ลั่วอี้ชิงเข้าวังหลวงไปเพื่อขอความเมตตาและขอให้ฝ่าบาทนั้นทรงช่วยเหลือนางให้กลับคืนสู่ฐานะของตนเองได้ในดังเดิม พระพักตร์คมคายจ้องมองลงไปที่ร่างกายของนางในคราหนึ่ง แล้วเอ่ยคำตรัสขึ้นมา “หากว่ามีเรื่องเกิดขึ้นเป็นการภายในสกุลลั่วเช่นนี้ เจิ้นย่อมมิอาจจะก้าวก่ายได้ แต่ทว่าเจ้านั้นเป็นถึงบุตรสาวคนโตของสกุลลั่ว และโดยมารดาของเจ้าโดยลำพังนั้นก็มีสายเลือดที่ดีอยู่มิน้อย เจิ้นยังเสียดายกองทัพฉางซีอยู่มิคลาย หากว่าในยามนั้นกองกำลังฉางซีอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเจิ้น มารดาของเจ้านั้นก็คงจะมิเจ็บปวดใจเช่นนี้ ลั่วอี้ชิงเอ๋ย ลั่วอี้ชิง เจ้ากลับไปไต่ถามมารดาเถิด ว่าจะกลับสู่สกุลเดิมดีหรือไม่ และหากมารดาของเจ้านั้นยอมเปิดเผยเรื่องราวภายในออกไป หนทางเดียวที่เจ้านั้นจะมีชีวิตที่ดี ก็คือสืบสายเลือดที่แท้จริงเสีย ละทิ้งความทรงจำเก่าไปให้สิ้น หวนคืนสู่สามัญไปเสียเถิดลั่วอี้ชิง “ ลั่วอี้ชิงตกตะลึงขึ้นมา นางยัง