“เฟรชไม่ควรทำแบบนี้” อัคคีพูดขึ้นทันทีหลังจากถอนจูบออก ถึงแม้ในใจจะชอบและถูกใจมากแค่ไหนก็ตามแต่ก็แสร้งทำเป็นคนดีไม่เคยพบเจออะไรพวกนี้
“แค่จูบเอง จูบกันไม่เสียหายหรอกนะ”
เป็นจริงตามที่เฟรชพูดออกมาเพราะสำหรับเธอการจูบมันไม่ได้ส่งผลอะไรเลยแต่ต่างกับอัคคีเพราะจูบจูบนี้สร้างความตื่นเต้นให้เฟรชไม่น้อย
ผู้ชายพูดน้อยคนนี้แต่ปากนุ่มเป็นบ้าที่สำคัญหวานมากเหมือนกัน เฟรชติดใจไม่น้อยเลยล่ะและเธอคิดแล้วว่าจะหาข้ออ้างสอนอัคคีจูบ
“แต่เฟรชเป็นเพื่อน เพื่อนกันไม่จูบกันหรอกนะครับ”
สำหรับอัคคีถึงไม่ใช่เพื่อน เป็นคนอื่นหรือแม้แต่กระทั่งคนที่ดีลมาเขาก็จูบหมด เว้นเสียอย่างเดียวคือผู้หญิงที่ซื้อกินเขาจะไม่จูบเด็ดขาด
“เฟรชชอบอัคคีแบบนี้พอจะจูบได้ไหม” เฟรชให้เหตุผลออกไปเพราะคำว่าชอบเพียงคำเดียว ทำเฟรชอยากทำทุกๆอย่าง อยากเอาชนะตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองสามารถเอาชนะใจของอัคคีได้ไหม
“เฟรชสนใจผมจริงๆหรอ” อัคคีได้แต่ถามออกไป สายตาหลบมองต่ำแกล้งทำว่าเขินอาย
แต่ทว่าในใจกลับเฉยๆรู้สึกธรรมดากับความรู้สึกนี้เพราะในตอนนี้เขารู้ดีว่าเฟรชรู้สึกยังไงกับเขาและเขาก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอ
หากให้บอกความจริงไปในตอนนี้ก็คงไม่สนุก สู้แสร้งทำตัวเนิร์ดเหมือนเดิมแล้วรอดูการอ่อยของเฟรชคงจะดีกว่า
“เฟรชพูดจริงๆเฟรชสนใจอัคคี”
“สนใจผมเพราะอะไรหรอ”
“เพราะเห็นอัคคีถอดแว่นมั้ง”
คำตอบของเฟรชทำอัคคีตกใจไม่น้อย หากจำไม่ผิดตัวเขาไม่เคยถอดแว่นเลยหากอยู่กับเพื่อนๆจะถอดเพียงแค่อยู่กับหลุยส์เท่านั้น สองสาวเพื่อนสนิทในกลุ่มไม่เคยได้เห็นอัคคีมั่นใจ
“ตอนไหนครับ” อัคคีถามกลับไปด้วยความอยากรู้ ในใจรู้สึกร้อนรนกลัวว่าเฟรชจะรู้ว่าแท้จริงแล้วอัคคีเป็นคนยังไง
หากรู้ความจริงในตอนนี้ก็คงหมดสนุก
“ตอนไหนไม่สำคัญหรอกแต่ขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามาสิครับ”
แน่นอนว่าอัคคีไม่ปฏิเสธอะไร หากเฟรชไม่พูดอะไรออกมา เขามั่นใจได้หนึ่งอย่างคือเฟรชคงไม่ได้เจอเขาในตอนที่ไม่ได้คีพลุคหนุ่มเนิร์ด
“จูบแรกหรอ” ในตอนนี้เฟรชอยากรู้สุดๆ
จูบของอัคคีมันบ่งบอกทุกอย่างก็จริงแต่เฟรชก็อยากได้คำตอบที่ชัดเจน ถึงเธอจะมั่นใจเกินร้อยก็เถอะเพราะผู้ชายเนิร์ดๆซื่อๆแบบนี้ ไม่มีทางหรอกที่จะเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้
“ผมทำได้ไม่ดีหรอครับ” อัคคีเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองทำได้ดีหรือเปล่า ปกติหากจูบกับใครสักคนมันไม่มีสักครั้งที่อัคคีจะเป็นฝ่ายอยู่เฉยๆและตามแบบนี้
เขามักจะเป็นคนคุมเกมจูบ จูบอย่างร้อนแรงและดูดดื่ม จูบจนอีกฝ่ายต้องใช้มือทุบหน้าอกเป็นการบอกว่ายอมแพ้สำหรับจูบในครั้งนี้
“ดีมากแล้วสำหรับครั้งแรกแต่ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ เฟรชสอนอัคคีจูบทุกวันเลยดีไหม”
คำพูดของเฟรชสร้างความน่าสนใจให้อัคคีเป็นอย่างมาก ได้จูบกันคนที่ชอบ ได้จูบกับคนที่ตัวเองสนใจ ใครกันจะไม่อยากทำ
“แต่เราเป็นเพื่อนกันนะเฟรช” แต่ทว่าเพราะความเนิร์ดทำให้อัคคีต้องทำตัวเป็นคนดี ทั้งๆที่ในใจร้อนรุ่มอยากโดนสอนจูบเพื่ออัพสกิลและจูบตอบในแบบที่ตัวเองต้องการ
“ใครอยากเป็นเพื่อน เฟรชออกตัวขนาดนี้อยากเป็นมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว”
“แต่ผม…”
“อัคคีไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้ก็ได้” เฟรชรู้ดีว่าในตอนนี้ทุกอย่างคงจะเร็วมากสำหรับอัคคีและมันก็คงจะแปลกใหม่ไม่น้อยเพราะอัคคีถือเป็นมือใหม่ในเรื่องนี้
“ถ้าแบบนั้นก็ได้ครับ”
“แต่ระหว่างนี้หากเฟรชจะสอนอัคคีจูบในทุกๆวันจะเป็นอะไรไหม”
“ผมไม่รู้ว่ามันควรหรือไม่ควร”
ในใจตอบตกลงไปนานแล้วแต่เป็นแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน ทุกอย่างในชีวิตน่าลุ้นมากขึ้นว่าในแต่ละวันตัวของอัคคีควรจะรับมือกับเฟรชแบบไหนดี
“อัคคีชอบเฟรชไหมล่ะ ถ้าชอบเฟรชก็ต้องให้เฟรชสอน”
“ผมไม่รู้ครับ ผมไม่เคยชอบใคร ไม่เคยมีความรู้สึกรักชอบกับใคร”
คำพูดนี้อัคคีโกหกออกไปเต็มๆเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาต่อให้เขาจะเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากมายแต่ทว่าเขากลับรู้สึกดี ชอบ จนกลับกลายเป็นความรักกับเฟรชเพียงคนเดียว
“เด็กน้อยจังเลยนะ”
ในตอนนี้เฟรชอดเอ็นดูไม่ได้เลยเพราะอัคคีของเธอน่ะเหมือนเด็กน้อยหัดรัก หัดเรียนรู้อะไรต่างๆในความสัมพันธ์และเฟรชก็มั่นใจไม่น้อยเลยว่าหากอัคคีได้เรียนรู้จากเธอ เขาจะเป็นผู้ชายที่โคตรแซ่บเพราะตัวเธอเองก็ได้รับขนานนามเรื่องความแซ่บมาไม่มากไม่น้อย
“ว่าแต่ให้ผมไปส่งเฟรชที่ไหนดีครับ” อัคคีถามขึ้นทันทีเพราะมีตอนนี้ทุกอย่างเลยเถิดจนอัคคีแทบจะเก็บสติไว้กับตัวเองไม่ได้
“ไปห้องอัคคีไง”
แน่นอนว่าเฟรชพูดจริง ในคืนนี้เธอไม่อยากกลับไปนอนคนเดียวที่คอนโด ไปนอนห้องอัคคีคงจะดีกว่าเยอะ จะได้อ่อยได้ยั่วทำให้คนเนิร์ดๆตบะแตก
“ห้องผมหรอครับ”
“อื้อ ! ไปห้องอัคคี ตอนนี้เฟรชรู้สึกเมามากเลย อัคคีดูแลเฟรชหน่อยได้ไหม” เฟรชพูดขึ้นพร้อมเอียงตัวซบไหล่แกร่งแกล้งทำตัวว่าเมาเพื่อหวังว่าอัคคีจะได้เห็นใจ
“ปกติหากเฟรชดื่ม ใครดูแลเฟรชครับ”
“เฟรชดูแลตัวเองแต่วันนี้เฟรชอยากให้อัคคีดูแล”
อัคคีรู้ดีว่าเฟรชโกหก ปกติหากไปคลับด้วยกัน อัคคีรู้ดีว่าเฟรชมักจะมีคนกลับด้วยเสมอ ถึงเขาจะชอบและรู้สึกดีกับเฟรชแต่ในเรื่องตรงนี้ เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะใช่ว่าจะมีแค่เฟรชคนเดียวที่ไปมีความสัมพันธ์กับใคร อัคคีเองก็มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นเรื่อยมาเช่นกันนั่นเพราะทั้งอัคคีกับเฟรชไม่มีสถานะต่อกัน
“ผมลำบากใจจัง”
ทุกคำพูดสวนทางกับสิ่งที่คิดในใจทุกอย่าง อัคคีโคตรจะโอเคเลยกับทุกๆสิ่งที่เฟรชพูดมา อยากไปก็ให้ไปไม่ขัดอะไรแต่ทุกอย่างต้องมีชั้นเชิงสไตล์หนุ่มเนิร์ด
“นะๆอัคคี ช่วยดูแลเฟรชหน่อยน้า”
“ก็ได้ครับ” สุดท้ายก็แสร้งว่าทนกับลูกอ้อนไม่ไหว ได้แต่ตอบตกลงอย่างไม่ขัดอะไรเพราะท่าทางที่เฟรชกำลังทำมันทำหัวใจของอัคคีเต้นแรง
ฟอด !
“ชอบอัคคีจัง” ไม่พูดเปล่าแต่ใบหน้าสวยยังหอมแก้มเนียนของอัคคีอย่างถือวิสาสะ
ปากว่านุ่มแล้ว ส่วนแก้มก็นุ่มไม่ต่างกันเลย
“เฟรชหอมแก้มผม”
แน่นอนว่าอัคคีตกใจเพราะการกระทำของเฟรชทำเขาไม่ทันตั้งตัวแต่จูบก็จูบมาแล้ว อันนี้แค่แก้มหอมมันดูเล็กน้อยไปเลย
“จูบก็จูบกันมาแล้วแค่หอมแก้มเอง ไม่เป็นอะไรหรอก”
สำหรับเฟรชการหอมแก้มมันธรรมดาไม่ต่างจากการจูบเลย ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกายล้วนแต่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเฟรชไปหมด
อัคคีเองก็เช่นกัน หากอยู่ในตอนที่เขาไม่ได้เป็นหนุ่มเนิร์ด ทุกอย่างก็ธรรมดาไปหมดเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงที่จะมีอารมณ์
แต่หากเป็นตอนที่อัคคีอยู่ในร่างหนุ่มเนิร์ด ทุกอย่างมันเกินไปมาก หนุ่มเนิร์ดคนนี้ไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องนี้เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็จะตกใจและตื่นตระหนกอยู่เสมอ
“การกระทำของเฟรชทำผมใจเต้นแรง”
เป็นจริงตามที่อัคคีพูดออกไป ไม่ว่าจะตอนไหนทุกการกระทำของเฟรชมักทำอัคคีใจเต้นแรงเสมอ ไม่ว่าเธอจะโปรยเสน่ห์ใส่ใครหรือแม้แต่กระทั่งใส่ตัวของอัคคีเอง
“แล้วรู้สึกดีไหม”
“ก็รู้สึกดีครับแต่ไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร”
เด็กเนิร์ดหัดรักแบบอัคคีตอบไม่ได้หรอกว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรแต่หากเป็นอัคคีอีกคน เขาตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
“ไม่ต้องรีบนะ ทบทวนดีๆเฟรชไม่เร่งรัดอัคคีหรอก”
“ครับ” ถึงเฟรชจะเร่งรัดอัคคีก็จะไม่รีบเพราะในตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาจริงๆเวลาที่อัคคีจะเผยตัวตนมันยังไม่ใช่ตอนนี้
“เฟรชอยากอาบน้ำ อัคคีพอมีเสื้อผ้าให้ยืมไหม” เมื่อมาถึงคอนโดหรูของอัคคี เฟรชก็ไม่รอช้าที่จะพูดขึ้น เธอเหนียวตัวแทบแย่เพราะเหล้าที่หกใส่ตัวจนถึงตอนนี้ก็เกือบชั่วโมง
หากตัวเธอเป็นสิ่งของตอนนี้มดคงมาเต็ม
“ในห้องผมเฟรชหยิบใส่ได้ทุกตู้เลยครับ”
แน่นอนว่าเมื่อได้รับคำอนุญาตจากอัคคี เฟรชก็ไม่รอช้าเดินตรงเข้ามาอาบน้ำในห้องนอน ระหว่างอาบน้ำก็ถอดชั้นในและจีสตริงสีแดงลายลูกไม้แขวนไว้ที่ราวผ้าขนหนู
เธออยากรู้จริงๆหากลูกหมาซื่อๆอย่างอัคคีเห็นของพวกนี้จะรู้สึกยังไง
ในตอนนี้เฟรชได้แต่ยกยิ้มกับการกระทำของตัวเองก่อนจะเดินออกมาหยิบเสื้อเชิ้ตของอัคคีมาสวมโดยที่ใต้ร่างเสื้อเชิ้ตตัวนี้ไม่มีอะไรปกปิด
จะว่าอ่อย จะว่าให้ท่าก็ได้
ในเมื่อลูกหมาตัวนี้ไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรแล้วทำไมเธอต้องกลัว
“ยืมเสื้อเชิ้ตตัวนี้ไม่ว่าอะไรใช่ไหม” เฟรชถามขึ้นทันทีพร้อมมองอัคคีและยกยิ้มให้ ร่างกายสวยหมุนตัวไปมาให้อัคคีเห็นว่าตัวเธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวไหนอยู่
แน่นอนเฟรชเลือกตัวที่สั้นที่สุดและเหมือนจะบางที่สุดในตู้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ !
การอ่อยโดยเสื้อเชิ้ต
“มะ…ไม่ว่าครับ”
สายตาคมมองไปยังร่างกายสวยที่ตอนนี้มีเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของเขาปกปิดอยู่ ความบางของเสื้อมันทำให้อัคคีมองเห็นยอดปทุมถันสีชมพูสวยเสียดสีกับเสื้อ ส่วนด้านล่างก็แทบจะไม่เห็นอะไรนอกจากความเนียนของแก้มก้นที่โผล่พ้นออกมาจากชายเสื้อ
“มองแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“เฟรชโป๊”
“โป๊ที่ไหนกัน เฟรชมีเสื้ออัคคีอยู่บนตัวนะ”
“แต่เสื้อมันบางมากเลยนะครับ”
❤️
อดทนเก่งขนาดนี้หรือว่าความจริง
อัคคีสมรรถภาพทางเพศเสื่อม ?