บ้านของเฟรปเป้
เอี๊ยดดดดดดด!!!!
ปึก!!!
“นายโซ่!!ทำไมเบรกแบบนี้วะ?!” ขวับ!! ฉันหันไปหาเขาเมื่อถึงหน้าแล้วเขาก็เบรกรถแรงมากจนตัวจนเอนไปข้างหน้าและกลับมากระแทกเบาะเพราะรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่
“หมั่นไส้!!ลงไปได้แล้วไป” เมื่อรถจอดสนิทเขาก็ไล่ฉันลงทันทีคิดว่าฉันอยากอยู่นักหรือไงเฮอะ!!
“เออรู้แล้ว!!!” ฉันลงจากรถของเขาก่อนจะ....
ปัก!!!!ปิดประตูรถของเขาอย่างแรง
“เธอ!!” เขาเปิดกระจกมาลงก่อนจะชี้หน้าของฉันอย่างไม่พอใจเพราะฉันปิดรถของเขาอย่างแรง
“หมั่นไส้!!แบร่ ๆ” ฉันแลบลิ้นก่อนจะเดินเข้าบ้านไม่สนใจว่าเขาจะทำหน้าแบบไหนอยู่
แกร๊ด!
“แม่คะ...หนูกลับมาแล้ค่ะ” เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านแล้วฉันก็เรียกหาแม่ทันทีแต่บ้านเงียบมากเหมือนไม่มีใครอยู่เลย
“แม่!!!แม่คะ!!” ปกติแม่จะออกไปจะบอกฉันตลอดนะแต่ทำไมวันนี้ไปไหนไม่บอกละ แม่ของฉันทำงานที่บ้านเพราะงั้นจะอยู่บ้านเกือบตลอดเวลายกเว้นไปซื้อกับข้าวและคุยงานกับลูกค้า
“แม่อยู่ไหน?” ฉันตะโกนเดินขึ้นชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นชั้นสำหรับห้องนอน บ้านของฉันอยู่ในหมู่บ้านกลางใจเมืองที่แม่ฉันพยายามเก็บเงินไปไถ่มาเพราะมันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เหลืออยู่สำหรับเราสองคน
“แม่...” กึก!! เมื่อก้าวเข้าห้องนอนของแม่ฉันก็ต้องชะงักและตัวชาไปหมดเมื่อเห็นว่าแม่กำลังนอนนิ่งอยู่ที่พื้นห้องมีเลือดไหลออกมาจากหัว
กะเกิดอะไรขึ้น...?
“แม่!!!”
“แม่คะ!!แม่ได้ยินหนูไหมแม่คะ?!” หมับ! ฉันจับตัวของแม่ก่อนจะเขย่าเบา ๆ แต่ก็ไม่มีการตอบสนองฉันพยายามใจเย็นสูดลมหายใจและหยิบโทรศัพท์มาเพื่อโทรหาโรงพยายาบาล...
(โรงพยาบาล K สวัสดีค่ะ)
“ชะช่วยด้วยค่ะ ช่วยส่งรถพยาบาลมาที่ ฮึก!!” ฉันพูดไม่เป็นภาษาเพราะว่าตกใจฉันรู้ว่าแม่ป่วยและมีโรคมากมายจนต้องโรงพยาบาลบ่อย ๆ เพื่อรับยา แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่แม่สลบไปแบบนี้
ฉันกลัว....
(ใจเย็นนะคะเราขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้ไหมคะ?)
“ฟะเฟรปเป้ค่ะ! ช่วยส่งรถพยาบาลมาหน่อยค่ะแม่ของฉัน ฮึก!!แม่ของฉันสลบมีเลือดด้วย ฮืออออ”
(ขอที่อยู่และเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ)
“ที่อยู่...”
ชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาล K
หลังจากที่โทรศัพท์หาโรงพยาบาลแล้วไม่นานรถพยาบาลก็มารับ โชคดีที่บ้านของฉันอยู่ใกล้โรงพยาบาลเพราะงั้นเลยรวดเร็วมาก นี่ก็เป็นผลแบบการที่มีแม่เป็นนักออกแบบบ้าน เมื่อก่อนตอนซื้อบ้านพ่อแม่ของฉันเลือกบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล เพื่อความสะดวกสบายในอนาคตและมันก็จริงเพราะฉันได้เรียนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยบ้าน และตอนนี้ก็กำลังอยู่ที่โรงพยาบาลใกล้อีกทุกอย่างเป็นเพราะแม่ได้จัดเตรียมเอาไว้
“ฮึก!!แม่อย่าเป็นอะไรเลยนะ” ฉันนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินมาเป็นชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครออกมาเลย
“ฮืออออ” ฉันเอามือปิดหน้าตัวเองก่อนจะร้องไห้ออกมา
วันนี้มันแย่เกินไปไหมนะโดนสาดน้ำเน่า...
ไล่ออกจากงาน....
และยังตอนนี้อีกฉันจะไม่ไหวแล้วนะแต่แม่ไม่ไหวกว่าอีกเพราะหนี้ที่มีทำให้แม่ฉันต้องรับงานมามากมาย บางครั้งลูกค้าก็กดดันและโดนต่อว่าอยู่บ่อยเพราะงานไม่ได้ดังใจ
ฉันแล้วละ??
ช่วยอะไรได้บ้าง?
นอกจากทำงานร้านอาหารและดูดวงที่ไม่ได้รุ่งอะไรมากมายเงินนิดหน่อยแทบช่วยอะไรไม่ได้เลยหรือว่า...ฉันจะดรอปเรียนและทำงานก่อนดีนะ?
หมดหนี้ก็ค่อยเรียนแม้ว่าแม่จะไม่ได้ต้องการแบบนั้นแต่ตอนนี้ฉันเองก็ทนเห็นแม่ทำงานหนัก ๆ ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
พรึ่บบบ!!!
“ญาติคุณดวงมณีครับ”
“ฉะฉันค่ะ!!” ฉันรีบลุกเมื่อได้ยินชื่อของแม่
“คุณดวงมณีเกิดโรคหัวกำเริบขึ้นมาเธอคงจะพยายามหายาจนสุดท้ายก็ล้มลงจนหัวฟาดกับขอบอะไรบางอย่างนะครับ”
“ละแล้วตอนนี้แม่ของฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วครับแต่ว่าคนไข้ต้องการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหัวใจโดยด่วนไม่อย่างนั้นอาการจะหนักกว่านี้ครับ” ฉันอยากให้แม่ได้รับการผ่าตัดแต่ว่า...ฉันจะเอาเงินมาจากที่ไหนล่ะ?
“...” ฉันบีบมือตัวเองแน่นคิดหนักว่าจะทำยังไงต่อไปดี
“หมอให้เวลาญาติคิดก่อนนะครับแต่เดี๋ยวหมอขอย้ายคนไข้ไปห้องพักฟื้นก่อน”
“ดะได้ค่ะ” ฉันหลบหมอเพื่อไปที่หาเงียบ ๆ คิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี
พรึ่บ!!
“ฮึกก!!!ฮืออออออ” ฉันออกมาข้าง ๆ โรงพยาบาล เพราะต้องการปลดปล่อยความอึดอัดภายในใจ หลังจากถามค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดมาแล้ว จะแหกปากร้องไห้ในโรงพยาบาลก็ยังไงอยู่เกรงใจคนอื่นเพราะงั้นฉันเลยพยายามพาตัวเองออกมาด้านนอกก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ฮืออออ!!!พ่อ!!!เพราะพ่อนั่นแหละทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ ฮึก!”
“แม่จ๋า!!!หนูขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ขอโทษ ฮือออออออ”
“บอกแล้วว่าให้เป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้น” เสียงจากข้าง ๆ ทำให้ฉันหันไปมองเป็นหมอดูคนนั้น มาที่นี่ได้ยังไง?
“มะมันไม่ใช่เวลามาดูดวงนะ ฮืออออ”
ปึก!! แม่หมอยื่นมือมาจับไหล่ของฉัน
“ฉันพูดจริงนะ...กับผู้ชายแม้ว่าจะมีอุตส่าห์บ้างนิดหน่อยแต่ชีวิตเธอจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ฉันเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่คำทำนายของฉันไม่ได้ผิดพลาดอย่างแน่นอน ยังไม่รักตอนนี้แต่ในอนาคตพวกเธอจะขาดกันไม่ได้อย่างแน่นอน” กับนายนั่นน่ะนะ?
ฉันมองภาพไม่ออกเลยว่าจะรักกันได้ยังไง???
แต่ภาพตีกันชัดเจนเลยล่ะ
“ฮึก ๆ แต่ฉันกับเขาไม่เคยพูดดีกันเลยนะ” กัดกันยิ่งกว่าหมาซะอีก
“เฮ้อออ ทนหน่อยเถอะน่าเชื่อหมอ!!”
“งะงั้นฉันขอยืมเงินหน่อยสิ” ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครแล้วหมอดูนี่แหละมาได้เวลาสุด ๆ แล้วตอนนี้
“ฮะ?”
“เท่าไหร่?” เธอทำหน้างงก่อนจะถามจำนวนเงิน
“สะสามแสนค่าผ่าตัด”
“หาาาา~” เธอทำหน้าตกใจเมื่อฉันบอกออกไป
“ก็ไหนบอกว่าถ้าฉันคบกับนายนั่นแล้วจะโชคดีเพราะงั้นเอาเงินมายืมก่อนสินะ แม่หมอ...ฮึก! T^T”
“ฉันอุตส่าห์ไปอุดหนุนนะ...”
“แค่สองครั้ง ๆ ละ 99 บาท =_=” แต่อย่างน้อยก็อุดหนุนแหละ
“นะ...ฉันไม่รู้ว่าพึ่งใครแล้วญาติก็ไม่มีนะ” พรึ่บ!!
“หนูกราบก็ได้ ฮึก!!” ฉันคุกเข่าก่อนจะยกมือไหว้
“ยะหยุด!!!อย่ามาไหว้ฉันนะยัยเด็กนี่!!!”
“T^T”
“เฮ้ออออ~” เธอถอนหายใจ
“ถ้าให้ยืมแล้วเธอมีอะไรแลกล่ะ?” แค่เท่านั้นฉันก็ยิ้มออกมา
“^________^”
“ไม่มีค่ะ!!!” ตอบออกไปอย่างมั่นใจ
“โอ๊ยยยยย ปวดจะหัว”
“แต่หนูทำงานได้นะทุกกกกอย่างเลยและก็ดูดวงได้ด้วย^^”
“ดูดวง?”
“ใช่ ๆ รับหนูไปทำงานใช้หนี้ก็ได้ไม่หนีแน่นอนและหนูก็จะทำงานอย่างอื่นเพื่อให้ได้เงินมาเยอะ ๆ จะได้หมดไว ๆ ถ้าหนูทำงานกับแม่หมอละก็แม่หมอก็จะได้วางใจว่าหนูไม่หนีไปไหนแน่นอน นะ ๆ ให้หนูยืมเงินหน่อยยยยย นะ ๆ *0*” หมับ!! ฉันเกาะขาของแม่หมอ
“เออ ๆ !!! ไม่น่าเดินมาทักเลยเว้ย!!”
“เย้!!”
แม่จ๋ารอหนูก่อนหน่อยนะ...