“เอาสาวไหม กูจะเรียกให้” หลุยส์ถามขึ้นทันทีเพราะปกติหากอัคคีเป็นแบบนี้มันก็ไม่พ้นการหาสาวๆ มาอยู่ข้างเคียงกาย
“หึ ! ไม่เอาวะ ถึงจะอยากแต่กูไม่เอา ไหนๆเฟรชก็สนใจกูแล้ว สู้กูอดทนเก็บไว้เอากับเฟรชคงจะดีกว่า”
เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกไป ไม่ได้เอาสาวไม่ตาย หากรู้สึกอยากก็ช่วยตัวเอง อดทนเอาไว้แล้วไปปล่อยใส่อีกคนคงน่าสนุกไม่น้อย
“แววรักเมียมาแต่ไกลแต่จริงๆจะทำก็ทำได้เพราะในตอนนี้มึงกับเฟรชไม่ได้เป็นอะไรกันนะอัคคี”
สำหรับหลุยส์ อัคคีคือคนที่ไม่เคยขาดเซ็กซ์ หากขาดไปนานๆความต้องการก็จะมีมากและเมื่อปล่อยออกมาอีกครั้ง สภาพคนคนนั้นก็คงไม่เหลือ
“กูรู้แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้อยากทำกับคนอื่นขนาดนั้น” อัคคีตอบกลับไปตามตรง ในตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีความต้องการมากมายขนาดที่ทนไม่ไหวและไม่ได้อยากทำกับใครคนอื่น
ก็อีกคนเล่นอ่อยไว้ซะขนาดนี้
ทำเอาอัคคีเหลียวแลคนอื่นไม่ได้ !
“จะบอกว่าโดนเฟรชอ่อยครั้งเดียวทำมึงไม่อยากเอาคนอื่นเลยดิ”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ผิด” เพราะอัคคีรู้สึกแบบนี้จริงๆไม่คิดเหมือนกันว่าเฟรชจะมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้ มีอิทธิพลจนอัคคีไม่สนใจใคร
“เฟรช แม่ง ! ของจริงว่ะ”
“แล้วมึงจะเผยตัวตนจริงๆของมึงตอนไหน” หลุยส์ได้แต่ถามขึ้นเพราะเขารอลุ้นตามไม่ไหวว่าเหตุการณ์ระหว่างเพื่อนสนิทสองคนมันจะไปในทิศทางไหน
“ก็คงเป็นตอนที่อดทนไม่ไหว ตอนนี้เกมมันพึ่งเริ่ม กูไม่รีบร้อนหรอกปล่อยให้เฟรชเล่นสนุกไปก่อน”
การเป็นคนที่มองดูมันก็สนุกดี อัคคีให้เวลาเฟรชเต็มที่ทำทุกอย่างจนเขาทนไม่ไหวแล้วเมื่อไหร่ที่เส้นขีดความอดทนขาดลง เฟรชจะไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไป
เกมทุกอย่างจะพลิกให้อัคคีเป็นคนคุมเกม ส่วนเฟรชน่ะหรอ ? เป็นได้แค่เหยื่อตัวน้อย
“กูจะรอดู”
“ว่าแต่ทำไมมึงสั่งเหล้าแรงจังว่ะ” อัคคีสงสัยไม่ได้เพราะแอลกอฮอล์ที่หลุยส์สั่งมาแทบทำตัวเขาดื่มต่อไปไม่ไหว ไม่ว่าจะรสชาติรวมถึงกลิ่น ปริมาณแอลกอฮอลล์อีก ตั้งใจจะให้เมาเลยไหม
“ก็คิดว่ามึงจะเอาสาวเลยสั่งของแรงไว้ให้”
“แรงเกินน่ะสิ ! พรุ่งนี้ไปเรียนอีก”
“สั่งมาก็รับผิดชอบด้วยแล้วกัน กูกลับล่ะ”
หากพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเรียนเขาก็ดื่มไหวอยู่หรอกแต่เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าทำให้อัคคีไม่อยากฝืนตัวเองเพราะตอนนี้ก็กรึ่มเต็มทน
“อ้าว ! มาแค่นี้น่ะหรอ”
“กินให้หายอยากแล้วก็กลับกูผิดตรงไหน ไหนๆมึงก็จะไปต่ออยู่แล้ว กูกลับก็คงไม่มีผลอะไร”
“เออๆ” ถึงจะงุนงงแต่หลุยส์ก็ไม่พูดอะไรต่อเพราะหลังจากอัคคีกลับไป ตัวเขาก็เดินไปกับสาวและพาไปโรงแรมในที่สุด
วันต่อมา
“กระเป๋ามึง” มะเหมี่ยวที่มาถึงก็วางถุงแบรนด์เนมแบรนด์หรูให้กับเพื่อนสาวคนสนิท
“กรี๊ด ! สีแดงสวยมาก”
เฟรชที่แกะกระเป๋าเอาออกมาดูก็ได้แต่ร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ตาแตก แตกแตนมากแม่ กระเป๋าสีแดงคือเลิศมาก สวยของความสวยสวยที่สุด !
“สวยเหมาะกับคนร้อนแรงแบบมึงที่สุดเลยเฟรช”
แน่นอนว่ามะเหมี่ยวพูดจริง ส่วนตัวเฟรชเป็นคนชอบสีแดงอยู่แล้วและเธอก็เห็นด้วยเพราะสีแดงเหมาะกับเฟรชเพื่อนของเธอจริงๆ
“จริงที่สุด เงินกูโอนให้แล้วนะ”
“ขอบใจจ้ะว่าแต่เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง” ในตอนนี้มะเหมี่ยวอยากรู้ไม่น้อย อยากรู้ว่าทุกอย่างคืบหน้าไปถึงไหนและมีโอกาสหรือยังที่เพื่อนสาวของเธอจะได้เลื่อนความสัมพันธ์
“ไม่ได้อะไรเลยนอกจากความรู้”
“อย่าบอกนะว่าติวจริงๆ”
“อืม ติวจริงๆอัคคีจริงจังจนกูไม่กล้าขัดอะไรเลย”
เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกมา ในระหว่างการติว เฟรชตั้งใจมากจนมีความรู้ทุกอย่างประดับไว้ในหัว อัคคีจริงจังจนเฟรชไม่กล้าอ่อยหรือทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาการติว การอ่อยเล็กๆจึงเริ่มในตอนที่ติวเสร็จ
“ฮ่าๆ ยอมแพ้หรือยังไง”
“โอ๊ย ! กูไม่ยอมแพ้หรอก ไหนๆคืนนี้ก็คืนวันศุกร์ มึงชวนหน่อยดิ”
ในตอนนี้เฟรชมีแผนอยู่ในใจแต่หากจะให้ตัวเองเป็นคนพูดชวนออกไปก็อาจจะดูเหมือนตั้งใจจนเกินไปเพราะฉะนั้นแล้วให้มะเหมี่ยวเป็นคนชวนดีที่สุดแล้ว
“ไปดื่มหรอ”
“ใช่ ! ชวนไปดื่มแล้วกูก็จะเต้นยั่ว” นี่คือแผนของเฟรช แผนการเต้นยั่วอัคคี ยั่วให้สุดจนอัคคีทนไม่ไหว
“จะไปเต้นยั่วอะไร อัคคีนั่งกับโต๊ะไม่เคยไปไหน”
ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ไปคลับกัน ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่อัคคีจะลุกจากโต๊ะไปทำอย่างอื่นนอกจากเข้าห้องน้ำ แผนการนี้มะเหมี่ยวไม่รู้เลยว่ามันจะสำเร็จผลหรือเปล่า
“ก็เต้นยั่วที่โต๊ะเลย ไอ้หลุยส์เดี๋ยวมันก็ไป ไอ้นี่ไม่เคยไม่ได้สาวหรอก”
“เดี๋ยวกูชวนให้แต่ขอแต่งตัวเต็มๆนะ กูอยากรู้ว่าอัคคีจะหวั่นไหวหรือเปล่า”
แน่นอนว่ามะเหมี่ยวเองก็อยากรู้ไม่น้อยว่าคืนนี้จะออกมาเป็นยังไง เธอลุ้นไปกับเฟรชและลุ้นด้วยว่าอัคคีจะรู้สึกอะไรไหมเพราะในสายตาของมะเหมี่ยว อัคคีไม่ต่างจากเด็กสามขวบ
“กูก็อยากรู้เหมือนกัน ร้อยทั้งร้อยต่างหวั่นไหวแต่หากอัคคีไม่รู้สึกอะไรกูว่าเขาคงมีปัญหา”
เฟรชคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยเพราะผู้ชายทุกคนให้ความสนใจกับเธอเสมอหากเธอโปรยเสน่ห์หรืออ่อย
“ปัญหาอะไรของมึง”
“สมรรถภาพทางเพศเสื่อมมั้ง”
ปัญหาเดียวที่เฟรชคิดออกคือปัญหานี้ หากอัคคีมีปัญหานี้จริงๆเธอคงต้องขอถอยออกมาเพราะเซ็กซ์สำหรับเฟรชคือส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต
“ยัยบ้า ! เนิร์ดๆแบบนั้นหากไม่รู้สึกก็ไม่แปลกหรอก มีอยากที่ไหนไปว่าเขาเสื่อม”
“ไม่รู้ๆ อย่าลืมชวนนะ”
“กูจะชวนตอนนี้เลย เฮ้ ! ทางนี้ไอ้หลุยส์ อัคคี” มะเหมี่ยวที่เห็นเพื่อนสนิทอีกคนกำลังเดินเข้ามาก็ตะโกนขึ้นและโบกมือให้รู้ว่าเธออยู่ตรงนี้
“มึงจะแหกปากโวยวายทำไมมะเหมี่ยว” หลุยส์ที่มาถึงก็เอ่ยถาม กระโตกกระตากโวยวายไปได้ ให้ตายเถอะ !
“จะชวนไปกินเหล้าคืนนี้” มะเหมี่ยวบอกความต้องการของตัวเองออกไป ไม่สิ ! ความต้องการของเฟรชต่างหาก
ในตอนนี้หลุยส์ได้แต่หันมองหน้าอัคคีเพราะเมื่อคืนเขาสองคนพึ่งจะไปดื่มกันมาและแน่นอนพวกเขาดื่มหนักกันมาก
เอาจริงๆก็ไม่หนักเท่าไหร่แต่เพราะเป็นตัวแรงทำให้เมาง่ายไปหน่อยและเหล้าตัวแรงก็หายไปครึ่งขวด หากเทียบกับปริมาณแอลกอฮอล์ก็เยอะมากนะสำหรับการดื่มสองคน
“กูไปนะ อยากเอาแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย” เฟรชที่รู้งานก็รีบตอบทันควันเพราะเธอไม่ต้องการให้ใครปฏิเสธ หากหลุยส์ไม่ไป เธอมั่นใจว่ายังไงอัคคีก็ไม่ไป
“มึงห้ามปฏิเสธนะไอ้หลุยส์ ส่วนอัคคีไปด้วยกันนะ” มะเหมี่ยวพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งสรรพนามและน้ำเสียงที่พูดกับสองคนต่างกันราวฟ้ากับเหว
“โห่ ! ดูๆชวนกูกับไอ้อัคคีทำไมต่างกันขนาดนี้”
“กูทรีตอัคคีเป็นลูก ส่วนมึงหมาวัด”
“ไอ้มะเหมี่ยว !”
ในตอนนี้เฟรชกับอัคคีปวดหัวไม่น้อยเพราะทุกครั้งมักจะเป็นแบบนี้ มะเหมี่ยวกับหลุยส์เป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสามก็ไม่เห็นว่าจะเลิกกัดกันมีแต่กัดแรงกว่าเดิมในทุกๆครั้งและการทะเลาะโต้เถียงแบบนี้จะไม่จบลงเลยหากไม่มีใครคอยห้ามปราม
“ผมไปด้วยก็ได้ครับแต่ไม่ดื่มเหมือนเดิมนะ”
“ไม่มีใครบังคับให้อัคคีดื่มหรอก รู้อยู่ว่าแพ้แอลกอฮอล์”
“ผมแพ้แอลกอฮอล์แต่ไปนั่งดื่มโค้กเหมือนเดิมได้ครับ”
❤️
รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมเข้าได้ยัง ?