“ผมไปด้วยก็ได้ครับแต่ไม่ดื่มเหมือนเดิมนะ”
ทุกครั้งที่ไปคลับกับเฟรชและมะเหมี่ยวแบบครบทั้งกลุ่ม ตัวของอัคคีมักจะไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยให้เหตุผลว่าแพ้ซึ่งมันเป็นปกติที่หนุ่มเนิร์ดทุกคนจะเป็น
“ไม่มีใครบังคับให้อัคคีดื่มหรอก รู้อยู่ว่าแพ้แอลกอฮอล์”
เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกมา ตลอดสามปีที่ผ่านมาก็ไม่มีใครบังคับสักครั้งเพราะทุกคนเข้าใจในเหตุผล หากบังคับให้ดื่มแล้วเป็นอะไรขึ้นมาจะแย่กันหมด
“ผมแพ้แอลกอฮอล์แต่ไปนั่งดื่มโค้กเหมือนเดิมได้ครับ”
“ดีๆเอาเป็นว่าคืนนี้สามทุ่มที่เดิมนะ” มะเหมี่ยวนัดแนะเวลาเพราะในเมื่อทุกคนตกลงพร้อมใจจะไปก็ไม่จำเป็นต้องรออะไรอีกแล้ว
“มะเหมี่ยวมึงมารับกูด้วยนะ คืนนี้กูจะเมา” เฟรชพูดขึ้นเพราะเธอตั้งใจจะเมา เธอมีแผนมากกว่าหนึ่งมากกว่าการจะเต้นอ่อยอัคคีเฉยๆ แกล้งเมาหรือเมาจริงๆแล้วให้อัคคีไปส่ง
“กูรับบทสารถีอีกแล้วสินะ” ถึงจะบ่นออกไปแบบนี้แต่มะเหมี่ยวก็ไม่ปฏิเสธอะไรออกไป หากเป็นความสุขของเพื่อน
เป็นเส้นทางส่งเพื่อนไปให้ถึงฝั่งฝัน เขาก็โอเค
“อัคคีมึงจะไปยังไง” หลุยส์ได้แต่เอ่ยถามอัคคี
“ผมขับรถไปเองครับ ผมมั่นใจยังไงหลุยส์ก็ต้องไปกับผู้หญิงอีก”
หากจะให้ไปกับหลุยส์ก็คงต้องหาทางกลับเอง สู้ขับรถไปเองยังจะดีกว่าเพราะเพื่อนสนิทคนนี้ไปคลับทีไรได้สาวกลับด้วยตลอดทุกที
“เออ ฮ่าๆ กูก็จะบอกให้มึงขับรถไปนั่นแหละ”
“ถ้าอัคคีไม่อยากขับรถไปให้มะเหมี่ยวไปกับก็ได้นะ”
เพราะมะเหมี่ยวไปรับได้อยู่แล้ว ยังไงคอนโดอัคคีก็คือทางผ่านมันไม่ได้ทำให้เสียเวลาเลย
“ผมขับรถไปดีแล้วครับ จริงๆให้ผมไปรับมะเหมี่ยวกับเฟรชก็ได้ ผมกลัวว่าสองคนจะเมาขับรถไม่ไหว”
เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกมาเพราะหากสองสาวเมา ใครจะเป็นคนขับรถกัน สู้ให้เขาไปรับยังจะดีกว่า
“กูไหวอยู่แล้ว คนที่พร้อมเมาคืนนี้คือเฟรชนู่น” มะเหมี่ยวตอบกลับไปตามตรง ยังไงคืนนี้เธอไม่หวังจะเมาจะอยู่แล้วเพราะต้องการดูการกระทำของเพื่อนสนิท
“ก็อยากเมานี่หน่า”
สำหรับเฟรชเธออยากเมาจริงๆเผื่อว่าจะเห็นอะไรหลายๆอย่างในตัวอัคคี
“อกหักหรือยังไงถึงอยากเมา” หลุยส์ได้แต่เอ่ยถามออกไปเพราะปกติเพื่อนคนนี้ไปเมาที่ไหน มีแต่เต้นยั่วโปรยเสน่ห์ให้คนทั่วทั้งคลับเชยชม
“ไม่อกหักก็เหมือนอกหักนะเพราะเขาไม่ได้สนใจกูเหมือนที่กูสนใจเขา”
“ใครจะไม่สนใจมึง” ถึงหลุยส์จะพูดแบบนี้ออกไปแต่ทว่าสายตากลับหันมองอัคคีเพราะสิ่งที่เฟรชพูดจะเป็นใครไปได้อีกนอกจากอัคคี
“ผมว่าเราเรียนกันเถอะครับ อาจารย์มาแล้ว” อัคคีได้แต่เปลี่ยนเรื่องเพราะตอนนี้อาจารย์ก็มาแล้ว เรื่องที่พูดก่อนหน้านี้ก็ควรพับเอาไว้
ใครไปทำให้อกหักกัน ใจจริงสนใจจะตายไปแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่เมินเฉยไปบ้างแต่หากเมื่อไหร่ที่ได้ทำสัญญาเลยว่าจะทำให้อีกคนทนไม่ไหวรู้สึกเหมือนจะเป็นจะตายกับรสชาติเซ็กซ์ที่มอบให้
“ถ้าวิชานี้ไม่มีเช็คชื่อ พวกมึงไม่เห็นกูนั่งอยู่ตรงนี้หรอก” หลุยส์พูดขึ้นอย่างหัวเสีย ใจจริงๆไม่ได้อยากมาเรียนด้วยซ้ำแต่ติดตรงว่าวิชานี้ดันเช็คชื่อ
“กูเชื่อ” มะเหมี่ยวไม่เถียงเลยเพราะหากไม่มีเช็คชื่อก็คงไม่เห็นเธอเช่นกัน เรียนเช้าขนาดนี้ใครจะอยากมา
“เฮ้อ ! เงียบๆนะครับ ผมจะตั้งใจเรียนแล้ว” อัคคีพูดขึ้นเพราะเสียงเพื่อนๆที่นั่งอยู่ข้างๆมันกำลังสร้างความรบกวนให้กับเขา
“ขอบคุณครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบไม่พูดอะไรกันต่ออัคคีก็ได้แต่เอ่ยขอบคุณ
คลับหรูย่านใจกลางเมือง
“รู้ไหมว่าตั้งแต่ขึ้นมาจนถึงตอนนี้คนยังไม่เลิกมองมึง” มะเหมี่ยวพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ทุกสายตากำลังมองมาที่เฟรชอย่างไม่ลดละ
“รู้จ้าแต่มึงก็ใช่ย่อย ผู้ชายมองไม่ต่างกันหรอก” ไม่ผิดจากที่เฟรชพูดเพราะมะเหมี่ยวก็ได้รับความสนใจไม่ต่างจากเธอเลย
“ฮ่าๆ ไอ้หลุยส์ไปแล้วหรอ” เฟรชถามขึ้นเพราะตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากห้องน้ำ เธอก็ไม่เห็นหลุยส์ที่โต๊ะอีกแล้ว
“สงสัยได้สาว มึงเห็นไหมล่ะมันไปนั่งออเซาะเขาอยู่”
เฟรชหันไปตามเรียวนิ้วของมะเหมี่ยวที่ชี้ไปยังโต๊ะข้างล่าง เพื่อนสนิทอย่างหลุยส์ตอนนี้กำลังนั่งออเซาะกับสาวนมโต
“ใครออเซาะใครกันแน่วะ”
ตอนนี้เฟรชมองไม่ออก เอาเป็นว่าทั้งสองคนก็ดูชอบพอกันไม่น้อยแต่คงไม่ได้สานต่อในความสัมพันธ์เพราะอย่างมากหลุยส์มันก็แค่หวังเอา
“แต่มันคงชอบ นมใหญ่ขนาดนั้น” ไม่แปลกใจที่หลุยส์จะชอบเพราะผู้ชายทุกคนก็ล้วนชอบอยู่แล้ว ผู้หญิงหุ่นดีนมโตใครๆก็อยากได้
เหมือนกับเธอเลย หน้าสวย นมโต ก้นงอน
ใครไม่ชอบก็คงสมรรถภาพทางเพศเสื่อม !
“กูว่าจะไปเต้นข้างล่าง พอดีเจอคนรู้จักอยากไปทักหน่อย มึงไปกับกูไหมเฟรช”
มะเหมี่ยวเริ่มออกอุบาย เธอเจอคนรู้จักจริงแต่ก็อยากให้เฟรชอยู่กับอัคคีด้วยแบบสองต่อสอง ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสแล้วจะปล่อยให้เสียไปทำไม
“ไม่ล่ะ กูยืนเต้นบนนี้แล้วกันที่สำคัญไม่อยากปล่อยให้อัคคีนั่งคนเดียว” ถึงแม้ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มาคลับอัคคีจะนั่งคนเดียวอยู่บ่อยครั้งก็เถอะ
“ผมนั่งคนเดียวได้ครับ” อัคคีพูดขึ้นทันทีเพราะปกติไม่ว่ากี่ครั้งกี่ที หลุยส์ก็มักจะได้สาว ส่วนเฟรชกับมะเหมี่ยวก็พากันไปเต้นโชว์เอวหวาน
“โอเคๆ” มะเหมี่ยวตอบเพียงแค่นี้ก็เดินออกไปทำให้ตอนนี้เหลือเพียงเฟรชกับอัคคีที่นั่งตรงนี้อยู่เพียงสองคน
“ไม่ให้นั่งคนเดียวหรอกแต่ไม่ว่าใช่ไหมหากเฟรชจะเต้นตรงนี้”
คำถามของเฟรชสร้างความแปลกใจให้อัคคีเป็นอย่างมากเพราะมันแปลกไม่น้อยที่เฟรชจะยืนเต้นที่โต๊ะแทนที่จะไปเต้นด้านล่างเหมือนกับมะเหมี่ยว
“ไม่ว่าครับ ตามสบายเลย” แต่ถึงแบบนั้นอัคคีก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าจุดประสงค์ของอีกคนคืออะไร
อยากเต้นก็เต้นไป
ส่วนอัคคีคนนี้จะทำหน้าที่เป็นผู้ชมที่ดี
“ถ้าเฟรชเต้นเสร็จอัคคีช่วยบอกหน่อยนะว่าที่เฟรชเต้นมันดีหรือไม่ดี”
แน่นอนว่าหลังจากพูดจบ ร่างเล็กในชุดเกาะอกเปิดหลังสีแดงเพลิงก็ลุกขึ้นเต็มความสูง มือเรียวปัดผมลอนสีบอร์นให้อยู่ด้านหลังก่อนจะเริ่มวาดลวดลายตามจังหวะเพลง
มือเรียวยังขึ้นสลับกับลูบไล้ไปตามร่างกาย ทุกจังหวะการขยับตัวของเฟรชเรียกสายตาของคนทั่วทั้งคลับได้เป็นอย่างดีรวมถึงคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างอัคคีด้วย
ถึงแม้จะเป็นการขยับตัวเพียงเบาๆแต่กลับแฝงไปด้วยความเซ็กซี่จนใครต่อใครต่างให้ความสนใจ ก้อนเนื้อในกายของอัคคีสูบฉีดเลือดอย่างแรงกับภาพตรงหน้าที่เห็น
หน้าอกอวบขาวที่ชุดเกาะอกแทบจะปิดไม่มิด เด้งขึ้นลงตามจังหวะการขยับตัวของเฟรชรวมถึงก้นกลมที่โผล่ให้เห็นเพราะชุดรั้งขึ้นไป
ให้ตายเถอะ ! อัคคีแทบจะทนไม่ไหวกับภาพตรงหน้า
อัคคีรู้ดีว่าในตอนนี้เฟรชกำลังเต้นยั่วเขาเพราะสายตาของเธอไม่เคยว่อกแว่ก ไม่ว่าจะเต้นท่าไหน ขยับร่างกายไปทางไหนแต่สายตาไม่เคยเปลี่ยนไปไหนจับจ้องมาทางเขาตลอด
จนกระทั่งบทเพลงจบลง เฟรชไม่ได้นั่งลงที่ตัวเองแต่อย่างใด เธอเดินมานั่งข้างๆอัคคีซึ่งเป็นเก้าอี้ของหลุยส์
“อัคคีคิดว่าเฟรชเต้นเป็นยังไงบ้าง” เฟรชถามออกไปเพื่อต้องการคำตอบ เธอออกแรงเต้นออกสเต็ปซะขนาดนี้ เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนมองอย่างอัคคีจะรู้สึกยังไง
“ผมว่าเฟรชห่างๆผมหน่อยก็ได้นะครับ”
เพราะตอนนี้มันใกล้เกินไปแล้ว ถึงแม้ความจริงอัคคีจะอยากใกล้ชิดกับเฟรชมากกว่านี้แต่ก็นั่นแหละ หากแสดงออกมากไปเหยื่อที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ล่าก็อาจจะตกใจ
“เฟรชอยากรู้ว่าเฟรชเต้นเป็นยังไงบ้าง”
เฟรชยังคงถามออกมา เธออยากรู้ว่าในสายตาของอัคคีเธอเต้นเป็นยังไง เธอมองไม่ผิดหรอกและรู้ดีว่าอัคคีมองเธอตาไม่กะพริบเพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องมีคำตอบ
“ดีครับ” อัคคีตอบกลับไปตามตรงเพราะมันดีมาก ดีจนตัวเขาแทบจะทนไม่ไหว ได้แต่กดแรงอารมณ์เอาไว้เพราะหากแสดงสันดานดิบออกไป หนุ่มสายเนิร์ดที่สวมรอยมาถึงสามปีก็คงหายไป
“แล้วอัคคีชอบไหม”
“เฟรชเห็นนะว่าอัคคีมองเฟรชตาไม่กะพริบเลย”
แน่นอนว่าอัคคีไม่ได้ปกปิดสายตาของตัวเอง เขามองเฟรชอย่างหลงใหลและแน่นอนผู้ชายทุกคนที่มองก็คงมองในแบบสายตาเดียวกัน
ท่าเต้นเบาๆที่ชวนให้หลงใหล การขยับตัวเล็กน้อยที่ไม่ว่าจะทำท่าทางยังไงก็มีเสน่ห์จนไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้
“ผมว่าเฟรชขยับออกหน่อยดีไหมครับ แบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไหร่”
หากใกล้กว่านี้อัคคีก็ไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองจะอดทนไหวหรือเปล่า ในใจได้แต่บอกตัวเองว่ายุบหนอ ใจเย็นเข้าไว้ ตอนนี้มันเป็นเวลาของเหยื่อที่ควรได้เล่นสนุก ไม่ใช่เวลาของผู้ล่าอย่างเขา
การเต้นยั่วมันยังเบๆถึงจะแทบทนไม่ไหวแต่มันก็ยังไม่ถึงเวลาที่อัคคีจะเปิดเผยตัวตน ในตอนนี้อัคคีรู้เพียงแค่ว่าเฟรชเข้าหาเพราะต้องการอ่อย
แต่อ่อยเพื่ออะไรเขาไม่อาจจะรู้ได้
อ่อยเพราะอยากเอาชนะตามนิสัยของเธอ อ่อยเพราะอยากได้อยากเอาตามความเคยชินหรืออ่อยเพราะความชอบรวมถึงความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน อัคคีต้องรู้ก่อนว่าเหตุผลในการอ่อยของเฟรชคืออะไร
“แล้วแบบนี้เหมาะไหม”
“เฟรช !”
“เฟรชโคตรชอบเพลงนี้แต่จะชอบสุดๆหากได้เต้นอยู่บนตัวของอัคคี”
❤️
อัคคีกำหมัด ยัยเฟรชแรงเกิน !