ความหิว

1373 Words
คเชนทร์ขับรถกลับก็มืดค่ำแล้ว แต่ไฟที่บ้านหลังนี้เปิดจ้าทุกดวง ปกติถ้าเขาออกไปไหนมาหยา และมารดาของเธอ ก็จะทำอาหารรอกลับมาก็ทานได้เลย แต่วันนี้เขาสั่งให้ทุกคนไม่ต้องมาทำอาหาร งดงานบ้านทุกอย่าง เพราะเขาจะทานข้าวมาจากในเมือง และจะมีคนทำงานบ้านแทนแล้ว คนนั้ที่เขาพูดถึงก็คือม่านฟ้า ในเวลานี้ม่านฟ้าหิวจนไส้กิ่วแล้ว เธอนั่งรอคเชนทร์กลับมา รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่มาสักที ในครัวก็ไม่มีอะไรทานได้ ข้าวที่เหลืออยู่ก้นหม้อ มันไม่พออิ่มด้วยซ้ำ ไข่ในตู้เย็นมีไม่กี่ฟองมันก็ดิบเธอกินไม่ได้ ติดเตาก็ไม่เป็น ม่านฟ้าเดินไปเดินมาแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมอีกรอบ แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เมื่อรถของคเชนทร์เข้ามาจอด พอเขาเดินเข้ามาในบ้านม่านฟ้าไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปถามทันที "คุณซื้ออะไรมาทานบ้าง" นั่นคือคำถามของหญิงสาวอายุสิบแปดที่เวลานี้เธอยอมเอ่ยปากพูดดีกับเขา เพียงเพื่อปากท้อง ที่มันหิวจนยอมลดอีโก้ลงมาพูดดีกับคเชนทร์ คเชนทร์หันหน้ามามองม่านฟ้า พร้อมกับแสยะยิ้มส่งไปให้เธอ นั่นแหละสิ่งที่เขาต้องการ ต่อให้เธอหิวจนตายในบ้านหลังนี้ เขาก็จะไม่สนใจ “อาหารเหรอ เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร แล้วทำไมต้องซื้ออะไรมาให้เธอทานด้วย” คำพูดของคเชนทร์ทำให้ม่านฟ้าพยายามข่มใจเอาไว้ ตอนนี้เขากำลังถือไพ่เหนือเธออยู่ อย่ากระโตกกระตากไป “คุณช่างเป็นคนที่ไร้น้ำใจสิ้นดี!” ไหนว่าข่มใจแล้วม่านฟ้า ในที่สุดก็อดไม่ได้ รีบตอบโต้นายหัวคเชนทร์กลับไปอยู่ดี "ของสดก็อยู่ในตู้มีไว้ให้ก็บุญนักหนาแล้ว ก็หาทำกินเองสิ ใครเขาจะเป็นทาสรับใช้ มาคอยปรนนิบัติเธอ” คเชนทร์พูดบนตะคอกใส่หน้าม่านฟ้า ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปบนบ้าน ทำให้หญิงสาว นั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่บนโซฟา แล้วเธอจะทำอะไรรับประทานในมื้อเย็น "ม่านฟ้า!” เสียงคเชนทร์ตะโกนดังลั่นบ้าน ร้องเรียกชื่อม่านฟ้าออกมา เมื่อเขาเหยียบเข้ากับขยะกองโต คเชนทร์เดินกลับลงมา พร้อมกับท่าทางที่กำลังโกรธจัด บ้านหลังนี้จะไม่สงบสุขอีกต่อไป เขาพร้อมแล้ว พร้อมที่จะเปิดศึกกับม่านฟ้าให้ตายกันไปคนละข้าง ไม่ขออยู่ร่วมโลกกันอีกต่อไป "ไม่ต้องกินแล้วข้าวเย็น ไปเก็บกวาดหน้าบันไดให้เรียบร้อย ก่อนที่ฉันจะจับเธอโยนออกไปจากบ้านหลังนี้!” คำพูดเกรี้ยวกราด ทำให้ม่านฟ้ากลัวเขานิดหน่อย เธอจึงทำตามพี่ชายไม่แท้อย่างว่าง่าย อย่างน้อยก็ได้แกล้งเขาไปแล้วอย่างสะใจ ม่านฟ้าเก็บกวาดเรียบร้อย ก่อนจะเข้าไปในห้อง แล้วโน้มตัวลงนอนด้วยความหิว เขาต้องการแบบนี้ เขาอยากเห็นเธออดตาย ผู้ชายอะไรใจดำชะมัด ทั้งที่เธอไม่เคยทำอะไรให้เขามาก่อนเลย ถ้าสาเหตุมาจากแม่เลี้ยง มารดาของเธอก็ตายไปแล้ว เขาก็น่าจะพอใจ ตกกลางดึกม่านฟ้านอนไม่หลับ ตั้งแต่เที่ยงข้าวยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ด ความหิวโหยทำให้เธอตัดสินใจลงมาข้างล่าง ค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในครัว ในนั้นมีข้าวเหลืออยู่นิดเดียว เธอตักใส่จานพร้อมกับโรยเกลืออย่างน้อยมันก็พอประทังชีวิตได้ในยามนี้ "บ้านหลังก็ใหญ่ แต่ทำไมในครัวมีแต่เกลือ ซอสก็ไม่มีกับเกลือก็ยังดี อย่างน้อยก็มีรสชาติเค็มขึ้นมาบ้างนิดหนึ่ง" ม่านฟ้าตักข้าวใส่ปากค่อยๆ เคี้ยวแล้วกลืนมันลงคออย่างยากลำบาก เมื่อความเค็มของเกลือนั้น เธอใส่มันลงไปเกินปริมาณของข้าวในจาน น้ำตาค่อยๆ ไหล หยดลงมาจากดวงตาคู่สวย เมื่อนึกถึงความสุขสบายที่ผ่านมา คนเราเกิดมาแล้วย่อมมีทุกข์และสุขปะปนกันไป แต่เธอไม่เคยทำใจไว้เลย ว่าจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แบบที่ต้องกินข้าวกับเกลือ “ฮึกฮื้อ คนใจร้าย” เสียงของม่านฟ้าที่สะอื้นอยู่ในครัว ไม่ได้ทำให้นายหัวคเชนทร์ที่แอบมองอยู่นั้นสลดใจเลยแม้แต่น้อย เขากลับมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาที่มุมปาก พร้อมกับความสะใจ สมกับที่มารดาของเธอนั้น ทำร้ายหัวใจเขาเอาไว้ บ้านที่เคยเป็นบ้าน กลับมีมารดาของเธอ เข้ามาแทรกกลาง ทำให้บิดาของเขาเปลี่ยนไป เตียงนอนที่เคยเป็นของมารดา นายหัวคเชนทร์ไม่เคยลืม เมื่อผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาใหม่ของบิดา ได้นอนลงไปที่เตียงทับรอยมารดาของเขา ที่ลับลาจากโลกนี้ไป แม้จะเค็มปานใดก็ตาม ม่านฟ้าก็ยังฝืนกินจนหมด เพราะความหิว ไม่สามารถที่จะเลือกรสชาติที่ไม่ปรารถนานั้นได้ "เกลืออะไรเค็มจังเลย เค็มเหมือนเจ้าของบ้าน!" ม่านฟ้ากินเสร็จก็บ่นพึมพำคนเดียวในครัว เมื่อใบหน้าของคเชนทร์ล่องลอยเข้ามาทำให้เธอรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เขาจะปรานีเธอสักนิดก็ไม่ได้ แค่อาหารมื้อเดียวยังไม่มีน้ำใจ จากนั้นม่านฟ้าก็เดินตรงไปที่ซิงค์ล้างจาน เธอบีบน้ำยาจนล้นฟองน้ำ ก่อนจะแตะลงมาที่จานแล้วถูไปถูมา เพล้งง!! เสียงชามกระเบื้องกระทบกับพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ นายหัวคเชนทร์ตกใจเล็กน้อย เขาแอบย่องเข้ามาดู ก่อนจะเห็นม่านฟ้านั่งลงไปเก็บเศษจานที่พื้น เธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่างจริงๆ "โอ๊ะ โอ้ยย!" ม่านฟ้าร้องออกมา เมื่อเศษกระเบื้องจากจานทิ่มลงที่มือบางของเธอ เลือดเริ่มไหลออกมา แต่ม่านฟ้าก็ยังเก็บต่อ พร้อมกับน้ำตาและเสียงสะอื้นดังออกมาจากในลำคอของเธออีกครั้ง มันคือเสียงแห่งความเสียใจ ที่เธอนั้นทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง เธอโกรธตัวเอง หากหุงหาอาหารเป็น เธอคงไม่ต้องลำบาก จนต้องมานั่งกินข้าวกับเกลือแบบนี้ "ฮึกฮื้อ! แกมันไม่ได้เรื่องสักอย่างม่านฟ้า เหมือนใครๆ เขาว่านั่นแหละ ทำหน้าเริดเชิดสวยไปวันๆ " ม่านฟ้าพูดพร้อมกับเก็บจานนั้นทิ้งลงในถังขยะ มือที่เปื้อนเลือดเธอกลับรู้สึกไม่เจ็บปวดเท่ากับความรู้สึกภายในใจในตอนนี้ หางตาของหญิงสาวเหลือบไปเห็นนายหัวคเชนทร์ ที่ยืนอยู่ตรงประตู เขาคงตั้งใจมาดู ความสมเพชของเธอ คิดได้ดังนั้นม่านฟ้าก็รีบเดินออกไปทันที หมับบ!! มือของชายหนุ่มคว้ามาจับที่ข้อมือเรียวของเธอเอาไว้ "ไปทำแผลก่อน!” คำพูดของนายหัวหนุ่มทำให้เธอถึงกับแปลกใจ เขายอมใจอ่อนพูดดีกับเธอ เพื่ออะไรเห็นใจเธออย่างนั้นเหรอ "ขอบคุณ" ม่านฟ้าพูดขอบคุณออกไป เมื่อคิดว่าเขาห่วงใยและจะทำแผลให้เธอ "ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะฉันไม่ได้ทำให้เธอ โน่นตู้ยา! แล้วอย่าคิดว่าฉันห่วงใย ที่บอกออกไปก็เป็นเพราะว่าเที่ยงคืน เธอต้องออกไปกรีดยาง ฉันแค่กลัวว่าเธอจะทำงานให้ฉันได้ไม่เต็มที่ เพราะแผลในมือนั่นต่างหาก!" คำพูดของนายหัวคเชนทร์ มันช่างเหมือนมีดคมกรีดลงมากลางใจของม่านฟ้าเหลือเกิน นอกจากเขาจะไม่เห็นใจเธอแล้ว เขายังซ้ำเติมเธอ และอีกไม่ถึงชั่วโมง ต้องออกไปกรีดยาง สรุปเธอมาที่นี่ทำไม มาเพื่อให้เขาทำร้ายหัวใจ เพื่อชดใช้สิ่งที่มารดาของเธอกระทำเอาไว้อย่างนั้นเหรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD