เธอกัดปากร้องครางเมื่อปลายนิ้วสากและแข็งเขี่ยยอดอกของเธอจนแข็งเป็นไต ขนอ่อนในกายลุกชันยิ่งตอนเขากดปากร้อนกับซอกคอจากทางด้านหลังเธอยิ่งตัวสั่นสะท้าน
“นอนเฉยๆ เถอะไม่ทำอะไรแล้ว แต่ถ้ายังดิ้นก็ไม่แน่” คนบอกว่าไม่ทำอะไรนวดอกอวบไม่หยุดมือ บดเบียดความเป็นชายที่ตื่นตัวมากับสะโพกกลมกลึง เธอนอนตัวแข็งวาบหวามเกร็งไปทั้งตัวไม่กล้าขยับ กลัวเขาทำจริงๆ มือแข็งและใหญ่กอดรัดโอบอุ้มทรวงอกอวบอิ่มเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พอเธอขยับเขาก็รั้งมาขยำกอบกุมรัดรึง เธอเลยไม่กล้าขยับอีก นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็หลับตามเขาไปจนได้
มังคุดตื่นขึ้นมาเพราะได้กลิ่นอาหารเช้า เธอปรือตาขึ้นจากที่นอน ปรากฏว่าอยู่ในมุ้งคนเดียว กลิ่นกายของพันศักดิ์ยังกรุ่นติดจมูก อาการหน้าแดงเกิดขึ้นกับเด็กสาวอย่างปัจจุบันทันด่วน เธอรีบเก็บที่นอนเก็บมุ้งเดินออกมาดูด้านนอก
“ตื่นแล้วเหรอ มาล้างหน้าล้างตากินข้าวกัน”
“ลุงศักดิ์ทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ทำอะไร” เขาเลิกคิ้วทำหน้างง
“ก็... ก็ข่มเหงมังคุดทำไม”
“จะแต่งงานกันอีกเจ็ดวันก็ต้องเข้าห้องหอกันก่อน ทำตามประเพณีมันผิดตรงไหน” เขาตอบหน้าตาเฉยไม่ได้ยินดียินร้ายกับท่าทีของเด็กสาว เธอกระทืบเท้าเร่าๆ ก่อนจะนิ่วหน้าเพราะเจ็บแปลบที่ซอกกายสาว ท่าทีเหมือนเด็กเอาแต่ใจนั้นไม่ได้ทำให้พันศักดิ์โอ๋หรือหงอเลยแม้แต่น้อย
“บอกว่าไม่ให้นอนด้วยแล้วไง” เธอยังเหวใส่อยากเถียงให้ชนะ พันศักดิ์มีนิสัยอยู่อย่างชอบเถียงชอบแหย่หรือยั่วให้โกรธ แล้วเขาก็ทิ้งเธอให้อารมณ์ค้างเอาไว้แบบนั้น มีหลายครั้งที่เถียงกันเอาเป็นเอาตาย แต่เขาก็เถียงไปแบบนั้น เหมือนเข้าใจแล้วก็เลิกเถียงไปเสียเฉยๆ และแปลกที่เขาไม่ยักโกรธเรื่องที่เถียง
“จะแต่งงานกัน ไม่นอนด้วยกันแล้วแต่งไปทำไม”
“ลุงศักดิ์แค่จะกันไม่ให้ผู้ชายคนอื่นมารังแกมังคุดไง” เธอทวงสัญญาจากเขา
“ฉันไม่ใช่ไม้กันหมาให้ใคร” ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งโกรธ เดินไปล้างหน้าล้างตาแบบกระแทกกระทั้น แล้วจะหนีเขาไปที่อื่น ไม่อยากเห็นหน้าคนไม่รักษาสัญญา
“ว้าย! ปล่อยนะ” พอเธอทำท่าจะก้าวลงบันไดบ้านหลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จเขาก็ตามมาอุ้มเอาไว้
“ไปกินข้าวก่อน คิดจะไปไหน” เขาทำเสียงดุ
“ไปให้ไกลจากลุงศักดิ์”
“เหอะ!” เขาทำเสียงในลำคอก่อนจะอุ้มเธอไปที่สำรับอาหารที่เขาทำเอาไว้
“ปล่อยนะ” เธอดิ้นอยู่บนตักเขาเพราะโดนกดให้นั่งบนตัก ใบหน้างอง่ำเพราะโดนกอดรัดแนบอก
“จะกินดีๆ หรือจะโดนทำโทษก่อนกิน”
“จะจับมังคุดตีก้นเหมือนเด็กๆ เหรอไม่มีทางเสียหรอก” เธอทำท่าจะกัดเขา พันศักดิ์จัดการกดร่างอวบให้นอนคว่ำพาดอยู่บนตัก ก่อนจะฟาดฝ่ามือบนแก้มก้นของเธอจริงๆ สามที
“โอ๊ย! อีตาลุงซาดิสม์หยุดเดี๋ยวนี้นะ กินก็ได้ กินแล้วๆ” พอได้ยินประโยคนั้นเขาก็หยุดตี จับเธอขึ้นมานั่งตักอีก
“กินสิ” เขาพูดแต่เธอดิ้น
“ก็ปล่อยมังคุดสิ”
“นั่งกินบนตักนี่แหละ ปล่อยไปได้ไง”
“ทำไมจะปล่อยไม่ได้” คนถามหน้าแดงลามไปถึงใบหูเมื่อรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่จิ้มอยู่ตรงก้นของเธอ เด็กสาวหน้าร้อนผ่าวเม้มปากก้มหน้างุดในทันที
“ไม่เอาแล้ว” เธอรีบหลับตาปี๋บอกเขาปากคอสั่น
“ไม่เอาอะไรหืม...” เขากระซิบถามลมหายใจร้อนผ่าวทำเอาเธอใจสั่นรัว
“มังคุดจะกินข้าวแล้ว” เธอรีบบอกขยับตัวไปนั่งให้เรียบร้อยอยู่บนตักเขา ก่อนจะรีบตักข้าวเข้าปาก
พันศักดิ์รวบมือเด็กสาวเอาไว้ก่อนจะดึงมากินด้วยกลายเป็นเธอต้องป้อนเขาไปโดยปริยาย เขากินข้าวแต่สายตาทำเหมือนกำลังกลืนกินเธออยู่ ทำเอาคนถูกมองหน้าร้อนแดงเห่อหนักกว่าเก่า
เธอตักอะไรกินเขาก็จับมือเธอไปตักมากินด้วย
“ลุงศักดิ์เป็นง่อยเหรอ”
“เปล่า”
“ทำไมไม่ตักกินเอง”
“อยากให้เมียป้อน”
“ใครเป็นเมีย มังคุดไม่ใช่นะ!” มังคุดไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังเถียงกับเขาคอเป็นเอ็นอยู่บนตักของเขา ซึ่งอย่างไรเธอก็หนีไม่พ้นอยู่ดี มือหนาที่รวบเอวคอดเอาไว้ไล้เบาๆ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาเคล้นคลึงทรวงอกอวบอิ่ม
“ที่ไม่อยากให้ออกไปจากบ้านตอนนี้เพราะแต่งตัวไม่เรียบร้อย จะเดินโทงๆ นมโตไปให้ผู้ชายทั้งหมู่บ้านมองหรือไง” เขาพูดแบบนั้นเธอก็ตาโต ลืมคิดถึงข้อนี้ไป เขาขยำนมอวบหนักเบาอย่างมีชั้นเชิงเธอเริ่มขนลุก ยิ่งนิ้วสากแข็งๆ บี้เบาๆ ที่ยอดอกเธอยิ่งต้องกัดปากด้วยความสยิว
กินข้าวยังไม่อิ่มดีแต่ดูเหมือนว่าเขากำลังจะกินเธอเสียแล้ว
“ข้าวติดปาก ฉันเช็ดให้ดีกว่า” เขามองเม็ดข้าวที่ติดปากเธอก่อนแนบปากลงไปหา งับเบาๆ แล้วบดจูบ กดเธอลงไปกับพื้นเรือน ร่างกายสูงใหญ่ที่ทาบทับบดเบียดทำให้สาวน้อยสั่นสะท้านหวามไหว
เสียงหอบหายใจของเขารุนแรงยามซุกแทรกเรือนกายเข้าหา เธอนิ่วหน้าเจ็บเสียวจิกมือกับแขนล่ำของเขาเอาไว้แน่น ส่ายหน้าไปมาจนหัวยุ่งเมื่อเขาเคลื่อนกายไหวโยกฝังความแข็งชันเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงเรือนกายที่ประสานเข้าหากันเนิบช้าไม่เร่งร้อนแต่ก่อให้เกิดเสียงฉ่ำแฉะของน้ำหวานที่เอ่อท้นออกมาชโลมไล้แท่งร้อนระอุของหนุ่มใหญ่ เธอกัดปากด้วยความเสียวซ่าน หอบหายใจกระเส่ายามเขาช้อนสะโพกกลมกลึงด้วยอุ้งมือใหญ่ให้คอยรับการแทรกลึกที่ทำเอาเสียวซ่านไปจนถึงภายใน
เสียงครวญครางอืออาของเด็กสาวทำให้พันศักดิ์เร่งเร้าสะโพกสอบเคลื่อนขยับเข้าหาอย่างรุกเร้ารุนแรงขึ้น ร่างสาวน้อยสั่นไหวยามถูกร่างร้อนแนบเข้าหาไม่ห่างหาย เนื้อกายที่เสียดสีก่อเกิดความเสียวซ่านจับจิตจับใจยามเมื่อผนังอ่อนนุ่มถูกเสียดแทงจากท่อนกายแข็งกระด้าง
เธอร้องครางแทบฟังไม่ได้ศัพท์ ความสุขซ่านเสียวอาบไล้กายหนุ่มสาวให้ต้องผวากอดกันกลมยามเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย สาวน้อยหอบกระเส่าเมื่อศีรษะของหนุ่มใหญ่ซุกมาที่ซอกคอหอมกรุ่น กายของเขาบดเบียดเข้าหาจนสุดตามติดมาด้วยความร้อนผ่าวที่สาดซัดเข้ามาในร่างของเธอจนหมดสิ้น
พันศักดิ์คำรามใบหน้าเกร็งสะท้าน กระตุกวูบด้วยความซ่านกระสันอุ้งมือใหญ่กระชับสะโพกกลมกลึงของเธอเอาไว้ให้แนบชิด ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะขยับออกห่างเล็กน้อย หายใจราดรดกันแค่องคุลี ทั้งสองมองสบตาประสานกัน ดวงตาของเธอปรือปรอยเย้ายวนในความรู้สึกของหนุ่มใหญ่
รอบนี้เขาไม่ถอดถอนเรือนกายออกไปง่ายๆ แต่เขาจับเธอนั่งตักหันหน้าเข้าหากันแทน เธอส่ายหน้าไปมาปฏิเสธปากคอสั่นว่าไม่เอาแล้ว
“ไม่เอาแล้วจริงๆ เหรอ” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงชอบกลนักในความรู้สึก อุ้งมือใหญ่ขยำสะโพกผายของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย กดรั้งให้เธอบดเบียดซอกทางรักอยู่กับแท่งร้อนของเขา
เธอก้มงุดเมื่อเขากระซิบถามเสียงแหบพร่า มือน้อยจับบ่ากว้างของเขาเอาไว้แน่นด้วยความรัญจวนใจ กัดปากเพื่อสะกดกลั้นความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นจากจุดเชื่อมประสาน
“อีกรอบเถอะ จะได้สบายตัว” เขากระซิบบอกเธอเสียงแหบพร่า
ใครสบายตัวกันเล่า เขานั่นแหละไม่ใช่เธอ มังคุดได้แค่คิด เธอช้อนสายตาเงยหน้ามองก็เห็นดวงตาร้อนแรงของเขา ก่อนที่เขาจะจับรวบสะโพกของเธอขยับขึ้นลง เด็กสาวผวาจับบ่ากว้างเอาไว้แน่นส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งเธอส่ายหน้าเขายิ่งจับเธอกดเข้าหากันมากขึ้น กายสาวโอบอุ้มความร้อนระอุอยู่ตรงหว่างขาครั้งแล้วครั้งเล่าเธอหอบหายใจรุนแรงประสานกับเขาระงมยามเคลื่อนกายเข้าหากัน