บทนำ
บทนำ
“นะรามลูก ถือว่าช่วยแม่สักครั้ง” เกิดร่องรอยความลำบากใจขึ้นหลังจากสิ้นคำขอร้องของ ‘ผู้เป็นมารดา’ ที่นานๆ ครั้ง จะพาตัวเองมาเยี่ยมเยียนให้พอให้พบหน้า และก็เป็นทุกครั้งที่อีกฝ่ายมักจะนำพาปัญหามาให้ ‘คเชนทร์’ ลูกชายคนโตต้องคอยแก้ไขให้ หากแต่ครั้งนี้ปัญหาที่ท่านนำติดตัวมาด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำให้รู้สึกลำบากใจไม่น้อย
“ขอโทษครับ แต่ครั้งนี้ผมคงช่วยอะไรไม่ได้” หากสิ่งที่คนตรงหน้าร้องขอ เป็นเรื่อง ‘เงิน’ เหมือนทุกครั้ง เขาคงยอมช่วยเพื่อตัดปัญหา หรือความวุ่นวายที่จะตามมาไม่จบสิ้น แต่เพราะครั้งนี้คำขอร้องของท่านมันต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะรับปากออกไปส่งๆ โดยไม่คิดถึงสิ่งที่อาจจะตามมาในภายหลัง
คุณฉัตรแก้วมีสีหน้าลำบากใจไม่น้อยต่อคำปฏิเสธของลูก ลูก...ที่นางไม่ค่อยจะเหลียวแลเท่าไหร่ตราบเท่าที่พอจะจำความได้ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่ดูเหมือนจะขาดหายไปนับตั้งแต่วันนั้น วันที่นางตัดสินใจหย่าขาดกับพ่อของลูก และก็เป็นผู้ชายจองหองคนนั้น ที่กักตัวลูกชายของเธอไว้ ไม่ยอมปล่อยให้คเชนทร์ไปกับนางด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า เขากลัวนางพาลูกออกไปลำบาก
คงเป็นการดีกว่าที่ให้ลูกอยู่กับเขาที่นี่ เพื่อที่จะได้สืบทอดธุรกิจมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านของครอบครัว
ถึงจะโกรธแค้นอดีตสามีที่ยื่นเสนอเงื่อนไขในการหย่าร้างแบบนั้นมาให้สักแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วก็นางเองที่ไม่ยอมละทิ้งความเห็นแก่ตัวยอมรับ ไม่เว้นแม้แต่การรับเงินสิบล้านบาทของเขาเพื่อแลกกับการที่นางยอมยกลูกให้ ท่าทีของลูกที่มีต่อแม่อย่างนางถึงได้เย็นชาอย่างที่เห็น นับตั้งแต่นั้นมา และแม้จะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเอาอะไรใส่หัวลูกไปมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับนางแล้ว แม้จะแต่งงานมีลูกกับสามีใหม่ถึงสองคน แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละจังหวัด แต่ก็ไม่มีเลยสักวัน ที่นางจะไม่คิดถึงแก้วตาดวงใจของนางคนนี้ ลูกชายคนโต..ที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของนางและครอบครัว
ลูกที่เกิดจากผู้ชายที่แสนดี...
แต่เป็นนางเองที่ดีไม่พอสำหรับเขาและลูก ทางเดินใหม่ที่เลือกเดินไปนั้นจึงไม่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่เคยนึกฝันไว้ในตอนแรก แต่จะโทษใครที่ไหนได้นอกจากตัวเอง และนางไม่โทษใคร
กว่าจะมีโอกาสได้กลับเข้ามาในชีวิตลูกอีกครั้ง ก็หลังจากคุณการุณสามีเก่าเสียชีวิตไปแล้ว และก็เป็นทุกครั้งที่แม่อย่างนางมักจะนำเอาปัญหาของตัวเองมาให้ลูกอยู่เสมอ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
“แม่มีเหตุผลที่พาน้องไปอยู่ด้วยไม่ได้รามก็รู้ ช่วยแม่สักครั้งเถอะนะลูก น้องเป็นเด็กน่ารัก ว่านอนสอนง่าย แม่รับรองว่าหนูอ้อนจะไม่สร้างความวุ่นวายให้รามแน่นอน” คเชนทร์เงยหน้าขึ้นสบตามารดาอีกครั้งอย่างชั่งใจ ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่ท่านเพิ่งจะเอ่ยถึง แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ท่าน ‘ขอ’ แล้วนั้น มันก็ยังเป็นเรื่องยากต่อการตัดสินใจอยู่ดี เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเผลอตบปากรับคำไปอย่างส่งๆ บุคคลที่แม่ลงทุนขอร้องให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเป็นใคร มาจากไหนก็ไม่อาจรู้ และไม่นึกอยากจะรู้ด้วย!
อีกอย่างเขาไม่ชอบดูแลใคร เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำ!
“นะลูก ถือว่าช่วยแม่สักครั้ง แม่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วแม่จะไม่เอาเรื่องวุ่นวายมากวนใจรามอีกเลย แม่ให้สัญญาจ๊ะ” เมื่อเล็งเห็นว่าลูกชายมีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อให้ คุณฉัตรแก้วถึงได้เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งและครั้งนี้ท่านยังจ้องตาลูกกลับเพื่อเป็นการกดดัน
ด้วยเชื่อว่าสุดท้าย แล้วคเชนทร์จะชอบช่วยเหมือนทุกครั้ง...
“แค่ให้มาอยู่ที่นี่...เท่านั้นใช่ไหมครับที่คุณต้องการ” เสียงเข้มจัดถามต่ออีกหน น้ำเสียงที่ใช้ดูคล้ายว่าใกล้จะใจอ่อนเต็มที
“ความจริงน้องเพิ่งเรียนจบบัญชีมา ถ้าไม่เหนือบากกว่าแรงอะไร แม่ก็อยากให้รามช่วยฝากงานในไร่ให้น้องด้วย...” เรื่องนั้นจะไม่เป็นปัญหาเลยเพียง ‘เด็กของแม่’ ดีพอสำหรับตำแหน่งงานที่มี
ไม่ว่าใครเขาก็ยินดีช่วยทั้งนั้นถ้าเดือดร้อนมา ขนาดคนงานในไร่บางคนที่เคยต้องคดีมาก่อน เขาก็ยังกล้าเสี่ยงรับเข้าทำงานเพราะเข้าใจดีถึงความเป็นคน ที่อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างในบางครั้ง หากได้รับโอกาส คนเหล่านั้นจะกลับตัวกลับใจได้ในสักวัน
‘จำไว้นะลูกราม คนเรามีดี มีชั่วอยู่ในตัวกันทั้งนั้น ถ้าเราเลือกแต่จะเคารพแค่กับคนที่คิดว่าดี คนเลวๆ ที่พร้อมจะกลับตัวกลับใจ ก็จะไม่ได้รับโอกาสอีกเลย...’เขายึดถือคำสอนนี้ของพ่อมาโดยตลอด จึงไม่เคยคิดแบ่งแยก สำหรับเขาทุกคนเท่าเทียมกันหมด และเขาก็พร้อมช่วยเหลือ ถ้ามันไม่เหนือบากกว่าแรงตัวเอง
แล้วนี่..กับผู้หญิงตัวคนเดียวที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
“ผมจะไม่ยุ่งกับเขามากไปกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ถ้าเกิดเด็กนั่นสร้างปัญหา...คุณต้องมารับเธอกลับไปทันที!” ได้ยินเช่นนั้นผู้เป็นแม่ก็ยิ้มกว้าง ก่อนจะโผเข้ากอดลูกชายพร้อมกับคำขอบคุณ
“ขอบคุณนะลูก ขอบคุณจริงๆ”
นางคิดไม่ผิดที่มาขอให้ลูกช่วย คเชนทร์เท่านั้นที่จะทำให้นางสามารถทำตามคำสัญญา ที่เคยได้ให้ไว้กับเพื่อนรักที่จากไปได้
“รับปากเราอย่างนะฉัตร ถ้าวันหนึ่งเรากับพี่เอสเป็นอะไรไป เราขอ...ฉัตรอย่าทิ้งยายอ้อนนะ เราไม่อยากให้ลูกไปอยู่กับคนอื่น คนเดียวที่เราไว้ใจคือฉัตร” ใครเลยจะไปคิดว่านั่นจะเป็นบทสนทนาสุดท้ายที่นางกับเพื่อนได้พูดคุยกัน ในวันนั้นนางยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไป เพื่อนรักก็มาด่วนจากไปอย่างไม่มีวันกลับเสียก่อน
“หลับให้สบายนะหวาน ไม่ต้องห่วงหนูอ้อน ฉันสัญญาว่าจะดูแลแก้วตาดวงใจของเธอกับพี่เอสให้ ลาก่อนนะเพื่อนรัก...” นั่นคือคำสัญญาที่เกิดขึ้นหน้ารูปถ่ายงานศพของเพื่อนรัก ภาพของหลานสาวที่ร่ำไห้ราวกับคนใจสลายทำให้นางตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในวินาทีนั้นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีวันละเลยลูกสาวของเพื่อนที่ตนทั้งรัก และเอ็นดูไม่ต่างอะไรกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง
“แม่รับรองจ๊ะว่ารามจะต้องชอบน้อง! น้องจะไม่สร้างปัญหาให้รามแน่นอน ขอบคุณนะลูก รามของแม่เป็นที่พึ่งได้เสมอ” นั่นคงเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะทั้งชีวิตนี้ คนที่จะทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้นอกจากพ่อกับย่าที่เสียไปหลายปีแล้ว ก็มีแค่ นลิน เท่านั้น...
แม้ตอนนี้จะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับคนในอดีตแล้ว แต่ก็ยังเข็ดกับความรัก จนไม่กล้าเริ่มใหม่กับใครอยู่ดี ทั้งหมดคือความกลัว
เขากลัว...กลัวที่จะรัก
กลัวว่าถ้าเกิดรักไปแล้ว
จะถูกหักหลังเหมือนในอดีตอีก...