ความร้อนแรงฝากฝังเข้ามาหาไม่หยุดหย่อน คลื่นอารมณ์ของเธอกับเขาพุ่งทะยานขึ้นสูงพอๆ กับจังหวะรักที่โหมเข้าหากันแทบนับจังหวะไม่ถูก เสียงพื้นบ้านไหวโยกไปตามแรงกระแทกกระทั้น ยอดอกของเธอเสียดสีกับยอดอกของเขาจนแข็งเป็นไต ความวาบหวามก่อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงลำนำสุดท้ายของเกมรัก
จากที่ว่าจะออกไปนอกบ้าน หนุ่มใหญ่ก็นอนกกกอดร่างน้อยเอาไว้แนบอกในบ้านแทน
“ลุงศักดิ์”
“หืม...”
“ไม่คิดจะออกไปข้างนอกบ้างหรือไง”
“คิด” คนตอบพูดอย่างเกียจคร้านยังกอดร่างเมียเด็กเอาไว้ในอ้อมแขน ซุกหน้ากับอกอวบเหมือนกำลังติดเต้า
แบบนี้หรือเปล่าเขาเรียกคนแก่ตายคาอกเมียเด็ก!!!
“มังคุดจะไปดูต้นไม้ที่สวน” เธออุบอิบบอกเขาเบาๆ
“ก็ไปสิ” เขาขยับตัวเล็กน้อย เธอรีบไปรวบเสื้อผ้ามาสวมใส่มือไม้สั่นเทา พันศักดิ์ทอดสายตามองเรือนร่างอวบอิ่มเปล่งปลั่งของวัยสาวด้วยแววตาเอื้อเอ็นดูโดยที่ไม่เธอไม่รู้ตัว
พันศักดิ์ตามมังคุดมาที่สวน ผลหมากรากไม้พวกนี้บิดาของเธอเป็นคนเพาะพันธุ์และเป็นคนลงมือปลูกด้วยตัวเอง เธอจึงมารดน้ำทุกวันเพราะมันคือความทรงจำดีๆ ที่บิดามารดาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย
นอกจากทุเรียนแล้วยังมีผลไม้อย่างอื่นอีกมาก เป็นผลไม้ที่ส่งขายในเมืองหรือบางครั้งพ่อค้าคนกลางก็มาตัดเองที่สวนซึ่งเขาก็ยอมรับว่าบิดาของมังคุดนั้นหัวการค้าพอสมควรดังนั้นเมื่อตายไปแล้วก็มีเงินเก็บเอาไว้ให้ลูกสาวมากกว่าเด็กสาวบ้านป่าทั่วไป
เขามองเด็กสาวที่เดินเก้ๆ กังๆ รดต้นทุเรียนแล้วเข้าไปช้อนอุ้มเธอขึ้นในทันที
“ว้าย! ลุงศักดิ์จะทำอะไร”
“คิดว่าจะทำอะไรล่ะ”
“นี่มันกลางวันแสกๆ นะ”
“ฉันจะรดน้ำต้นทุเรียนให้”
เธอเก้อ หน้าแดงร้อนผ่าวก่อนจะกัดปากเบาๆ รู้สึกหน้าแตกย่อยยับ เขาอุ้มเธอไปนั่งที่แคร่หน้ากระท่อมก่อนจะจัดการตักน้ำรดต้นทุเรียนให้เสียเอง ในสายตาของมังคุดนั้น พันศักดิ์เป็นคนขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ ทำงานเร็วก็จริงแต่ค่อนข้างละเอียด บิดายังเคยออกปากว่าถ้าใครได้เป็นเมียพันศักดิ์คงโชคดีไม่น้อย เธอหน้าแดงเมื่อคิดมาถึงตรงนี้
“ลุงศักดิ์”
“ว่าไง” เขาหันมาถามเมื่อเธอเอ่ยเรียก
“ลุงศักดิ์เป็นใครมาจากไหนเหรอ” นี่เป็นความสงสัยที่เธอไม่เคยเอ่ยถามเขามาก่อน ได้แต่คิดสงสัยอยู่ในใจเท่านั้น
“เป็นใครมาจากไหนสำคัญด้วยเหรอ” เขาตอบอย่างไม่ยี่หระเร่งรดน้ำต้นทุเรียนไม่หยุดมือ
ทุเรียนเป็นพืชที่ปลูกยากในความคิดของพันศักดิ์ ถ้าแล้งขาดน้ำก็ตายง่าย ฝนตกหนักก็รากเน่าอีก ดังนั้นต้องปลูกเอาไว้ตรงเนินดินที่น้ำไม่ขัง ฤดูร้อนก็ต้องหมั่นรดน้ำหรือทำกำบังร่มเงาให้ แม้จะปลูกยากคนก็นิยมปลูกกัน เพราะเมื่อขายแล้วราคาสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น ยิ่งถ้าได้ส่งออกด้วยแล้ว ราคายิ่งสูงตามไปด้วย
“สำคัญสิ ลุงศักดิ์ไปฆ่าใครแล้วหนีคดีมาอยู่บ้านป่าหรือเปล่า” ในความคิดของเด็กสาวพันศักดิ์ค่อนข้างลึกลับ เขาไม่ใช่คนที่นี่จู่ๆ ก็โผล่มาซื้อที่ทางทำมาหากินแล้วจะมาอาศัยอยู่นานหลายปีแบบนี้
ตอนนั้นเธอยังเด็ก เจอเขานอนบาดเจ็บอยู่ตรงชายป่าเลยไปตามคนมาช่วยเอาไว้ หลังจากนั้นมา พันศักดิ์จึงสนิทกับครอบครัวของเธอ เขากลายเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาไปโดยปริยาย แต่พื้นเพของเขานั้นไม่ใช่คนแถบนี้ บิดาของเธอเคยพูดให้ฟังบ่อยๆ และหลายคนก็อยากรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบอกใคร
“อาจจะใช่ก็ได้” พอเขาพูดแบบนั้นเธอก็ตาโตตกใจ
“ตกลงลุงศักดิ์หนีคดีมาจริงๆ เหรอ”
“เด็กขี้สงสัย เดี๋ยวหาอะไรยัดปาก” เธอรีบหุบปากฉับ คิดไม่ออกว่าเขาจะเอาอะไรยัดปาก แต่น้ำเสียงของเขาทำเอาเธอวาบหวามไม่น้อย
พอเขาเดินคล้อยหลังไปอีกด้านหนึ่งของสวนเพื่อจะรดน้ำต้นทุเรียนบนเนิน เธอก็แอบหนีทันที
มังคุดคิดว่าคืนนี้จะไม่อยู่ให้เขาย่ำยีแน่ๆ แม้เธอจะไม่ค่อยสนิทกับใครหรือไม่มีเพื่อนมากนักเพราะสาวรุ่นราวคราวเดียวไม่ค่อยชอบเธอ แต่เธอก็ยังมีน้าสาวที่นับถืออยู่อีกคนหนึ่งที่เอ็นดูเธอมากเหมือนลูกในไส้ มังคุดจึงรีบวิ่งไปยังบ้านของสาลี่ในทันที
“อ้าว... วิ่งหนีอะไรมารึมังคุด” สาลี่เอ่ยถามเด็กสาว
ชื่อของเด็กสาวถูกตั้งเพราะตอนมารดาของเธอท้องจะชอบกินมังคุดเป็นพิเศษ พอคลอดออกมาเป็นผู้หญิง บิดาของเธอจึงตั้งชื่อให้ลูกสาวว่ามังคุด
“เปล่าจ้ะ แต่คืนนี้ฉันไม่อยากนอนคนเดียวขอนอนด้วยคนนะน้าสาลี่” มังคุดพูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ ก่อนจะรับน้ำฝนเย็นๆ โรยดอกมะลิมาดื่มด้วยความกระหาย
“อ้าว... เอ็งจะมีผัวแล้วไม่ใช่รึ”
“มีผัวอะไร” คนถามหน้าตาตื่น
“เขารู้กันทั้งหมู่บ้านว่าเอ็งจะแต่งงานกับพี่ศักดิ์”
“ห๊า! รู้กันทั้งหมู่บ้านเลยเหรอ”
“ใช่น่ะสิ แล้วตอนนี้มันคืนเข้าหอไม่ใช่หรือไง” ธรรมเนียมหมู่บ้านเธอต้องเข้าหอก่อนแต่งงานเจ็ดวัน เด็กสาวคิดว่ามันเป็นธรรมเนียมพิลึกพิลั่นเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ปฏิบัติกันมานมนาน
“ฉันไม่อยากเข้าหอ” คนพูดหน้าแดงก้มงุดกัดปากตัวเอง
“แรกๆ ก็แบบนี้แหละเพราะไม่ชิน หลังๆ ก็ชินไปเอง” สาลี่ปลอบเด็กสาวตบบ่าเบาๆ สีหน้ายิ้มแย้ม
“ใครจะไปชินกันเล่าน้าสาลี่ต้องไปทำอะไรๆ กันแบบนั้น” คนพูดหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก
“อ้าว... เอ็งไม่ชอบรึ” สาลี่ถามอย่างสงสัย ใครๆ ก็หลงเสน่ห์พันศักดิ์กันทั้งนั้น สาวๆ ที่ได้ร่วมหลับนอนกับพันศักดิ์จะเพราะเขาถูกใจหรือไปยั่วถึงที่ต่างบอกว่าลีลาเขาเด็ดจนอยากได้เขาอีก แต่พันศักดิ์นั้นเย็นชากับผู้หญิง คนไหนเขาไม่พึงใจก็ไม่ซ้ำ คนไหนไม่อยากได้แม้สวยแค่ไหนก็ไม่เอา จะว่าได้เขายากก็ไม่เชิง ได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ แต่พันศักดิ์ไม่ไยดีผู้หญิง ไม่เคยคิดจะแต่งงาน แม้จะมีผู้หญิงไปทอดสะพาน ทำข้าวปลาอาหารไปบำเรอเขาก็ไม่เอา เพิ่งมีมังคุดนี่แหละที่เขาเอ่ยปากกับผู้ใหญ่บ้านว่าจะตบแต่งเอามาทำเมีย
“ไม่ชอบน่ะสิ”
“ทำไมล่ะ พี่ศักดิ์น่ะสาวๆ ทั้งชอบทั้งอยากได้ด้วยกันทั้งนั้น หรือเขาทำไม่เก่งรึ”
“น้าสาลี่น่ะ ถามอะไรแบบนั้น” คนพูดเม้มปาก ทำไมสาลี่ต้องมาถามเรื่องนี้ด้วยนะ
“น้าไม่เคยเห็นพี่ศักดิ์คิดจะมีลูกเมียตบแต่งกับใครนะ มีเอ็งคนเดียวและคนแรกเลย”
“พวกตาแก่เจ้าชู้” เธออุบอิบว่าเขา
“แต่งแล้วคงไม่เจ้าชู้หรอกมั้ง” สาลี่วิจารณ์ พันศักดิ์ดูไม่ค่อยชอบผู้หญิง แต่ก็ไม่ทุกคน อย่างกับเธอเขาก็เอ็นดูนับถือกันเป็นพี่น้อง
“ไม่อยากจะเชื่อ คนเคยเจ้าชู้จะเลิกได้ง่ายๆ ลุงศักดิ์น่ะไว้ใจไม่ได้” เธอรีบฟ้องเพราะนับถือสาลี่เป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ญาติกันจริงๆ เหมือนจำเนียร แต่สาลี่จริงใจมากกว่าผู้เป็นป้าเสียอีก
“ไว้ใจไม่ได้ยังไงเหรอ” สาลี่ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างนึกสงสัย
“ก็...” มังคุดเม้มปากเข้าหากัน เธอไม่กล้าเล่าเพราะกระดากปาก เขาสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแต่ก็ทำอยู่ดี
เชอะ! คืนนี้เธอจะไม่กลับบ้านเด็ดขาด
“มังคุดขอนอนด้วยคนนะ มังคุดหนีร้อนมาพึ่งเย็น น้าสาลี่จะขับไล่ไสส่งมังคุดเหรอ” คนขี้อ้อนรีบเข้าไปนอนหนุนตักประจบ สาลี่นั้นแต่งงานหลายปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกจึงเอ็นดูมังคุดเหมือนลูกหลาน
“จะนอนก็นอน ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย” สาลี่ลูบศีรษะเล็กๆ ของเด็กสาว มังคุดเกล้าผมเอาไว้เป็นมวยเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆ ทำให้ดวงหน้ากลมหวานของเธอแลดูผุดผ่องน่ารักน่ามอง
“แย่แล้วพี่มังคุด แย่แล้ว” เสียงไอ้จุกดังมาแต่ไกล ก่อนจะยืนหอบอยู่หน้าบันไดบ้าน