บทที่ 2 ยังไม่พร้อม

1489 Words
บทที่ 2 ยังไม่พร้อม บ้านคหบดีผู้มั่งคั่ง (“ ห้ะ…ตอนนี้ลูกผมเป็นไงบ้างครับ ”) คนเป็นพ่อรับสายจากตำรวจก็รีบบึ่งไปโรงพยาบาลพร้อมคนเป็นภรรยาในทันที ไปถึงก็ยืนรอหน้าห้องผ่าตัดอย่างกระวนกระวายใจ เวลาล่วงเลยมาหนึ่งชั่วโมง พยาบาลก็เข็นเตียงที่ลูกชายนอนออกมาทันที บนหัวพันผ้าก็อต และมีสายระโยงระยางเต็มไปหมดเมื่ออยู่ในห้องพักพิเศษ มีพยาบาลค่อยเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด คนเป็นพ่อไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ในตอนนี้ เพราะลูกชายนอนในห้องปลอดเชื้อ ต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด อาการที่มีอยู่ 50/50 เพราะเสียเลือดมาก “ คุณค่ะ อย่าวิตกไปเลยค่ะ ถึงมือหมอแล้ว ยังไงตารัชก็ต้องรอดค่ะ ” คนเป็นภรรยาฝืนใจพูดออกไปในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจเลยแม้แต่น้อย “ ผมกลัว กลัวว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ผมไม่อยากเสียเขาไป ” คนเป็นสามีปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา ภรรยาเห็นก็ยิ่งแช่งลูกติดของสามีให้ตายไปเสียได้ก็ดี เธอไม่ชอบ เพราะสามีดูจะรักลูกชายคนโตเอามากๆ หนึ่งอาทิตย์ต่อมา… ห้องพิเศษ ( Part สารัช ) ห้องนี้สามารถเข้าเยี่ยมได้คนเดียวนั้นก็คือพ่อบังเกิดเกล้า พอเขาฟื้นก็ได้บอกหมอและพยาบาลไป ว่ามีญาติแค่คนเดียวคือพ่อ ส่วนเเม่เลี้ยงเขาไม่ได้สนใจหล่อนด้วยซ้ำเลยไม่คิดจะเอ่ยถึง.. เขาได้ทะเลาะกับแฟนสาวที่คบกันมาสามปีเรื่องที่เห็นแฟนสาวคุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้ พอเขาขอมาดู เธอก็ต่อว่าเขาว่างี่เง่า ไม่มีเหตุผล จะมาหึงอะไรหนักหนา เขาทำอะไรไม่ได้ก็เลยเมาตั้งแต่หัววัน จนขับรถเร็วและเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่เรื่องนี้เขาระแคะระคายมาสี่ถึงห้าเดือนให้หลังแล้ว ถามทุกครั้งแฟนสาวก็ไม่ต้องจริงๆจังๆเอาแต่บ่ายเบี่ยง และโกหกหน้าตาย เพราะเขารักเธอสุดหัวใจเลยใจอ่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเกินจะทน เพราะเขาจับได้คาหนังคาเขา พอตื่นขึ้นมาเขายังมีอาการที่นอยด์แฟนสาว และไม่อยากพบในสภาพนี้ ไม่อยากให้เธอมาเห็นหรือมาสมเพชด้วย แต่จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา เขาก็ได้อ่านหนังสือหรือนิยายผ่านตาว่ามีการลองใจคนรัก ซึ่งถ้าเขาทำแบบนั้น มันก็ยิงนกได้สองตัวเลยนะ คนหนึ่งแฟนและอีกคนคือคนที่พ่อจะให้แต่งงานด้วย คราวนี้ก็จะได้รู้ว่าใครคือภรรยาเขาในอนาคตกันแน่ แต่เขาเชื่อมั่นในแฟนสาวมากๆเลยนะ คิดว่าเธอต้องรับเขาได้ในแบบที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ และเขารักพ่อมากๆ เลยไม่อยากเห็นพ่อเป็นทุกข์เพราะแม่เลี้ยงต่อว่าด้วย จึงรับปากส่งๆ ว่าจะไปตามนัดที่ดูตัว ความจรืงคิดว่าแค่ดูตัวแล้วแกล้งทำอะไรที่ผู้ใหญ่ไม่ชอบ พวกท่านจะได้ยกเลิกสัญญาบ้าๆเสีย แต่ดันเกิดเหตุเสียก่อน...มันก็ดี จะได้รู้สันดารคนไปเลย “ จะดีเหรอลูก ” เขาได้ปรึกษากับคนเป็นพ่อทันที และเล่าแผนการณ์บางอย่างให้ฟัง “ ดีครับ ถ้าใครรับผมได้ ผมก็จะยอมแต่งกับคนนั้น แต่พ่อห้ามบอกใครนะครับ ผมขอ ” คนเป็นพ่อมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีแต่ก็ยอมตกลงเพราะไม่อยากขัดใจลูกชายคนโตด้วย หนึ่งอาทิตย์ต่อมา.. ผมออกจากโรงพยาบาลด้วยรถวีลแชร์ เพราะขาสองข้างเดินไม่ได้ คนที่ดูพึงพอใจที่สุดเห็นจะเป็นเเม่เลี้ยง เขารู้ทุกการกระทำของแม่เลี้ยง ต่อให้เขาทำงานนอกบ้านทุกวัน แต่เขาก็มีกล้องวงจรปิดอยู่ในบ้าน และบางทีมีแค่เครื่องดัดฟัง รู้ทุกการกระทำและคำพูดของแม่เลี้ยงที่พุดคุยสั่งสอน เสี้ยมสอนลูกตัวเองซึ่งเป็นน้องชายต่างแม่ของผมเป็นอย่างดี ว่าให้เกลียดผม บ้านวงษ์เจริญการ “ แม่ว่าไงนะคะ ขาพิการ! นี่แม่ยังอยากให้หนูแต่งอีกเหรอคะ? ” “ ตอนแรกทางเราเองที่ไปเร่งเพราะตอนนั้นการเงินในบ้านเริ่มไม่ดี แม่เลยไปกู้ยืมเงินมาแต่เหมือนว่ารายได้มันจะไม่ค่อยพอในการส่งคืน แม่เลยมีแค่วิธีเดียวคือไปเร่งตามสัญญาของทางนั้นเพื่อจะเอาสินสอดมาจ่ายคืน แต่ตอนนี้ทางนั้นเร่งกลับมาแล้ว จะให้พวกเราไปนัดคุยกันเรื่องแต่งงานทันที หลังจากตาสารัชออกจากโรงพยาบาล ” “ แม่เพิ่งบอกไปหยกๆ นี่ว่าผู้ชายคนนั้นขาพิการทั้งสองขาแล้ว หนูไม่เอาหรอกค่ะ พ่อช่วยหนูด้วย ” เห็นทีท่าของแม่ไม่ยอมลดล่ะ ก็พยายามเข้าทางพ่อ “ ให้ยัยคะน้าสิ ไปแทน ” คนเป็นพ่อพูดขึ้น “ ไม่! ” คนเป็นแม่ปฎิเสธเสียงแข็งเพราะยังถือในศีลธรรม จะยอมให้หลานมารับผิดชอบได้ไง ทั้งที่ ทีแรกเป็นเธอเองที่จะให้ลูกสาวได้สามีที่ร่ำรวย “ งั้นยัยคะนิ้งก็ได้ ถ้าหยิบยกเรื่องบุญคุณแม่นั่นคงยอม ” คนเป็นพ่อพูดต่อ “ ใช่ค่ะแม่ บังคับพี่คะนิ้งเลย ไหนๆ แม่ก็รับเลี้ยงมาจนโตจะตอบแทนบุญคุณไม่ได้หรือไง ” คนเป็นลูกพูดเสริม “ ไม่ได้! ” คนเป็นแม่หนักแน่น ( Part คะนิ้ง ) ภายในห้องที่เย็นช่ำไปด้วยแอร์ แต่คนทั้งสองที่กำลังเร่าร้อนอย่างไฟแผดเผาในตอนนี้ทั้งตัวเลยเต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากที่เล้าโลมกันอย่างดูดดื่ม จนถึงเวลาที่ต้องเจอของจริงกันแล้ว “ พี่ดานุคะ มีข่าวดีจะบอกค่ะ ” “ ให้จบกันก่อนค่อยคุยได้ไหมครับ พี่ไม่ไหวแล้ว ” เขากำลังถือแก่นกายของตัวเองพร้อมสวมเกราะป้องกันให้มัน “ แป๊บเดียวเองค่ะ ” ส่งสาวตายั่วยวนไปหนึ่งกรุบ ตั้งแต่รู้ว่าท้อง อาการอยากมันก็มี แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกับแฟนหนุ่ม เพราะวันนี้พี่เขาเพิ่งจะว่างจากกิจการครอบครัว ด้วยอารมณ์ที่อัดอั้นก็พร้อมจะระเบิด พี่เขาก็คงต้องการเช่นกัน พอเจอหน้ากันไม่ทันได้พูดจาก็ถาโถมใส่กันแล้ว “ ครับงั้นว่ามาเถอะ อื้ม~ ” เขาจับแก่นกายมาจ่อที่ช่องแคบ ถูขึ้นๆ ลง รอให้แฟนสาวอย่างฉันพูดจบก็คงสอดเข้ามา “ อื้ม~ พี่อย่างแกล้งก่อนสิ ซี๊ด~ มันเสียวมาก ” “ รีบพูดมาครับ เร็วๆ ” “ คะนิ้งท้องค่ะ อื้ม~ ” เสียวได้แป๊บ อีกคนก็หยุดชะงัก แล้วถอยออกจากร่างกายของฉันในทันที “ ทะ…ท้องเหรอ? ” “ ค่ะ ท้องกับพี่ไงคะ ” “ เดี๋ยว ท้องกับพี่ได้ไง พี่สวมถุงยางทุกครั้งเลยนะ ที่เรามีอะไรกัน ” “ พี่จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะคะ อย่าลืมว่า พี่ไม่ใส่ถุงยางด้วยหนึ่งครั้ง เมื่อสามเดือนก่อน ” “ ไม่ใส่ก็จริง แต่พี่รีบเอาออกมาปล่อยข้างนอกนะและคะนิ้งก็บอกว่าปวดท้องเมนส์ แต่มันมากะปริบกะปรอย จำได้ไหม จะท้องได้ไง ” “ ได้ค่ะ คะนิ้งถามหมอไปแล้วด้วย แต่หมอบอกว่านั้นคือเลือกล้างหัวเด็กค่ะ ” ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วมองหน้าเขาอย่างผิดหวัง ไม่คิดว่าคนที่รักจะเป็นแบบนี้ จะไม่เชื่อใจกัน “ แต่พี่ว่า เราอย่าเพิ่งมีลูกกันตอนนี้ดีไหม พี่ยังไม่พร้อม ” “ ทำไมถึงไม่พร้อมคะ พี่ก็มีทุกอย่างแล้ว พี่จะสร้างอะไรอีกคะ และนี่ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราสองคนด้วยนะคะ ” “ แค่ครั้งเดียวที่พี่ลืมใส่ถุงยาง มันจะท้องเลยเหรอ ทั้งที่พี่ก็ไม่ได้ปล่อยข้างในแม้แต่หยดเดียวเลยนะ” “ พี่พูดแบบนี้หมายความว่าไง คะนิ้งก็มีอะไรกับพี่แค่คนเดียวนะคะ ” “ คิดดูดีๆก่อน คะนิ้งเคยแอบหนีเที่ยวกลางคืนมาสองครั้งแล้วนะ ” พอพี่เขาพูดจบ ฉันก็ต้องตกใจ พี่เขารู้ได้ไง เพราะเรื่องนี้มันคือลับสุดยอดที่ฉัน คะน้าและแคลจะปิดมันไว้ “ ไม่จริง คะนิ้งไม่เคยเที่ยว ” พูดแบบหลบสายตาเขา “ แคลบอกพี่ และส่งรูปที่คะนิ้งเดินเข้าผับมาให้ด้วย ” ❣️__________❣️ นามปากกาธัญญวรินทร์ ? อย่าลืมกดหัวใจ ❤️ กดติดตาม กดเข้าชั้นให้ด้วยน่าาา ที่รักก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD