เจ็บ

1408 Words
"....." ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเมื่ออีกคนยังเงียบอยู่ ฉันค่อยๆ​ ก้มหน้าลงมองพื้น​ เมื่อเห็นสายตาของเขาที่ดูว่างเปล่าทอดมองมาที่ฉันนิ่งๆ​ จะบอกว่ากลัวก็คงจะไม่ผิด​ เพราะฉันไม่ได้คาดคิดว่าได้รับความเงียบตอบกลับมาแบบนี้ "ถ้าพี่พุยังตอบไม่ได้ตอนนี้​ ก็เก็บไปคิดดูนะคะ" "ไม่ใช่ตอบไม่ได้หรอก​ พี่แค่ไม่รู้ว่าจะบอกเราว่ายังไงดี" น้ำเสียงที่เคยฟังดูอ่อนโยน​ ทว่าตอนนี้กลับราบเรียบไร้ความรู้สึกขึ้นมาดื้อๆ​ รอยยิ้มที่เคย​ปรากฏ​กลับจางหายไปจากใบหน้าของเขา​ ถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาขึ้นมาเพียงนิด "....." "พี่ว่าเรายังเด็กเกินไปนะ​ อีกอย่างคือพี่ไม่ได้คิดกับเราแบบนั้น" "งั้นเหรอคะ" ฉันเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงตัวเองสั่นมากแค่ไหน​ แต่ถ้าขืนฉันมองหน้าเขาตรงๆ​ ตอนนี้น้ำตาคงได้ไหลออกมาแน่ และฉันก็ไม่อยากดูเป็นคนโง่ต่อหน้าเขาด้วย "ขอโทษนะ​ แต่เราเป็นเหมือนน้องสาวพี่มากกว่าที่พี่จะคิดแบบนั้นได้" "ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ" "เราโอเคหรือเปล่า?" น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงกัน​ ทำให้ฉันรีบส่ายหน้าบอกเขาเป็นการปฏิเสธ​ ให้อีกฝ่ายได้สบายใจ "โอเคสิคะ​ ทำไมเซียจะไม่โอเค" โอเคบ้าอะไร​ มีใครโอเคกับการที่ตัวเองต้องเสียใจด้วยเหรอ?​ น้ำตาเอ่อขึ้นขอบตาแทบจะร่วงหล่นลงมาอยู่แล้ว ก็คิดอยู่หรอกว่าถ้าโดนปฏิเสธ​จะเสียใจมากสักแค่ไหนกันเชียว​ แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะเจ็บมากขนาดนี้ "ยังไงเราก็ยังพูดคุยกันเหมือนเดิมได้ใช่ไหม​ เราคงไม่ได้เกลียดพี่ไปแล้วหรอกนะ" "....." "ทำแบบนั้นได้ไหมครับ" ฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะเล็กของฉันเบาๆ​ คล้ายกับกำลังปลอบโยนกัน "อื้อ​ ได้สิคะ" ฉันเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าแล้วฉีกยิ้มออกมาตาหยี​ ราวกับตัวเองไม่ได้เสียใจอะไรเลยสักนิด "ขอบคุณนะ​ พี่ซื้อนี่มาให้ด้วย" พี่น้ำพุยื่นเค้กหนึ่งก้อนเล็กมาให้ฉัน​ แบบเดียวกันกับที่ขายในร้านคาเฟ่น่ารักๆ "ว้าว​ น่าทานจังเลยค่ะ​ เซียจะทานให้หมดเลย" ฉันรับมาด้วยมือสั่นเทา​ แต่ใบหน้าก็ยังแย้มยิ้มส่งให้เขาอยู่อย่างนั้น "ดีใจที่ชอบนะครับ" "งั้นเซียกลับก่อนนะคะ" ฉันเม้มปากแล้วพ่นลมหายใจออก​ ก่อนจะเอ่ยบอกกับเขา "....." พี่น้ำพุพยักหน้ารับเป็นการเข้าใจ​ ฉันถึงได้หมุนตัวเดินกลับ​ ทว่าเดินได้เพียงแค่สามก้าวเท่านั้น​ ฉันก็หันไปฉีกยิ้มร่าให้เขาเหมือนอย่างเช่นทุกที​ ก่อนจะเอ่ยบอกประโยคนี้ออกไป​ ทำให้คนตัวโตที่รอฟังอยู่​ต้องยกยิ้มขึ้นบางๆ "พี่พุคะ... วันนี้ก็หล่อมากนะคะ" เพียงแค่นั้นฉันก็หันกลับมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย​ เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันร้องไห้​ ฉันเลยเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น​ กลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้มันหลุดออกมาให้คนข้างหลังได้ยิน บานประตูห้องนอนถูกปิดลง​ พร้อมกับร่างเล็กที่ทรุดตัวลงนั่งพิงบานประตูภายในห้องตัวเอง​ เค้กในมือถูกกอดแนบอกราวกับของสิ่งนั้นมันเป็นของล้ำค่า​ที่สุดในชีวิต​ น้ำตาที่พลั่งพรูออกมาโดยไม่กลั้นเอาไว้​ เสียงสะอื้นไห้ที่ดังแข่งกับเครื่องปรับอากาศ​ยังคงก่อตัวขึ้นราวกับโลกนี้มีแค่ฉันอยู่เพียงลำพัง "ฮึก~ เจ็บจัง" ฉันเปร่งเสียงออกมาอย่างอู้อี้จากการร้องไห้​ มือเล็กทุบลงตรงกลางอกข้างซ้ายซ้ำๆ​ เผื่อว่ามันจะบรรเทา​อาการเจ็บข้างในให้มาเจ็บที่ภายนอกแทนได้ ตอนที่บอกว่าไม่เป็นไร​ ในใจกลับก้องดังว่าเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว​ ในตอนที่ฉันยิ้มข้างในกลับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ฉันปาดน้ำตาทิ้งออกอย่างลวกๆ​ แล้วแกะเค้กที่พี่น้ำพุให้มากินเข้าไปทั้งน้ำตา​ "ฮึก​ ฮื้ออ~ อร่อยจัง" แม้ว่าเค้กจะหวานนุ่มลิ้นมากแค่ไหน​ มันก็ยังไม่ดับความเศร้าให้จางลงได้เลย เค้กถูกป้อนเข้าปากจากมือของฉันเอง​ ไม่สนว่าตอนนี้มันจะเลอะเทอะ​มากแค่ไหน​ ในเมื่อสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะกินให้หมดฉันก็จะทำให้ได้ตามที่พูด ถึงเค้กจะหมดแต่น้ำตาฉันก็ยังไม่ยอมหยุดไหลง่ายๆ​ เลยสักนิด​ อยากจะร้องไห้ให้พอใจ​ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว ฉันอยากจะลืมความรู้สึกที่เจ็บปวด​ แต่ไร้ซึ่งบาดแผลแบบนี้เร็วๆ​ มันไม่สนุกเลย​ ทำไมฉันถึงไม่คิดให้ดีก่อนว่าตัวเองจะต้องมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้คนเดียว วันต่อมา​... ไม่รู้ว่าเมื่อคืนฉันเผลอหลับไปตอนไหน​ ที่แน่ๆ​ ตื่นมาก็ปวดหัวและตาบวมเหมือนโดนผึ้งต่อย​ โชคดีที่พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัด3-4 วัน​ ฉันเลยไม่ต้องหาข้ออ้างในการนอนซมอยู่บนเตียง ตอนนี้เกือบจะบ่ายสามแล้วฉันเลยออกมานั่งสูดอากาศ​ มองท้องฟ้าสดใสที่ระเบียงห้อง​ ทว่าสายตาไม่รักดีกลับเหลือบไปมองเห็นร่างสูงของใครบางคนที่กำลังเดินยิ้มแย้มอยู่​ แต่มันจะไม่ทำให้ฉันหัวใจกระตุกแรงได้เท่ากับที่​ พี่น้ำพุกำลังเดินไปหาใครบางคนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งในสนามบ้านของเขา ผู้หญิงผมยาวที่ดูน่ารักก็ส่งยิ้มตอบทันที​ ที่มือใหญ่ของพี่น้ำพุยื่นไปลูบศีรษะของเธอด้วย​ เห็นแบบนั้นฉันก็เอามือตัวเองลูบกลุ่มผมตัวเองเหมือนที่พี่น้ำพุทำกับอีกคน​ ฉันหลงคิดว่าเขาทำกับฉันเป็นพิเศษซะอีก ภาพการหยอกล้อของทั้งสองคน​ ทำเอาน้ำตาที่เหือดแห้ง​กลับก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง​ ไม่ใช่ว่าฉันเด็กเกินไปหรอก​ แต่เพราะว่าฉันไม่ใช่คนที่เขาชอบที่สุดต่างหาก​ "เฮียพุ​ แกล้งบีอีกแล้วนะ" "ไม่แกล้งบีจะให้เฮียแกล้งใคร​ ก็มีบีอยู่คนเดียวนี่" เสียงที่ฟังดูอบอุ่น​ในตอนที่พูดกับฉัน​ ตอนนี้เขาก็ยังใช้มันกับคนอื่น ถึงรู้ว่าฉันจะไม่มีสิทธิ์จะมาหวงการกระทำของเขาก็เถอะ​ แต่อย่างน้อยฉันก็อยากให้เขาคิดว่าฉันพิเศษกว่าใครคนนั้นบ้าง​ ทำไมฉันถึงได้เอาแต่ใจแล้วอยากเรียกร้องในสิ่งที่ไม่ใช่ของๆ​ ตัวเองด้วย "เด็กคนอื่นก็มีเยอะแยะ​ ไม่มีบีเฮียจะทำไง" "เฮียคงเหงาแย่" ถ้าไม่มีเซียพี่พุจะเหงาไหม?​ ฉันเองก็อยากถามคำถามนั้นเหมือนกัน​ แต่พอเป็นฉันทำไมทุกอย่างดูยากไปหมดเลย ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจลุกเดินออกจากระเบียง​ สายตาคมของร่างสูงก็เบือนสายตาหันกลับมาสบตากับฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ​ มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นทันทีที่เขาเห็นว่าฉันเองก็กำลังมองเขาอยู่​ มือหนายกขึ้นโบกเป็นการทักทาย​ ส่วนฉันก็ทำได้เพียงโบกมือกลับแล้วหมุนตัวเข้าห้องปิดประตูระเบียง​ แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง เมื่อวานว่าเจ็บแล้ววันนี้ยังเจ็บกว่าเมื่อวานอีก.. จะต้องให้ฉันร้องไห้อีกนานแค่​ไหน​ อีกกี่วันกี่อาทิตย์​มันถึงจะหายจากความเจ็บปวดนี่สักที​ ยิ่งไม่อยากเจอก็ยิ่งเจอ ไม่อยากรับรู้กลับได้ยินทุกอย่าง​ การอกหักแล้วจะอยู่เงียบๆ​ คนเดียวมันยากเย็นอะไรขนาดนี้ อยากนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาในอีกวัน​ แล้วฉันจะกลับมาเป็นซีเซียคนเดิม คนแพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง​....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD