ติ่ง! ติ้ง !
เสียงกริ่งดังขึ้นบอกให้รู้ว่ามีผู้มาเยือน มาเยือนปกติไม่เท่าไหร่ นี่มากะทันหัน ทำให้เกรทที่กำลังยืนเช็ดผมอยู่หลังจากเพิ่งออกมาจากห้องน้ำหมาดๆถึงกับขมวดคิ้วสงสัย ใครมาวะ!?
เกรทเดินออกมาที่ประตูก่อนจะก้มส่องมองออกไปตามเลนส์ตาแมวประตู มุมปากเขายกขึ้นขยับยิ้มเมื่อรู้ว่าใครมาเยือน มือแข็งแรงเอื้อมไปเปิดประตูทันที
"พี่กริช"
เกรทเรียกชื่อผู้เป็นพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงสวยทุกซี่ พี่กริชช่างมาเหมาะเจาะกับเวลาที่เกรทกำลังต้องการตัวพอดิบพอดี
ผู้ชายร่างสูงร้อยแปดสิบสองวัยสามสิบปีใบหน้าหล่อตี๋เกาหลีจีนไชน่านั้นสวมแว่นตาทรงเดียวกันกับผู้เป็นน้องชาย นอกจากอายุที่มากกว่าแล้วสไตล์การแต่งตัวความชอบก็ยังเหมือนกันมาก
แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่นิสัยใจคอ กริชนั้นค่อนข้างเป็นคนที่เฟลนลี่เปิดกว้างและเข้าถึงง่ายกว่าเกรท ส่วนเกรทเป็นคนอินโทรเวิร์ตรักความเป็นส่วนตัวสูงมาแต่ไหนแต่ไร
นอกจากกริชที่เป็นพี่ชายและเพื่อนสนิทอีกสองคนแล้ว เกรทแทบจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
"พี่มาทำอะไรที่กรุงเทพ?"
คำถามแรกผุดขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออกให้ผู้เป็นพี่ชายเข้ามา ก่อนที่เขาจะเดินตามเข้ามาติดๆในสภาพที่ใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์กับเสื้อกล้าม
ที่อยู่ในสภาพนี้เพราะเข้าใจว่าเป็นไอ้วินกับไอ้ธีร์มาหาชวนแดกเหล้าเหมือนทุกๆครั้ง เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงวันหยุดโทรมาชวนไม่หยุดหย่อน จนเกรทรำคาญที่จะรับสาย
จริงๆแล้วเกรทก็ไม่เคยพาใครมาคอนโดนอกจากเพื่อนสนิทมากจริงๆซึ่งก็มีอยู่สองคนแค่นั้น กริชนั่งลงบนโซฟายกขาขึ้นไขว่ห้าง จ้องน้องชายที่เหมือนฝาแฝดตัวเองเขม็ง
"นายบอกพี่ว่าจะซื้อบ้านเหรอ?"
กริชเริ่มเข้าเรื่องทันทีที่น้องชายตัวดีเดินถือเสื้อพาดบ่าออกมาพร้อมกางเกงที่ยังใส่ไม่เสร็จ
"ใช่ ผมอยากให้พี่ช่วยจัดการให้หน่อยได้มั้ย?"
หลังจากจัดการกับกางเกงเสร็จเกรทก็ใส่เสื้อต่อ ต่อหน้าผู้เป็นพี่ชายอย่างไม่ได้นึกอายก่อนจะนั่งลงข้างๆผู้เป็นพี่ชาย
กริชส่ายหน้าระอาหน้ายิ้มๆก่อนจะพิงพนักลงบนโซฟาเอามือเท้าศีรษะมองเกรทด้วยหางตาจับผิด 'ไอ้น้องชายตัวดีมันหลบตาตลอด มีอะไรปิดบังไว้แน่เลย'
"ช่วยได้ แต่คุณแม่จะอนุญาตเหรอ?"
"ถ้าผมจะบอกคุณแม่ ผมจะมาขอร้องพี่ทำไม เดี๋ยวผมจ่ายเงินให้พี่เอง พี่แค่ซื้อในนามชื่อของพี่ก็พอ"
"เบาๆหน่อยน้องชาย พี่รู้นายมีเงินเยอะ แต่เงินของนายก้อนนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ให้ไว้นายสร้างตัวเองนะ นายก็รู้ว่าตระกูลเราจะไม่แบ่งมรดกให้จนกว่านายจะแต่งงาน"
เกรทกับกริชมีเงินในบัญชีคนละก้อนเท่าๆกัน เนื่องจากต่างคนต่างยังไม่แต่งงานเป็นกฏของตระกูลโชติวรกูลที่จะไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินมรดกของพ่อแม่
มีเพียงเงินก้อนเดียวที่ท่านมอบไว้ให้ตอนอายุครบสิบแปดปีเพื่อให้เอาไปสร้างเนื้อสร้างตัวของตัวเอง ถ้าหมดแล้วก็คือหมดเลยไม่มีการไปขอเพิ่มได้อีก เพื่อสอนให้ลูกรู้จักมัธยัสถ์และหาเงินใช้เองเป็น
ซึ่งพวกท่านจะไม่มาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวเด็ดขาด แต่ถ้าไปทำงานสานต่อธุรกิจให้ครอบครัวก็จะมีเงินเดือนให้ เหมือนที่กริชกำลังทำอยู่ตอนนี้
"เหลืออีกเยอะ ยังไม่ได้ใช้อะไรเลย ส่วนมากผมจะรับงานสอนพิเศษเลยได้เงินมาใช้ส่วนหนึ่ง นอกจากค่าเทอมก็ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลยพี่กริช ผมไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยพี่ก็รู้ นะครับจัดการให้ผมหน่อยนะ"
กริชอมยิ้มคงมีแต่เขากระมังที่ได้เห็นมุมตะมุตะมิขี้อ้อนของน้องชายผู้มีฉายาว่าเย็นชาเหมือนน้ำแข็งคนนี้ คนอื่นแม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีใครได้สัมผัส เกรทจะนิ่งสุขุมเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆแต่เป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับผู้เป็นพี่ชายที่สนิทกันมากๆ
"พี่รู้ พี่แค่อยากเตือนเอาไว้ก่อน คอนโดหลังนี้คุณพ่ออุตส่าห์ยกให้นาย นายจะไม่อยู่แล้วเหรอ?"
กริชพูดขึ้นขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆคอนโด ผู้เป็นบิดาเคยยกให้กริชแต่กริชไม่เอาเนื่องจากเขาไม่ชอบอยู่คอนโด คอนโดหลังนี้เลยตกเป็นของเกรท เป็นทรัพย์สมบัติที่ยกให้แต่ห้ามขายออกนอกจากจะเปลี่ยนเป็นชื่อเกรทถาวรแล้วเท่านั้น ก็นั่นแหละต้องแต่งงานก่อน
"เปล่าครับ ผมยังอยู่ที่นี่ คือว่าผมจะซื้อบ้านให้...เอ่อ"
เกรทอึกอักไม่รู้จะเริ่มเอ่ยจากตรงไหนก่อนดี เขาตั้งใจอยู่แล้วว่าจะสารภาพเรื่องนี้กับผู้เป็นพี่ชายก่อนที่จะซื้อบ้านให้พายน์อยู่
ตี๊ด~~
เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นขึ้นขัดจังหวะซะก่อนที่เกรทจะพูดออกมา กริชจึงโบกมือให้เกรทหยุดพูดก่อน ก่อนจะลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์อีกมุมหนึ่งของห้อง เกรทถึงกับพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ผ่านไปสามนาทีจะได้ เกรทยังคงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงโซฟารับแขก เนื่องจากในหัวกำลังประมวลคิดหาประโยคที่มันสลวยที่สุดเพื่อจะพูดให้กริชผู้เป็นพี่ชายเข้าใจ
"เฮ้!เกรท พี่ต้องไปแล้วล่ะ มหาลัยที่เชิญพี่ไปเป็นวิทยากรเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นอีก เอาไว้พี่ค่อยโทรหาอีกทีนะ"
กริชโบกมือลาพร้อมกับก้าวขาออกไปทันทีด้วยความรีบเร่ง
"เอ่อ พี่ พี่กริช"
เกรทนั่งอ้าปากค้างลูบผมแก้เก้อ
"เฮ้อ!"
ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มือเท้าที่เย็บเชียบเมื่อสักครู่เริ่มอุ่นขึ้นมาทันที
"เอาไงดีวะ?"
เกรทเปิดโทรศัพท์ดูเวลา เพราะคืนนี้เขาต้องไปค้างกับพายน์และนาเดีย ความจริงเกรทเพิ่งจะกลับมาได้สองชั่วโมงเท่านั้นเพราะเขาต้องกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน
"เอาไงก็เอาวะ ดูแบบบ้านไว้ก่อนเลยก็แล้วกัน"
เกรทเลื่อนโทรศัพท์หาเบอร์ลุงดลเลขาส่วนตัวของพ่อของเขา ซึ่งปัจจุบันลุงดลคือคนของเกรท พ่อของเขาจ้างไว้อำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
จะให้พูดตรงๆก็เหมือนพี่เลี้ยงที่ไว้ช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของเกรท แต่ลุงดลก็มีงานประจำที่พ่อของเกรทให้ทำอยู่แล้ว จะมาจัดการเรื่องต่างๆให้เกรทก็ต่อเมื่อเกรทเรียกหาเท่านั้น
(ครับคุณหนู)
"ลุงหาแบบบ้านให้พายน์แล้วใช่มั้ยครับ?"
(เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวผมส่งให้ดูทางไลน์นะครับคุณหนู)
"ส่งมาเลยครับ ผมรออยู่"
ไม่แปลกที่ลุงดลรู้จักพายน์ เพราะคนแรกที่เกรทบอกให้รู้ก่อนใครก็คือลุงดล แม้ว่าลุงดลจะแนะนำให้เกรทสารภาพกับครอบครัวหลายครั้งแล้วซึ่งเกรทก็เห็นด้วย แต่...คนที่อยากปิดบังและไม่พร้อมจะเปิดเผยก็คือพายน์เองต่างหาก
เกรทก็เข้าใจอยู่ว่าพายน์ยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องมีลูกเพราะยังสู้กับฟีดแบคด้านลบไม่ไหว สภาพจิตใจของเธอยังอ่อนแอเกินไปที่จะรับแรงกระแทกต่อเรื่องราวต่างๆ
ยิ่งครุ่นคิดก็ยิ่งหนักใจ ถ้าเกรทจะขอพูดตรงๆเรื่องรับอุปการะเด็กไว้เพียงคนเดียวเพื่อให้พายน์กลับไปมีชีวิตวัยรุ่นได้เหมือนเดิม พายน์จะยอมมั้ย?