หญิงสาวย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เปิดเอกสารในซองมาอ่าน ข้างในมีทุกอย่างครบถ้วนเหมือนถูกเตรียมเอาไว้
ทุกสิ่งที่เจอมาทั้งหมดในชีวิตเทียบไม่ได้กับเอกสารเพียงไม่กี่แผ่นที่อยู่ในมือเธอตอนนี้ แน่นอนว่าเธอไม่มีโอกาสได้เห็นมันมาก่อน แต่กลับมีลายเซ็นของเธอรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งไม่มีทางที่คนดีๆ คนไหนจะยอมเซ็นผูกมัดตัวเองง่ายๆ แบบนี้
หญิงสาวนึกย้อนไปถึงตอนคนของเขาให้เซ็นเอกสารบางอย่างที่สนามบินก่อนผ่านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตอนเซ็นหญิงสาวก็อ่านรายละเอียด มันก็แค่เอกสารเซ็นรับทราบในหนังสือขอความร่วมมือของสนามบินธรรมดา ไม่คิดว่าเขาจะใช้มันยัดข้อหายาวเหยียดขนาดนี้
“สารเลว!” หญิงสาวหลุดคำด่าออกจากปาก กำมือแน่น
ลายเซ็นของเธอที่ต่อท้ายทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้ มือที่ถือกระดาษแผ่นเล็กอ่อนยวบลงบนตัก เรี่ยวแรงที่เคยมีขาดหายไปเสียดื้อๆ ลมหายใจขาดห้วง ความโกรธที่สะสมอัดแน่นเพิ่มพูน เรื่องเดิมก็ยังไม่สะสาง แต่เขาก็ใช้ เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อเพิ่มเรื่องใหม่ให้เธออีกจนได้
ข้อหาหนักที่เขายัดเยียดให้เธอ หากว่าเขาส่งตัวเธอให้ทางการพร้อมกับเอกสารยินยอมฉบับนี้ เธอก็มีสิทธิ์ถูกจำคุกตลอดชีวิตที่อิตาลี
“เธอบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ ว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย”
“เลว... ฉันไม่คิดว่าพวกคุณจะใช้วิธีสกปรกรังแกผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉัน”
“ฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะใช้วิธีสกปรกมาสร้างความวุ่นวายให้พวกฉันเหมือนกัน เธอรนเข้ามาที่นี่ก่อนไม่ใช่เหรอ เธอน่าจะรู้ตัวอยู่ก่อนว่าอาจจะเกิดผลตามมา และเธอก็ต้องรับมันให้ได้” ชายหนุ่มถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“แต่ข้อหาที่คุณยัดเยียด มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันทำสักนิด”
“อย่ามาพูดพล่อยๆ เธอเซ็นยินยอมรับข้อกล่าวหาเองไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มหรี่ตาถาม เหมือนเขาจงใจยั่วยุเธอ
“ฉันหมดทางแล้วนี่” สิตมนครางเสียงแผ่ว
ผู้หญิงอย่างเธอน่ะหรือจะสู้มาเฟียร้อยเล่ห์พันเหลี่ยมอย่างเขาได้ เรื่องทุกอย่างที่เขาต้องการ ไม่ยากเกินที่เขาจะทำ แม้กระทั่งเรื่องยัดข้อหา ค้ามนุษย์และมียาเสพติดเอาไว้ครอบครอง
“เธอจะตอบฉันได้หรือยัง เรื่องราวทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่”
“ถึงแม้ว่าคุณจะใช้เล่ห์เหลี่ยมยัดข้อหาร้ายแรงให้ฉัน ฉันก็ยังยืนยัน คำเดิมอยู่ดี ว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น”
“ดี” ชายหนุ่มบอกเสียงหนัก
“คุณจะส่งตัวฉันให้ทางการเมื่อไหร่ก็เชิญ”
เธอบอกอย่างหนักแน่น ในแววตาของหญิงสาวไม่มีความหวาดกลัวให้เห็น เธอหมุนตัวกลับ เดินออกไปจากห้องโถง
“เธอไม่ห่วงเดลล่าแล้วเหรอ” ชายหนุ่มถามตามหลัง
“มีคนที่รักเธอที่สุดบอกฉันว่า เดลล่าอยู่ที่นี่จะปลอดภัยที่สุด และฉันก็เชื่อเธอคนนั้น”
“ใคร” ชายหนุ่มถามอีกครั้ง
“ผู้ชายเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างคุณคงจะสืบเองได้ไม่ยาก” หญิงสาวบอกอย่างไม่ยี่หระ
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม “ฉันจะถือว่าเป็นคำชม”
“ฉันด่าต่างหาก” หญิงสาวบอก หันหลังกลับออกไปอีกครั้ง บอดีการ์ดของชายหนุ่มขยับตัวตามเธอ แต่เขายกมือห้ามเอาไว้ก่อน พูดตามหลังหญิงสาวที่ก้าวออกไปเพียงไม่กี่ก้าว
“เธออยากได้แขนหรือขาของเดลล่าก่อนล่ะ ฉันจะให้คนจัดการได้ถูก เธอเคยได้ยินหรือเปล่า ที่ที่ปลอดภัยที่สุด อาจเป็นที่ที่อันตรายที่สุดก็ได้” ชายหนุ่มพูดสลับประโยคที่เธอเคยได้ยินบ่อยๆ แน่นอนว่าเธอไม่เคยได้ยินประโยคนี้ที่ไหน
สิ้นประโยคหญิงสาวก็หมุนตัวและเดินกลับมาหาเขาอีกครั้งด้วยความโกรธ เธออยากตะโกนใส่หน้าบอกความจริงกับเขาว่าเดลล่าเป็นลูกที่เขาทอดทิ้งไว้กับซารีน่า แต่เธอก็ทำไม่ได้ ได้แต่เก็บความคั่งแค้นเป็นความลับเอาไว้ในใจต่อไป
“คุณนี่มันอสูรร้ายจากนรกมาเกิดจริงๆ ทั้งชั่วและสารเลว กล้าแม้กระทั่งเอาเด็กไร้เดียงสามาขู่ มาเฟียอย่างคุณสมควรจะเอาผ้าถุงมา สวมแทนสูทชุดนี้ แต่ว่า... น่าจะเอาคลุมหัวไปเลยก็ดี”
“จะรับแขนเดลล่าหรือรับข้อเสนอของฉัน” ชายหนุ่มถามอย่างใจเย็น
“ฮึ!” หญิงสาวระบายลมหายใจออกจากปลายจมูกอย่างหงุดหงิด
สุดท้ายสิตมนก็ต้องยอมจำนน เธอไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากยอมรับทุกข้อเสนอของเขา เพื่อปกป้องเลือดเนื้อเชื้อไขของเพื่อนรักของเธอให้สมกับความไว้วางใจที่เธอได้รับ
“คุณอยากได้อะไรจากฉันอีก ว่ามาเลย” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงติดห้วน
ชายหนุ่มหรี่ตามอง “เธอแน่ใจหรือว่าเป็นผู้หญิง ความอ่อนหวานในน้ำเสียงไม่มีสักนิด”
“ก็แล้วแต่ว่าฉันจะพูดกับใคร”
“แต่เธอกำลังอยู่ในสถานะที่ไม่ควรแข็งกร้าวใส่ฉัน”
“ฉันต้องทำอะไรบ้าง คุณถึงจะพอใจ ไม่ทำร้ายเด็กไร้เดียงสาอย่างเดลล่า” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม แม้จะไม่หวานหยดย้อยหรือออดอ้อนจนเสียจริต แต่ก็อยู่ในขั้นที่ชายหนุ่มพึงพอใจ
“ฉันจะไม่ส่งตัวเธอให้ทางการด้วย ถ้าเธอทำตามข้อตกลงของฉัน เอกสารชุดนี้จะเป็นเพียงกระดาษเปล่าตลอดไป”
“ฉันต้องทำอย่างไร” หญิงสาวเริ่มใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย แม้จะเลวร้าย แต่ก็คงดีกว่าถูกจองจำด้วยข้อหาที่เธอถูกยัดเยียดพวกนั้น
“เธอต้องอยู่ข้างตัวฉันตลอดเวลา จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดร้ายกับคาร์ลอส”
“โอเค” ข้อเสนอของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยอมตกลงง่ายๆ เพราะเธอไม่เคยคิดร้ายกับคาร์ลอสอยู่แล้ว เขาคงใช้เวลาทดสอบเธอไม่นานก็สามารถพิสูจน์ได้
เธอตอบกลับโดยไม่คิดว่าตัวเองคิดผิดถนัด เผลอตัวไปกับแผนร้ายของชายหนุ่ม เขารู้ตั้งแต่ต้นว่าเธอต้องมีความเกี่ยวข้องกับซารีน่าน้องสาวของเขาไม่มากก็น้อย และเขาก็มั่นใจว่าเดลล่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของคาร์ลอสอยู่ด้วย เพียงแต่ต้องการคำยืนยันที่มากกว่านี้เท่านั้น
“ฉันพร้อมที่จะให้คุณพิสูจน์”
“เธอคงฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าไม่ได้อยู่ที่นี่เปล่าๆ”
หัวคิ้วของหญิงสาวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างแปลกใจ “ทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่”
“เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอออกไปเพ่นพ่านข้างนอกแบบอิสรเสรีอย่างนั้นหรือ มันจะสบายไปหน่อยหรือเปล่า”
“ใช่สิ! ฉันน่าจะคิดได้ ไม่มีทางที่คนใจร้ายอย่างคุณจะอ่อนข้อให้แน่นอน จะต้องหาทางเอาเปรียบฉันให้มากที่สุดเหมือนกัน” หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่หวั่นเกรง เธอไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป หากเทียบกับสิ่งที่เขาทำกับเธอทั้งหมด เธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ขอใช้วาจาเอาคืนให้เจ็บแสบสักหน่อย
ชายหนุ่มอมยิ้มมุมปาก เขาเริ่มชอบเธอขึ้นมา ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ น้องสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ เดลล่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคาร์ลอส และเธอก็คือคนที่น้องสาวของเขาไว้ใจที่สุด
แม้เขาจะยังคิดไม่ตกว่าทำไมซารีน่าต้องทำแบบนี้ ทำไมเธอไม่กลับมาด้วยตัวเอง เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ห้าปีที่ผ่านมาเธออยู่ที่ไหน ทำไมเขาถึงตามหาตัวเธอไม่เจอ
“หน้าที่ของเธอคือดูแลเดลล่าอยู่ที่นี่ ทั้งเธอและเดลล่าต้องไม่ห่างสายตาของฉันเกินครึ่งชั่วโมง นอกเสียจากว่าเป็นกรณีพิเศษที่ฉันอนุญาตและมีคนอื่นเฝ้าเท่านั้น” ชายหนุ่มบอก
ต้องยอมเสี่ยง หากคิดในแง่ร้าย ถ้าคาซ่าส่งผู้หญิงคนนี้มา เธอจะเป็นงูพิษที่ร้ายแรงที่สุดเพราะอยู่ใกล้ตัวเขาที่สุด สามารถเข้าถึงตัวของเขาได้มากที่สุด
หลังจากชายหนุ่มบอกข้อตกลงหญิงสาวก็อ้าปากหวอ รีบค้านทันที “คุณจะบ้าหรือไง ฉันไม่ใช่นักโทษนะ”
การตัดสินใจของเขาทำให้บอดีการ์ดหนุ่มตกใจไม่แพ้กัน ความปลอดภัยของเจ้านายเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การที่จะให้คนอื่นเข้ามาอยู่ใกล้ตัวก็เป็นเรื่องอันตรายที่สุดสำหรับเขาเช่นกัน พอพวกเขาจะค้าน เจ้านายหนุ่มก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามเสียก่อน