“พนักงานทั่วไป”
โกหกคนในบ้านนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แพรวาทำเสมอโดยเฉพาะโกหกว่าไม่มีเงิน เธอทำจนชินและทุกครั้งก็มักสำเร็จด้วยสมบูรณ์ติดการพนันและเหล้าจนสมองช้าไปบ้างแล้ว และชมพูนุทเองก็มักจะเล่นแต่มือถือจนบางครั้งมีอาการมึนงงไม่ทันคำพูดของเธอ
“โกหก ฉันไม่ได้โง่ บอกมาอีไหม”
สมบูรณ์ไม่เชื่อและกระชากแขนอีกคนเข้ามาถามใกล้ๆ เขาพอรู้มาบ้างว่าแพรวาเรียนอะไรและก็มั่นใจว่าคนอย่างแพรวาไม่สมัครงานตำแหน่งเงินเดือนน้อยแน่นอน อะไรที่ทำแล้วได้เงินมากมีเงินมากรักษาแม่ขี้โรคของมันนางเด็กปากดีคนนี้ทำหมด
“พ่อจะไปอยากรู้ทำไม ภูมิใจกับมันหรือไง ก็แค่พนักงานบริษัท”
ชมพูนุทเธอรู้สึกไม่พอใจทุกครั้งที่มีใครถามถึงเรื่องงานของพี่สาวต่างพ่อคนนี้ เธอไม่ชอบให้แพรวาได้หน้าได้ดีไปกว่าเธอ วันก่อนเธอก็เพิ่งด่ากับคนในซอยเพราะมาวุ่นวายพูดมากเรื่องนี้ไปคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอ ที่บอกรักเธอหนักหนาจะกำลังอยากรู้เรื่องของมันด้วยอีกคน
“ก็บริษัทนี้มันได้กำไรดี ถ้าตำแหน่งสูงมันก็ต้องได้เงินเดือนเยอะ”
ลูกของเขายังเล็กและต้องการการอบรมสั่งสอน ถึงจะโมโหร้ายกับเด็กสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อยู่ในท้องแต่ก็ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวลูกสาวทางสายเลือดของตัวเองแม้จะโมโหอารมณ์ค้างอยู่มากเพียงใดก็ตาม ถึงจะดูลำเอียงแต่ใครๆก็ต้องรักลูกในไส้ของตัวเองมากกว่าลูกนอกไส้อยู่แล้ว
“อีไหม บอกพ่อฉันไปนะว่าทำงานตำแหน่งอะไร อีไหม”
ได้ฟังคำพูดของพ่อเด็กสาวที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นก็รีบเข้าไปช่วยผู้เป็นพ่อบีบคั้นเอาความจริงจากคนที่ตัวบางกว่า แรงมือของเธอบิดต้นแขนพี่สาวตัวเองไม่สนใจว่าเนื้อบางๆจะแดงหรือจะเขียวแต่เธอต้องการรู้เหมือนที่พ่อของเธออยากรู้ ชมพูนุทช่วยพ่อของเธอทุกทางและก็นึกชอบใจที่ได้แกล้งคนตรงหน้าอีกด้วย
“ให้ฉันโทรไปอวยพรแม่แกให้ดีไหม ให้มันตายเร็วๆ”
แพรวาไม่ได้อยู่เฉยๆให้สมบูรณ์กับชมพูนุทลงมือกับเธอ หญิงสาวดิ้นเอาตัวรอดถึงจะไม่ได้ต่อสู้ตอบไปด้วยเกรงว่าสองคนนั้นจะไม่หยุด แต่ดูเหมือนจะเข้าทางของทั้งสองเพราะสมบูรณ์ได้โทรศัพท์ของเธอไปที่มันหลุดออกจากกระเป๋าเสื้อเพราะเธอเอาแต่ดิ้นให้หลุดจากมือของเขา
“เลขา”
พ่อเลี้ยงของเธอไม่เคยอวยพรใครมีแต่จะพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจยิ่งช่วงระยะหลังที่เขาเปลี่ยนจากเทพบุตรเป็นผีพนันแค่นั้นแม่ของเธอก็ทุกข์ใจ และถ้าได้โทรไปหาแม่ของเธอที่รอรับสายจากเบอร์ของเธอเสมอ สมบูรณ์ต้องทำร้ายแม่ของเธอด้วยคำพูดที่แสนร้ายกาจแน่นอน
“เลขา เป็นเลขาให้ใคร”
เขารู้จักทุกคนในบ้านของเจ้าสัวธนินท์เป็นอย่างดีด้วยเพราะทำงานที่นั่นเกือบสิบปีเหมือนกัน และด้วยเขาเป็นคนช่างพูดช่างจาทำให้ได้พูดคุยกับเจ้าสัวธนินท์อยู่ประจำ เรียกได้ว่าช่วงหนึ่งเคยเป็นคนสนิทเลยก็ว่าได้แต่บ้านนั้นก็ตอบแทนเขาน้อยและก็ทำกับเขาเจ็บแสบไม่สมกับความดีที่เขามอบให้เลย
“คุณอรรณพ เอามือถือคืนไหมมาได้แล้ว”
หญิงสาวบอกความจริงไปเพราะยังไงทั้งสมบูรณ์และชมพูนุทก็ไม่มีใครรู้จักอรรณพ อีกอย่างเธอก็กำลังจะลาออกคงไม่ได้เอ่ยถึงชื่อนี้อีก
“ปล่อยมันลูกมิ้งค์”
“จ้ะพ่อ”
สายตาของสองพ่อลูกที่ส่งถึงกันฉาบไปด้วยความร้ายกาจที่ถ่ายทอดกันมาทางสายเลือด สองคนพ่อลูกไม่เพียงแต่ปล่อยให้แพรวาเป็นอิสระแต่ยังเดินกอดคอกันอย่างอารมณ์ดีออกไปคุยกันต่อนอกบ้านและก็คงไปจบตรงร้านอาหารตามสั่งเล็กๆกลางซอยที่มักจะไปติดเงินค่าข้าวค่าน้ำเขาไว้ให้แพรวาต้องตามล้างตามเช็ดอยู่ตลอด
แพรวาเองก็ไม่ได้สนใจสองคนพ่อลูกเพราะอย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ได้เสียเงินที่จำเป็นต้องใช้ให้กับสองคนนั้น จะมีจ่ายไปก็แค่ส่วนที่เคยจ่ายให้กับชมพูนุทเท่านั้น เธอรีบเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเฝ้าแม่เหมือนทุกวันไม่ได้เหลียวหลังไปมองว่าสองคนนั้นจะไปทำอะไรที่ไหนต่อเพราะตอนนี้แม่คือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ
“ลุงมาทำอะไรที่นี้”
แพรวาที่มาทำงานปกติเหมือนเช่นทุกวัน เธอกำลังรีบร้อนลงมาจากตึกเพราะต้องต่อรถเมล์ไปเฝ้าแม่ต่อที่โรงพยาบาลอีก แต่ความรีบร้อนทำให้เธอเจอกับคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอ จริงอยู่สมบูรณ์พ่อเลี้ยงของเธอคนนี้ในอดีตเคยทำงานเป็นคนขับรถและเขาก็มักจะไปไหนมาไหนได้ทุกทีแต่ระยะหลังที่โดนไล่ออกและก็ติดทั้งเหล้าทั้งการพนันสมบูรณ์ก็ไม่เคยไปไหนได้ไกลกว่าซอยบ้านตัวเองเลย
“ลุงมาทำอะไรที่นี้”
แพรวาที่มาทำงานปกติเหมือนเช่นทุกวัน เธอกำลังรีบร้อนลงมาจากตึกเพราะต้องต่อรถเมล์ไปเฝ้าแม่ต่อที่โรงพยาบาลอีก แต่ความรีบร้อนทำให้เธอเจอกับคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอ จริงอยู่สมบูรณ์พ่อเลี้ยงของเธอคนนี้ในอดีตเคยทำงานเป็นคนขับรถและเขาก็มักจะไปไหนมาไหนได้ทุกทีแต่ระยะหลังที่โดนไล่ออกและก็ติดทั้งเหล้าทั้งการพนันสมบูรณ์ก็ไม่เคยไปไหนได้ไกลกว่าซอยบ้านตัวเองเลย
“ไหนคุณอรรณพเจ้านายของแก ฉันถาม”
สมบูรณ์มายืนลับๆล่อๆนานแล้วและก็แอบยามที่ยืนอยู่หน้าบริษัทด้วย พอเห็นหญิงสาวเดินออกมาจากตึกสูงระฟ้าที่เขาเองเคยขึ้นไปเดินผงาดมาแล้วก็รีบออกมา ทำตัวชูคอใส่คนที่เดินผ่านไปมาด้วยเพราะทุกคนก็ต้องเกรงใจเขาบ้างล่ะที่เขาเป็นถึงพ่อเลขาของหลานเจ้าของบริษัท ไม่ได้กระจอกเหมือนพวกพนักงานรากหญ้าทั่วไป
“รถคันนั้น”
แพรหันหน้าไปที่รถหรูของใครก็ไม่รู้ไม่ใช่ของอรรรณพผู้เป็นเจ้านายของเธอหรอก วันนี้เขาไม่ได้ทำงาน เธออยากจะไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าอายที่เธอมีพ่อเลี้ยงเป็นสมบูรณ์ที่มีสภาพเป็นทาสเหล้าจนตัวเหม็นหึ่งตลอดเวลา หน้าตาก็แทบจะดูไม่ได้เพราะว่าไม่เคยทำความสะอาดให้ดี แต่ที่เธอไม่อยากอยู่เพราะสมบูรณ์อาจจะคิดทำอะไรที่ไม่ดีและเธอก็อาจจะห้ามไม่ได้ กลัวจะมาถูกไล่ออกก่อนเวลาที่คิดเอาไว้
“ไป กลับบ้าน”
สมบูรณ์มองดูความร่ำรวยของหลานของอดีตเจ้านายด้วยความพอใจ นับว่าเขาคาดการเอาไว้ไม่ผิด สิบกว่าปีที่โดนไล่ออกจากงานก่อนที่จะได้ขับรถป้ายแดงที่เจ้าสัวธนินท์สั่งมาจากเมืองนอก วันนี้ครอบครัวนั้นรวยขึ้นอีกจนนับมือนับไม้แทบไม่ไหว
“ลุงมาทำอะไรแถวนี้”
แพรวางงกับอาการของคนตรงหน้าที่ลากเธอออกมาเอง ทั้งที่เธอคิดไว้ล่วงหน้าว่าจะไม่กลับง่ายๆ ถึงจะมีกลิ่นเหล้าโชยเข้าจมูกมาตลอดทำให้รู้ว่าเมาไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่อาละวาดและยังดูเหมือนพูดจาฟังรู้เรื่องกว่าทุกวัน
“ผ่านมา ถามมากจริง เอาค่ารถมาด้วยกว่าจะมาถึงที่นี้ตั้งหลายบาท”
คนเมาแบมือของเงินตรงข้างทางที่ยังคงมีพนักงานจากบริษัทเดียวกับแพรวาเดินผ่านเพื่อกลับบ้าน เขาไม่สนใจยังไงคนที่เขาจ้องอยู่ก็ขับรถกลับบ้านผ่านหน้าเขาไปเมื่อตะกี้นี้เองไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์เป็นคนดีให้ใครสงสารอะไรทั้งนั้น และเขาก็อยากกลับไปกินเหล้าวางแผนต่อแล้วไม่อยากเจอผู้คนมากมายที่ชูคอทำตัวเป็นคนดีเพราะมีเงินด้วยมันปวดหัว
“ไหมไม่ได้เอาเงินมา แต่ถ้าลุงจะกลับไปพร้อมไหมก็ได้นะ”
“ไม่มีเงิน แต่เสือกจะให้กูกลับด้วย พูดอย่างกับกูเป็นคนโง่ เอาเงินมา”
“ไหมไม่มี ลุงมาเองก็กลับเอง ไหมจะไปเยี่ยมแม่”
แพรวาพูดยื้อเวลาจนรถเมล์มาพอดีรีบวิ่งแทรกคนมากมายขึ้นไปทั้งที่ปกติเธอจะต่อแถวเป็นระเบียบเหมือนคนอื่น เธอหนีดีกว่ายืนให้สมบูรณ์ไถเงินที่เธอจะเอาไปซื้อของให้แม่กิน เธอยอมได้ถ้าแม่สบายดีเพราะยังไงสมบูรณ์ก็เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แบเบาะแต่ตอนนี้แม่ป่วยเธอก็ต้องรักษาแม่ก่อน
“อีไหม”
สมบูรณ์จำต้องขึ้นรถตามแพรวามาเพราะเขาไม่มีทางเลือกจะกลับไปเองก็ไม่มีเงินมากพอ ขามาเข้าทุ่มจ้างแท็กซี่ไปหมดกระเป๋าแล้ว และด้วยผู้คนที่มากมายแน่นขนัดบนรถก็ทำให้เขาเงียบปากลงได้แต่ก่นด่าหญิงสาวเงียบๆในใจถ่ายทอดไปให้แพรวาเด็กสาวที่ปีกกล้าขาแข็งขึ้นทุกวันทางสายตา
โรงพยาบาลกับบริษัทอยู่ใกล้กันมากกว่าบริษัทไปบ้าน ในไม่กี่ป้ายรถเมล์แพรวากับสมบูรณ์ก็พากันมาถึง แพรวาไม่ได้หันไปสนใจคนเมาพอเธอจ่ายค่าโดยสารให้เสร็จสรรพก็รีบจ้ำอ้าวเข้ามาในโรงพยาบาลทันที เธอรู้ว่าสมบูรณ์จะเอาตัวรอดไปได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนแต่ถ้าไปไม่รอดเขาก็รู้ว่าต้องทำยัง แต่เธอถ้าขืนยังยืนอยู่คงไม่รอดไม่โดนไถเงินก็ต้องถูกด่าว่าจนไม่เหลือชิ้นดี
ห้องคนไข้ร่วมที่มีคนไข้นับร้อยนับสิบชีวิตนอนปะปนกันอยู่และส่วนมากในชั้นที่แพรวาเดินมาถึงก็มีแต่อาการหนักหนาทั้งนั้นบางเตียงมาตอนเช้าพอตกเย็นก็ถูกคลุมผ้าออกไปก็มี ภาพที่เห็นทำให้จิตใจของหญิงสาวหดหู่ขึ้นทุกวันเพราะไม่รู้ว่าวันไหนแม่ของเธอที่หมอมักจะย้ำเสมอว่าอาการไม่ดีขึ้นเลยจะเป็นแบบนั้น
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงมีกำลังใจฮึดสู้และหาเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อพาแม่ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนที่มีเครื่องไม้เครื่องมือดีกว่าโรงพยาบาลรัฐที่แม่ของเธอนอนรักษาตัวอยู่ เธอหวังเสมอว่าแม่จะหายและกลับไปบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ
สมบูรณ์จำต้องเดินตามและเข้ามาเยี่ยมคนป่วยด้วยกับแพรวา เขาได้แต่มองร่างผอมบางจนแนบเป็นเนื้อเดียวกับเตียงด้วยแววตาสมเพชเวทนา จริงอยู่เขาเคยพิศวาสรักฤทัยมากมายจนแต่งงานกับเธอทั้งที่เธอท้องแก่แต่ความรักมันก็มีวันจืดจาง ไม่ได้สวยหรูอยู่ตลอดเวลาและฤทัยเองก็ไม่ได้สวยสดใสเหมือนตอนวัยสาวแถมพอตอนป่วยทำงานหาเงินไม่ได้ยังมาดูดเงินที่เขาควรจะได้รับจากแพรวาหลังจากที่ทนเลี้ยงมาจนโตพอทำงานเลี้ยงเขาได้แล้วไปอีก
ถึงจะเข้ามาเยี่ยมแต่ก็ไม่ได้เข้าใกล้อย่างที่สามีมาเยี่ยมภรรยาเพียงแต่ยืนมองอยู่ห่างๆ เพราะที่เขาตามแพรวามันมีอะไรมากมายกว่าการมายืนมองคนกำลังจะตายอยู่ตรงนี้ เขามาเพื่อรอเวลาหาโอกาสและก็ไม่มีเงินด้วยถึงไปไหนไม่รอดต้องรอกลับพร้อมนางตัวดีนี้
แพรวาเธอคอยเหลือบมองสมบูรณ์ตลอดเวลาที่ปากพร่ำพูดกับแม่ที่มีอาการครึ่งหลังครึ่งตื่นเพราะหมอให้ยาเพื่อพักผ่อน เธอรู้ว่าแม่อาจจะไม่ได้สติมากนักและอาจจะจำไม่ได้ว่าเธอมาหาด้วยซ้ำไป แต่เธอก็ให้แม่เห็นคนอย่างเขาไม่ได้ เธอกลัวว่าแม่จะช็อกเพราะเขาคงพูดร้ายใส่แม่ของเธอ สมบูรณ์คนขี้เหล้าติดการพนันคนนี้ไม่เคยสนใจว่าใครเป็นยังไงแม้แต่แม่ของเธอที่เขาเคยบอกรักต่างจากคนเก่าที่เคยดีแสนดี
เหตุการณ์อึดอัดนั้นเกิดขึ้นไม่นาน แพรวาจำต้องปล่อยให้แม่ของเธอหลับและเดินไปฝากพี่พยาบาลที่แสนใจดีก่อนกลับบ้านให้ดูแลแม่ให้ด้วยเพราะคืนนี้เธอรับงานร้อยพวงมาลัยเอาไว้คงไม่ได้กลับมานอนเฝ้าไข้แม่อีก คงจะมาอีกทีในเย็นวันพรุ่งนี้ตอนเลิกงาน
“ถ้าได้เงินของมันมา แม่แกก็ได้ผ่าตัดเลย”
สมบูรณ์เดินตามแพรวาผู้เป็นลูกเลี้ยงเพื่อกลับบ้านและร่ายยาวเกี่ยวกับเรื่องชั่วร้ายให้กับเธอฟังอย่างไม่อายคนที่เดินสวนทางไปมา เขาวางแผนให้แพรวาไปฉกทรัพย์ของหลานชายคนเล็กของเจ้าสัวธนินท์
“ไหมไม่ทำ ไหมไม่ใช่ขโมย ไหมยังทำงานได้ ขาดอีกไม่กี่บาทค่าผ่าตัดงวดแรกก็จะพอแล้ว”
เมื่อพ่อเลี้ยงของเธอไม่อายที่จะพูดความชั่วร้ายเหล่านั้นต่อหน้าคนอื่นๆที่ไม่รู้จักทั้งเธอทั้งเขา แพรวาเองก็กล้าที่จะเถียงกลับไปเหมือนกันอย่างไม่อายใครด้วย ก่อนที่เธอจะขึ้นรถเมล์ไปหาที่นั่งเพื่อหวังว่าสมบูรณ์จะเลิกเอาเรื่องพวกนั้นมาพูดให้เธอฟัง แค่ทนทำงานให้ครบเดือนเพื่อหวังจะเอาเงินเธอก็ต้องหาทางเอาตัวรอดเป็นร้อยวิธีไม่ให้ถูกเขาหื่นกามใส่อีกและถ้าไปยุ่งกับข้าวของเงินทองของเขา คนจนอย่างเธอจะถูกเขาเล่นงานด้วยสารพัดวิธีอะไรเธอยังคิดไม่ออกเลยแต่ที่รู้อยู่แก่ใจคือเธอต้องไม่รอดแน่คงไม่ใช่แค่การแจ้งความจับให้เธอต้องติดคุกทั่วๆไปแน่นอน
“อีไหม แค่ยืมของเขาไปขาย อีกอย่างแค่นาฬิกาเรือนเดียว แม่ของแกก็พอผ่าตัดแล้ว”
สมบูรณ์ที่คนทั้งรถเมล์รังเกียจยังคงเดินตามเด็กสาวที่แต่งตัวเรียบร้อยอย่างไม่ลดละ จนได้มายืนโหนรถอยู่กลางคันรถเพื่อคุยต่อถึงการขโมยของที่ใครๆเขาก็ทำกัน และอีกอย่างสำหรับลูกเลี้ยงของเขาคนนี้มันก็จำเป็นไหนจะแม่ที่กำลังจะตายไหนจะน้องที่จะต้องส่งเสียงเลี้ยงดู และเขาก็หวังว่าหลังจากลูกเลี้ยงคนนี้ทำสำเร็จเขาก็จะได้เก็บกวาดเงินทองที่ตกหล่นเอาไปใช้จ่ายต่ออีกนิดๆหน่อยๆ
“ถ้าลุงอยากทำ ลุงก็ทำเอง ไหมไม่อยากยุ่ง”
พ่อเลี้ยงของเธอไม่ได้ใช้ให้เธอแค่เดินไปหยิบของเขาเข้ากระเป๋า แต่วางแผนให้เธอวางยาเขาแล้วปลดทรัพย์เขามาให้หมดตัว หรือถ้าไม่กล้าทำก็แค่วางยาแล้วที่เหลือเขาจะเข้าไปทำเอง เอาเงินที่ได้มาแบ่งกัน เธอเองก็จะได้ค่าผ่าตัดแม่ภายในชั่วข้ามคืนและจะเลือกโรงพยาบาลไหนก็ได้เพราะของทุกชิ้นที่อยู่บนตัวของอรรณพมีค่ามีราคาทั้งนั้น
“คนรวยอย่างเขา ใส่ของแค่ครั้งสองครั้งก็โยนทิ้งไร้ค่า พวกเราแค่ช่วยเก็บ ช่วยลดขยะ หรือจะให้แม่แกตายก็ตามใจ ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว”
แพรวาหนีลงรถไปอย่างหน้าตาเฉยปล่อยให้สมบูรณ์นั่งรถต่อไปคนเดียว เธอยอมยืนรอรถตรงนี้ในเที่ยวต่อไปดีกว่านั่งฟังแผนการบ้าบออะไรของสมบูรณ์ จริงอยู่พวกเขารวย เงินทองมากมายที่เธอเห็นได้จากเสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา ที่พวกเขาใส่ติดตัวล้วนแต่เป็นของดีราคาแพงลิบที่เธอไม่อาจแตะต้องได้ในชาตินี้หรือชาติหน้าและก็ถูกอย่างที่สมบูรณ์พูดทุกอย่างของเหล่านั้นถูกเปลี่ยนแบบมาแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย ของเหล่านั้นล่อหน้าล่อตาคนไม่มีจะกินอย่างเธอครั้งแล้วครั้งเล่าที่ได้มองมัน แต่เธอถูกสอนมาให้เป็นคนทำมาหากินไม่ใช่หัวขโมย
“อีไหม กูจะบังคับให้มึงทำจนได้นั่นแหละ มึงต้องหาเงินมาตอบแทนบุญคุณคนอย่างกู”
สมบูรณ์ตั้งท่าจะลงตามแพรวาไปแต่รถเมล์ออกจากป้ายแล้ว ครั้นจะกระโดดลงไปคงไม่คุ้มที่จะแข้งขาหักก่อนจะได้ใช้เงินที่อุตส่าห์คิดหาแผนการเอาไว้แล้วได้แต่ตะโกนตามหลังเสียงดังลั่นรถเมล์อย่างไม่อายใคร ก่อนจะนั่งลงและคิดหาทางลงป้ายหน้าโดยไม่ต้องจ่ายค่ารถ