้ ก่อนจะได้ยินเสียงสั่งการของผู้ชายตรงหน้าเธอขึ้นมาอีกครั้ง
“ไปแจ้งกรมอาญาด้วยว่าข้าจะนำส่งนักโทษจากแดนเหนือไปให้”
“ขอรับท่านแม่ทัพ!” เสียงของชายมากมายที่อยู่บนหลังม้าต่างส่งเสียงขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางความแปลกใจของมี่อิง
“นี่พวกเขาแสดงละครเวทีอยู่อย่างนั้นเหรอ ถึงได้พูดจาสมัยย้อนยุคแบบนั้นกันอยู่ได้” เธอยืนบ่นพึมพำพร้อมกับรู้สึกว่ามือทั้งสองข้างถูกรวบเข้าหากันและมีเชือกกำลังจะนำมามัดมือเรียวสวยของเธอ
“เฮ้ย!เฮ้ย!นี่นายจะมัดฉันทำไม!ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ” มี่อิงโวยวายเป็นการใหญ่
“ทำไมจะไม่ผิด! ในเมื่อเจ้าขโมยถุงเงินของข้าไป! หลักฐานก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ถุงผ้าในมือของเจ้าคือถุงเงินของข้า” หนุ่มร่างสูงใหญ่พูดพร้อมชี้มือไปที่ถุงผ้าที่อยู่ในมือของมี่อิง
ดวงตาสีชากลมโตเบิกกว้างด้วยความโกรธขึ้นมาทันที ครั้นได้ยินเช่นนั้น
“ก็บอกว่าไม่ได้ขโมย! ฉันเก็บได้ต่างหากเล่า!ไอ้บ้า!!!” หญิงสาวตวาดแว้ดเสียงสูงกลับไปด้วยความโกรธที่ถูกกล่าวหาเช่นนั้น
จ้าวมี่อิงโมโหจัดจนฟิวส์ขาดไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นในเวลานี้ เธออาศัยความว่องไวก้มลงใช้ฟันกัดเข้าที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายอย่างแรงพร้อมสะบัดไปมา
อะ...โอ้ยยยย เสียงเจ็บปวดดังออกมาพร้อมเผลอตัวคลายมือออกไปชั่วขณะและลดความระมัดระวังตัวเองไปทันใด
และนั่นทำให้มี่อิงมีโอกาสช่วยเหลือตัวเองออกมาทันที ช่วงขาเรียวยาวข้างขวายกขึ้นพร้อมกระแทกเข้าหว่างขาของอีกฝ่ายอย่างเต็มแรง
พลั่ก!!!! หัวเข่าของหญิงสาวสัมผัสกล่องดวงใจของผู้ชายตรงหน้าเข้าให้เต็มๆ จนร่างสูงใหญ่ถึงกับผงะทรุดฮวบแทบจะล้มลงกับพื้นทันที สองมือตรงเข้ากุมของรักของหวง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเหลือแสนแถมจุกเข้าไปถึงทรวงยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นภาษาคนได้ในขณะนั้น
“นี่คือสิ่งที่นายทำกับฉันไอ้บ้า!ถุงบ้าถุงบออะไรเอาคืนไป!!!” มี่อิงตวาดพร้อมซัดถุงเงินที่อยู่ในมือของเธอเหวี่ยงเขาไปที่ปลายคางของผู้ชายตัวโตกว่าเธอหลายเท่า
พลั่ก!!! ถุงเงินที่มีความหนักพอประมาณซัดถูกเข้าที่ปลายคางจนอีกฝ่ายหน้าหงาย เล่นเอามึนซ้ำมึนซ้อนไปเลยทีเดียว ดวงตาเลื่อนลอยขึ้นมาโดยพลันแต่ก็ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง
ดวงตาสีนิลกาฬมองตามหลังสตรีสาวแสนสวยร่างระหง วิ่งหนีไปจากตนมุ่งหน้าไปทางประตูเมืองพร้อมเสียงของเหล่าทหารต่างรีบลงจากหลังม้าวิ่งตรงดิ่งเข้ามาดูอาการอย่างรวดเร็ว
“ท่านแม่ทัพ!ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” ทหารองครักษ์พากันถามด้วยความเป็นห่วง
“ข้าไม่เป็นอะไร! รีบตามไป! อย่าให้หนีไปได้! ปิดประตูเมือง!!!” เสียงสั่งการดังกระหึ่มพร้อมพยายามยันกายให้กลับมายืนอย่างสง่าผ่าเผยให้จงได้
หากแต่แรงแตะอันหนักหน่วงของมี่อิงเข้าถึงแก่นดวงใจเลยทีเดียวเล่นเอาแม่ทัพชื่อกระฉ่อนแห่งต้าถัง หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะตะโกนก้องจนสุดเสียง เมื่อเห็นสตรีอาภรณ์ขาวสูงค่ากำลังวิ่งไปทางประตูเมืองเพื่อหลบหนีออกไปจากเมืองหลวงฉางอานแห่งนี้
“ปิดประตูเมือง!!!” เสียงตะโกนดังกระหึ่มกึกก้องพร้อมความวุ่นวายเริ่มบังเกิดตามติดขึ้นมาทันที
ในขณะที่ร่างระหงของมี่อิงสับฝีเท้าวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิตตรงไปทางประตูเมืองเพื่อหาคนที่จะสามารถช่วยเธอได้ คนสวยวิ่งหนีพร้อมร้องตะโกนโวยวายไปตลอดทาง
“หลีกไป!อย่าขวาง! คนกำลังจะรีบไปแจ้งตำรวจ! ตำรวจ! ตำรวจอยู่ไหน!!!” มี่อิงตะโกนร้องเรียกหาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทั่วเมืองฉางอาน พร้อมเสียงดังกระหึ่มตามติดมาทางด้านหลัง
“ปิดประเมืองเดี๋ยวนี้! จับสตรีชุดขาวผู้นั้นเอาไว้!!!” เสียงสั่งการอย่างดุดันของแม่ทัพหนุ่มแห่งต้าถังดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
แอดดดดด!!!! ประตูเมืองฉางอานเริ่มปิดตัวเข้าหากันทันทีที่ได้รับคำสั่ง ท่ามกลางสายตาของจ้าวมี่อิงครั้นเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น
“เสร็จกันประตูถูกปิดแบบนี้แล้วฉันจะออกไปขอความความช่วยเหลือจากใครได้ละทีนี้” หญิงสาวพูดพลางมองหาลู่ทางเอาตัวรอดของเธอ สายตาเห็นถนนหนทางแยกออกเป็นหลายสาย
“วิ่งไปมันทางนี้แหละ! ขอบอกว่าฉันเป็นนักกีฬาเหรียญทองวิ่งมาราธอนและวิ่ง1500 เมตรในระดับมหาวิทยาลัยนะยะ ถ้าเป็นเรื่องวิ่งคนอย่างจ้าวมี่อิงถนัดนักแหละขอบอก...เชอะ!” หญิงสาวพูดพร้อมสับฝีเท้าเบนทิศทางวิ่งหนีหลบเข้าไปในถนนฝั่งตรงกันข้ามก่อนจะวิ่งเข้าซอยเล็กซอยน้อยอย่างไร้ทิศทางท่ามกลางเสียงเอ็ดอึงของทหารหลวง
“ปิดประตูเมือง!!! กระจายกำลังแยกย้ายกันตามหาให้ทั่ว! จับเป็นให้ได้!!!” เสียงสั่งการดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพร้อมสัญญาณถูกส่งต่อออกไปจนเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว