หนึ่งเดือนผ่านไป
เวลาเลิกเรียน
ร่างระหงของว่านฉีฉีเดินออกจากห้องเรียนพลางถือกระเป๋านักเรียนเหวี่ยงไปทางด้านหลัง หญิงสาวยังคงเดินกินลูกอมไปตลอดทางโนสนโนแคร์มนุษย์เพื่อน และมนุษย์ครูรอบข้างที่หันมามองเธอเป็นตาเดียวกัน วันนี้เธอถูกอาจารย์ประจำชั้นลงโทษให้อยู่ทำเวรคนเดียวเพราะเถียงอาจารย์ประจำชั้นในวิชาประวัติศาสตร์ ว่าข้อมูลที่นำมาสอนในชั้นเรียนนั้นไม่ถูกต้องทำให้คนรุ่นหลังเข้าใจผิดและบอกว่า “ครูสอนมั่ว”
คำว่า “ครูสอนมั่ว” ที่ยืนกรานพูดออกไปก็เลยเจอดีถูกทำเวรคนเดียวยาวไป จึงทำให้หญิงสาวกว่าจะได้ออกจากห้องเรียนก็เกือบห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินลงบันได
พรืดดด!!!! มือของใครบางคนตรงเข้าจับคอเสื้อของเธอทางด้านหลังพร้อมตรงเข้ากระชากร่างและพยายามปิดปากลากร่างของเธอก้าวขึ้นบันไดชั้นบนซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารเรียนหลังนั้น
ตุบ!!! กระเป๋าหนังสือหล่นตกพื้นและถูกกลุ่มคนใช้เท้าเหยียบเดินขึ้นบันไดไปอย่างไม่สนใจ
ผลั่ก!!! ร่างของเธอถูกเหวี่ยงออกไปอย่างแรงจนกระแทกกับขอบกำแพงของอาคารตัวตึก ซึ่งความสูงของกำแพงปูนนั้นไม่ได้ช่วยป้องกันความปลอดภัยได้เลยตรงกันข้ามตกตึกตายก่อนละสิไม่ว่า
เหวออออ!!! ว่านฉีฉีอุทานออกมาพร้อมยั้งตัวเองเอาไว้ได้ทัน เพราะแรงเหวี่ยงทำให้ร่างของเธอถลำออกนอกกำแพงไปค่อนครึ่งลำตัวเกือบตกตึกมะร่อมมะร่อ
“ให้ตายเถอะนี่เล่นแรงกันขนาดนี้เลยเหรอ!!!”หญิงสาวฉุนจัดเพราะถูกกระทำเช่นนั้น
ควับ!!! ว่านฉีฉีหันหน้ากลับไปมองเพื่อเอาเรื่องคนที่พยามยามทำร้ายเธอและพบว่า ผู้ชายตัวใหญ่ ตัวผอม ตัวสูงและตัวเตี้ยมีปะปนกันไปนับรวมแล้วห้าคนยืนจังก้ามองเด็กสาวอยู่ในเวลานั้น
“พวกแกเป็นใคร! มาทำฉันแบบนี้ต้องการอะไรไม่ทราบ!”หญิงสาวตวาดถามกลับไปอย่างไม่กลัว
รอยยิ้มเหยียดเกิดขึ้นบนใบหน้าของกลุ่มผู้ชายหน้าตาน่ากลัวทั้งห้าคน เมื่อได้ยินเด็กสาวถามกลับมา
“จะอยากรู้ไปทำไม! มีแค่พวกเรารู้ก็พอแล้วว่าเธอเป็นใครก็พอ”เสียงของหนึ่งในกลุ่มคนทั้งห้าพูดขึ้น
“เฮ้ย!..พูดแบบนี้ก็ไม่ถูก พูดมาได้อย่างไงประโยคเสร่อๆ แบบนี้ไม่เข้าท่าเลย นักเลงตัวจริงเขาไม่พากันทำอะไรแบบนี้หรอก โดยเฉพาะทำกับผู้หญิง นี่ลุงๆ ทั้งหลาย ถามจริงเหอะแก่จะตายอยู่แล้วยังมีแรงวิ่งหนีตำรวจอีกเหรอ แล้วนี่ต้องการอะไรถึงจับมาอยู่บนนี้เดี๋ยวก็ออกจากตึกไม่ได้กันหมดทุกคนหรอก”ว่านฉีฉีพูดเตือน
คำว่า “ลุง” ได้ยินแล้วก็โคตรเจ็บ แต่ละคนรับไม่ได้เพราะว่ากลัวแก่กันทั้งนั้น
“แหม..ดูมันด่าซะเสียเลย เรียกลุงได้อย่างไงเพิ่งจะสามสิบต้นๆ กันทั้งนั้น ไอ้เด็กปากเสีย!”กลุ่มคนกลัวแก่เถียงเด็กกลับคอเป็นเอ็น
“เอ้า! แล้วฉันพูดผิดตรงไหน อายุตั้งปูนนี้แล้วถ้าเทียบกับเด็กอายุ 18 อย่างฉัน ก็ลุงดีๆ นี่เองแหละ..แล้วนี่ถามจริงเหอะไม่แนะนำตัวทำความรู้จักกันหน่อยเลยเหรอ มีอะไรพอช่วยเหลือกันได้ก็จะได้พึ่งพากันอย่างไงเล่า”หญิงสาวยื่นข้อเสนอ
“ไม่จำเป็น!!!”เสียงผู้หญิงดังขึ้นอยู่ทางด้านหลังของกลุ่มผู้ชายทั้งห้า ก่อนจะก้าวเดินออกมาหยุดยืนอยู่แถวหน้าสุด
“นี่เธอ!...”หญิงสาวพูดพลางมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ทำไมเหมือนรู้สึกเคยเห็น แต่จำไม่ได้เลยแฮะ”ว่านฉีฉีบ่นในใจ
“จำฉันไม่ได้เหรอ”ผู้หญิงตรงหน้าถามเสียงห้วน
“ไม่ได้! จะไปตรัสรู้ได้อย่างไงว่าใครเป็นใครเพิ่งจะมาเรียนที่นี่ได้เดือนเดียว อะไรจะอัจฉริยะพกพาชิพความจำไว้ในสมองด้วยแหละยะคุณเธอ”ว่านฉีฉีตอบกวนประสาท
ผู้หญิงตรงหน้าถลึงตาขึ้นด้วยความโกรธ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหา
“ฉันก็คือคนที่เธอเอากระดาษของไอ้ผู้ชายเฮงซวยมายัดใส่ในมืออย่างไงละ”เสียงตอบห้วนบอกถึงความโกรธ
ว่านฉีฉีถึงกับบางอ้อ จดจำขึ้นมาได้ทันทีพลางส่งเสียงหัวเราะร่วนเป็นการใหญ่
“เอ้าเหรอ! นี่เธอเองหรือเนี่ย...โทษทีนะวันนั้นเห็นผ่านๆ ก็เลยจำไม่ได้ว่าเป็นคนที่ฉันให้กระดาษโน้ตสื่อความรัก แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมต้องขนนักเลงแก่ๆ พวกนี้มาที่โรงเรียนและพาฉันมาที่นี่ทำไม”ว่านฉีฉีถามอย่างสงสัยพลางยกนิ้วชี้ไปทางกลุ่มนักเลงทั้งห้าคนอย่างไม่ใส่ใจ
“ถามว่าพามาทำไมอย่างนั้นเหรอ...ก็พามาเพื่อให้แกได้รับเหมือนกับที่ฉันเคยได้รับจากไอ้ผู้ชายเฮงซวยทำกับฉันบนดาดฟ้านี้อย่างไงละ ถ้าไม่ใช่เพราะแกเอาข้อความบ้าๆ นั้นมายัดเยียดให้ ฉันก็จะไม่ถูกหลอกให้พวกมันกับเพื่อนมารุมกระทำย่ำยีและถ่ายคลิปแบลกเมล ขู่เรียกเอาเงินกับฉันมาให้พวกมัน นางเหนียงเหนียงจะเอาคลิปลงประจานในเวบโป๊ถ้าฉันไม่ให้เงินพวกมันตามที่ร้องขอ”
ว่านฉีฉีพยักหน้าขึ้นลง เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงตรงหน้า
“ออ...ฉันเข้าใจแล้ว..และเข้าใจความรู้สึกของเธอด้วย...แต่ว่า...คนที่เธอต้องจัดการก็คือคนพวกนั้นไม่ใช่เหรอ แล้วมาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยละ หรือเธอคิดว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการเลวๆ ของพวกมัน!”หญิงสาวถามกลับไป
“ใช่! แกสุมหัวร่วมมือกับพวกมันเพื่อทำลายฉัน เพราะแกรู้ว่าฉันเป็นใคร! ยังจะมีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก!!!!”เด็กสาวตรงหน้าตวาดใส่หน้าจนสุดเสียง
ว่านฉีฉีหลับตาลงทันทีเพราะเจ้าหล่อนเล่นตวาดจนน้ำลายพ่นถูกใส่หน้าเธอ สองมือยกขึ้นกอดอกพลางลืมตาขึ้น
“นี่จะบอกอะไรให้หายโง่นะแม่คุณ...สมองนะ..หัดกินปลาเสียบ้างจะได้คิดอะไรอย่างคนมีเหตุมีผล วันนั้นฉันเพิ่งมาเรียนที่โรงเรียนนี้เป็นวันแรกนะเว้ย ไม่มีเพื่อน ไม่รู้จักใครที่ไหนเลยสักคน แต่ยอมรับว่าผิดที่เอากระดาษโน้ตบ้านั่นมาให้เธอ แต่สาบานได้เลยนะว่าฉันไม่รู้จักและสนิทสนิมกับคนพวกนั้นมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นเธอต้องแยกแยะให้ออกด้วยนะ”
คำอธิบายของว่านฉีฉีมีเหตุผลที่น่ารับฟัง แต่ขึ้นชื่อว่าจะไม่ฟังเสียอย่างใครจะทำไม
“เชื่อแกก็โง่แล้วนางว่านฉีฉี แกรู้ว่าฉันคือหวงเจียวจิน พ่อขอฉันคือหวงจ้านเซี่ย พ่อของแกกับพ่อของฉันใครๆ ก็รู้ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ว่าเป็นอย่างไง ฉันก็เหมือนกับแกที่ถูกส่งมาเรียนต่างเมืองเพื่อความปลอดภัย แต่เพราะการกระทำของแกทำให้ฉันกำลังถูกเปิดเผยตัวตนว่าอยู่ที่ไหน และถ้าหากพ่อของฉันรู้จะต้องเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น กฎของเจ้าพ่อมาเฟียแกรู้ดีไม่ใช่เหรอนางฉีฉี ว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน แกทำอะไรกับฉันก็จะต้องได้รับผลตอบแทนไม่ต่างกัน”หวงเจียวจินพูดลอดไรฟัน
“เฮ้ย! จะบ้าเหรอ..ตรรกะวิบัติบ้าบออะไรของเธอเนี่ย...ฉันไม่เคยรู้ความเป็นมาของเธอเลยนะว่าเป็นใครมาจากไหน อีกอย่างฉันย้ายโรงเรียนมาจนนับไม่ถ้วนแล้ว ไม่เสียเวลาคบหาเพื่อนสนิทหรอกนะ และไอ้ความคิดห่วยๆ ที่เธอกล่าวหาฉัน ขอบอกเลยนะว่าคนอย่างว่านฉีฉี ไม่ทำหรอกเว้ย ถ้าอยากจะมีเรื่องซัดกันตรงๆ เลย จะเล่นละครทำเพื่อ!!!”หญิงสาวพูดตอกหน้ากลับไป
“ยังไม่ยอมรับอีกเหรอนางหน้าด้าน!!!”หวงเจียวจินตวาดใส่หน้า
“เออสิวะ! ไม่ยอมรับเว้ย..มีอย่างที่ไหนคิดเอง เออเอง สรุปเอาเอง..บ้าหรือเปล่าเนี่ย แล้วจะบอกอะไรให้นะ ฉันก็ไม่ได้มาอยู่เมืองนี้ตามลำพังหรอกนะ แน่นอนว่าลูกสาวเจ้าพ่ออย่างฉันจะต้องมีบอดี้การ์ดอารักขา เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่านางเตี้ย!!!”หญิงสาวตอกหน้าหวงเจียวจินกลับไปในลักษณะเด่นของคนตรงหน้า ที่มีความสูงคาดว่าไม่ถึง 155 เซนติเมตรเสียด้วยซ้ำ
“ปากดีหนักนะนางฉีฉีคงคิดว่าพวกบอดี้การ์ดของแกจะมาช่วยเหรอ...ฝันไปเถอะ เพราะว่าฉันหลอกพวกมันให้ไปกินหม้อไฟ อ้างชื่อแกว่าอุตส่าห์จองโต๊ะเอาไว้ให้เพื่อจะเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบ 18 ปีของแกวันนี้ และเลี้ยงฉลองที่คนอย่างแกสามารถอยู่เรียนที่นี่ครบหนึ่งเดือนไม่ถูกไล่ออกไปเสียก่อนเหมือนที่อื่นๆ อย่างไงละ”หวงเจียวจินพูดพลางส่งเสียงหัวเราะร่วนในความฉลาดของตัวเอง
“โอโห่! ทำกันแบบนี้เลยเหรอ...แสนรู้เหมือนหมาเลยนะพันธุ์อะไรเหรอเรานะ”ว่านฉีฉีด่าเหน็บกลับไป
“แก!!!”หวงเจียวจินตวาดด้วยความโกรธ
“เออ...ทำไม...พูดตรงอะดิ ได้ยินดิ้นใหญ่เลยเหมือนหมาถูกน้ำร้อน”ว่านฉีฉีด่าสาดไม่ยั้ง
คำพูดด่าทอของว่านฉีฉี ทำให้ลูกสาวเจ้าพ่อจากตระกูลหวง ตัวและหน้าสั่นกระพือชนิดที่ว่าคิดหาคำด่ากลับแทบไม่ทัน
“จะพากันยืนเซ่ออยู่ทำไม! จัดการมันเสียสิ..อยากทำอะไรมันก็ทำ..ฉันจะยืนรอคลิปที่พวกแกถ่ายเสร็จแล้วอยู่ตรงนี้”หวงเจียวจินพูดพลางยืนพิงขอบกำแพงชั้นดาดฟ้า
“จัดให้เลยครับคุณหนู...รับรองว่าว่านตงหัวได้เห็นคลิปลูกสาวของมันที่ถูกส่งไปให้ดูจะต้องเป็นบ้าขึ้นมาเลยแน่นอน”พูดพลางส่งเสียงหัวเราะร่วนเป็นการใหญ่
“เฮ้ย! พวกเอ็งเล่นนางเด็กปากดี เอาให้ครบทุกท่ายากเลยนะเว้ย ไม่ต้องยั้งมือคลิปยาวยิ่งได้ราคางาม เวลาถ่ายคลิปเอาแสงมาช่วยด้วยจะได้แจ่มๆ ชัดๆ หน่อย ตอนนี้เริ่มจะมืดแล้วโชคยังดีที่วันนี้เป็นวันเทศกาลหยวนเซียว พระจันทร์ก็เลยเห็นเต็มดวงตั้งแต่ยังไม่หกโมง ถึงจะเห็นอะไรชัดแต่ก็ต้องใช้แสงเพราะถ่ายคลิปมันก็มืดอยู่ดี”หัวโจ๊กของกลุ่มบอกพวกพ้อง
ลูกน้องของหวงเจียวจินเดินย่างสามขุมเข้ามาหาว่านฉีฉีอย่างย่ามใจ ร่างระหงของเด็กสาววัยสิบเจ็ดตรงหน้าคือเป้าหมายที่จะต้องลงมือจัดการตามคำสั่งของคุณหนูพวกมัน
แต่แล้วทั้งหมดเริ่มรู้สึกว่ารอบตัวกลับมืดลงอย่างรวดเร็วจนผิดสังเกต ต่างพากันแหงนหน้ามองขึ้นท้องฟ้ากันทั้งหมด
“จันทรุปาราคา!!!”แต่ละคนส่งเสียงออกมาพร้อมกันไม่เว้นแม้แต่ว่านฉีฉี