ไม่คิดถึง

1500 Words
[ น้ำพุ​ TALK​ ] "เดี๋ยวนี้กูไม่เห็นน้องขนมปังมาหามึงเลยนะ" ไอ้บีเอ็มยืนพิงกรอบประตู​ เลิกคิ้วถามผมอย่างใคร่รู้ "ขนมปัง?" คิ้วหนาย่นถามถึงบุคคลที่มันเอ่ยถึง "ก็น้องข้างบ้านมึงไง หายเงียบไปเลย" "ไม่รู้ดิ" ผมตอบตามความจริง​ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังจากวันนั้น​ซีเซียหายไปไหน​ จะบอกเธอหลบหน้าผมก็คงจะใช่มั้ง ต่อให้ผมบอกว่ายังอยากเป็นเหมือนเดิ​ม​ แต่เธอก็อาจจะใช้เวลาสักนิด​ ผมปรายสายตาไปมองยังบ้านหลังข้างๆ​ ที่ตอนนี้เงียบเชียบเหมือนไร้ผู้คนภายในบ้าน "กูหิวแล้วว่ะ​ ไปหาไรกินกันดีไหมวะ" ไอ้บีเอ็ม​พูดขึ้นทำลายความคิดของผมให้หยุดลง ผมพยักตอบรับมันเบาๆ​ เป็นการเห็นด้วย​ ก่อนที่เราสองคนจะออกไปหาซื้ออะไรมากินกันที่หน้าซอยของหมู่บ้าน "มึงดูดิคนนั้นแม่งสวย" ในระหว่างที่รออาหารกันอยู่​ สายตายิ่งกว่าเหยี่ยวของไอ้บีเอ็มก็หันควับมาที่ผมให้พยักเพยิดหน้าขึ้นมองตามสายตาของมัน​ ไปยังอีกฝั่งของถนนที่มีผู้หญิงหนึ่งคนเดินอยู่ "เหรอวะ" ผมตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจ​ สวยไหมนะเหรอ​? ไม่รู้สิ​ ผมไม่ได้ใส่ใจมองถึงขนาดนั้น "อะไรของมึงวะ​ ไม่มีส่วนร่วมเลยไอ้เวร​ แล้วนี่มึงจะไปไหนวะ!" ไอ้บีเอ็มตะโกนเรียกผมเสียงดังลั่น​ ในตอนที่ผมผุดตัวลุกขึ้นเดิน​ โดยที่ไม่รอฟังที่มันกำลังพร่ำพูดให้จบประโยคเสียก่อน "ซีเซีย" มือหนายื่นไปจับข้อแขนบางเอาไว้​ จนเธอสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นผม "เอ่อ... พี่พุเองเหรอคะ" ดวงหน้าสวยแย้มยิ้มให้กันอย่างเช่นทุกที​ หากแต่ครั้งนี้ผมกลับเห็นรอยยิ้มนั้นดูฝืนๆ​ ขึ้นมาแทน "ไม่เจอกันหลายวัน​ พี่คิดว่าเราไม่อยู่บ้าน" "พอดีปิดเทอม​แล้วเซียเลยไปเที่ยวกับเพื่อนมาน่ะค่ะ​ ช่วงนี้ก็คงไม่อยู่บ้านบ่อย" "งั้นหรอกเหรอ" ผมยิ้มตอบ​ เพราะคิดว่าเธอจะหลบหน้ากันเสียอีก "ทำไมคะ​ ไม่มีเสียแล้วพี่พุเหงาเหรอคะ" คนตัวเล็กสบตาถามอย่างติดตลก​ ถ้าผมไม่ได้คิดไปเองสายตาของเธอในตอนนี้กลับดูจริงจัง​ รอฟังคำตอบจากผมอยู่ "ก็ไม่หรอก​ เที่ยวให้สนุกนะครับ" "จะไม่เหงา​ หรือคิดถึงเซียใช่ไหมคะถ้าเซียไม่อยู่จริงๆ​ " เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น​ ดวงตาใสยังคงไม่ละไปจากผม​ ราวกับว่าเธอต้องการคำตอบที่แน่ชัด "อืม​ พี่ไม่เหงาหรอก​ เพื่อนๆ​ แวะเวียนมาจนปวดหัวแล้วมากกว่า" ถามว่าเหงาไหมนะเหรอ​ ผมอาจจะแค่ชินที่ได้เจอเธอทุกวันมากกว่า​ พอไม่เจอมันก็เลยดูขาดบางอย่างไป "....." "ยังไงก็ขอให้สนุกนะ" ผมยื่นมือออกไปลูบกลุ่มผมของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูอย่างเช่นทุกที​ ซีเซียก้มหน้าลงมองพื้นไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา​ ผมดึงมือของตัวเองกลับเมื่อเห็นว่าอีกคนยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองกันสักที "....." "ซีเซีย.." "ชอบนะคะ​ เซียชอบพี่พุมากนะ" เสียงที่ฟังดูสั่นเครือเอ่ยขึ้น​บอกผมเสียงแผ่ว​ แต่เพราะเราสองคนอยู่ใกล้กันมากเลยทำให้ผมได้ยินที่เธอพูดได้ชัดเจน "....." "เซียแค่อยากบอกพี่พุเท่านั้น​ พี่พุไม่ต้องตอบอะไรกลับมานะคะ" "....." "ฟู้ววว~ เอาเป็นว่าแล้วเจอกันนะคะ​ ต่อให้ไม่เหงาไม่คิดถึงเซียในตอนที่เซียไม่อยู่​ แต่เซียจะคิดถึงพี่นะคะ​ ลาก่อนค่ะ" คนตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ​ ก่อนที่จะร่ายคำพูดออกมาแล้วเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยรอยยิ้ม "....." ไม่รู้ทำไม​ คำพูดพวกนั้นมันเหมือนกับเธอกำลังเจ็บปวดมากมายกลับส่งมาถึงผม​ ซีเซียก้าวเท้าเดินออกไปจากผม​ แผ่นหลังบางที่ค่อยๆ​ ห่างออกไปมันทำให้ผมอยากเรียกรั้งเธอเอาไว้​ แต่หากผมทำแบบนั้นลงไป​ ก็ไม่ต่างจากที่ผมให้ความหวังเธออีกครั้ง เสี้ยววินาทีที่ผมได้แต่เก็บความคิดเหล่านั้นเอาไว้ในใจ​ พลันใบหน้าสวยของซีเซียก็หันกลับมามองกัน​ด้วยรอยยิ้ม​ ริมฝีปากอวบอิ่มขยับขึ้นพูดบางอย่างที่ผมไม่อาจได้ยิน​ ก่อนที่เธอจะระบายยิ้มกว้างให้ผมอีกครั้งแล้วเบือนหน้าหันกลับไปในที่สุด "พี่พุ​วันนี้ก็หล่อมากนะคะ" ประโยคนี้ผุดขึ้นในหัวเมื่อผมอ่านปากของเธอที่หันมาบอกกัน​ ก่อนที่เธอจะเดินจากไป ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ยิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้งที่เธอชอบพูดประโยคนี้​ ก่อนหน้านี้ผมแค่คิดว่าเธอเป็นเด็กสดใส​ ขี้เล่นถึงได้กล้าหยอกเล่นกับผมเหมือนกับบีอาร์​ แต่ว่ากลับไม่ใช่​ วันนี้สายตาและคำพูดของเธอมันไม่ได้แสดงออกว่าล้อเล่นเลยสักนิด [ ซีเซีย​ TALK​ ] ฉันเดินออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาอีกครั้ง​ อุตส่าห์​ตั้งใจหลบหน้าเขาจนกว่าฉันจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้​ และเผชิญหน้า​กับเขาอย่างไม่ต้องรู้สึกเสียใจแบบนี้อีก​ ทว่าวันนี้เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน​ ความรู้สึกที่ได้รับในวันนั้นก็ก่อตัวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ฉันคิดว่าตัวเองเข้มแข็งแล้วในวันที่ไม่ได้เจอหน้าเขา​ คิดเอาไว้ว่าสักวันฉันจะกลับมาพูดคุยหยอกล้อเล่นกับเขา​ ทำตัวเป็นเพื่อนบ้านแสนดีได้อีกครั้ง​ แต่เปล่าเลย​ ฉันไม่ได้เข้มแข็งมากขนาดนั้น​ การที่เลี่ยงเจอเขาอาจจะเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับฉันกับพี่น้ำพุก็ได้​ เพราะต่อให้ฉันไม่อยู่เขาก็ไม่ได้คิดถึงฉัน​ หรือรู้สึกเหงานี่จริงไหม?​ เพราะจะอยู่หรือไม่อยู่ยังไงฉันก็ไม่ได้สำคัญอยู่ดี ปึก!​ หน้าผากถูกชนเข้ากับบางอย่างตรงหน้าเข้าเต็มๆ​ เป็นเพราะฉันไม่ทันระวังและเดินก้มหน้า​ เหตุ​เพราะไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาของตัวเอง "เดินยังไงวะ​ ไม่มีตา..." "ขอโทษค่ะ" "เธอ​ ยัยเด็กใหม่" น้ำเสียงที่เอ่ยถามเหมือนคนรู้จักดังขึ้นเหนือศีรษะของฉัน​ "....." ดวงตาใสช้อนตาขึ้นมองอีกคนที่ตีหน้ายักษ์​ใส่​อยู่ตรงหน้า​ แต่เพียงเขาเห็นว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่เท่านั้นแหละ​ ก็ลุกลี้ลุกลน​หันซ้ายหัยขวาราวกับตัวเองเป็นฝ่ายผิดซะอย่างงั้น "เฮ้ย​ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ยจะร้องไห้ทำไมวะ" พัตเตอร์ขยี้ผมตัวเองแรงๆ​ พลางหันมองรอบข้าง​ที่ตอนนี้มีคนพากันหันมามองยังเราสองคนอยู่​ เขาไม่ได้มองที่ฉันร้องไห้หรอก​ แต่ที่เขาสนใจเพราะเสียงโวยวายของพัตเตอร์ต่างหาก "ฉันจะร้องไห้นายมายุ่งอะไรด้วยเล่า​ ฮื้ออ~ " ยิ่งอยากหยุดร้องเท่าไหร่​ ก็เหมือนสมองจะสั่งการตรงกันข้ามมากเท่านั้น "โธ่เว้ย!​ มากับฉัน" พัตเตอร์สบถออกมาอย่างหัวเสีย​ เขากระทืบเท้าแรงๆ​ อย่างขัดใจก่อนจะคว้าข้อมือฉันแล้วออกแรงกระชากให้เดินตามเขาไป เราสองคนมานั่งแกว่งชิงช้าในสวน​สาธารณะ​ใกล้หมู่บ้าน​ ตอนนี้ฉันหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังคงมีคราบน้ำตาบนใบหน้าให้ได้เห็นอยู่ว่าเพิ่งการร้องไห้มา พัตเตอร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา​ เขากลับนั่งรอเป็นเพื่อนฉันจนฉันร้องไห้เสร็จอยู่ข้างๆ​ น่าแปลกจังคนที่ฉันเกลียดขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ​ กลับเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างฉันในวันที่รู้สึกแย่ "ฉันไม่เป็นไรแล้ว​ ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อน" ฉันเอ่ยบอกกับคนข้างๆ​ เสียงเบา​ พัตเตอร์หันมาเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วทำสีหน้ายุ่งยากใจออกมา​ ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็เกาท้อยทอยตัวเองเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่ "ฉันไม่ได้นั่งเป็นเพื่อนเธอสักหน่อย​ แค่อากาศ​มันดีเลยนั่งไปเรื่อยก็เท่านั้น" "งั้นเหรอ​ แต่ยังไงก็ขอบคุณนายอยู่ดี" "ขอบคุณทำไมพร่ำเพื่อ​ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย" คนตัวโตกอดอกมองฉันตาเขม็ง​ ไม่ยอมรับว่าที่จริงแล้วเขาเองก็เป็นคนมีน้ำใจ​ แค่ทำตัวเป็นเด็กเกเรให้คนอื่นกลัวก็เท่านั้น "ไม่ชอบให้ขอบคุณเหรอ?" "ไม่... ก็ไม่เชิง​ ฉันแค่ไม่เคยมีใครมาพูดขอบคุณด้วยแค่นั้น"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD