ตอนที่9ทีหลังอย่าทำแบบนี้

1594 Words
ตกดึกพายน์นอนกระสับกระส่ายแม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกรทมานอนด้วย แต่ตอนนี้ใจของพายน์กลับอยู่ไม่เป็นสุข คนึงหาแต่คนที่นอนอยู่ตรงโซฟาไม่หยุดหย่อน พายน์ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกอย่างว้าวุ่น ภายในใจก็ได้แต่ตั้งคำถามวนๆซ้ำ 'ทำไมนะ อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมแต่เหมือนไกลกันสุดๆ ทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้ แต่พอเราเอื้อมมือไปไขว่คว้าเขาก็เลือนหายไปทุกๆครั้ง เกรทไม่ใช่ผู้ชายทั่วๆไป และเพราะเกรทเป็นแบบนี้ไงล่ะ เราถึงได้หวั่นไหวและเผลอใจ รู้ตัวอีกทีก็อยู่ตกอยู่ในหลุมรักซะแล้ว' นอนไม่หลับๆ มันกลัดกลุ้มร้อนรุ่มไปหมด! พายน์ตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อหาน้ำดื่มดับจิตใจของตัวเองให้เย็นลง แอบเมียงมองไปตรงโซฟาเห็นเกรทที่นอนขดตัวอยู่บนโซฟาไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เพราะว่าขาของเขายาวเกินพื้นที่ต่างหาก พายน์เดินเบาๆเข้าไปหาเพราะเห็นว่าผ้าห่มหลุดรุ่ยลงมากองอยู่บนพื้น มือเรียวค่อยๆก้มลงหยิบผ้าห่มขึ้นมาและค่อยๆบรรจงห่มผ้าให้เกรทอย่างช้าๆและแผ่วเบาที่สุด ยังไม่ทันที่พายน์จะเอี้ยวตัวกลับ "ทำไมไม่หลับไม่นอน?" "อ้าว! นาย ยังไม่หลับเหรอ?" เกรทลืมตาขึ้นร่างสูงของเขาดีดตัวลุกขึ้นมานั่งด้วยท่าทางขรึมจัด คิ้วหนานั้นแทบจะขมวดอยู่ตลอดเวลา แต่เสน่ห์ดึงดูดใจไม่ได้ลดลงไปสักนิด "ทีหลังอย่าทำแบบนี้ ทำหน้าที่แม่ของลูกก็พอ" พายน์ถึงกับสะอึกที่ถูกตำหนิ ความหวังดีของเธอกลายเป็นความผิดไปเฉยๆ "ขอโทษ"ตอบสั้นๆแต่ข้างในกำลังสั่น "ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ มันไม่ใช่ละครนะพายน์ที่นางเอกเผลอท้องกับพระเอกแล้วสุดท้ายก็รักกัน แต่..นี่คือชีวิตจริง ถ้าเธอกำลังคิดอะไรที่มันเกินเลยไปมากกว่าพ่อแม่ของลูก ด้วยความหวังดีจากฉัน อยากให้เธอรีบตัดอารมณ์ส่วนนั้นทิ้งไป" เกรทต้องฝืนพูดออกมาแม้ว่ามันจะทำร้ายจิตใจพายน์ก็ตาม เขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นคนรักของใคร เป็นเพื่อนกันมันดีที่สุดแล้ว และพายน์ก็คือผู้หญิงคนเดียวและคนแรกที่เขาจะยอมให้อยู่ในเซฟโซนของเขา แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว "งั้นต่อไป ระหว่างเราในตอนที่ไม่มีลูกอยู่ด้วย ก็รบกวนเป็นแค่คนที่ไม่รู้จักกันเถอะ นายอยากให้ฉันเล่นบทพ่อแม่ลูกต่อหน้าลูก ฉันก็จะทำให้ดีที่สุด" พายน์กลั้นหายใจพูด ยังไม่ทันที่ได้สานต่อความรู้สึกก็ถูกเกรทสกัดดาวรุ่งตั้งแต่เนิ่นๆ พายน์พยายามคิดให้มันตลกแค่ไหนภายในใจของเธอก็ไม่ได้รู้สึกตลกแม้แต่นิด เกรทพูดให้เธอตัดใจทำไมพายน์จะไม่รู้ และที่ผ่านมาที่เกรทพยายามทำดีด้วยก็เพราะว่าโรคซึมเศร้าของพายน์ ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อลูกทั้งนั้น ก็ดี..อย่างน้อยเขาก็ยังมีความเป็นพ่อ เมื่อพายน์หันหลังกลับเข้าห้องไปแล้ว ดวงตาคมดั่งเหยี่ยวยังคงเบิกโพลงอยู่ท่ามกลางความมืด แขนแข็งแรงถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผาก จนแล้วจนรอดเกรทก็ไม่กล้าพูดเรื่องที่ตั้งใจจะมาพูดในวันนี้ คงต้องทิ้งเวลาไปสักระยะอย่างน้อยให้พายน์อายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก่อน คงจะเหมาะสมมากกว่านี้ "ขอโทษด้วยเราอย่าไปไกลกันมากกว่านี้เลย..พายน์" วันเวลาค่อยๆเลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ และพายน์ก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ เธอจะยิ้มสดใสก็เวลาอยู่ต่อหน้าลูกเท่านั้น ถ้าเผลอพบกันที่อื่นพายน์แทบจะไม่ทักเกรททำอย่างกับว่าเป็นคนที่ไม่รู้เคยจักกัน เลี่ยงได้เธอก็จะเลี่ยงและหลบหน้าเขาตลอด จนเกรทอดรู้สึกไม่ได้ว่าพายน์กำลังทำสงครามเย็นกับเขาอยู่หรือเปล่า เช้า เย็น ค่ำ วันแล้ววันเล่า พายน์รู้ตัวอีกทีวันเวลาก็ผ่านไปแล้วเป็นเวลาถึงสามเดือน ตอนนี้พายน์กลายมาเป็นนิสิตนักศึกษาน้องปีหนึ่งของคณะเภสัชศาสตร์สาขาบริบาลทางเภสัชกรรมและเภสัชอย่างเต็มตัว ผ่านกิจกรรมต่างๆในมหาวิทยาลัยจนตอนนี้เข้าเดือนที่สองแล้วกับชีวิตนิสิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย "นั่งด้วยคนสิ" เสียงจากหญิงสาวหน้าตาดีวัยสิบแปดสูงประมานร้อยหกสิบเซนติเมตรผมยาวตรง ผิวขาวผุดผ่อง ใบหน้ากลมๆเล็กๆของเจ้าหล่อนนั้นเวลายิ้มเห็นลักยิ้มบุ๋มมองแล้วพายน์อยากจะยิ้มตามไปด้วย ขนาดพายน์เป็นผู้หญิงยังโดนตกหล่อนคงจะฮอตไม่ใช่น้อย "อ้อ เชิญ" "หวัดดี เราใบบัว"ใบบัวแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มแก้มบุ๋มน่ารักของเธอ "รู้จักแล้ว ก็เธอนั่งเรียนใกล้เราตลอด" พายน์ยิ้มให้ใบบัวขณะที่ใบบัววางจานข้าวและนั่งลงตรงข้ามกับเธอ "เราชื่อพายน์" พายน์แนะนำตัวตามมารยาท ด้วยความที่พายน์เข้ามาเรียนครั้งนี้เธอไม่อยากผูกสัมพันธ์กับใครเยอะ จึงยังไม่มีเพื่อนคบเลยสักคน ใบบัวเป็นคนแรกที่เข้ามาคุยกับเธอ ซึ่งจากที่พายน์สังเกตุใบบัวเองก็ยังไม่มีเพื่อนสักคนเหมือนกัน "เธออยู่หอในหรือหอนอก?" "อยู่ข้างนอกต้องเลี้ยงลูกน่ะ" พายน์ตอบสั้นๆสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงได้กลายเป็นคนเย็นชาไม่มีมนุษยสัมพันธ์ไปแล้ว "เธอมีลูกแล้วเหรอ?" "อืม" ใบบัวยิ้มแห้งๆ เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ยอมรับกันง่ายๆแบบนี้ "มันแปลกเหรอ?" "ปละ เปล่า เราเห็นว่าเธอไม่เหมือนคนมีลูกเลย เธอสวยโดดเด่นที่สุดในคณะเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะแต่งงานแล้ว" "ไม่ได้แต่งหรอกพลาดท้องน่ะ" พายน์พูดออกมาตรงๆ อยากรู้เหมือนกันเธอเป็นแบบนี้แล้วจะมีเพื่อนคนไหนมาคบเธอมั้ย ซึ่งพายน์ก็ไม่แคร์ว่าใครจะมาคบหรือไม่คบเธอ เธอแคร์แค่ลูกคนเดียวเท่านั้น "เธอเป็นคนตรงๆดีนะ เรามาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย เราชอบเธอว่ะ" ใบบัวยื่นมือมาจับกับพายน์ แต่พายน์กลับเลิกคิ้วถามใบบัวกลับด้วยความสงสัยความหมายประโยคสุดท้าย "อ๋อ! ชอบแบบเพื่อนน่ะ เราไม่ได้เป็นทอมหรือเป็นเลสหรอกเธอวางใจได้" "ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เป็นเลส เป็นทอมก็คบได้" พายน์เริ่มยิ้มให้ใบบัวอย่างผ่อนคลายมากกว่าเดิมก่อนจะยื่นมือไปจับยอมรับสถานะเพื่อน เมื่อเห็นว่าใบบัวไม่ได้รังเกียจเธอ เพราะบางคนคบกันก็แคร์ไปหมด แคร์ยันอดีต แคร์ยันความผิดพลาดของคนอื่น อย่างกับว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรผิดพลาด "ว่างๆพาเราไปหาหลานบ้างสิ ชื่ออะไรนะลูกของพายน์น่ะ" "ชื่อนาเดีย" "ชื่อน่ารักจัง คิดไปคิดมาอิจฉาเหมือนกันนะเนี่ย เราก็อยากมีลูกแต่ยังหาแฟนไม่ได้เลย" ใบบัวพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ฉายไปด้วยรอยยิ้มสดใสตามวัยอย่างสาวน้อยที่กำลังคิดบวกและมองโลกกว้างใบนี้สวยงามไปหมด แตกต่างจากพายน์ที่คิดว่าโลกใบนี้ช่างใจร้ายกับเธอเหลือเกิน "มีเมื่อพร้อมดีที่สุดแล้ว ยิ่งผู้ชายในโลกนี้หาดียากเหลือเกิน ถ้าไปเจอคนไม่ดีเข้าชีวิตจบเห่เลยนะ" "ทำไมอ่ะ พ่อ...เอ่อ พ่อของลูกไม่ดีเหรอ?" พายน์ยิ้มมุมปากก้มหน้าลงมองจานข้าวเมื่อเจอคำถามนี้ "ดี..ดีจนรู้สึกว่าเราแย่ไปเลย อิอิ" พายน์กลั้วหัวเราะออกมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องขำขัน "อยากเห็นแล้วสิเขาเรียนที่นี่มั้ย หรือว่าไม่ได้อยู่ที่นี่" "เขาตายไปแล้ว" "ห้ะ!" ใบบัวถึงกับชะงักเมื่อได้ยินพายน์บอกว่าพ่อของลูกตายไปแล้ว "ตายไปจากใจน่ะ"พายน์ตอบให้กระจ่างพรางยิ้มกรุ่มกริ่ม "พายน์อ่ะ อย่าล้อเล่นแบบนี้อีกนะ เราตกใจหมดนึกว่าหลานเราจะกำพร้าพ่อซะแล้ว" "ซอรี่ๆจ้า" ทั้งนั่งคู่คุยกันไปหัวเราะกันไปอย่างถูกคอ โดยไม่รู้ว่าเก้าอี้ข้างหลัง มีกลุ่มนักศึกษาแพทย์กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่สอง-สามคน เกรทเกือบจะสำลักข้าวที่กำลังกลืนลงคอ หลังจากที่ได้ยินคนบางคนเอาเขาไปพูดเล่นหัวร่อต่อกระซิกคิกคักกับเรื่องเป็นเรื่องตายของเขา 'สามเดือนก่อนเป็นโรคซึมเศร้ายังนั่งน้ำตาซึมกลัวฉันตายบ้างล่ะ กลัวต้องเลี้ยงลูกคนเดียวบ้างล่ะ ตอนนี้พูดเล่นได้สบายใจเฉิบ ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ยัยผู้หญิงปลิ้นปล้อน!'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD