บทที่3

1315 Words
“ไปทำไมบ้านพักคนงาน” คเชนทร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงดุ ก่อนที่จะลดฝ่ามือไปลูบเบาๆที่แก้มป่องเมื่อเจ้าของมันทำท่าจะตื่น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำ รู้ก็แต่ว่ายิ่งทำก็ยิ่งเพลินจนหยุดมือไม่อยู่ ก็ใครใช้ให้มีแก้มเยอะ ใช่ความผิดเขาที่ไหน! “กะ...ก็นายสั่งให้เตรียมห้อง...” “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว กลับบ้าน” ตัวเล็กๆ แค่นี้จะกินจุสักแค่ไหนกันเชียว เขาเชื่อว่าเขาเลี้ยงเธอได้สบาย อีกอย่างเขารับปากแม่ไว้แล้วว่าจะดูแลเด็กของท่านให้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น! เขาไม่อยากผิดคำพูด! เมื่อมาถึงบ้านคเชนทร์ก็ทำในสิ่งที่ทำให้ใครหลายๆ คนต้องตาค้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ภาพของเจ้านายที่อุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากรถก็ปรากฎต่อสายตา ซ้ำเจ้าตัวยังดูเหมือนจะไม่สนใจภาพลักษณ์ ‘ชายผู้มีรักเดียว’ ที่สะสมมาครึ่งชีวิตเลยสักนิด “นั่นนายมึงไปขโมยลูกใครมาวะไอ้ส่ง!” นางฟาง แม่บ้านคนเก่าแก่อดไม่ได้เลยต้องหันไปถาม คนที่น่าจะตอบคำถามให้นางกับคนอื่นๆ ได้ดีกว่าใครๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงคนสนิท น่าจะพอรู้อะไรดีๆมาบ้างไม่มากก็น้อย ต่างจากนางที่วันๆอยู่แต่บ้านไม่รู้อะไร “เธอชื่อคุณอ้อน เด็กของนายแม่ เห็นว่าฝากให้มาทำงานที่นี่” ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกไปตามที่รู้ ส่วนเรื่องต่อจากนี้ก็คงสุดแล้วแต่เจ้านายแล้ว ว่าจะให้ ‘คนในอ้อมแขน’ นั้นอยู่ในสถานะไหนกันแน่ “แล้วทำไมนายต้องอุ้มเข้าไปในบ้านแบบนั้นด้วยวะ!” ด้วยกลัวว่านั่นอาจเป็นมารยาหญิง เลยต้องถามต่อด้วยความเป็นห่วง “คุณอ้อนเธอเพลียจากการเดินทางเลยเผลอหลับไป นายแกไม่อยากปลุกก็เลยอุ้มลงจากรถ ที่เหลือถ้าป้าอยากรู้อะไรก็รอถามนายเองแล้วกัน” ใครมันจะไปกล้าถาม พูดอย่างกับไม่รู้ว่า ‘คุณราม’ ของนางเป็นพวกปากหนักใจแข็งแค่ไหน ถามไปก็เท่านั้นอยู่ดี เพราะลองถ้าพ่อไม่อยากเล่า ใครหน้าไหนก็อย่าหวังจะได้คำตอบ! ทางด้านคเชนทร์ หลังจากอุ้มเอาคนหลับลึกมาส่งถึงเตียงตรวจดูความเรียบร้อยจนแน่ใจว่าทุกอย่างเข้าที่ จึงเดินกลับออกมาสั่งงานแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวให้ช่วยดูแล ‘แขกของแม่’ ต่อไป “สั่งทุกคนไว้ว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าขึ้นไปข้างบน ถ้าเธอตื่นก่อนที่ผมจะกลับเข้ามา ป้าก็ช่วยแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตที่นี่ให้เธอหน่อย ส่วนเรื่องงานเดี๋ยวผมกลับมาจัดการเอง ฝากด้วยนะครับ” นางฟางพยักหน้ารับ ก่อนจะร้องทักขึ้นเหมือนจะเพิ่งนึกอะไรออก ซึ่งมันเป็นเรื่อง ที่ค่อนข้างสำคัญกับนายน้อยของนางทีเดียว “วันนี้มีจดหมายจากอังกฤษมาส่งด้วยนะคะ ป้าวางไว้ให้ที่ห้องทำงานเหมือนเดิม” หากเป็นปกตินางจะได้เห็นเจ้านายวิ่งหายเข้าไปในห้องทำงานแล้ว แต่นี่...กลับเป็นครั้งแรกที่เขาทำเพียงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินหายออกจากบ้านไปเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับมัน “หรือจะเป็นเพราะคุณข้างบนนั่น เจ้าพระคุณ! ขอให้ใช่ทีเถอะ!” หญิงชราอดบนบานขึ้นมาไม่ได้ เพราะอยากเห็นนายน้อยที่นางเลี้ยงมากับมือเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนเสียที ผู้หญิงคนนั้นก็เหลือเกิน ทั้งๆ ที่แต่งงานใหม่ มีลูกมีผัวไปแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังแอบส่งจดหมายรักมาให้ผู้ชายอื่นเรื่อย ไม่รู้หัวจิตหัวใจทำด้วยอะไรกันแน่! ช่างไร้ยางอายสิ้นดี! แก้วเจ้าจอมตื่นขึ้นในช่วงหนึ่งทุ่มเศษ ความตกใจที่ตัวเองเผลอหลับไปนานขนาดนี้ทำให้เธอรีบวิ่งลงมาจากชั้นบน ตั้งใจจะขอโทษเจ้าของบ้านที่ตัวเองเผลอหลับ แต่ก็ไม่พบแม้เงาของเขา... “ตื่นแล้วเหรอคุณ หิวไหมคะ ป้ากำลังทำอาหารเย็นใกล้เสร็จแล้ว”จะมีก็แต่ป้าคนหนึ่งที่ไถ่ถามก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นมาให้กัน “แล้วคุณราม...” “นายออกไปไร่ค่ะ อีกเดี๋ยวคงกลับ คุณหิวไหม เดี๋ยวป้าให้เด็กมันนั่งโต๊ะให้ก่อน” คนที่ยังประมวลผลกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทันทำได้เพียงแค่ส่งยิ้มไปให้ ก่อนจะเอ่ยอาสาขอเป็นลูกมือด้วยอีกคน “ให้อ้อนช่วยนะคะ” เรื่องงานบ้านงานเรือนเธอเชื่อว่าตัวเองไม่แพ้ใครแน่นอน โชคดีที่คลุกคลีกับแม่บ่อยๆ เลยพอได้วิชามาบ้าง “อย่าเลยค่ะ แค่นี้เองป้าทำได้ คุณเป็นแขกคุณราม ออกไปนั่งรอข้างนอกเถอะ”เมื่ออีกฝ่ายว่ามาแบบนั้นเธอเลยจำใจต้องเดินออกมานั่งรอที่ห้องรับแขก ก่อนจะใช้เวลานี้มองสำรวจไปรอบๆ บ้าน ซึ่งความหรูหราภายในของมันนั้น มองยังไงก็ไม่ใช่เรือนพักคนงานแน่นอน ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ แทนที่จะเป็นที่ที่เธอควรอยู่ หรือไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจมีเรื่องจะตกลงด้วย เลยพาเธอมาอยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยให้คนไปส่ง มันคงจะเป็นแบบนั้นไม่ผิดแน่ จังหวะที่กำลังคิดกับตัวเองอยู่นั้น ร่างสูงของเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาพร้อมคนสนิทของเขา ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ไปรับเธอที่ท่ารถ อีกทั้งยังเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนไม่ได้ตกใจต่อการมาของเธอ “พรุ่งนี้แปดโมง ห้ามสาย” คเชนทร์หันไปสั่งคนสนิทก่อนจะหันกลับมามองเจ้าของแก้มป่องๆ อีกหน กระนั้นเขาก็รอจนคนสนิทรับคำแล้วเดินออกไปเพื่อปล่อยให้เขาได้หันกลับมาสอบสวน ‘แขก’ คนพิเศษของมารดาต่อ “เพิ่งตื่น...” “ค่ะ ฉันขอโทษนะคะที่เผลอหลับ” ขอโทษอีกแล้ว พูดเป็นแค่คำเดียวรึไงแม่คุณ หนนี้เขาทำได้แต่คิด ไม่ได้พูด หรือดุอะไรออกไป เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเขา กับเด็กเส้นของแม่แย่ลงไปอีก เท่าที่ดูเธอน่าจะเป็นคนประเภทไม่มีปากมีเสียง ออกจะสงบปากสงบคำเสียด้วยซ้ำ ซึ่งบอกตามตรงว่าเขาชอบ ไม่วุ่นวายดี ด้วยนิสัยแบบนี้คิดว่าน่าจะอยู่ร่วมบ้านกันได้ไม่ยาก ตราบใดที่นี่ มันไม่ใช่แค่ภาพลวงตาที่หล่อนสร้างขึ้นเพื่อหวังให้เขาตายใจ “แล้ว...ที่พักคนงานไปทางไหนเหรอคะ ฉันไปไม่ถูก” หากเขาจะกรุณาสักนิด ก็อยากให้ช่วยเรียกพี่บุญส่งให้กลับมาเพื่อพาเธอไปส่งยังที่พักหน่อย หรือถ้าไม่ ก็แค่บอกทางมาก็ได้ เธอคิดว่าคงไม่ยากอะไรเท่าไหร่ ถ้าจะพาตัวเองไปยังจุดหมายปลายทางที่ว่า “แม่ฝากให้ฉันช่วยดูแลเธอ เพราะฉะนั้นเธออยู่ที่นี่ได้ ไม่ต้องไปไหน” เขากล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะเป็นฝ่ายเดินหายเข้าไปในห้องทานข้าวโดยมีเธอเดินตามไปติดๆ อย่างคนไม่มีปากมีเสียง “จะยืนอยู่อีกนานไหม” จนเมื่ออาหารเย็นถูกยกออกมา เสียงเข้มของเจ้าของบ้าน ที่นั่งประจำที่รออยู่ก่อนแล้วถึงได้ดังขึ้น “คะ!” “ไม่หิวรึไง” ความจริงแล้วก็หิว ว่าแต่เขาถามทำไมกัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD