“ถ้าไม่จำเป็นฉันจะให้ป้าภาถือไปให้ทำไมกัน อย่าลืมสิว่าเธอต้องเดินกับใคร สิ่งที่เธอทำวันนี้คือหน้าที่ที่เธอต้องทำและต้องทำออกมาให้ดีที่สุด” ในที่สุดเธอก็ต้องตกเป็นทาสความต้องการของเขาอีกครั้ง แต่สิ่งที่เธอได้มาคือเธอจะได้ไปงานเลี้ยงของโรงเรียนสังสรรค์กับเพื่อนๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตน ของเธอคือการเรียนต่อที่ฮ่องกง
ขวัญถอนหายใจยกข้อมือมองนาฬิกาฝังเพชรสวยงามจนเธอตะลึงไปเลยตอนที่เห็นครั้งแรก และชิ้นอื่นๆอีก
“บนตัวขวัญชิ้นไหนแพงที่สุดค่ะ”
“เธอ” พึ่บพึ่บ ขวัญกระพริบตาถี่ๆ ยืนนิ่งงันไป ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากบ้านไปยังรถที่จอดรออยู่แล้ว
“เมื่อกี้เขาหมายความว่าไง” ขวัญพึมพำกับตัวเองและเดินตามเขาออกไปอย่าง งงๆ
แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือดังมาจากมุมห้อง แฝดผู้พี่นี่เอง “เครื่องเพชรชุดนี้...”
“ได้เวลาแล้วไปกันเถอะ” ขวัญฉงนมองแฝดผู้พี่ทีผู้น้องทีสลับไปมา เมื่อกี้คุณอีวานจะพูดอะไร เครื่องเพชรที่เธอสวมอยู่หรือเปล่านะที่เขากำลังจะพูดถึง...ช่างเถอะ!
พึ่บพึ่บ สุภาพสตรีที่ถูกขนาบด้วยชายหน้าตาเหมือนกันซ้ายขวา มารยาททางสังคมขวัญก็พอเข้าใจแม้จะเป็นการออกงานครั้งแรก
“รู้นะ! ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ น้องสะใภ้ต้องไปกับสามีเท่านั้น” ขวัญพยักหน้าอย่างไม่เดือดร้อนเพราะสถานที่แบบนี้เธอไม่มีทางพบเจอคนรู้จักแน่นอน มั่นใจสุดๆ
“ว่าแต่เป็นงานเกี่ยวกับอะไรเหรอคะ” แม้อีวานจะบอกไปแล้วว่าขวัญต้องเป็นคู่ควงของดีแลน แต่พอขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเข้างาน ขวัญกลับเดินอยู่ด้านหลังของดีแลนจากคู่ควงกลายเป็นผู้ติดตามไปเสียได้
“อ้าว! สามีไม่บอกเหรอ” ขวัญเริ่มชินกับคำพูดคำจาของอีวาน เธอจึงส่ายหน้า
“เป็นงานอัญมณีการกุศล” ขวัญยิ่งงง “ก็ประมาณว่าเศรษฐีเอาเครื่องเพชรของตนออกมาอวดกันและบริจาคของบางชิ้นเพื่อนประมูลและเอาเงินที่ได้ไปช่วยหน่วยงานต่างๆ” ขวัญพยักหน้าเข้าใจ
“แล้วพวกคุณจะมาประมูลเหรอคะ” คราวนี้อีวานส่ายหน้า
“บริจาคอัญมณีต่างหาก และมาเป็นเกียรติให้กับคนที่คลั่งไคล้ดีแลน เชื่อมั้ยว่าค่ำคืนนี้จะมีเศรษฐีมากมายสวมใส่เครื่องเพชรที่ดีแลนออกแบบกันอย่างล้นหลาม”
“เขาเก่งมากๆเลยเหรอคะ” ฮะแฮ่ม! เสียงกระแอมของคนข้างหน้า พร้อมกับฝีเท้าที่หยุด ขวัญที่เดินอยู่ด้านหลังแทบเบรกไม่ทัน
“เมื่อไหร่จะรู้จักหน้าที่ซักที”
“รับทราบค่ะ!” ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของขวัญทำให้อีวานถึงกับหัวเราะออกมา ปกติเขาเจอแต่พวกหงอให้กับน้องชาย พึ่งจะเห็นแต่ขวัญเนี่ยละที่ไม่ใยดีต่อความรู้สึกของดีแลน คงท้าทายไม่น้อยสำหรับเจ้าน้องชาย
“สวัสดีค่ะ" เริ่มต้นที่หญิงสาวสองสามคนหน้าตาเฉิดฉายเจิดจรัสปรี่เข้ามาหาดีแลนโดยทันทีเมื่อเขาปรากฎตัวในสถานที่จัดงาน และขวัญพยายามเก็บอาการขบขันของตัวเองไว้ ยามที่พวกเธอๆเหล่านั้นเห็นดีแลนสองคน พวกเธอไม่ได้ใกล้ชิดกับนักออกแบบจึงแยกไม่ออกว่าใครคือดีแลน ฟง ตัวจริง
คุณฟงไม่ใช่พวกตลกโปกฮาเขาไม่ล้อเล่นที่จะแกล้วพวกเธอเหล่านั้น “สวัสดีครับผมดีแลน” เขาเอ่ยบอกออกไปทันทีเมื่อเห็นว่าพวกเธอทำหน้าไม่ถูก และขวัญก็ไม่น้อยใจเลยสักนิดในทางตรงข้ามเธอกลับดีใจมากที่เธอไม่ได้อยู่ในสายตาของเหล่าสาวๆ เธอจึงฉวยโอกาสตอนที่ดีแลนถูกรุมเร้าค่อยๆดึงอีวานห่างออกมา
“หิวเหรอ” อีวานเอ่ยถาม
“เปล่า ตอนแต่งตัวป้าภาจัดอาหารมาให้กินถึงห้องนอนเลย อิ่มแปร่”
“แล้วมาทำไมตรงนี้”
“คนน้อยดี แปลกเนอะอาหารจัดไว้อย่างหรูหรา แต่กลับไม่ได้รับการสนใจ”
“เวลาการจัดงานไม่เยอะมาก ตรงโน้นน่าตื่นตาตื่นใจกว่าตั้งเยอะ”
“ถ้าหลงป่าอยู่ อะไรจะน่าตื่นตาตื่นใจกว่า แม้ไม่หลงป่าของพวกนั้นและพวกนี้...” ขวัญยกแขนยกมือและหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบ “ไม่ทำให้ชีวิตอยู่ต่อไปได้หรอก พวกนี้ต่างหาก” และกลับมาชี้ที่อาหารมากมายตรงหน้า
“ข้าน้อยขอคาราวะ” ขวัญหัวเราะด้วยเพราะสนใจอาหารมากกว่าแม้ปากจะบอกว่าอิ่มก็ตามที หมับ! ขนมเค้กขนาดพอดีกินมีอยู่หลายชิ้นในถาดแต่ทำไมชิ้นนี้จะต้องมีสองมือที่ต่างขนาดกันเลือกมันด้วย!
“เมฆ!” ขวัญเอ่ยขึ้นก่อนเพราะคนตรงหน้ามัวแต่ตะลึง แบบไม่แน่ใจเพราะวันนี้เพื่อนสาวที่ตัวเองแอบรู้สึกมากกว่าเพื่อนเปลี่ยนไป
“ขวัญเหรอเนี่ย...สวยอ๊ะ” เมฆพูดออกมาอย่างกับคนละเมอ
“อ้าวเจอกันอีกแล้ว” อีวานจำเมฆได้ก็พึ่งเมื่อวานเองที่ได้เจอกัน เมฆทักทายกลับตามมารยาทสังคม
“ขวัญมีเพื่อนแล้ว คุณอีวานไปช่วยน้องชายของคุณเถอะ”
“ก็ช่วยอยู่นี่ไง” ห๊า! ขวัญเอียงคอไม่เข้าใจ และอีวานก็ไม่ไปไหน แถมยังมายืนคั่นกลางระหว่างขวัญกับเมฆเสียอีก ผู้ชายด้วยกันแค่มองแววตาก็มองกันออกแม้จะต่างวัยกันก็ตาม
“ขวัญขอไปห้องน้ำนะคะ” อีวานพยักหน้าและดักทางเมฆที่จะเดินไปเป็นเพื่อนว่า
“เดี๋ยวฉันอยู่เป็นเพื่อนกับเพื่อนของขวัญให้” ขวัญมุ่นคิ้ว จำเป็นเหรอที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนกันแต่ขวัญก็ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไปดี จริงๆแล้วเธอก็อยากอยู่กับเมฆเพียงลำพังมากกว่า
“ผมชอบขวัญ” เมฆที่เข้าใจว่าอีวานคงเป็นญาติผู้ใหญ่ของขวัญ ซึ่งเมฆเข้าใจไม่ผิดเพราะพี่ชายของสามีก็ถือเป็นญาติคนหนึ่งเช่นกัน
“ก็เรื่องของนาย ความรู้สึกของนายใครจะไปห้ามได้ แต่ความรู้สึกของขวัญฉันก็ห้ามไม่ได้ แต่มีคนที่ห้ามได้ ซึ่งเขาคนนั้นไม่มีทางอนุญาตเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆเลย มันคือหนทางที่ดีที่สุด แนะนำอย่างผู้หวังดี”
“ไม่เห็นจะเข้าใจ”
“ก็เรื่องของนาย” ทั้งสองจับจ้องมองกันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ในขณะที่หญิงสาวที่ถูกเอ่ยถึงกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ
“คุณฟง” ใบหน้าของดีแลนบ่งบอกถึงอารมณ์อย่างไม่ต้องเดา
“เสร็จธุระแล้วก็เข้าไปด้วยกันและต่อจากนี้ห้ามอยู่ห่างฉันเกินครึ่งฟุตเข้าใจมั้ย”
“เข้าใจค่ะ”
“ดี”
“แต่…” ดีแลนที่กำลังจะหมุนตัวหันควับกลับมา หลี่ตาเล็กลงทันที “ขวัญกลัวเป็นลมไปอีกนะคะ”
“ช่างมัน ถ้ามันจะเป็นก็ปล่อยให้มันเป็นไป” ขวัญกลอกตาไปมาและเดินตามแผ่นหลังเขาในระยะที่เขาบอก
หมับ! ดีแลนหงุดหงิดจึงคว้าเธอมาจูงและเดินเคียงข้างกัน กลับเข้าไปในงาน
“สวยจริงๆ” ขวัญมองคนโน้นทีคนนี้ที แต่พวกเขากลับไม่ได้สบตาเธอเลย แล้วคำชมพวกนั้นคือ อ่อ! เครื่องเพชรที่เธอสวมอยู่นี่เอง เมื่อกี้นี้เธอเอาตัวเองถอยออกมาจากวงพวกเขาเลยไม่ทันเห็นเครื่องประดับบนตัวเธอนี่เอง
“เสียดายจังเลยนะคะที่ไม่ออกขาย เหมาะกับหญิงสาววัยประมาณนี้มาก”
“เป็นของขวัญสำหรับภรรยาของผมเท่านั้นครับ” !!!!! คราวนี้ทุกคนชะงัก รวมถึงขวัญด้วย เธอเงยหน้ามองดีแลนทันที
“ข่าวลือคือเรื่องจริง”
“ครับ” จู่ๆขวัญก็หูอื้อตาลาย เธอกำลังจะเป็นลมจริงๆ เพราะตอนนี้สายตาของทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเขา ต่างมองมาที่หน้าเธอแล้ว ชมสิ! ว่าสวยไม่ใช่ทำหน้าเหมือนกำลังเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแบบนี้
ฮื้อ ฮื้อ ฮื้ออออออ!!!!
“เป็นอะไรไป?” เสียงของดีแลนสอดแทรกท่ามกลางความเงียบภายในรถที่ตั้งแต่ออกมาจากงานเลี้ยง ก็ยังไม่มีใครเอ่ยวาจาอะไรออกมาเลยสักคำ “ขวัญ” เมื่อถามอยู่นานแต่เสียงตอบกลับยังเงียบอยู่ เขาจำต้องเอ่ยเรียกคนที่เขาถามอีกครั้ง
“ขวัญจะเป็นอะไรก็ช่างเถอะคะ วันนี้ขวัญมาทำหน้าที่ของขวัญของขวัญแล้ว คุณฟงก็อย่าลืมสัญญาเรื่องงานเลี้ยงของโรงเรียนด้วยก็พอ” บรรยากาศภายในรถเงียบสงัดลงอีกครั้ง
“อีวานเลื่อนตั๋วออกไปแล้ว พวกเราจะเดินทางไปฮ่องกงทันทีในวันถัดจากงานเลี้ยงของโรงเรียน”