ตอนที่ 4 | แต่งเนิร์ดไว้หลอกเหยื่อ

1538 Words
“เฟรช !” อัคคีได้แต่เอ่ยเรียกอีกคนด้วยความตกใจ “ทำไมดูตกใจ” “จะไม่ให้ผมตกใจได้ยังไงในเมื่อตอนนี้เฟรชกับผม…” นั่นสิ ! จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงในเมื่อตอนนี้เฟรชกำลังนั่งอยู่ระหว่างขาของเขา การกระทำอันแสนอุกอาจทำอัคคีทำตัวไม่ถูกได้แต่นั่งนิ่งๆไม่กล้าขยับไปไหน หากขยับมันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเองเพราะเฟรชใช่ว่าจะธรรมดา หากสันดานดิบในตัวเองออกมาความเป็นเพื่อนคงสิ้นสุดในคืนนี้ “เฟรชแค่ขึ้นมานั่งบนโซฟากับอัคคีมันไม่มีอะไรเลย” “แต่ตอนนี้มันเหมือนกับว่าผมกำลังนั่งซ้อนหลังเฟรชอยู่นะครับ” เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกมา เฟรชใช้ช่วงจังหวะที่อัคคีเผลอขึ้นมานั่งระหว่างขาบนโซฟาตัวเดียวกัน มันทำให้ตอนนี้อัคคีเหมือนกับว่ากำลังนั่งซ้อนแผ่นหลังขาวๆ “เฟรชเป็นคนขึ้นมาเอง อัคคีไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก เป็นไปได้ไม่อยากนั่งแบบนี้ด้วยซ้ำ” แน่นอนว่าเฟรชไม่อยากนั่งแบบนี้ ท่านี้มันก็แค่ท่านั่งธรรมดา ไม่ได้มีผลอะไรในช่วยการอ่อยทำให้อัคคีสนใจเลยสักนิด ให้ตายเถอะ ! น่าเสียดายจริงๆ “แล้วเฟรชอยากนั่งแบบไหนครับ นั่งคนเดียวใช่ไหม” อัคคีพูดจบก็ทำท่าจะลุกแต่ทว่าคำพูดของเฟรชทำตัวเขาแข็งทื่อไม่กล้าทำอะไรต่อ “เฟรชอยากนั่งคร่อมบนตักของอัคคีมากกว่า” “เฟรช” คำพูดของเฟรชสร้างความตกใจให้อัคคีไม่น้อย ในใจลึกๆอัคคีก็อยากจับเฟรชนั่งคร่อมแล้วขย่มแต่ก็นั่นแหละ หากจะทำแบบนั้นในตอนนี้ก็คงต้องเผยธาตุแท้ แน่นอนว่ามันเร็วเกินไป ในตอนนี้อัคคียังอยากเห็นเฟรชเล่นสนุก เป็นคนคุมเกม โชว์การอ่อย โปรยเสน่ห์ให้ตัวเขาหลงใหลจนทนไม่ไหวมันคงจะสนุกกว่านี้ “ฮ่าๆ เฟรชล้อเล่น ยังไงวันนี้ก็ขอบคุณมากนะที่ติวให้ เฟรชกลับก่อนดีกว่าวันนี้รบกวนเวลาของอัคคีเยอะแล้ว” “ขับรถกลับดีๆนะครับ” อัคคีไม่เร้าหรือแม้แต่จะขอให้อยู่ต่อเพราะการที่เฟรชกลับไปในตอนนี้มันดีที่สุดแล้ว ดีต่อตัวเฟรชที่สุดแล้ว “ถึงคอนโดจะทักบอกนะ อัคคีจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” “ครับ” แน่นอนว่าหลังจากที่เฟรชกลับไป อัคคีก็กดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนชายคนสนิทอย่างหลุยส์ “มีอะไร” หลุยส์ที่รับสายก็ไม่รอช้าพูดขึ้น “มึงอยู่ไหนไอ้หลุยส์” สรรพนามของอัคคีไม่ได้ทำให้หลุยส์แปลกใจเพราะหลุยส์เป็นคนเดียวในเพื่อนสามคนที่รู้ธาตุแท้ของอัคคี รู้ตั้งแต่วันแรกแต่ก็แสร้งทำตัวไม่รู้เรื่องดูอัคคีรับบทนักแสดงมาสามปีเต็มๆ “อยู่คลับ” “เดี๋ยวกูไป” “ไปอยากจากใครมาอีก ถึงมาคลับได้” เพราะหากไม่ใช่เหตุผลนี้มีหรอคนอย่างอัคคีจะมาคลับอัคคีระวังตัวเองดีมากเพราะการไปคลับกับหลุยส์สองคน อัคคีไม่ได้ไปแบบหนุ่มสายเนิร์ด “เดี๋ยวไปเล่าแล้วกัน สั่งไว้เลยคืนนี้กูเลี้ยงเอง” “จัดไปสิครับเพื่อน” หลังจากวางสายจากหลุยส์ อัคคีก็ใช้เวลาไม่นานในการแต่งตัวตัวและขับรถมายังคลับหรูย่านชานเมือง ระหว่างทางที่ขับรถมาเสียงข้อความการแจ้งเตือนจากเฟรชก็ดังขึ้น แต่ทว่าอัคคีกลับไม่ได้สนใจและไม่แม้แต่จะตอบกลับเพราะตอนนี้มันไม่ใช่เวลา ค่อยตอบพรุ่งนี้โดยให้เหตุผลว่านอนแล้วก็ยังได้ การแต่งตัวของอัคคีในตอนนี้ต่างไปจากทุกๆวัน เขาไม่ได้แต่งตัวสไตล์หนุ่มเนิร์ด ไม่มีแว่นบดบังใบหน้า อัคตีแต่งตัวตามสไตล์ตัวเอง เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนสีซีดขาดเข่าเพิ่มความเท่ให้กับตัวเอง ระหว่างที่เดินเข้ามาเหล่าผีเสื้อราตรีก็ต่างหันมองต่างให้ความสนใจกับบุคคลที่มาใหม่อย่างอัคคีเป็นจำนวนมาก “เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเนิร์ดสักที รู้ไหมกูชอบมึงแบบนี้มากกว่าหนุ่มเนิร์ดหอยสังข์อะไรนั่นอีก” ทันทีเมื่อมาถึงหลุยส์ก็เอ่ยทักเพื่อนสนิท เขาน่ะอยากให้ทุกคนเห็นอัคคีแบบนี้จริงๆรับรองเลยว่าคงหงายหลังล้มตึงเพราะคาดไม่ถึงว่าอัคคีจะไม่ใช่หนุ่มสายเนิร์ด “แต่งเนิร์ดไว้หลอกเหยื่อ แล้วเหมือนว่าเหยื่อตัวนั้นกำลังเดินเข้ามาหากูแล้ว” เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกไป เขาทำตัวเนิร์ดเพื่อหลอกเหยื่อและดูเหมือนว่าเหยื่อตัวนั้นกำลังจะติดกับดัก “หมายความว่ายังไง” ในตอนนี้หลุยส์สงสัยไม่น้อยว่าที่อัคคีมันหมายความว่าอะไร “ก็หมายความตามที่พูด” “เฟรชน่ะหรอ” เหตุผลเดียวที่อัคคีแกล้งทำตัวเนิร์ดคือเฟรชเพื่อนสนิทในกลุ่ม หากพูดแบบนี้ออกมาแปลว่าตอนนี้เฟรชกำลังสนใจอัคคีใช่ไหม ? “เออ ! เมื่อกี้มาหากูถึงห้อง ให้กูติวเนื้อหาที่เรียนวันนี้ให้” อัคคีพูดออกไปทันทีเพราะเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าเฟรชจะมาหากันโดยอ้างว่าติวหนังสือ จุดประสงค์จริงๆไม่ใช่การติวหนังสือหรอก แต่เป็นการอ่อยอัคคีต่างหาก “แค่ติวจริงๆหรอวะ” เพราะหลุยส์คิดดีไม่ได้เลย สำหรับเฟรชถือว่าเป็นตัวแรงคนหนึ่ง เป็นคนที่ผู้ชายต่างเข้าหาเพราะเธอมีครบทุกอย่าง “วันนี้แค่ติวแค่เฟรช แม่ง ! ก็อ่อย กูแทบทนไม่ไหว” เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกมา เขาแทบทนไม่ไหวกับการกระทำของเฟรช อัคคีรู้ว่าวันนี้เฟรชไม่ได้อ่อยแบบปล่อยออกมาหมดเต็มกำลังแต่เป็นการอ่อยแบบโยนหินถามทางเพื่อดูว่าอัคคีจะเล่นด้วยไหม อัคคีมั่นใจไม่น้อยว่าเฟรชจะไม่หยุดลงเพียงแค่นี้แต่เธอจะหาวิธีต่างๆทำทุกวิถีทางให้ตัวของอัคคีสนใจ “อยากรู้เลยว่ะอ่อยยังไง” หลุยส์อยากรู้สุดๆ ชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความแซ่บของเฟรชใครๆต่างก็รู้ ตัวเขาเองก็อยากรู้ว่าเฟรชจะอ่อยอัคคียังไง “ไม่บอกเพราะของแบบนี้กูรู้ได้คนเดียว” เรื่องอะไรอัคคีจะยอมบอก ถึงในครั้งนี้เฟรชจะไม่ได้อ่อยอะไรมากก็เถอะแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะบอกอยู่ดี ให้ตายยังไงก็ไม่บอก ! “แบบนี้ก็สมใจมึงเลยดิ เล่นทำตัวเป็นหนุ่มเนิร์ดมาตั้งสามปี” จะว่าสมใจก็สมใจอยู่ไม่น้อย แกล้งทำตัวซื่อหลอกเหยื่อมานานถึงสามปี จะไม่ให้ดีใจจนสมใจก็เกินไปเพราะตลอดเวลาที่ทำตัวเนิร์ด มันค่อนข้างขัดกับความเป็นจริงของอัคคี คนเดียวที่รู้ธาตุแท้ก็มีแต่หลุยส์ “ถึงแบบนั้นกูก็ไม่เผยธาตุแท้เร็วๆนี้หรอกเพราะกูเองก็อยากรู้ว่าเฟรชจะทำยังไงต่อ” มันน่าตื่นเต้นไม่น้อย หากคนที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือแท้จริงแล้วเป็นเหยื่อที่รอวันโดนขย้ำ ในตอนนี้อัคคีให้เฟรชเป็นผู้ล่าได้เต็มที่ ทำทุกอย่างได้ตามต้องการและเมื่อไหร่ที่เส้นขีดความอดทนของอัคคีขาดลง ถึงวันนั้นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ล่า เป็นเสือผู้แข็งแกร่งก็จะได้รู้ตัวว่าแท้จริงแล้วตัวเองก็ไม่ต่างจากเหยื่อตัวน้อยที่รอวันโดนขย้ำ “พวกมึงมันสมน้ำสมเนื้อ เฟรชก็โคตรแซ่บ ส่วนมึงไม่ต้องพูดถึงเก็บไว้ได้ยังไงสันดานดิบในตัวน่ะ” ก็ไม่ผิดจากที่หลุยส์พูดออกมา อัคคีมั่นใจว่าตัวเองกับเฟรชก็คงสมน้ำสมเนื้อเพราะอัคคีว่าตัวเองก็พอตัว จากที่เคยผ่านการมีเซ็กซ์กับคนอื่นๆไม่ว่าจะซื้อกินหรือดีลตามคลับ ทุกคนล้วนอยากกลับมาให้อัคคีตอกใส่อีกครั้ง แต่สำหรับอัคคีหากเป็นคนที่ดีลมาก็ต้องบอกตรงๆว่าไม่กินซ้ำเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่ตามมา ส่วนหากเป็นคนที่ซื้อมาด้วยเงินหรือเรียกว่าซื้อกิน ก็เอาซ้ำได้อยู่เพราะคนพวกนี้ต้องการแค่เงิน เงินมาปัญหาก็จบ “กูจะเหยียบไว้ให้มิดเลยล่ะ” แน่นอนว่าอัคคีจะเหยียบสันดานดิบในตัวไว้ให้มิด ไม่ให้มันออกมาโลดแล่นเพราะมันจะไม่เป็นผลดี ควรออกมาในเวลาที่เหมาะสมคงจะดีที่สุด “เอาสาวไหม กูจะเรียกให้” “หึ ! ไม่เอาว่ะ ถึงจะอยากแต่กูไม่เอา ไหนๆเฟรชก็สนใจกูแล้ว สู้กูอดทนเก็บไว้เอากับเฟรชคงจะดีกว่า” “แววรักเมียมาแต่ไกลแต่จริงๆจะทำก็ทำได้เพราะในตอนนี้มึงกับเฟรชไม่ได้เป็นอะไรกันนะอัคคี” ❤️ แววรักเมียมาแต่ไกล เพื่อลูกเขยประเสริฐ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD