8

1486 Words
“เราน่ะออกไปได้แล้ว วันหลังไม่ต้องเข้ามาในห้องหนูแก้วแบบนี้อีก ยายไม่ชอบ เราน่ะเจ้าชู้ประตูดิน หนูแก้วตามไม่ทันเราหรอก” คุณยายยื่นคำขาด อย่างน้อยถ้ารักชอบพอกันก็ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่ใช่จะมาลากหลานสาวหัวอ่อนของท่านขึ้นเตียงท่าเดียว “ที่ไหนกันครับคุณยาย ถ้าเจ้าชู้ก็มีเมียไปแล้วสิครับ นี่ยังไม่มีเลย ยังโสด...” รัชวินทร์เน้นคำว่าโสดเพื่อให้คนอีกคนในห้องได้ยินชัดเจน เขาเพอร์เฟคทุกอย่าง ผู้หญิงคนไหนไม่สนก็โง่เต็มที เขาจะทำให้พิมพ์สิริเห็นว่าจากผลของการกระทำของเธอ... ไม่ได้ทำให้เขาเป็นอะไรสักนิด “ที่โสดน่ะเพราะเราน่ะลื่นเป็นปลาไหล ไม่จริงจังกับผู้หญิงคนไหนน่ะสิ” คุณยายรู้ทันพูดดักคอหลานชาย รัชวินทร์ไม่ยอมจนมุมง่ายๆ “ก็มันไม่ใช่นี่ครับคุณยาย จะบังคับกันได้ยังไง ถ้ามันใช่ผมก็จริงจังละครับ” ปากพูดแต่ตามองอีกคนที่เอาแต่หลบหน้าหลบตาเหมือนตัวเองทำความผิดเสียหนักหนา เขาชอบที่เธอหวงเนื้อหวงตัว ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ “จ้ะพ่อคุณ ออกไปได้แล้ว ยังไงยายขอสั่งห้ามเลย เข้ามาในห้องหับน้องแบบนี้ไม่ดี มันไม่เหมาะ เราน่ะเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ถ้าเป็นเด็กๆ เหมือนแต่ก่อนน่ะยายจะไม่ว่าเลย” คุณยายสั่งห้ามเสียงเฉียบขาดอีกครั้ง รัชวินทร์หน้างอเล็กน้อย แต่เขาหรือจะยอมแพ้ ยิ่งหวงเขาก็ยิ่งอยากได้ ก็ให้มันรู้ไปสิว่าจะหวงไปได้สักกี่น้ำ “เราเดินไหวหรือเปล่า จะได้เวลาอาหารเย็นแล้ว วันนี้แม่เกดเขาสั่งให้คนทำอาหารเยอะแยะเลย ต้อนรับการมาของพ่อราร์ดด้วย แต่ไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลดีไหมลูก” ยายกิ่งแก้วหันไปถามเด็กสาวในอุปการะ ลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความรักและเอ็นดูสุดหัวใจ “เดินไหวค่ะ ไม่ถึงกับต้องไปโรงพยาบาลหรอกค่ะคุณยาย งั้นแก้วขออาบน้ำก่อนนะคะคุณยาย” แก้วกัลยาบอกผู้มีพระคุณด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “เดี๋ยวยายให้คนเอาไม้เท้ามาให้เรานะ จะได้เดินสะดวก” เพราะก้มมองข้อเท้าของเด็กสาวแล้วยายกิ่งแก้วนึกเป็นห่วง ไม่อยากให้ลงน้ำหนักเท้าอีกข้างมากเกินไป “ขอบคุณค่ะคุณยาย” เธอไหว้ขอบคุณอย่างอ่อนน้อมตามนิสัย “งั้นยายไปก่อนนะ เดี๋ยวจะให้พุดจีบมาดู อุ๊ย! ตาราร์ดยังไม่ไปอีกเหรอเรา” ยายกิ่งแก้วหันมาก็เจอกับหลานชายยังยืนยิ้มอยู่อีกด้าน ทั้งๆ ที่คิดว่าอีกฝ่ายออกไปจากห้องแล้ว “ผมอยู่รอคุณยายครับ เดี๋ยวผมประคองไปนะครับ” รัชวินทร์รีบเข้ามาประคองคุณยายเพื่อเอาใจ ไม่ลืมหันไปมองร่างน้อยทางด้านหลัง แก้วกัลยาหน้าแดงเมื่อเห็นสายตาสื่อความหมายของเขา เธอสะเทิ้นอายจนต้องหันหลังหนี การสบตารัชวินทร์ทำให้เธอเข่าอ่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ “เอาใจยายแบบนี้อยากได้อะไรหรือเปล่าพ่อราร์ด” คุณยายกิ่งแก้วดักคอหลานชายอย่างรู้ทัน เพราะแต่ไหนแต่ไรมา หากรัชวินทร์อยากได้อะไรก็จะออดอ้อนแบบนี้เสมอๆ เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออกทำไมจะไม่รู้นิสัยใจคอกัน แต่ที่นางหวั่นคือความเจ้าชู้ของพ่อตัวดี ถ้ายังไม่หยุดความเจ้าชู้ ผู้หญิงคนไหนๆ คงต้องคิดหนักหากจะลงหลักปักฐานด้วย “ถ้าผมแน่ใจแล้วจะบอกนะครับ แต่คุณยายต้องยกให้ผมนะครับ”         พูดอ้อนๆ แต่มัดมือชกให้ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพยินยอมให้ในสิ่งที่เอ่ยขอ “ไม่บอกก่อนจะให้ยายรับปากได้ยังไง มัดมือชกกันนี่นา เจ้าเล่ห์นักนะเรา ยายยังไม่รับปากเราง่ายๆ หรอก” คุณยายอมยิ้ม ยังไม่ยอมรับปากง่ายๆ “โธ่... คุณยายก็ สิ่งที่ผมจะขอรับรองว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่คุณยายจะให้หรอกครับ ไม่ใช่ดวงเดือน ดวงดาวแน่นอน แต่เป็นสิ่งที่คุณยายยกให้ผมได้โดยง่าย” “ขนาดนั้นเชียว เอาเถอะ ไว้ถึงเวลายายจะพิจารณาอีกที” คุณยายตัดบท รัชวินทร์จึงรุกเพียงเท่านั้น เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักทำให้แก้วกัลยาขานรับเสียงหวาน   เธอคิดว่าคงจะเป็นป้าพุดจีบหรือไม่ก็พี่รานีที่มาตามลงไปรับประทานอาหารเย็น เธอมองตัวเองในกระจกอีกครั้งแล้วยิ้มอย่างพอใจเมื่อแต่งตัวเสร็จทันเวลาพอดี “ค่ะๆ หนูมาแล้วค่ะ” แก้วกัลยาใช้ไม้เท้าเดินมาเปิดประตูเพราะไม่อยากลงน้ำหนักที่เท้าอีกด้านมากนัก แต่อาการของเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว แค่สะดุดหกล้มไม่ได้เป็นอะไรมากมายจนถึงกับต้องไปโรงพยาบาลอย่างที่คุณยายกิ่งแก้วต้องการ “อุ๊ย! พี่ราร์ด” แก้วกัลยาอุทานเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่ป้าพุดจีบหรือรานีอย่างที่คิด “พี่มารับลงไปกินข้าวครับ” รัชวินทร์พูดแล้วกวาดสายตามองเรือนร่างบอบบางของคนตรงหน้า ความอวบอิ่มในสัดส่วนของความเป็นสาวทำให้เขาถึงกับมองค้าง แก้วกัลยาเป็นคนสวยอยู่แล้ว เมื่อเกล้าผมบนศีรษะเช่นนี้ทำให้เธอดูสวยหวานยิ่งขึ้นไปอีก ผมยาวสลวยดำสนิทประดุจแพรไหมถูกรวบไว้กลางกระหม่อม เน้นเขาโครงหน้ารูปไข่ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เขากวาดสายตาลงมายังลำคอระหงขาวจัดจนอยากจะเข้าไปกัดด้วยความมันเขี้ยว อกอวบอิ่มที่เห็นเป็นรูปร่างชัดเจนอยู่ภายใต้เสื้อแขนยาวลายลูกไม้ รับกับเอวคอดกิ่วที่เล็กเหลือเกิน เขามองช่วงล่วงที่เธอสวมใส่ เป็นผ้าถุงเข้าชุดกัน ทั้งๆ ที่เขาคิดว่ามันเป็นชุดที่เชยระเบิด แต่พอประดับอยู่บนเรือนร่างของแก้วกัลยากลับเข้ากันอย่างไม่มีที่ติ เหมือนนางในวรรณคดีไทย ไม่ก็นางไม้ที่จำแลงมาอยู่ตรงหน้า รัชวินทร์เผลอมองสะโพกผายของเธอแล้วนึกจินตนาการตามประสาผู้ชาย ถ้าได้สัมผัสแตะต้องจะเป็นเช่นไรหนอ คงนุ่มนิ่มเต่งตึงและน่าขบกัดนัก รูปร่างของเธอรับกันอย่างเหมาะเจาะ อรชรอ้อนแอ้นสัดส่วนเหมือนนาฬิกาทราย แล้วเท้าเล็กๆ ที่เขาหลงใหลนั้น อยู่ในรองเท้าผ้านิ่มๆ สำหรับใส่อยู่ในบ้านแลดูบอบบางยิ่งนัก “ความจริงไม่ต้องก็ได้นะคะ แก้วเกรงใจค่ะ” แก้วกัลยาบอกอย่างเกรงใจ ยิ่งเห็นสายตาของเขาก็สะเทิ้นอาย เกิดมายังไม่เคยถูกชายคนไหนมองด้วยสายตาโลมเลียเช่นนี้มาก่อน อาจเพราะคุณยายกิ่งแก้วหวงนักหวงหนา ตั้งแต่เล็กแต่น้อยมาเธอจึงใช้ชีวิตอยู่ติดบ้านมากกว่าออกไปเที่ยวเตร่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป พอกลับจากโรงเรียนเธอก็ไม่เคยไปเถลไถลที่ไหน ให้มีใครต้องเป็นกังวล “ได้ยังไง ก็เราปวดข้อเท้าอยู่นี่นา ไหนเป็นยังไงบ้าง” เขาเดินเข้ามาหาร่างแน่งน้อย แก้วกัลยาเผลอถอยไปด้านหลังอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง “ไม่เป็นอะไรมากแล้วค่ะ” เธอบอกอย่างเกรงใจ ไม่อยากให้เขามาเป็นห่วงเป็นใยกับข้อเท้าของเธอเกินจำเป็น “แต่ยังใช้ไม้เท้าค้ำอยู่ เอาแบบนี้นะ พี่อุ้มเราลงไปด้านล่างดีกว่า” “อย่าดีกว่าค่ะ แก้วไม่ได้เป็นอะไรมาก อุ๊ย!” เธอปฏิเสธได้ไม่เท่าไหร่เขาก็ดึงไม้เท้าของเธอออกไปแล้วตวัดอุ้มร่างบางขึ้นสู่อ้อมแขน “กอดคอพี่เอาไว้ครับ ไม่งั้นตกลงไปแข้งขาหักพี่ไม่รู้ด้วยนะ” เขาก้มลงมากระซิบ แก้วกัลยาจำต้องกอดคอของเขาเอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใจก็นึกกังวลว่าจะโดนผู้ใหญ่ตำหนิที่ให้เขาอุ้มเธอแนบชิดลงไปข้างล่างแบบนี้ รัชวินทร์ก้มมองคนหวงเนื้อหวงตัวในอ้อมแขน เธอไม่มีวันปฏิเสธหรือเอาชนะเขาได้ สิ่งไหนที่เขาอยากได้ เขาต้องการ เขาต้องได้ในเร็ววัน และเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ “หยุดทำไมคะพี่ราร์ด” แก้วกัลยาเอ่ยถามเมื่อเขาหยุดเดินระหว่างทางที่จะไปถึงงานเลี้ยงเล็กๆ ที่คุณยายจัดขึ้น รัชวินทร์ไม่ตอบแต่วางเธอให้นั่งลงที่ซุ้มกล้วยไม้ ก่อนจะเด็ดดอกกล้วยไม้สีชมพูอมม่วงมาถือเอาไว้ แก้วกัลยามองอย่างงุนงง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD