3

1514 Words
“พ่อกับแม่คิดว่า ตอนนี้เราก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาก็น่าจะไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แม่กะว่ามะรืนนี้จะไปกระบี่กัน ไปด้วยกันนะลูก” อินทุอรไม่อยากจะค้านคั้นถามอัคราต่อ นางจึงพูดคุยในเรื่องที่ตัวเองตั้งใจ อีกฝ่ายทำท่าเบื่อหน่ายขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าจะต้องไปเที่ยวกับน้องชายต่างมารดา เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ครั้นเขาจะปฏิเสธตามหัวใจของตัวเอง แต่พอมองเห็นหน้ามารดาเขากลับปฏิเสธไม่ลง ใบหน้าของอินทุอรมีรอยยิ้มแต่งแต้ม ดวงตาดูเหมือนคนกำลังตกอยู่ในห้วงของความสุข หากเขาพูดในสิ่งที่ใจคิด ภาพใบหน้าและแววตาของผู้เป็นแม่คงเปลี่ยนไป “ก็ได้ครับคุณแม่” รอยยิ้มของอินทุอรมีมากขึ้น หลังจากได้ยินคำตอบรับจากลูกชาย “โอม แม่จะขออะไรโอมซักข้อได้มั้ยลูก?” “อะไรครับคุณแม่?” นางเลื่อนมือมาจับมือแกร่งของอัครา แล้วบีบเบาๆ “แม่รู้ว่าโอมไม่ชอบหน้าอาร์ม แต่แม่อยากให้โอมพูดดีๆ กับอาร์มต่อหน้าคุณพ่อ คุณพ่ออายุมากขึ้นทุกวันแล้วนะลูก แม่ไม่อยากให้คุณพ่อคิดมากเรื่องนี้ เวลาคุณพ่อเห็นโอมพูดจาไม่ดีหรือแสดงทีท่ารังเกียจอาร์มครั้งใด สีหน้าของคุณพ่อไม่ดีเลย แม่กลัวความดันของคุณพ่อจะขึ้น พาลจะไม่สบายเอาได้ แม่ขอนะโอม อาร์มอยู่ที่นี่ไม่นานนะลูกเดี๋ยวน้องก็กลับไปทำงานที่โน่นต่อ ทำดีกับอาร์มเพื่อคุณพ่อนะลูก แม่ขอร้อง” อัครามองหน้าผู้พูดนิ่ง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าการที่ตนเองแสดงท่าทางรังเกียจน้องชายจนออกนอกหน้า ทั้งการกระทำและคำพูดจะทำให้อรรคเดชเกิดความทุกข์ เขาคิดว่ามันคงเป็นความเคยชินสำหรับทุกคนในบ้านหลังนี้กับการแสดงออกถึงความรังเกียจอัคคิน ประโยคคำพูดของมารดาจึงกระแทกใจเขาอย่างแรง ตามมาด้วยความรู้สึกผิด “ครับคุณแม่ ผมจะพยายามครับ” อัครารู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะพูดดี ทำดีกับน้องชาย แต่เขาก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด “ขอบใจโอมมากนะลูก แม่ขอบใจโอมมาก” นางยิ้มอย่างคนมีความสุข น้ำตาปริ่มกับคำตอบรับของอัครา วาด หวังไว้ว่าการไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาในครั้งนี้คงจะเกิดความสุข “ผมทำเพื่อคุณพ่อคุณแม่ครับ” “แม่ขอบใจโอมอีกครั้งนะลูก โอมพักผ่อนเถอะแม่ก็จะไปพักเหมือนกัน” “ครับคุณแม่ เดี๋ยวผมเดินไปส่งคุณแม่ที่ห้องนะครับ” ผู้เป็นลูกลุกขึ้นยืน ก่อนจะประคองร่างของมารดาไปส่งหน้าห้อง ระหว่างที่เดินกลับมาที่ห้องของตนเองนั้น เขามองไปยังประตูห้องนอนของรวิษา ในฉับพลันนั้นเขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สมภารกำลังจะกินไก่วัด... สองวันต่อมาครอบครัวเนติรัตน์พิบูลและรวิษาก็เดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศที่จังหวะกระบี่ การท่องเที่ยวในครั้งนี้มีระยะเวลาร่วมเจ็ดวัน ทั้งหมดจะพักที่บ้านพักหลังนี้หนึ่งคืน พรุ่งนี้เดินทางต่อไปยังเกาะไหง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา แล้วพักอยู่ที่นั่นสามคืน ก่อนจะเดินทางกลับมาพักที่นี่ต่ออีกสองคืน จากนั้นจึงเดินทางกลับ “ค่ำนี้เราไปทานอาหารกันที่โรงแรมนะลูก พ่อจองโต๊ะเอาไว้แล้ว” อรรคเดชพูดขึ้นเมื่อทุกคนกลับมานั่งที่โซฟาหลังจากที่นำกระเป๋าเดินทางไปเก็บในห้องพัก “มิ้นไปด้วยกันนะ” อินทุอรหันมาบอกรวิษาที่มานั่งสมทบเป็นคนสุดท้าย และมาทันคำพูดของอรรคเดชพอดี “ค่ะคุณท่าน” เธอรับคำเสียงเบา มองสบตาทุกคนยกเว้นอัคราที่วันสองวันนี้เธอพยายามเลี่ยงจะเผชิญหน้ากับเขาตามลำพัง เหตุการณ์เมื่อวานซืนยังตราตรึงในจิตใจ ดวงใจดวงน้อยๆ เต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่นึกถึง กลัวอัคราจูบเธอก็กลัว แต่ทว่าความกลัวในเรื่องนั้นน้อยกว่ากลัวหัวใจตัวเอง รวิษากลัวว่าตนเองจะกลายเป็นคนใจง่าย ยอมให้เขาทำอะไรต่อมิอะไรมากกว่าการจูบ เพราะหัวใจทั้งดวงยกให้เขาไปหมดแล้ว “มิ้น เดี๋ยวไปจัดกระเป๋าให้ฉันด้วยนะ” คนที่รวิษาไม่อยากจะชิดใกล้เวลานี้หันมาสั่ง รวิษาพยายามเก็บกักความกลัวและความตื่นเต้นเอาไว้ รับคำเสียงแผ่วเบา “ค่ะคุณโอม” “โอมก็โตแล้วนะลูก ทำไมไม่รู้จักทำเอง มันง่ายจะตายไปแค่เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า ไปแขวนไว้ในตู้” อรรคเดชเอ็ดลูกชาย “อีกอย่างนะพรุ่งนี้เราก็ต้องไปพักที่อื่นต่อ ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าก็ได้ อยากใส่ชุดไหนก็หยิบมันมาใส่” “ผมก็หมายถึงเสื้อผ้าที่ผมจะต้องใส่วันนี้กับวันพรุ่งนี้ไงครับ ผมขี้เกียจทำเองก็เลยให้มิ้นทำให้ ปกติแล้วเวลาผมไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ มิ้นก็จัดกระเป๋าให้ผมอยู่แล้ว จะทำให้ผมวันนี้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยครับ” เขาโต้กลับบิดา “หรือว่ามิ้นไม่อยากทำ?” ก่อนจะหันมาถามคนที่ตัวเองสั่ง “ไปพูดอย่างนั้นมิ้นก็ต้องทำนะสิ” ผู้เป็นพ่อตอบแทนรวิษา ส่งสายตาดุๆ ให้ลูกชาย “ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง เดี๋ยวมิ้นไปจัดเสื้อผ้าให้คุณโอมเองค่ะ คุณโอมคงไม่รู้ที่เพราะมิ้นเป็นคนจัดกระเป๋าให้คุณโอมเองค่ะ” รวิษาหันไปแก้ต่างให้คนที่ตัวเองรัก เธอไม่ต้องการให้อัคราถูกอรรคเดชตำหนิ แล้วมันก็จริงตามที่อัคราพูด ทุกครั้งที่เขาเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เธอจะเป็นคนจัดกระเป๋าเดินทางให้ทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอเข้าไปจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางตอนที่เขาไม่อยู่ ทุกอย่างที่เขาจะต้องใช้พร้อมสรรพในกระเป๋า “เห็นมั้ยครับคุณพ่อ ผมไม่ได้บังคับมิ้นซะหน่อย” เขาพูดหน้าตาย “มิ้นขอตัวไปจัดเสื้อผ้าให้คุณโอมก่อนนะคะ” รวิษาปลีกตัวไปทำตามคำสั่งของอัคราทันที พอคล้อยหลังหญิงสาวแสนสวย อินทุอรเปิดปากต่อว่าลูกชายจอมเอาแต่ใจ “โอมก็ใช้มิ้นเกินไปแล้วนะ แค่จัดกระเป๋าแค่นี้ก็ทำเองไม่ได้ แทนที่มิ้นจะได้พักผ่อนกลับต้องมาเหนื่อยทำโน่นทำนี่ให้โอมอีก” อินทุอรร่วมบ่นด้วยอีกคน “โธ่...คุณแม่ครับ ไม่ได้งานหนักงานหนาอะไรเลยก็แค่เอาชุดนอน เสื้อผ้าที่ผมจะใส่พรุ่งนี้ออกมาเตรียมให้ผมเท่านั้น แล้วก็มีของใช้ส่วนตัวอีกสองสามอย่าง แค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกครับ” อัคราโต้อินทุอร “แล้วแค่นั้นทำไมไม่ทำเองล่ะโอม มันไม่เหนื่อยเหมือนกับที่โอมพูดไม่ใช่เหรอ” ผู้เป็นมารดาหาช่องสวนกลับ “แต่ผมทำแค่นั้นมันเหนื่อยนี่ครับ คุณแม่ลองคิดดูผมไม่รู้ว่าชุดนั้นชุดนี้อยู่ไหน ก็ต้องรื้อก็ต้องหาทั่วกระเป๋า พอรื้อก็ต้องเก็บเข้าที่อีก ทำงานหลายทอด ให้มิ้นไปเตรียมให้ดีกว่าครับ ง่ายดี ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องหงุดหงิดเวลาหาไม่เจอ” อัคราแก้ตัวไปเรื่อย “หาคำพูดแก้ตัวจนได้ ระวังเถอะไม่มีมิ้นจะกลายเป็นพิการเอา ทำอะไรไม่เป็น” ผู้เป็นแม่อดที่จะค่อนขอดไม่ได้ นึกหมั่นไส้ลูกชายตัวดีขึ้นมาทันทีทันใด “ทำไมผมจะไม่มีมิ้น ก็มีอยู่ทนโท่” เขายังเถียงต่อ“แล้วเรื่องงานที่จะขยายโครงการไปญี่ปุ่น ไปถึงไหนแล้วโอม” อรรคเดชถามแทรกขึ้น เบี่ยงประเด็นสนทนาไปในที เพราะรู้จักนิสัยอัคราดีว่า หาทางแก้ตัวไปได้เรื่อยๆ แล้วอาจจะทำให้บรรยากาศในการไปเที่ยวหมดลง “ตอนนี้ก็คุยกันเรื่อยๆ ครับ อีกสามเดือนผมต้องไปญี่ปุ่น เพื่อคุยรายละเอียดต่างๆ กับคุณอามาคาวะครับ หากตกลงกันได้ก็จะเซ็นสัญญากันเลยครับ” อัคราตอบคำถามบิดา ท่าทางจริงจังขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องงานสำคัญ “ตอนนี้ประสานงานอยู่กับบริษัทลูกของคุณอามาคาวะใช่มั้ย?” ผู้เป็นพ่อถามต่อ “ใช่ครับ ติดต่อผ่านทางบริษัท อามาโนะงาวะ ประจำประเทศไทยครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณประดิษฐ์เข้าไปพรีเซ็นต์งานรอบนึงแล้วครับ ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของผมครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD