“แล้วแบบนี้เหมาะไหม” เฟรชนั่งคร่อมลงบนตักแกร่งของอัคคีพร้อมกับสองแขนเรียวที่ยกขึ้นโอบล้อมรอบลำคอของอัคคีเพื่อกันตัวเองตก
“เฟรช !” อัคคีตกใจไม่น้อยได้แต่เอ่ยเรียกอีกคนสุดเสียง ให้ตายเถอะ ! แบบนี้มันเกินไปแล้ว
เฟรชถึงเนื้อถึงตัวกันเกินไป
“เฟรชโคตรชอบเพลงนี้แต่จะชอบสุดๆ หากได้เต้นอยู่บนตัวของอัคคี” เฟรชบอกเหตุผลของตัวเองออกไปแต่จริงๆมันก็แค่ข้ออ้างเพราะแท้จริงแล้วเธอต้องการจะอ่อย
“ผมว่าเฟรชลงดีกว่า” อัคคีบอกความต้องการของตัวเองออกไป ถึงจะตกใจแต่ใช่ว่าเขาจะผลักออกเพราะกลัวว่าเฟรชจะเจ็บแต่ในใจก็ได้แต่ยิ้มกริ่มกับการกระทำของเฟรช
ให้ตายเถอะ ! เขาชอบจริงๆ
“ขอเต้นบนตัวอัคคีเพลงนึงไม่ได้หรอ รู้ไหมท่าเต้นเพลงนี้มันเหมาะมากนะกับท่านั่งของเราในตอนนี้”
“เฟรชอ่อยผมหรอ”
แน่นอนว่าในตอนนี้อัคคีอยากรู้ไม่น้อยเลยว่าเฟรชจะตอบอะไรกลับมา ถึงจะสวมรอยเป็นหนุ่มเนิร์ดแต่หนุ่มเนิร์ดก็ไม่ใช่คนซื่อหรือคนที่ไม่รู้ประสีประสา
“แล้วได้ไหม” เฟรชไม่มีคำตอบอะไรกลับมาแต่ทว่าเธอกลับถามคำถามออกไป
“ไม่ดีหรอกครับ เฟรชลุกเถอะนั่งแบบนี้มันก็ไม่ดีนะ” ถึงแม้จะถูกใจอัคคีแต่เขาก็แกล้งทำว่าไม่โอเค ในเมื่อสวมบทหนุ่มเนิร์ดก็ต้องเนิร์ดให้สุดใจ
“มือน่ะวางไว้ตรงนี้สิ ไม่ใช่จับโซฟาอยู่แบบนั้น”
เฟรชไม่สนใจคำพูดของอัคคีแม้แต่น้อย เธอเมินเฉยก่อนจะจับมือหนามาวางไว้ที่ก้นกลม นับว่าเป็นครั้งแรกที่อัคคีได้สัมผัสกับก้นกลมจากที่แอบมองมานาน
มันนิ่มจนอัคคีอยากลูบและอยากเอาใบหน้าลงไปฟัด
“เฟรช !”
“เฟรชไม่ถือหรอกนะ คิดเสียว่าเอามือประคองไม่ให้เฟรชตกตอนเต้นแล้วกัน”
พูดจบร่างกายเล็กที่นั่งคร่อมบนตักแกร่งก็เริ่มออกสเต็ปวาดลวดลายขยับร่างกายเบาๆทุกท่วงท่าการเต้นทำก้นกลมนิ่มๆสัมผัสไปมากับเป้ากางเกงของอัคคี
อัคคีได้แต่นั่งนิ่งขบกรามแน่น อยากจับกระแทกให้รู้แล้วรู้รอดกับการกระทำนี้แต่ก็ทำไม่ได้ บอกตัวเองให้อดทนเพียงเท่านั้น
“รู้ไหมว่าของอัคคีมันดันก้นเฟรช”
เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกมาเพราะในช่วงจังหวะที่เธอเต้น แก่นกายภายใต้กางเกงมันพองโตจนเธอรับรู้ถึงความใหญ่โตบริเวณร่องก้น
ถึงจะเดาขนาดไม่ออกแต่ก็พอกรู้อยู่ว่ามันคงไม่เล็ก อาจจะเป็นไซซ์มาตรฐานและที่สำคัญแข็งเป็นลำจนเฟรชอยากเห็นและอยากเชยชิม
“รู้แบบนี้เฟรชควรจะลง” เพราะอัคคีไม่ได้พูดเล่นเลย มีอย่างที่ไหนมาทำหน้าระรื่นใส่แต่ก็ลืมไปเพราะปกติแล้วเฟรชเจนจัดในเรื่องพวกนี้
เรื่องเซ็กซ์สำหรับเฟรชเป็นเรื่องปกติและแน่นอนสำหรับอัคคีมันก็เป็นเรื่องปกติแต่หากเป็นอัคคีที่สวมบทหนุ่มเนิร์ดคงเป็นเรื่องที่ไกลตัวมากๆ
“ไม่อยากให้ช่วยหรอ เฟรชช่วยได้นะ” ในตอนนี้เฟรชพร้อมช่วยเพราะตัวเธออยากเห็นแก่นกายภายใต้กางเกง อยากรู้เหลือเกินว่าอัคคีน้อยจะเป็นยังไง
“ผมนั่งเฉยๆเดี๋ยวมันก็หาย ที่สำคัญผมไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้”
กระดากปากตัวเองไม่น้อยที่พูดคำนี้ออกไป ทั้งๆที่ในใจและทุกวันนี้อัคคีคิดเรื่องนี้อยู่ทุกวัน หากวันไหนได้ทำสัญญาจะทบต้นทบดอกเอาให้หนำใจ
“ให้ตายสิ ! ถามจริงๆเคยช่วยตัวเองบ้างไหม”
เฟรชอยากรู้ไม่น้อยเลยได้แต่ถามขึ้นอีกครั้งหรือสิ่งที่เคยคิดว่าอัคคีสมรรถภาพทางเพศเสื่อมมันจะเป็นเรื่องจริง ถึงจะเป็นผู้ชายสายเนิร์ดแต่เรื่องพวกนี้มันควรจะมีบ้างไม่ใช่หรอ
“มันต้องเคยหรอครับ” แต่ก็คงไม่ใช่สำหรับอัคคีเพราะคำตอบนี้มันยืนยันแล้วว่าอัคคีไม่เคยช่วยตัวเองและไม่เคยมีเซ็กซ์
ให้ตายสิ ! ในใจก็หวัง หวังว่าความเนิร์ดคงแอบซ่อนความฮอตเอาไว้แต่ที่ไหนได้ไม่มีเลยฮอตเนิร์ดตามที่คิด มีแต่หนุ่มเนิร์ดที่โคตรจะเนิร์ดเลยจริงๆ
“เฮ้อ ! เอาเป็นว่าเฟรชลงก็ได้ ตอนแรกคิดว่าจะรู้สึกอะไรที่ไหนได้ตายด้านชะมัด”
ไม่ได้อยากจะว่าแต่เฟรชคิดว่าทุกคนคงมีสันดานดิบในตัวแต่ก็นั่นแหละมันไม่ใช่สำหรับอัคคีเพราะอัคคีเหมือนเด็กหัดโตที่ห่างไกลเรื่องพวกนี้
“แล้วเฟรชทำแบบนี้ทำไมหรอครับ ใช่ว่าผมจะดูไม่ออก” อัคคีแกล้งถามออกไปเพราะเขาอยากได้คำตอบที่ชัดเจนจากเฟรช อยากรู้ว่าเฟรชเข้าหาและอ่อยเพราะเหตุผลอะไรเพราะในหัวก็คิดเหตุผลสำรองไว้ต่างๆนานา
“อยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ”
“ก็คงเป็นคำตอบที่เป็นความจริง”
“หากให้พูดตรงๆคือเฟรชสนใจอัคคี”
คิ้วเข้มกระตุกไม่น้อยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ อัคคีเองก็สนใจเฟรชและเมื่อรู้แบบนี้มันก็ยิ่งทำหัวใจของอัคคีเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“สนใจผมทั้งๆที่เราเป็นเพื่อนกันน่ะหรอครับ” แต่แล้วเพราะความเนิร์ดทำอัคคีต้องแกล้งถามออกไปแต่ในใจกลับคิดไปอีกอย่าง
พูดออกไปเลยได้ไหม ว่าเป็นแฟนกันเถอะ
เขารอเวลานี้มานาน รอให้เฟรชสนใจเดินเข้ามาเป็นเหยื่อในหลุมพรางที่วางไว้
“แล้วยังไงเป็นเพื่อนแล้วมันยังไง”
ยิ่งเห็นเฟรชหงุดหงิดมันก็ยิ่งทำอัคคีรู้ว่าสิ่งที่เฟรชพูดออกมาเป็นเรื่องจริง เป็นเพื่อนกันมาสามปีอัคคีรู้ดีว่าเฟรชมีนิสัยและเป็นคนยังไง
การแสดงออกของเฟรชแบบนี้มันทำให้อัคคีรู้ว่าทุกอย่างล้วนออกมาจากความจริงเพราะหากเฟรชอยากได้อะไรก็ต้องได้และหากสิ่งนั้นยังไม่ได้ตามต้องการ เธอก็จะเอาชนะจนได้มันมา
อัคคีจะเป็นแบบนั้นเป็นคนที่เฟรชไม่ได้ได้มาง่ายๆเป็นคนที่เธอต้องทำทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ตัวเขามา
“เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่ควรคิดอะไรที่มันเกินเลย”
“เพื่อนกันก็สนใจกันได้นะจะบอกให้”
หากมันไม่ได้เฟรชจะไม่รู้สึกอะไรแบบนี้เลย ในตอนนี้ยิ่งอัคคีไม่เล่นด้วย ไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะคล้อยตามกับการกระทำของเฟรช มันก็ยิ่งทำให้เฟรชอยากเอาชนะและทำทุกทางให้อัคคีมาเป็นของตัวเอง
ในเมื่ออ่อยแบบนี้แล้วมันไม่ได้ผลก็เตรียมตัวรอรับการอ่อยที่มันมากกว่านี้ได้เลยอัคคี !
“ผมว่าเฟรชเมา เดี๋ยวผมไปตามมะเหมี่ยวให้นะ” อัคคีพูดขึ้นพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นเต็มความสูงแต่ทว่าน้ำเสียงที่ดังขึ้นจากเฟรชเรียกความสนใจจากเธอได้ไม่น้อย
“ว๊าย ! เปียกหมด” เฟรชพูดขึ้นพร้อมวางแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงบนโต๊ะ เธอไม่ได้ตั้งใจทำเหล้าหกใส่ตัวแต่ก็นั่นแหละเพราะความซุ่มซ่ามแท้ๆ
“เหล้าหกใส่ตัวแบบนี้เฟรชกลับดีไหม เหล้ามันซึมจนแทบจะเห็นข้างในหมดแล้ว”
เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกมา ตอนนี้ชุดที่เฟรชใส่มันถูกเหล้าซึมจนบาง โชคดีที่มันสีเข้มเลยไม่ได้เห็นไปไหนถึงไหนแต่ถึงแบบนี้ใครต่อใครต่างหันมองจนตัวอัคคีรู้สึกรำคาญ
“ถ้าไม่รังเกียจเอาเสื้อผมไปใส่ก่อนไหม” อัคคีเสนอขึ้นเพราะในตอนนี้เขาสวมเสื้อฮู๊ดแต่ทว่าภายในเสื้อฮู๊ดก็มีเสื้อยืดอีกตัวสวมอยู่เช่นกัน
“ไม่ปฏิเสธนะว่าแต่อัคคีไปส่งเฟรชหน่อยได้ไหม เฟรชเหนียวตัวยังไงไม่รู้”
“ได้ครับ ไปกันเลยไหม”
แน่นอนว่าทั้งสองคนเดินออกจากคลับตรงมาที่รถของอัคคี รถยนต์คันหรูทำเฟรชตาลุกวาวได้เป็นอย่างดี อัคคีเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น ให้ตายเถอะ ! รวยชะมัด
“เปลี่ยนรถอีกแล้วหรอ”
“คุณพ่อซื้อให้ครับ ของขวัญที่จะจบปีสาม”
ทำไมเธอไม่ได้ของขวัญแบบนี้บ้างนะ สงสัยต้องไปอ้อนคุณพ่อบ้างแล้วล่ะเผื่อว่าจะได้รถเป็นของขวัญบ้าง
“เฟรชให้ผมไปส่งที่ไหนครับ” เมื่อเข้ามาในรถอัคคีก็ถามขึ้นเพราะเขาไม่แน่ใจว่าเฟรชจะไปที่ไหน
“ไปคอนโดอัคคีได้ไหม”
“อะไรนะครับ”
เฟรชไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกแล้ว มือเรียวยกขึ้นประคองใบหน้าหล่อที่หันมาหาเธอก่อนจะประกบปากลงไปบนอวัยวะเดียวกัน
ท่าทางของอัคคีตอนนี้คงตกใจมากแต่ทว่าเขากลับอยู่เฉยๆไม่ผลักเฟรชออกแต่อย่างใดและนั่นยิ่งทำให้เฟรชพอใจพร้อมกับป้อนรสจูบให้กับอัคคีและย้ายร่างกายของตัวเองไปนั่งคร่อมบนตักแกร่งของอัคคีที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เฟรชรู้ดีว่าอัคคีไม่มีประสบการณ์ เธอไม่ควรร้อนแรงอะไรมากมาย ได้แต่จูบอย่างอ่อนโยนให้อัคคีรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีให้กันเพราะหากอัคคีมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ท่าทางของเขาคงไม่มีท่าทีตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้
เฟรชขบเม้มริมฝีปากหนากระจับได้รูปเบาๆก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นเมื่ออัคคีเผลอเปิดปาก สองมือเรียวยกขึ้นจับมือหนาให้วางไว้ที่ก้นกลมของตัวเอง
ตอนนี้อัคคีขืนตัวเองแทนที่จะทำตามสัญชาตญาณ ถึงจะมีประสบการณ์การจูบมาโชกโชนแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นเงอะงะราวกับจูบไม่เป็น
อัคคีหลอกล่อให้เฟรชเป็นคนคุมเกมจูบในครั้งนี้และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเขาก็เริ่มจูบตอบด้วยท่าทางประสีประสา จูบแบบอ่อนโยนราวกับพึ่งเคยจูบครั้งแรก ถึงแม้ในใจจะอยากจูบแบบดูดดื่ม ดูดกลีบปากสวยแรงๆแต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เพื่อรอดูว่าเฟรชจะทำยังไงต่อไป
เมื่อเริ่มจับทางได้แกล้งทำว่าเริ่มจูบตอบได้แล้ว ลิ้นร้อนของอัคคีก็ไล่เกี่ยวพันหยอกล้อกับลิ้นเล็กของเฟรชอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงน้ำลายเฉอะแฉะดังออกมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีหยุด
มือหนาที่วางไว้ที่ก้นกลมก็เริ่มลูบไล้ไปมาเพราะแรงอารมณ์ที่มีก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ามือของตัวเองมันเริ่มทำตามสัญชาตญาณ
แน่นอนว่าอัคคีถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเพราะหากนานกว่านี้ทุกอย่างจะเกินเลย ถึงแม้ในใจจะจินตนาการภาพไปจบที่เตียงแต่ก็คงไม่ใช่ตอนนี้
เพราะอัคคีอยากเห็นเฟรชอ่อยมากกว่านี้
อ่อยจนเขาทนไม่ไหวจับเธอกระแทกให้รู้แล้วรู้รอด
❤️
อัคคีทนไหวอีกกี่ตอน ถามหน่อย ?