“แกหายไปไหนมานังตัวดี” มือเหี่ยวย่นกระชากผมเปียที่ถูกถักไว้จนมันหลุดลุ่ยติดมือมาอย่างง่ายดายทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก
“ป้า หนูเจ็บนะ”
“เพราะแก เพราะแกคนเดียวลูกสาวฉันถึงถูกจับไปแทนที่จะเป็นแก” พิมพิลาโกรธจัด มือที่กำแน่นเงื้อขึ้นจนสุดแล้วฟาดลงบนใบหน้าหวานอย่างแรงจนร่างของปรานปราลินล้มลงบนพื้น เลือดไหลซิบออกมาตรงมุมปาก
“ทำไมป้าต้องโทษหนูด้วย ไม่ใช่เพราะป้ายุยงให้พ่อหนูไปกู้เงินมาตั้งแต่หรอกเหรอ พวกมันถึงตามมาเอาคืนแบบนี้”
“ก็เพราะว่าพ่อแกโง่ไงล่ะ แกเองก็น่าจะตายตามพ่อแกไปซะ ฉันไม่น่าเอาแกมาตั้งแต่ทีแรกเลย ยัยปรสิต!” คราวนี้ทั้งมือทั้งเท้าต่างทุบและเตะมาที่ร่างเล็กเต็มแรงจนมีรอยฟกช้ำไปทั้งตัว ปรานปราลินฮึดใจสู้ด้วยการยืนขึ้นแล้วผลักร่างของพิมพิลาให้ล้มลงไปบนพื้น มือน้อย ๆ สั่นระริกเงื้อขึ้นเพื่อจะฟาดลงไปบนหน้าของแม่เลี้ยงใจร้ายเข้าอย่างจัง
“คิดว่าหนูอยากตามมานักรึไง หนูเองก็ไม่อยากอยู่กับคนใจร้ายอย่างป้านักหรอก”
“นั่นแกจะไปไหน” พิมพิลาเบิกตาโพลง ความเจ็บปวดตรงใบหน้าหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเห็นลูกเลี้ยงหันไปเก็บสัมภาระของตัวเองหยิบใส่กระเป๋า “แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ฉันจะพาแกไปส่งให้เสี่ยอำนาจ”
“หนูไม่ไป ปล่อยหนู”
“มานี่เลย นังตัวดี” พิมพิลาพยายามชุดกระชากลากถูกให้ร่างเล็กเดินตามไปที่ห้องครัว เพื่อจะหาโซ่หรือเชือกมามัดตัวหญิงสาวเอาไว้
“ปล่อยหนูนะป้า หนูบอกให้ปล่อย”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้พิมพิลาต้องหยุดการกระทำลงแต่เพียงเท่านั้น ปรานปราลินไม่รอช้าอาศัยจังหวะที่แม่เลี้ยงมัวแต่ตกใจกับเสียงประตูรีบเก็บข้าวของที่เหลือแล้วหอบหิ้วออกไปทันที
“คุณ...” หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเมื่อเปิดประตูห้องออกไปแล้วพบกับชายหนุ่มที่เพิ่งจะไล่เธอออกมาจากห้องเมื่อครู่
“ฉันเพิ่งเลิกงาน เลยว่าจะนอนพัก ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยเบาเสียงหน่อยก็ดีนะครับ” เขากระตุกยิ้มครู่หนึ่งแล้วจึงหันหลังกลับห้องตัวเองไป ปรานปราลินไม่มีทางเลือกจึงใช้จังหวะนั้นหอบหิ้วสัมภาระตามเขาไปด้วยทันที
ร่างสูงโปร่งขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมเมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินตามเขามาด้วยสภาพที่แสนจะบอบช้ำ เนื้อตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล
“นี่เธอจะไปไหน”
“ขออยู่ด้วยคนได้ไหมคะ” คำขอโต้ง ๆ ของอีกคนทำให้ชายหนุ่มถึงกลับไปไม่เป็น
“เธอจะบ้ารึไง ห้องฉันไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็ก... ไปซะ ! ”
“จะให้หนูไปไหนล่ะคะ ถ้าหนูกลับห้องไปป้าพิมก็ต้องส่งตัวหนูไปให้เสี่ยบ้านั่นอีกแน่ ๆ ” ปรานปราลินก้มหน้าตอบนึกเจ็บใจตัวเองที่เผลอด่าเขาไปก่อนหน้านี้ ไม่นึกเลยว่าเขาจะกลายเป็นที่พึ่งเดียวที่เหลืออยู่
“นั่นมันก็เรื่องของเธอ เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบผู้หญิง แล้วยิ่งต้องมาใช้ชีวิตร่วมห้องด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้”
“แกจะหนีไปไหนนังตัวดี!” เสียงพิมพิลาดังขึ้นตามหลังมา ในเมื่ออยู่อ้อนวอนเขาต่อไปก็ไม่เป็นผล ปรานปราลินจึงตัดสินใจวิ่งไปกดลิฟต์ออกไปจากที่นี่เพื่อจะไปตายเอาดาบหน้า ด้วยข้าวของที่มีแค่หนังสือและเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชุด
ชายหนุ่มมองตามเสียงแหลมเล็กของหญิงวัยกลางคนที่กำลังวิ่งตามหลังหญิงสาวออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่นึกเลยว่าการหนีชีวิตที่แสนวุ่นวายมาอยู่ในที่เงียบสงบจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้อีก
เขาไล่ความคิดเรื่องปรานปราลินออกจากหัวก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องเพื่อจะพักผ่อนเอาแรง พลันสายตาคมกริบก็หันไปปะทะเข้ากับรูปถ่ายตอนเด็กที่เขาเอาติดตัวมาจากบ้านหลังใหญ่ ภายในรูปเป็นภาพถ่ายของเขากับศิวาที่เคยเล่นด้วยกันในตอนเด็ก เขายังจำและคิดถึงพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้มาโดยตลอดถึงแม้ว่าอีกคนจะแต่งงานมีครอบครัวที่แสนอบอุ่นไปแล้วก็ตาม