ไม่สบาย

1387 Words
ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังหลับใหลได้ที่ ด้วยความเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง แถมยังต้องมาจัดห้องที่รกรุงรัง ร่างกายที่บอบบางของเธอ ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะกวาดบ้าน เวลานี้ก็เริ่มจะมีไข้ตัวของเธอเริ่มร้อนระอุเป็นไฟ ในขณะที่นายหัวคเชนทร์เตรียมตัวจะออกไปสวนยาง ในเวลาเที่ยงคืน เขาตั้งใจจะแกล้งเธอ ให้สาสมกับที่มารดาของเธอได้พรากความรักของบิดาไปจากมารดาของเขา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! คเชนทร์เคาะประตูหลายครั้ง แต่ม่านฟ้าก็ไม่เปิดให้เขาสักที เพราะในเวลานี้เธอไม่มีแม้แต่แรงจะลุกยืน มันปวดเมื่อยไปหมด "ม่านฟ้าฉันบอกให้เธอเปิดประตู ออกมาได้เวลาแล้ว!” นายหัวคคเชนทร์ตะโกนออกไป แต่ก็ไร้เสียงตอบรับกลับมา ทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตัดสินใจพังประตูเข้าไป ปึง!!! "ลุกขึ้นมาได้ยินไหมที่เรียก บอกให้ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” นายหัวคเชนทร์ยืนตะคอกอยู่ข้างๆ ม่านฟ้า หญิงสาวกลับนอนนิ่ง ไม่ได้สนใจกับเสียงที่เขาพูด เวลานี้เธอเริ่มมีอาการหนาวสั่น "หนาว!” ม่านฟ้าพูดพร้อมกับขดตัวงอ เพราะไข้ขึ้นสูง จึงทำให้เธอหนาว จนสั่นสะท้านไปทั้งตัว "อย่ามาสำออย ถ้าจะเล่นละครก็ไปเล่นที่อื่น” นายหัวคเชนทร์พูดยังไงม่านฟ้าก็ไม่ยอมลุกขึ้น แถมยังขดตัวพร้อมกับสั่นระริก ชายหนุ่มตัดสินใจดึงเธอลุกขึ้นมา และแล้วเขาก็ต้องตกใจ เมื่อนายหัวหนุ่มจับลงไปที่แขนของเธอ ตัวเธอนั้นร้อนดั่งไฟสุม "โธ่โว้ย! เธอจะมาตายที่บ้านฉันไม่ได้นะ คนอย่างเธอต้องตายทั้งเป็นต้องตายอย่างทรมาน ไม่ใช่ตายไปง่ายๆ เหมือนแม่ของเธอ" นายหัวคเชนทร์ตัดสินใจเดินออกมา เขาเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในห้อง ก่อนจะโทรออกหามาหยาให้มาดูแลม่านฟ้า พร้อมกับทำข้าวต้มมาให้เธอด้วย ในที่สุดศึกวันนี้เขาก็พ่ายให้กับเธออย่างไม่รู้ตัว จากนั้นนายหัวหนุ่มได้เดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง สายตาคมกริบจับจ้องไปที่ม่านฟ้า เขาไม่ได้มีความรู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย เมื่อใจของเขามันถูกครอบงำไปด้วยความเกลียดชัง "แค่ฉันให้คนมาดูแล เอาข้าวต้ม เอายามาให้กินก็บุญของเธอนักหนาแล้ว อย่าคิดว่าฉันเห็นใจ เพราะมันไม่ใช่ ฉันแค่ยังไม่อยากให้เธอตายไปตอนนี้ ทั้งที่เธอยังไม่ได้ชดใช้เวรกรรมที่แม่เธอก่อเอาไว้ " พูดจบประโยค นายหัวคเชนทร์ก็เดินออกจากห้องไป ไม่ได้แยแสต่อร่างอรชรที่นอนหนาวด้วยพิษไข้แม้แต่น้อย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปซักกี่ปีเขาก็ทำใจกับความรู้สึกนี้ไม่ได้เลย นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียว เคยได้รับความอบอุ่นจากผู้เป็นบิดามารดาอย่างเปี่ยมล้น จนวันหนึ่งมารดาของเขาเสียชีวิตลง แล้วบิดาไปคว้าเอาผู้หญิงอย่างว่ามาทำเมีย ทำให้เขาเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่บิดาไม่ซื่อสัตย์กับมารดาเพียงคนเดียว อายุก็มากแล้วยังจะมักมากในกาม เขาจึงได้หนีมาให้ไกลจากสองแม่ลูก ไม่คิดเลยว่าวันนี้เขากลับต้องมารับผิดชอบลูกของแม่เลี้ยง ที่เขารังเกียจยิ่งกว่าสิ่งใด นายหัวคเชนทร์ตรงไปที่สวนยาง เพราะวันนี้ก็ครบกำหนดที่เขาต้องเดินทางไปที่เกาะในวันรุ่งขึ้น เขาจึงเดินเข้ามาในสวน เพื่อดูน้ำยางและสั่งงานลูกน้อง ในขณะที่ม่านฟ้ากำลังละเมอเพ้อเพราะพิษไข้ มาหยากับมารดาก็เดินเข้ามายังห้องพอดี "แม่ใจร้าย! แม่ใจร้าย!” มาหยาและมารดามองหน้ากันอย่างสงสัย ทำไมม่านฟ้าถึงต้องต่อว่ามารดาของเธอแบบนั้นด้วย "แม่เอายาให้คุณม่านฟ้ากินเถอะ แล้วเช็ดตัวให้เธอก่อน ดูสิไข้สูงมากเลย เดี๋ยวก็ชักตายพอดี" มาหยาพูดพร้อมกับรินน้ำลงแก้ว ก่อนจะยัดยาเข้าปากม่านฟ้า แล้วบอกให้เธอกลืนลงคอ จากนั้นมาหยาได้ถอดเสื้อของม่านฟ้าออก ก่อนที่เธอจะหยิบกะละมังจากมือของผู้เป็นมารดาแล้วเอาผ้าขนหนูผืนเล็กลงไปในน้ำ เอามาบิดให้มันหมาดๆ เช็ดตัวให้กับม่านฟ้า มาหยาพยายามเช็ดจนกว่าไข้ของเธอจะลด เช้าของวันใหม่ม่านฟ้าอาการดีขึ้น เธอค่อยๆ ลืมตา เพื่อปรับกับแสงที่มันสะท้อนมา ก่อนจะเอามือคลำลงไปที่ท้อง เพราะความรู้สึกหิวเอามากๆ แต่เมื่อเธอนึกถึงข้าวกับเกลือที่เพิ่งกินไป รสชาติความเค็มของมันยังคงติดที่ปลายลิ้นของเธอ "ตื่นแล้วเหรอคุณม่านฟ้า มาหยาเพิ่งไปทำข้าวต้มให้คุณมาใหม่ ที่เอามาเมื่อคืนมันกินไม่ได้แล้ว" ม่านฟ้ายังงงๆ กับคำพูดของมาหยา เมื่อคืนอย่างนั้นเหรอเธอไข้ขึ้นจนไม่รู้ว่าใครเป็นคนดูแล เมื่อคืนถ้าเป็นมาหยายังไงก็ต้องขอบคุณที่เธออุตส่าห์มาดูแลคอยเช็ดตัวให้ แม้ว่าม่านฟ้าจะเป็นคนแข็งนอกความจริงแล้วเธอสร้างมันขึ้นมา เพื่อเป็นเกราะป้องกัน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอภายในใจที่มีต่างหาก แล้วมาหยาก็ถือชามข้าวต้มเข้าเอามาให้ม่านฟ้าในห้องนอน เธอพยายามดันตัวลุกขึ้น เพราะตอนนี้หิวจนไส้จะกิ่วอยู่แล้ว "ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่ดูแลม่านฟ้าทั้งคืน ถ้าไม่ได้พวกคุณสองคนฉันต้องแย่แน่ๆ เลย" "ไม่ต้องเรียกคุณหรอก ฉันกับแม่เป็นคนงานที่นี่ และก็ทำตามหน้าที่ เพราะนายหัวคเชนทร์สั่ง" ม่านฟ้าถึงกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะสั่งให้สองคนนี้มาดูแลเธอ ในเมื่อเขาต้องการให้เธอพบกับความทรมาน "ยังไงมาหยาก็เป็นพี่ฉันขอเรียกพี่มาหยาแล้วกันนะ ส่วนแม่ของพี่มาหยาฉันจะเรียกว่าคุณน้าตกลงไหม" ม่านฟ้าพยายามผูกมิตรกับคนทั้งเอาสองไว้ อย่างน้อยในยามยาก เธอก็ควรจะมีใครอยู่ข้างๆ คอยช่วยเหลือและปรึกษาบ้าง ไม่ใช่ตัวคนเดียวแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่านายหัวคเชนทร์จะหาวิธีแกล้งเธอยังไงอีกบ้าง "อืม ก็ได้" มาหยาทำหน้าครุ่นคิด สักพักเธอก็ตอบตกลงม่านฟ้าไป เพราะว่าเธอเองก็ไม่มีใครเป็นเพื่อนเหมือนกัน ส่วนมากสวนยางนี้จะมีแต่ผู้ชาย ส่วนพวกผู้หญิงจะไปอยู่ที่เกาะไข่มุกกันหมด “ใคร! ใครโยนของพวกนี้ลงมา!” เสียงเอะอะโวยวายของนายหัวคเชนทร์ดังขึ้น เมื่อเขากลับมาจากสวนยาง แล้วพบว่าของที่เขาเก็บไว้ในห้องนั้นกองเกลื่อนเต็มพื้นด้านล่างไปหมด เมื่อวานเขาไม่ทันสังเกต คงไม่พ้นฝีมือของม่านฟ้า นายหัวคเชนทร์รู้สึกเจ็บใจที่แกล้งเธอแล้วโดนแกล้งกลับแบบนี้ “ยัยตัวแสบ...” เขาเริ่มกัดฟันแล้วกำมือแน่นพร้อมที่จะรุกฆาตเธอ ปึง!! เสียงเปิดประตูดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทั้งทุกคนที่อยู่ในห้องของม่านฟ้านั้น หันกลับไปมองพร้อมกัน ก่อนจะพบว่าร่างสูงใหญ่ของนายหัวคเชนทร์มองมาที่ม่านฟ้าอย่างเอาเรื่อง ที่เขาปล่อยให้เธอลอยนวล แถมยังนั่งชูคอกินข้าวอย่างสบายใจ ทั้งที่เขาคิดไว้ว่าเธอควรไปกรีดยางตั้งแต่เมื่อคืน ม่านฟ้าพอจะเดาเหตุการณ์ได้ เธอก็พร้อมเช่นกัน ตาต่อตา ฟันต่อฟันดูสิใครกันจะทนอยู่ได้ ในเมื่อชีวิตของเธอนั้นไม่มีช้อยซ์ให้เลือกเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD