ห้องพักฟื้น
แกร๊ด!!
“เสร็จแล้วค่ะ” ฉันวางปากกาก่อนจะส่งเอกสารคืนให้พยาบาล
“อีก 7 วันเราจะเริ่มการผ่าตัดนะครับเพราะงั้นฝากญาติคนไข้ดูแลคนไข้ให้ดีด้วยนะครับและใกล้ถึงวันผ่าตัดหมอจะมาบอกการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดอีกครั้ง”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะหมอ” ฉันยกมือไหว้
“ครับ งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
ปึก!
เมื่อหมอและพยาบาลเดินออกไปฉันก็มองที่แม่ที่ตอนนี้แม่นอนนิ่งสนิทยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลยสักนิด เพราะโรคที่เป็นและแผลที่หัวเลยทำให้นอนยาวไปเลย
“ทีนี้ก็สบายใจแล้วใช่ไหม?” แม่หมอหรือน้าอุไร ซึ่งฉันพึ่งรู้ชื่อของเธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“ค่ะ หนูขอบคุณน้ามากจริง ๆ นะคะ” ฉันยกมือไหว้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้เราไม่เคยรู้จักกัน ไม่ใช่ญาติกันแต่เธอกับยอมให้เงินฉันยืม
“ไม่ต้องขอบคุณแล้วพอแล้ว”
“แล้วน้าจะให้หนูไปเริ่มงานวันไหนดีคะ?” ฉันถาม
“ให้แม่เธอหายดีก่อนก็ได้ฉันไม่รีบหรอก และก็...”
“...?”
“รีบเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นซะ” เรื่องนี้อีกแล้วแหะ
ถึงฉันจะเชื่อหมอดูมาก ๆ ในหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันยากจริง ๆ
“น้าอุไรรู้ไหมคะถ้าเป็นคนอื่นหนูอาจจะไม่คิดมากแบบนี้เลย ผู้ชายคนนั้นที่น้าบอกเขาต่างจากหนูมากกกกก ไม่ว่าด้านไหนก็ไม่มีอะไรคู่ควร” เขามีทุกอย่างส่วนฉันไม่มีอะไรเลยต่างไหมล่ะคิดดู
“ก็บอกแล้วว่าให้คบกันซะและชีวิตเธอจะเปลี่ยนไป...หรือถ้ายังไม่พร้อมเป็นแฟนก็อยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นให้มากที่สุดดวงของเขาจะส่งเสริม เสริมดวงให้กับเธอ”
“ดีทุกอย่างจริง ๆ ขนาดดวงยังดีเลย เหอะ ๆ” ฉันแค่นขำออกมาคนดวงดีก็ดีไปซะทุกอย่าง ส่วนคนดวงซวยอย่างฉันก็แย่ไปซะทุกอย่างจริง ๆ
“เพราะงั้นถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตรีบคว้าไว้เข้าใจไหม?”
“ตอนนี้หนูต้องหาเงินนะแต่เอาเวลาไปจีบเขา”
“เถอะน่าาา~เชื่อเถอะว่าคนนี้แหละที่จะนำสิ่งดี ๆ มาให้” ปึก ๆ น้าอุไรเดินเข้ามาตบไหล่ของฉัน
“เฮ้อออ หนูจะพยายามแล้วกัน” แม้จะไม่รู้ว่ามันจะดีไหมก็ตามแต่ตอนนี้อะไรที่ทำได้ก็ทำไปก่อนเถอะ
“งั้นน้าไปก่อนนะและเจอกันที่ร้าน”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
สามวันต่อมา...
“น้ำค่ะแม่...”
“ขอบใจนะ” แม่ของฉันฟื้นแล้วแต่ยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เพราะว่าต้องรอเข้ารับการผ่าตัดซึ่งแม่ยังไม่รู้เรื่องเลยแต่วันนี้ฉันต้องบอกเพื่อให้แม่ได้เตรียมตัว
“แม่คะ...”
“หืมว่าไง? แล้วเมื่อไหร่แม่จะได้ออกจากโรงพยาบาลงานแม่อีกเยอะนะเฟรปเป้” งาน ๆ ๆ ชีวิตของแม่มีแค่งานเท่านั้นแต่ฉันก็เข้าใจเพราะเราจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน
“แม่...แม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดนะ” ฉันบอกไปแล้ว
“ว่าไงนะ?”
“โรคหัวใจของแม่มันแย่ลงเพราะงั้นต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหัวใจใหม่”
“เราไม่มีเงินขนาดนั้นไม่ต้องผ่าอะไรทั้งนั้นแม่อยู่ได้!!!” แม่ตอบกลับด้วยความไม่พอใจ
“แม่อยู่ได้แต่หนูอยู่ไม่ได้!!แม่ผ่าตัดเถอะนะ”
“ผ่าตัดนะเฟรปเป้!!ต้องใช้เงินตั้งเท่าไหร่คิดว่ามันง่ายเหรอฮะ?!”
“เรื่องนั้นหนูรู้!!และตอนนี้หนูก็หาเงินได้แล้วเพราะงั้นแม่ไม่ต้องห่วงหรอก!!ผ่าตัดเถอะนะแม่” ฉันพยายามอ้อนวอนขอร้อง
“ไปเอาเงินมาจากไหน?”
“....”
“แม่ถามว่าแกไปเอาเงินมาจากไหน?!”
“ทะที่ทำงานเขาให้เบิกมาล่วงหน้าเดี๋ยวหนูจัดการเองแม่แค่พักผ่อนเตรียมผ่าตัดก็พอ....”
“คงไม่ได้ไปยืมเงินใครมาอีกใช่ไหม?” กึก!! ฉันชะงักไปเมื่อได้ยินคำถามของแม่
“....”
“แค่พ่อแกคนเดียวทุกวันนี้ก็ยังใช้หมด!!!” เรื่องนั้นรู้ดีแต่ฉันก็ยังสร้างหนี้เพิ่มแต่ฉันก็ยอมให้แม่จากไปโดยไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ได้
“ไม่ใช่แบบนั้น...”
“หนูแค่ทำงานเพื่อชดใช้ค่าแรงที่เอามาล่วงหน้า แม่ไม่ต้องห่วงเลยหนูจัดการได้จริง ๆ เพราะงั้น ฮึก! หนูขอร้องผ่าตัดเถอะนะแม่จะได้อยู่กับหนูนาน ๆ ไง หนูอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีแม่นะคะ ฮืออออ” ฉันร้องไห้ออกมา
“เฟรปเป้...” หมับ! เรากอดกันก่อนจะร้องไห้ออกมาสุดท้ายแม่ก็ยอมเข้ารับการผ่าตัด
วันต่อมา
มหาวิทยาลัย A
วันนี้ฉันไม่ได้มาเรียนแต่มายื่นใบดรอปเรียน...
ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะพักการเรียนเอาไว้ก่อนและออกไปหางานทำเพื่อหาเงินใช้หนี้ให้หมด เมื่อหนี้หมดก็ค่อยเก็บเงินมาเรียนใหม่อีกครั้ง ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแม่เพราะรู้ว่าบอกไปแม่ต้องห้ามอย่างแน่นอนเพราะงั้นดรอปไปก่อนและค่อยบอกทีหลังแล้วกัน
กึก!! ขณะที่กำลังเดินไปตึกกองพัฒนานักศึกษาเพื่อยื่นใบดรอปเรียนก็เจอกับนายโซ่ที่กำลังเดินมากับเพื่อนของเขา
“ก็บอกแล้วว่าให้คบกันซะและชีวิตเธอจะเปลี่ยนไป...หรือถ้ายังไม่พร้อมเป็นแฟนก็อยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นให้มากที่สุดดวงของเขาจะส่งเสริม เสริมดวงให้กับเธอ”
อยู่ ๆ เสียงของน้าอุไรก็ดังเข้ามาในหูของฉันอย่างน้อย....อยู่ใกล้กันก็ยังดีเหรอ?
แต่ว่าตอนนี้ฉันควรโฟกัสกับการหาเงินมากกว่าหาแฟนนะ
“มองหน้าทำไมยัยตัวแสบ?” เขาถามฉันเมื่อฉันมองเขานานเกินไป
“คะแค่นึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเสื้อมาคืนนาย” ฉันจะแสดงท่าทางเศร้าหมองออกไปไม่ได้
“ไม่ต้องคืน”
“ก็แล้วแต่ละกัน” ฉันทำเป็นไม่สนใจก่อนจะเดินผ่านไป
“พวกมึงเดินไปก่อน” เสียงเขาพูดกับเพื่อนแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเดินต่อไป
พรึ่บ!!
“นี่!!!นายโซ่!!!” แต่ฉันก็ไม่สามารถเดินผ่านไปได้ง่าย ๆ เพราะเขาแย่งเอกสารในมือของฉัน ไอ้คนนิสัยไม่ดีเอ๊ย!!!
“ดรอปเรียน?” เขาอ่านเอกสารก่อนจะมองหน้าของฉัน
“มันไม่ใช่เรื่องของนายสักหน่อย!!เอาคืนมานะ!!” ฉันพยายามแย่งแต่ก็ไม่สำเร็จคนหรือเปรตสูงชะมัดเลย
“ดรอปทำไม?”
“ฉันบอกว่าไม่ใช่เรื่องของนายไง!!นายโซ่!!!” ฉันเขย่งเพื่อเอาเอกสารแต่ก็ไม่ถึง
“ก็จริงมันไม่ใช่เรื่องฉันสักหน่อย” พรึ่บ!! เขาส่งเอกสารคืนกลับมาคงคิดได้ละมั้งว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรของเขาที่ต้องมายุ่งกับฉันสักหน่อย
หมับ!!
“....” ฉันรับเอกสารคืนกลับมา
“แต่เธอควรคิดดี ๆ ดรอปไปแล้วใช่ว่าจะกลับมาเรียนได้ง่าย ๆ”
“ฉันคิดดีแล้วและคิดมานานแล้วขอบใจที่เตือนแล้วกัน”
“งั้นก็ตามใจแล้วกันถ้าเธอไม่มีเลือกอื่นแล้วและนี่เป็นทางเลือกที่สุดของเธอ...” เขาบอกก่อนจะเดินหันหลังกลับไป
ทางเลือกเหรอ???
มันมีอีกทางเลือกหนึ่ง...แต่นั่นก็เป็นเพียงคำนายเท่านั้นมันจะจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
แล้วฉันลองหรือยังละ?
ยังเลย...ฉันยังไม่ได้ลอง
แต่มันก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่น่า...
“ดะเดี๋ยว!!!” ฉันเรียกนายโซ่เอาไว้ก่อนจะวิ่งเข้าไปหา เขาเดินปกติส่วนฉันวิ่ง =_=
“มีอะไรอีกไม่ไปส่งเอกสารล่ะ?”
“ความจริงมันมีอีกทางเลือกหนึ่ง...” ฉันกลั้นใจก่อนจะตอบเขาออกไป
“อะไรล่ะ?”
“อะเอ่อ...” แม่เอ๊ย!!! พูดไม่ออกวะ
“คะคือเอ่อ คือ”
“นึกได้แล้วค่อยมาบอกแล้วกัน” หมับ!! เขากำลังเดินหนีแต่ฉันจับแขนของเขาไว้ก่อน
“นายต้องเป็นแฟนกับฉัน!!!!” ฉันพูดออกไปเสียงดัง คนมองเต็มเลย >_‘ยินดีด้วยคุณถูกรางวัลที่ 4 1 ใบจำนวน 40,000 บาท’
“วะวอทททททท 0[ ]0”
“เป็นบ้าอะไรอีก?” เขาก้มหัวมามองจอโทรศัทพ์ของฉัน
“นายโซ่!!!!ฉันถูกหวยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!” หมับ!!! ฉันกระโดดกอดเขาทันที
“ฮะเฮ้ย!!!ออกไปนะ”
“นายนี่มันตัวเงินตัวทองของฉันสินะ^^”
แค่อยู่ใกล้ยังถูกหวยรางวัลที่ 4 ถ้าเป็นแฟนเขาไม่ถูกรางวัลที่ 1 เลยเหรอ???
เอาล่ะ!!ฉันตั้งใจแล้วว่าจะ! จีบ! นาย! โซ่!!