“เป็นอะไรไอ้จุก ถึงวิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนี้” สาลี่เป็นคนเอ่ยถาม
“ลุงศักดิ์น่ะสิ ตกต้นไม้นอนเจ็บอยู่ที่ชายป่าโน่น”
“ตายแล้ว!” สาลี่ยกมือขึ้นทาบอก มังคุดตกใจไม่ต่างกัน เธอรีบวิ่งลงบันไดออกไปจากบ้านสาลี่ในทันที
“ต้องรีบไปตามหมอยาไอ้จุก” สาลี่บอกเด็กชายวัยสิบขวบทำท่าจะวิ่งตามไปด้วย แต่ไอ้จุกรีบกั้นเอาไว้
“เดี๋ยวก่อนน้าสาลี่”
“เอ็งมาขวางข้าเอาไว้ทำไม ตกต้นไม้แบบนั้นแข้งขาไม่หักรึต้องไปตามหมอยา” สาลี่ดุเด็กชาย
“ไม่ต้องไปตามหรอก”
“อ้าว... ทำไมล่ะ อะไรของเอ็งนี่” คนพูดเท้าสะเอวทำหน้าสงสัยปนรำคาญ ก่อนที่ไอ้จุกจะกวักมือเรียกให้สาลี่ก้มหน้าเอียงหูลงไปเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง
“อ้อ...” สาลี่ร้องขึ้น ไอ้จุกวิ่งไปเอาของที่พันศักดิ์ฝากมาให้เป็นผลหมากรากไม้หลายอย่างไว้ทำกับข้าวกินเย็นนี้ ซึ่งไอ้จุกทิ้งเอาไว้ตรงทางเข้าบ้าน สาลี่ก็ยิ้มแฉ่งพยักหน้าว่ารู้กัน ยอมรับสินบนที่พันศักดิ์ส่งมาให้
“ลุงศักดิ์ ลุงศักดิ์อยู่ไหน” เสียงของเด็กสาวดังขึ้นที่ชายป่าอย่างร้อนใจ กลัวเขาจะเป็นอะไรไปทำให้เธอสีหน้าเป็นกังวลเหลือคณานับ
“โอ๊ย!” เสียงร้องของพันศักดิ์ดังขึ้น มังคุดรีบวิ่งเข้าไปหา เห็นเขานอนแอ้งแม้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ตาโตตกใจไม่น้อย
“ลุงศักดิ์เป็นอย่างไรบ้าง” เธอเข้าไปประคองไถ่ถามอย่างห่วงใย
“เป็นห่วงฉันด้วยเหรอ” คนเอ่ยถามซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์
“ถามอะไรแบบนั้น มังคุดก็ต้องเป็นห่วงลุงศักดิ์สิ”
“ก็เห็นหนีไป” เขาให้ไอ้จุกตามไปดูว่าเด็กสาวไปอยู่ที่ไหน แต่เดาว่าต้องไปบ้านสาลี่แน่ๆ แล้วก็จริงตามคาด เธอคงคิดจะหนีเขาไปนอนที่นั่นในคืนนี้
“เอ่อ... เปล่าหนีเสียหน่อย มังคุดแค่ไปหาน้าสาลี่เฉยๆ แค่ไปหาขนมกิน” คนพูดรีบประคองร่างสูงขึ้น เขาเซมากอดรัดเธอเอาไว้ทั้งตัว จนเด็กสาวต้องเอ่ยปากประท้วง
“ลุงศักดิ์ตัวหนักชะมัดเลย”
“ทิ้งฉันไว้ตรงนี้ดีกว่า ปีนขึ้นไปเอายาบนโน่นให้หน่อย” เขาชี้ไปยังบ้านบนต้นไม้ที่อาศัยนอนค้างอยู่บ่อยๆ เธอก็พอรู้ บ้านบนต้นไม้นั้นไม่กว้างนักแต่ก็ไม่ได้คับแคบสามารถเข้าอาศัยหลับนอนได้อย่างสบาย เธอยังเคยแอบปีนขึ้นไปสำรวจเลย มันน่าอยู่และสวยงามมากเชียวล่ะ
“ได้ๆ ลุงศักดิ์รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ” เรื่องปีนป่ายเธอก็ไม่แพ้ใคร แต่เธอสวมผ้าถุงเลยจัดการนุ่งเป็นโจงกระเบนเพื่อความทะมัดทะแมง แล้วรีบปีนขึ้นไป ทิ้งพันศักดิ์เอาไว้ใต้โคนต้น ตอนนี้เริ่มตกเย็นเข้าไปแล้ว คิดว่ามืดค่ำจะลำบากอย่างไรก็ต้องพาเขากลับบ้านหลังจากโปะยา เด็กสาวคิดไปต่างๆ นานา ว่าเขาอาจจะขาหักก็ได้ เมื่อกี้ก็ลืมถามว่าเขามีอาการเจ็บหรือปวดตรงไหนเป็นพิเศษไหม
พอเด็กสาวขึ้นไปเหยียบยืนบนพื้นบ้านบนต้นไม้เรียบร้อยแล้วเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออ้อมแขนแกร่งของใครบางคนกอดรัดมาทางด้านหลัง
“ลุงศักดิ์!” เธออุทานหลังจากหันมาแล้วเห็นเขาเข้า เขาตกต้นไม้เจ็บหนักนี่นา แล้วทำไมถึงปีนขึ้นมากอดรัดเธอได้แบบนี้
หรือว่า!!!
“ลุงศักดิ์ปล่อยเลยนะ” เธอเหวใส่ แต่เขาเอื้อมไปเปิดประตูดึงเธอเข้าไปในบ้านไม้หลังขนาดกะทัดรัดแต่อยู่ได้สบายถึงสองคน
“คนเจ้าเล่ห์ หลอกมังคุดเหรอ”
“หิว” เขาเดินเข้าหา ร่างกายสูงใหญ่ไม่ได้บ่งบอกว่าบาดเจ็บแม้แต่น้อย มังคุดกระทืบเท้าไปมาเหมือนเด็กโดนขัดใจ เสียรู้เขาอีกจนได้
“หิวก็ไปหาข้าวกินสิ”
“หิวมังคุด”
“ก็ไปปีนต้นมังคุดสิ” เธอโพล่งออกไปแล้วหน้าแดง สบตาเขาแล้วรู้เลยว่าเขาไม่ได้หิวลูกมังคุดเลยแม้แต่น้อย
พันศักดิ์เดินเข้าหา มังคุดถอยหลังไปชนเตียงเล็กๆ ที่อยู่มุมด้านหนึ่งของตัวบ้าน เธอร้องว้ายก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะทาบทับมาทั้งตัว
“คนเจ้าเล่ห์ อื้อ...” เธอร้องได้แค่นั้นก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะทาบทับลงมาหาบดจูบปากน้อยของเธออย่างเร่าร้อน แทรกกายเข้ามาตรงหว่างขาสวย
เธอถอยหนีเขาก็ตามติดจนเธอจนมุมไปชนกับผนังบ้านและหมดหนทางจะไปต่อ เขารวบสะโพกผายของเธอเอาไว้ด้วยอุ้งมือใหญ่
มือหนาล้วงเข้าไปเคล้นคลึงทรวงอกอวบอิ่ม เธอตะครุบมือของเขาแต่ดูเหมือนจะตามไม่ทัน ตะครุบตรงไหนเขาก็เลื่อนไปอีกจุด จู่โจมร่างกายของเธอจนอ่อนระทวย
“ต่อไปจะไม่เชื่อลุงศักดิ์อีกแล้ว” ได้ยินแบบนั้นเขาก็บดจูบปากน้อยช่างตัดพ้อของเธอ คนที่ส่ายหน้าหนีในคราแรกยอมจำนนในที่สุด
เขาเลิกคิ้วขึ้นมอง ขณะกักสาวน้อยเอาไว้ใต้ร่าง สีหน้าของเขาไม่ได้ทุกข์ร้อนเมื่อเธอบอกว่าไม่เชื่อ
“ลุงศักดิ์มีผู้หญิงเยอะแยะ จะมายุ่งกับมังคุดทำไม”
“ไม่ให้ยุ่งกับเมียแล้วจะให้ยุ่งกับใคร”
“ไม่ใช่”
“แล้วเด็กที่ไหนตกลงแต่งงานกับฉันเมื่อเย็นวาน” เขาพูดไปปลดเสื้อผ้าไป แม้ดูไม่รีบร้อนแต่ก็ไม่ได้เชื่องช้าเพราะเธอตามไปตะครุบ เสื้อผ้าก็หลุดร่วงออกจากตัวไปแล้ว
“มังคุดไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ แล้วลุงศักดิ์เอาผู้หญิงพวกนั้นไปไว้ที่ไหน”
“ไว้ที่เดิมในที่ของเขา” คำตอบนั้นทำให้เธอดิ้นแรงขึ้น อยากได้คำตอบแบบอื่นให้เธอชื่นใจว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก
“หึงเรอะ” เขาถามขึ้น เธอตาโต ก่อนจะกัดปากตัวเอง
“ไม่ได้หึง ไม่เคยคิดจะหึงด้วย”
“แต่งงานแล้วจะไม่ยุ่งกับใครเด็ดขาด รับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย” ได้ยินแบบนั้นเธอก็แอบยิ้ม แต่ใครจะไปเชื่อ
“ไม่เชื่อหรอก”
“ไม่เชื่อนี่ต้องพิสูจน์นะ จะได้เชื่อ” ดูเหมือนการพิสูจน์ของเขาจะยาวนานกินเวลาไปเกือบรุ่งสางเธอถึงได้หลับนอนอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
หนีไม่พ้น... มังคุดคิดถึงคำนี้เมื่อทอดสายตามองร่างสูงใหญ่แข็งแรงของพันศักดิ์ เขากำลังอาบน้ำและฟอกสบู่อยู่ใกล้ๆ กับเธอ ตรงลำธารด้านหลังของตัวบ้าน
บ้านของเธอดีอยู่อย่างมีลำธารอยู่ด้านหลังบ้านจึงไม่ต้องไปตักน้ำไกล
“ว้าย!”
ตู้ม!!!
“ลุงศักดิ์ทำอะไร” เธอร้องเสียงหลงเมื่อโดนรวบร่างแล้วทะยานลงไปใต้น้ำจนน้ำแตกกระจายไปหมด
“อาบน้ำไง” เขาตอบหน้าตายในขณะที่เธอดิ้นเร่าๆ
“ปล่อยเลยนะ”
“เป็นอะไรถึงนั่งใจลอยหรือ...” เขาเลิกคิ้วเป็นคำถามแต่ไม่ยอมถามออกมา
“หรืออะไรคะ”
“อยากโดน...” ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าหา เธอหวีดร้องเขาก็รวบร่างอวบมากอดรัดเอาไว้ ก่อนจะหอมแก้มนวลฟอดใหญ่
“อื้อ...” เธอใช้ฝ่ามือปิดแก้มสาว เขาก็บดปากกับ แก้มใสหนักๆ เหมือนแกล้ง
“ลุงศักดิ์ ไม่เอา” เธอหวีดร้องอีกครั้งเมื่อเขาจับขึ้นไปนั่งบนโขดหิน ในขณะที่ร่างของเขายังเหยียบยืนอยู่ในน้ำ ร่างสูงใหญ่แทรกกายเข้ามาตรงหว่างขา ท่วงท่าชวนสยิวนั้นทำให้เธอหน้าแดงลามไปถึงใบหู
“อื้อ...” กัดปากแล้วร้องครวญครางเสียงสั่นเมื่อเขาซุกใบหน้าเข้าหากายสาว โดยการถลกผ้าถุงขึ้นไปเหนือเอว เขาต้องไม่ทำอะไรหวาดเสียวแบบนี้สิ
เด็กสาวหัวหมุนเหมือนลูกข่างยามปากร้อนลามเลียกลีบผกากรองแสนหวาน เธอจิกมือเข้าในกลุ่มผมดกหนายาวประบ่าของเขา หนวดเคราของเขาถูไถกับความเป็นสาวทำเอาทั้งจั๊กจี้ทั้งเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน จนต้องเผลอหลุดเสียงหัวเราะปนแหบพร่าออกมา
พันศักดิ์สอดนิ้วเข้าไปหยั่งน้ำหวานภายใน เขาดูดเม้มติ่งสยิวของเธอเบาๆ กายสาวสั่นระริกยามที่เขาจับขาของเธอแยกออกจากกัน มือบางเท้าไปทางด้านหลังด้วยความรัญจวน ในขณะที่เขาปีนขึ้นมาจากน้ำเพื่อทาบทับร่างกายของเธอ สอดแทรกเนื้อกายเข้ามาตรงหว่างขาเนียนละเอียด
แสงแดดสาดส่องลอดผ่านกิ่งก้านสาขาของต้นไม้สูงใหญ่ริมลำธารกระทบกับผิวผุดผ่องเป็นยองไยของเธอ สาวน้อยเปียกชุ่มมีหยดน้ำเกาะพราวไปทั่วให้ความรู้สึกน่าปรารถนายามทอดสายตามองเรือนร่างหอมกรุ่น