ตอนที่ 7 | ไม่ควรคิดอะไรเกินเลย

1940 Words
“แล้วแบบนี้เหมาะไหม” เฟรชนั่งคร่อมลงบนตักแกร่งของอัคคีพร้อมกับสองแขนเรียวที่ยกขึ้นโอบล้อมรอบลำคอของอัคคีเพื่อกันตัวเองตก “เฟรช !” อัคคีตกใจไม่น้อยได้แต่เอ่ยเรียกอีกคนสุดเสียง ให้ตายเถอะ ! แบบนี้มันเกินไปแล้ว เฟรชถึงเนื้อถึงตัวกันเกินไป “เฟรชโคตรชอบเพลงนี้แต่จะชอบสุดๆ หากได้เต้นอยู่บนตัวของอัคคี” เฟรชบอกเหตุผลของตัวเองออกไปแต่จริงๆมันก็แค่ข้ออ้างเพราะแท้จริงแล้วเธอต้องการจะอ่อย “ผมว่าเฟรชลงดีกว่า” อัคคีบอกความต้องการของตัวเองออกไป ถึงจะตกใจแต่ใช่ว่าเขาจะผลักออกเพราะกลัวว่าเฟรชจะเจ็บแต่ในใจก็ได้แต่ยิ้มกริ่มกับการกระทำของเฟรช ให้ตายเถอะ ! เขาชอบจริงๆ “ขอเต้นบนตัวอัคคีเพลงนึงไม่ได้หรอ รู้ไหมท่าเต้นเพลงนี้มันเหมาะมากนะกับท่านั่งของเราในตอนนี้” “เฟรชอ่อยผมหรอ” แน่นอนว่าในตอนนี้อัคคีอยากรู้ไม่น้อยเลยว่าเฟรชจะตอบอะไรกลับมา ถึงจะสวมรอยเป็นหนุ่มเนิร์ดแต่หนุ่มเนิร์ดก็ไม่ใช่คนซื่อหรือคนที่ไม่รู้ประสีประสา “แล้วได้ไหม” เฟรชไม่มีคำตอบอะไรกลับมาแต่ทว่าเธอกลับถามคำถามออกไป “ไม่ดีหรอกครับ เฟรชลุกเถอะนั่งแบบนี้มันก็ไม่ดีนะ” ถึงแม้จะถูกใจอัคคีแต่เขาก็แกล้งทำว่าไม่โอเค ในเมื่อสวมบทหนุ่มเนิร์ดก็ต้องเนิร์ดให้สุดใจ “มือน่ะวางไว้ตรงนี้สิ ไม่ใช่จับโซฟาอยู่แบบนั้น” เฟรชไม่สนใจคำพูดของอัคคีแม้แต่น้อย เธอเมินเฉยก่อนจะจับมือหนามาวางไว้ที่ก้นกลม นับว่าเป็นครั้งแรกที่อัคคีได้สัมผัสกับก้นกลมจากที่แอบมองมานาน มันนิ่มจนอัคคีอยากลูบและอยากเอาใบหน้าลงไปฟัด “เฟรช !” “เฟรชไม่ถือหรอกนะ คิดเสียว่าเอามือประคองไม่ให้เฟรชตกตอนเต้นแล้วกัน” พูดจบร่างกายเล็กที่นั่งคร่อมบนตักแกร่งก็เริ่มออกสเต็ปวาดลวดลายขยับร่างกายเบาๆทุกท่วงท่าการเต้นทำก้นกลมนิ่มๆสัมผัสไปมากับเป้ากางเกงของอัคคี อัคคีได้แต่นั่งนิ่งขบกรามแน่น อยากจับกระแทกให้รู้แล้วรู้รอดกับการกระทำนี้แต่ก็ทำไม่ได้ บอกตัวเองให้อดทนเพียงเท่านั้น “รู้ไหมว่าของอัคคีมันดันก้นเฟรช” เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกมาเพราะในช่วงจังหวะที่เธอเต้น แก่นกายภายใต้กางเกงมันพองโตจนเธอรับรู้ถึงความใหญ่โตบริเวณร่องก้น ถึงจะเดาขนาดไม่ออกแต่ก็พอกรู้อยู่ว่ามันคงไม่เล็ก อาจจะเป็นไซซ์มาตรฐานและที่สำคัญแข็งเป็นลำจนเฟรชอยากเห็นและอยากเชยชิม “รู้แบบนี้เฟรชควรจะลง” เพราะอัคคีไม่ได้พูดเล่นเลย มีอย่างที่ไหนมาทำหน้าระรื่นใส่แต่ก็ลืมไปเพราะปกติแล้วเฟรชเจนจัดในเรื่องพวกนี้ เรื่องเซ็กซ์สำหรับเฟรชเป็นเรื่องปกติและแน่นอนสำหรับอัคคีมันก็เป็นเรื่องปกติแต่หากเป็นอัคคีที่สวมบทหนุ่มเนิร์ดคงเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆ “ไม่อยากให้ช่วยหรอ เฟรชช่วยได้นะ” ในตอนนี้เฟรชพร้อมช่วยเพราะตัวเธออยากเห็นแก่นกายภายใต้กางเกง อยากรู้เหลือเกินว่าอัคคีน้อยจะเป็นยังไง “ผมนั่งเฉยๆเดี๋ยวมันก็หาย ที่สำคัญผมไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้” กระดากปากตัวเองไม่น้อยที่พูดคำนี้ออกไป ทั้งๆที่ในใจและทุกวันนี้อัคคีคิดเรื่องนี้อยู่ทุกวัน หากวันไหนได้ทำสัญญาจะทบต้นทบดอกเอาให้หนำใจ “ให้ตายสิ ! ถามจริงๆเคยช่วยตัวเองบ้างไหม” เฟรชอยากรู้ไม่น้อยเลยได้แต่ถามขึ้นอีกครั้งหรือสิ่งที่เคยคิดว่าอัคคีสมรรถภาพทางเพศเสื่อมมันจะเป็นเรื่องจริง ถึงจะเป็นผู้ชายสายเนิร์ดแต่เรื่องพวกนี้มันควรจะมีบ้างไม่ใช่หรอ “มันต้องเคยหรอครับ” แต่ก็คงไม่ใช่สำหรับอัคคีเพราะคำตอบนี้มันยืนยันแล้วว่าอัคคีไม่เคยช่วยตัวเองและไม่เคยมีเซ็กซ์ ให้ตายสิ ! ในใจก็หวัง หวังว่าความเนิร์ดคงแอบซ่อนความฮอตเอาไว้แต่ที่ไหนได้ไม่มีเลยฮอตเนิร์ดตามที่คิด มีแต่หนุ่มเนิร์ดที่โคตรจะเนิร์ดเลยจริงๆ “เฮ้อ ! เอาเป็นว่าเฟรชลงก็ได้ ตอนแรกคิดว่าจะรู้สึกอะไรที่ไหนได้ตายด้านชะมัด” ไม่ได้อยากจะว่าแต่เฟรชคิดว่าทุกคนคงมีสันดานดิบในตัวแต่ก็นั่นแหละมันไม่ใช่สำหรับอัคคีเพราะอัคคีเหมือนเด็กหัดโตที่ห่างไกลเรื่องพวกนี้ “แล้วเฟรชทำแบบนี้ทำไมหรอครับ ใช่ว่าผมจะดูไม่ออก” อัคคีแกล้งถามออกไปเพราะเขาอยากได้คำตอบที่ชัดเจนจากเฟรช อยากรู้ว่าเฟรชเข้าหาและอ่อยเพราะเหตุผลอะไรเพราะในหัวก็คิดเหตุผลสำรองไว้ต่างๆนานา “อยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ” “ก็คงเป็นคำตอบที่เป็นความจริง” “หากให้พูดตรงๆคือเฟรชสนใจอัคคี” คิ้วเข้มกระตุกไม่น้อยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ อัคคีเองก็สนใจเฟรชและเมื่อรู้แบบนี้มันก็ยิ่งทำหัวใจของอัคคีเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “สนใจผมทั้งๆที่เราเป็นเพื่อนกันน่ะหรอครับ” แต่แล้วเพราะความเนิร์ดทำอัคคีต้องแกล้งถามออกไปแต่ในใจกลับคิดไปอีกอย่าง พูดออกไปเลยได้ไหม ว่าเป็นแฟนกันเถอะ เขารอเวลานี้มานาน รอให้เฟรชสนใจเดินเข้ามาเป็นเหยื่อในหลุมพรางที่วางไว้ “แล้วยังไงเป็นเพื่อนแล้วมันยังไง” ยิ่งเห็นเฟรชหงุดหงิดมันก็ยิ่งทำอัคคีรู้ว่าสิ่งที่เฟรชพูดออกมาเป็นเรื่องจริง เป็นเพื่อนกันมาสามปีอัคคีรู้ดีว่าเฟรชมีนิสัยและเป็นคนยังไง การแสดงออกของเฟรชแบบนี้มันทำให้อัคคีรู้ว่าทุกอย่างล้วนออกมาจากความจริงเพราะหากเฟรชอยากได้อะไรก็ต้องได้และหากสิ่งนั้นยังไม่ได้ตามต้องการ เธอก็จะเอาชนะจนได้มันมา อัคคีจะเป็นแบบนั้นเป็นคนที่เฟรชไม่ได้ได้มาง่ายๆเป็นคนที่เธอต้องทำทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ตัวเขามา “เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่ควรคิดอะไรที่มันเกินเลย” “เพื่อนกันก็สนใจกันได้นะจะบอกให้” หากมันไม่ได้เฟรชจะไม่รู้สึกอะไรแบบนี้เลย ในตอนนี้ยิ่งอัคคีไม่เล่นด้วย ไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะคล้อยตามกับการกระทำของเฟรช มันก็ยิ่งทำให้เฟรชอยากเอาชนะและทำทุกทางให้อัคคีมาเป็นของตัวเอง ในเมื่ออ่อยแบบนี้แล้วมันไม่ได้ผลก็เตรียมตัวรอรับการอ่อยที่มันมากกว่านี้ได้เลยอัคคี ! “ผมว่าเฟรชเมา เดี๋ยวผมไปตามมะเหมี่ยวให้นะ” อัคคีพูดขึ้นพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นเต็มความสูงแต่ทว่าน้ำเสียงที่ดังขึ้นจากเฟรชเรียกความสนใจจากเธอได้ไม่น้อย “ว๊าย ! เปียกหมด” เฟรชพูดขึ้นพร้อมวางแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงบนโต๊ะ เธอไม่ได้ตั้งใจทำเหล้าหกใส่ตัวแต่ก็นั่นแหละเพราะความซุ่มซ่ามแท้ๆ “เหล้าหกใส่ตัวแบบนี้เฟรชกลับดีไหม เหล้ามันซึมจนแทบจะเห็นข้างในหมดแล้ว” เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกมา ตอนนี้ชุดที่เฟรชใส่มันถูกเหล้าซึมจนบาง โชคดีที่มันสีเข้มเลยไม่ได้เห็นไปไหนถึงไหนแต่ถึงแบบนี้ใครต่อใครต่างหันมองจนตัวอัคคีรู้สึกรำคาญ “ถ้าไม่รังเกียจเอาเสื้อผมไปใส่ก่อนไหม” อัคคีเสนอขึ้นเพราะในตอนนี้เขาสวมเสื้อฮู๊ดแต่ทว่าภายในเสื้อฮู๊ดก็มีเสื้อยืดอีกตัวสวมอยู่เช่นกัน “ไม่ปฏิเสธนะว่าแต่อัคคีไปส่งเฟรชหน่อยได้ไหม เฟรชเหนียวตัวยังไงไม่รู้” “ได้ครับ ไปกันเลยไหม” แน่นอนว่าทั้งสองคนเดินออกจากคลับตรงมาที่รถของอัคคี รถยนต์คันหรูทำเฟรชตาลุกวาวได้เป็นอย่างดี อัคคีเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น ให้ตายเถอะ ! รวยชะมัด “เปลี่ยนรถอีกแล้วหรอ” “คุณพ่อซื้อให้ครับ ของขวัญที่จะจบปีสาม” ทำไมเธอไม่ได้ของขวัญแบบนี้บ้างนะ สงสัยต้องไปอ้อนคุณพ่อบ้างแล้วล่ะเผื่อว่าจะได้รถเป็นของขวัญบ้าง “เฟรชให้ผมไปส่งที่ไหนครับ” เมื่อเข้ามาในรถอัคคีก็ถามขึ้นเพราะเขาไม่แน่ใจว่าเฟรชจะไปที่ไหน “ไปคอนโดอัคคีได้ไหม” “อะไรนะครับ” เฟรชไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกแล้ว มือเรียวยกขึ้นประคองใบหน้าหล่อที่หันมาหาเธอก่อนจะประกบปากลงไปบนอวัยวะเดียวกัน ท่าทางของอัคคีตอนนี้คงตกใจมากแต่ทว่าเขากลับอยู่เฉยๆไม่ผลักเฟรชออกแต่อย่างใดและนั่นยิ่งทำให้เฟรชพอใจพร้อมกับป้อนรสจูบให้กับอัคคีและย้ายร่างกายของตัวเองไปนั่งคร่อมบนตักแกร่งของอัคคีที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เฟรชรู้ดีว่าอัคคีไม่มีประสบการณ์ เธอไม่ควรร้อนแรงอะไรมากมาย ได้แต่จูบอย่างอ่อนโยนให้อัคคีรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีให้กันเพราะหากอัคคีมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ท่าทางของเขาคงไม่มีท่าทีตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ เฟรชขบเม้มริมฝีปากหนากระจับได้รูปเบาๆก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นเมื่ออัคคีเผลอเปิดปาก สองมือเรียวยกขึ้นจับมือหนาให้วางไว้ที่ก้นกลมของตัวเอง ตอนนี้อัคคีขืนตัวเองแทนที่จะทำตามสัญชาตญาณ ถึงจะมีประสบการณ์การจูบมาโชกโชนแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นเงอะงะราวกับจูบไม่เป็น อัคคีหลอกล่อให้เฟรชเป็นคนคุมเกมจูบในครั้งนี้และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเขาก็เริ่มจูบตอบด้วยท่าทางประสีประสา จูบแบบอ่อนโยนราวกับพึ่งเคยจูบครั้งแรก ถึงแม้ในใจจะอยากจูบแบบดูดดื่ม ดูดกลีบปากสวยแรงๆแต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เพื่อรอดูว่าเฟรชจะทำยังไงต่อไป เมื่อเริ่มจับทางได้แกล้งทำว่าเริ่มจูบตอบได้แล้ว ลิ้นร้อนของอัคคีก็ไล่เกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นเล็กของเฟรชอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังออกมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีหยุด มือหนาที่วางไว้ที่ก้นกลมก็เริ่มลูบไล้ไปมาเพราะแรงอารมณ์ที่มีก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ามือของตัวเองมันเริ่มทำตามสัญชาตญาณ แน่นอนว่าอัคคีถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเพราะหากนานกว่านี้ทุกอย่างจะเกินเลย ถึงแม้ในใจจะจินตนาการภาพไปจบที่เตียงแต่ก็คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะอัคคีอยากเห็นเฟรชอ่อยมากกว่านี้ อ่อยจนเขาทนไม่ไหวจับเธอกระแทกให้รู้แล้วรู้รอด ❤️ อัคคีทนไหวอีกกี่ตอน ถามหน่อย ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD