“ก็หนูแก้วน่ารักนี่คะ เกดยังชอบเลย” การะเกดเข้าไปบีบนวดมารดาอย่างเอาใจ เพราะเห็นอาการของลูกชายแล้วมีลุ้นว่าจะสำเร็จ เธอกับสามีจะได้อุ้มหลานกับเขาเสียที เพราะรอมาจนแทบถอดใจ พอรัชวินทร์คบกับพิมพ์สิริ เธอก็ให้ลูกน้องไปสืบ ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่คนดี จึงเป็นคนกระชากหน้ากากของพิมพ์สิริเสียเอง
“คอยดูเอาเถอะ ถ้าทำให้หนูแก้วของแม่เสียใจ แม่จะจัดหนักพ่อลูกชายยอดสวาทของเราเชียว” คุณยายกิ่งแก้วค้อนให้บุตรสาวเช่นกัน มองภาพตรงหน้าแล้วแสลงใจจนไม่อยากมอง ยิ่งพ่อตัวดีซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของแก้วกัลยา ท่านยิ่งไม่อยากมองให้แสลงตา
“ไม่ใช่คุณแม่คนเดียวหรอกค่ะ เกดก็ไม่ยอมเหมือนกัน ยังไงสะใภ้ของเกดต้องเป็นหนูแก้วคนเดียวเท่านั้น” การะเกดประคองมารดาเดินจากไป แต่ยายกิ่งแก้วไม่วายหันไปมองทางประตูห้องอย่างหวงๆ เด็กในอุปการะ แต่ก็ต้องตัดใจ เพราะเช่นไรก็คาดหวังว่ารัชวินทร์จะต้องได้เป็นหลานเขย แก้วกัลยาต้องได้เป็นหลานสะใภ้ของนางอย่างแน่นอน ในเมื่อเจอกันอีกครั้ง เคมีเข้ากันซะขนาดนี้...
แก้วกัลยาค่อยๆ ลืมตาตื่นด้วยความง่วงงุน ก่อนจะตกใจเมื่อเธออยู่ในอ้อมกอดของรัชวินทร์ และยิ่งตกใจเมื่อเขากำลังมองเธออยู่ก่อนแล้ว ด้วยสายตาที่ทำให้เธอสะท้าน
“พี่ราร์ด ปล่อยแก้วก่อนค่ะ จะเย็นแล้ว แก้วต้องไปช่วยป้าพุดจีบทำกับข้าวค่ะ”
“ขยันจังเลย ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ” เขาดึงเอวคอดเข้ามาหาทำให้ด้านหน้าของเธอแนบชิดกับอกของเขา แก้วกัลยาใช้มือบางดันอกของเขาเอาไว้ พาใบหน้าหนีเพราะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดอยู่ตรงหน้าผากของเธอ
“พี่ราร์ดปล่อยก่อนค่ะ” ยิ่งเธอเบี่ยงหน้าหนี เขาก็ยิ่งขยับหน้าเข้ามาใกล้ จนเธอจะตกเตียง
“ขยับไปไหนครับ จะตกเตียงแล้วนั่นเห็นไหม” เขาหัวเราะชอบใจยิ่งอยากแกล้งเธอเข้าไปอีก ผู้หญิงอะไรน่าแกล้งและน่า... ปล้ำ
“พี่ราร์ดก็ขยับออกไปก่อนสิคะ” เธอต่อรองตาแป๋วแหวว
“ถ้าไม่ตอบ พี่จะจูบนะครับ” เขามองสบตาหวาดหวั่นของเธอแล้วยิ่งอยากแนบชิดเข้าหา เกิดมามีแต่ผู้หญิงทอดสะพานให้ มาเจอแก้วกัลยาคนแรกที่พยายามถอยหนี
“ตะ... ตอบอะไรคะ” คนขี้อายหน้าแดงอายม้วนเมื่อเขาขยับเข้ามาจนใบหน้าแนบชิด ลมหายใจเป่ารดกันถนัดถนี่ เธอเบี่ยงศีรษะหนีไปไหนไม่ได้อีก เลยหันมาซุกหน้าที่อกเขาแทน รัชวินทร์ยิ่งหัวเราะหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นคนตัวเล็กแก้ปัญหาแบบเด็กๆ แต่เขากลับชอบที่เธอทำท่าเหมือนยอมแพ้เขาในที่สุด
“ตอบพี่ว่าทำอาหารอะไรเป็นบ้างไงครับ เพิ่งถามไปเมื่อกี้เอง” รัชวินทร์ก้มลงกระซิบที่ริมหู อดใจไม่ไหวกดริมฝีปากลงบนแก้มนวลหอมกรุ่นแดงระเรื่อ
“อุ๊ย! พี่ราร์ด” เธอเผลอเงยหน้าขึ้นลูบแก้มด้วยความอาย เป็นโอกาสให้เขาประทับริมฝีปากหยักหนาลงมาบนกลีบปากบอบบางได้อย่างถนัดถนี่
แก้วกัลยาตาโตเมื่อเขาขโมยจูบแรกของเธอไปหน้าตาเฉย แรงบดขยี้น้อยๆ มาพร้อมกับการสอดแทรกลิ้นที่จ้วงเข้าไปคลุกเคล้าโบกสะบัดกับลิ้นของเธอ ทำให้คนไม่ประสาค่อยๆ เคลิบเคลิ้ม จนสุดท้ายก็กลายเป็นหลับตาลงอย่างยอมจำนน
“หวานและ...” รัชวินทร์ทำท่าจะประทับจูบลงไปอีก คนได้สติรีบผลักใบหน้าของเขาออกห่าง แล้วพลิกตัวลงไปจากเตียง
“โอ๊ย!” เพราะข้อเท้ายังเจ็บอยู่ทำให้เธอร้องเสียงหลง ที่กระโดดลงมาเต็มแรง ทำท่าจะล้มลงไปกองกับพื้น รัชวินทร์กระโดดลงมาจากเตียง เข้าประคองร่างแน่งน้อยเอาไว้
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า รู้ว่าเจ็บข้อเท้า กระโดดลงมาทำไม อยากแปลงร่างเป็นนินจาหรือไง หืม...” เขาประคองร่างที่เอียงมาซบอกเขาอยู่เพราะปวดข้อเท้า
“ไม่เป็นอะไรมากค่ะ พี่ราร์ดปล่อยก่อนค่ะ” เธอพยายามผลักไสเขาออกจากร่างกายของตัวเอง เพราะมือหนวดปลาหมึกของเขาไม่เคยว่างเว้นจากการสัมผัสร่างกายของเธอเลย
“เอาแต่ให้พี่ปล่อย เท้าบวมกว่าเดิม เป็นง่อยขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน” เขาดุอย่างห่วงใย ประคองเธอไปที่เตียง
“เห็นไหมว่ายังไม่หายดี เดี๋ยวพี่จะหาผ้ามาพันเอาไว้ให้” เขาเดินหายไปสักครู่ก่อนกลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น
แก้วกัลยาลอบมองสีหน้าจริงจังและห่วงใยของชายหนุ่ม ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อเขาเงยขึ้นสบตาแล้วอมยิ้มชอบใจ
“เสร็จแล้วครับ วันหลังไม่ต้องแอบมองพี่นะครับ พี่อนุญาตให้มองตรงๆ” แก้วกัลยาแทบเอาหน้ามุดพื้นเมื่อโดนเขาจับได้ แต่ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะได้พูดอะไรกันอีก เสียงของยายกิ่งแก้วก็แทรกเข้ามาเสียก่อน
“ทำอะไรกันสองคนนี่” น้ำเสียงเข้มงวดนั้นทำให้คนในห้องสะดุ้งพร้อมๆ กัน
“น้องหกล้มขาแพลงนิดหน่อยครับคุณยาย ผมเลยช่วยปฐมพยาบาลให้” เมื่อได้สติ... เขาตอบอย่างไม่สะทกสะท้านหรือหวาดกลัวผู้เป็นยาย รัชวินทร์คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย ก็แค่แอบมานอนกอดและหอมแก้มยายตัวเล็กตัวหอมก็แค่นั้น อ้อ... แถมจูบหวานๆ อีกจูบสองจูบด้วย
“ตายแล้ว หนูแก้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก” ยายกิ่งแก้วรีบเข้าไปถามไถ่อาการอย่างห่วงใย แก้วกัลยาเป็นคนระมัดระวังตัว ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยอะไรมากมาย เพราะเป็นกุลสตรีเรียบร้อย จะเดินจะเหินก็นิ่มนวล พอได้ยินว่าอีกฝ่ายเท้าแพลง คุณยายก็นึกห่วงขึ้นมาทันที
“หนูไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะคุณยาย ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ขออภัยที่หนูลงไปช้า เดี๋ยวหนูจะลงไปช่วยป้าพุดจีบกับพี่รานีทำกับข้าวเดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกให้ผู้มีพระคุณคลายใจ และรีบขันอาสาจะลงไปช่วยงานครัวเพราะเป็นหน้าที่หลักของเธอโดยตรง
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ พุดจีบกับรานีเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เราน่ะไม่สบายอยู่ ยังจะมีน้ำใจไปช่วยคนอื่น” ยายกิ่งแก้วลูบศีรษะเล็กๆ ของเด็กในอุปการะอย่างเอ็นดู นึกชื่นชมในความมีน้ำใจของเด็กสาวที่ไม่เคยนิ่งดูดาย เอาเปรียบคนอื่นแม้แต่น้อย
“อะ แฮม” รัชวินทร์กระแอมเบาๆ
“อะไรตาราร์ด นี่เข้ามาในห้องน้องได้ยังไงกัน” เสียงดุๆ ของคุณยายทำให้รัชวินทร์ทำหน้ายู่ ก่อนเข้าไปออดอ้อนซบตักของท่านอย่างเจ้าเล่ห์ เหลือบมองคนที่กอดคุณยายเอาไว้อีกด้านตาพราว แก้วกัลยาหลบตาไม่กล้าสบตาคมเข้มของคนเจ้าเล่ห์
“เข้ามาช่วยหลานรักของคุณยายสิครับ ดูสิซุ่มซ่ามหกล้มข้อเท้าแพลง” เขาตอบผู้เป็นยาย แต่สายตามองหญิงสาวแสนน่ารักที่กำลังออดอ้อนคุณยายเช่นกัน
“มีน้ำใจจริงๆ เรา แต่ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องไม่ดีนะ วันหลังถ้าเห็นน้องเป็นอะไรก็ให้เรียกพุดจีบหรือคนอื่นๆ มาดู” ยายกิ่งแก้วตำหนิหลานชายตรงๆ แม้จะอยากให้ทั้งสองตกร่องปล้องชิ้นกันแค่ไหน แต่ความเป็นคนหัวโบราณ สั่งสอนลูกหลานให้รักนวลสงวนตัวก็ทำให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะปล่อยให้พ่อหลานชายตัวดีชิงสุกก่อนห่ามง่ายๆ
“โธ่... คุณยายครับ จะหวงอะไรนักหนา ผมไม่ทำอะไรหลานของคุณยายหรอกครับ จริงๆ เราก็เหมือนพี่น้องกันจริงไหมน้องแก้ว”
เมื่อเห็นความหวงของคุณยายก็เสียวสันหลังวาบ เขาเองก็เผลอหลับไปบนเตียงกับเธอก่อนหน้า ลืมไปเสียสนิทว่าถ้ามีใครโผล่เข้ามาจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน ทุกคนคงหวงแก้วกัลยาไม่ยอมให้เข้าใกล้เขาอีก เขาอาจจะอดเชยชิมรสหวานเลิศล้ำจากสาวน้อยก็เป็นได้
แต่... ไม่มีทางเสียหรอก ไม่มีอะไรที่นายรัชวินทร์อยากได้แล้วไม่ได้!!!
“ต้องหวงสิ หลานของยาย ยายเลี้ยงมา ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม” คุณยายค้อนให้หลานชายตัวดี แก้วกัลยาก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตาใครทั้งนั้น