ปนัดดาประคองร่างของพีรวัฒน์ที่เมาจนแทบจะทรงตัวยืนไม่อยู่เข้ามาในห้องพักของเธออย่างทุลักทุเล ดีที่ว่าได้การ์ดของผับสุดหรูช่วยพาไปส่งที่รถ แล้วพอมาถึงคอนโดก็ได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยพยุงมาถึงหน้าห้อง ต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเธอ
หลังจากที่ออกจากบ้านของเพิ่มศักดิ์ พีรวัฒน์บอกว่าต้องการไปนั่งดื่มฟังเพลงคลายเครียด ปนัดดาที่รักเขาจนไม่มีสติมีหรือจะไม่ตามใจ พาพีรวัฒน์ไปยังผับหรูที่มีเพียงสมาชิกเท่านั้นที่จะเข้าได้ พอเข้าไปนั่งฟังเพลงขับกล่อมอารมณ์ในจิตใจให้ผ่อนคลาย พีรวัฒน์ก็เอาแต่ดื่มบรั่นดีชนิดที่เรียกว่าแก้วต่อแก้ว ส่วนเธอก็นั่งมองและคอยรินบรั่นดีเพิ่มไม่ต่างกับโฮสเตสหรือสาวนั่งดริงก์
ในเวลานั้นพีรวัฒน์คงไม่รู้ว่าปนัดดาร้องไห้ เธอร้องไห้ที่เขาเอาแต่เรียกชื่ออักษราไม่ขาดปาก พึมพำคำรัก ความห่วงใย โอบกอดเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นอักษรา ซึ่งปนัดดาเองก็ยอมเป็นเงาของคนที่ตนเองเกลียดชัง เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้เขา
คำพูดบนโต๊ะอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ปนัดดาเสียใจ คำเยินยอเรื่องรสชาติอาหารที่ไม่ได้กลั่นมาจากใจของครอบครัวพีรวัฒน์ สร้างความเจ็บปวดให้กับเธอไม่น้อย แม้ว่าไข่ตุ๋นฝีมือเธอจะหมดไม่มีเหลือ แต่ก็ไม่ได้สร้างความดีใจให้กับปนัดดาเลยสักน้อยนิด ตรงกันข้ามกลับมีแต่ความเจ็บปวดที่ประดังเข้ามา ทว่าปนัดดาก็ไม่เข็ดหลาบกับความรู้สึกซ้ำซากนั้น
“พี่พี เดี๋ยวแต้วเช็ดตัวให้นะคะ พี่พีจะได้นอนสบายๆ” ปนัดดาเดินเข้ามาร่างสูงโปร่งที่นอนเหยียดตัวบนเตียงพร้อมกับน้ำในชามแก้วใบขนาดพอดีและผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม
สาวเอาแต่ใจเช็ดใบหน้าขาวสะอาดของเขาเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อของพีรวัฒน์ออก ใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปตามเนื้อตามตัว ระหว่างที่เธอกำลังง่วนอยู่กับการทำหน้าที่ของตนอยู่นั้น พีรวัฒน์ที่ตกอยู่ในอาการมึนเมา มองใบหน้าของปนัดดาเป็นอักษราคนรัก เขาจึงใช้ลำแขนโอบรัดร่างสาวไว้ในอ้อมแขน ปากพูดพร่ำคำรัก คำคิดถึงไม่หยุด แล้วคำพูดของเขาก็สร้างความร้าวรานใจให้กับปนัดดามากมาย
“น้ำหอม น้ำหอมของพี่ น้ำหอมกลับมาหาพี่แล้วใช่ไหม อย่าหนีพี่ไปไหนนะ อย่าหนีพี่ไปไหน พี่รักน้ำหอมคนเดียว พี่ไม่ได้รักแต้ว ไม่ได้รัก น้ำหอมอย่าหนีพี่ไปไหนนะ”
ปนัดดาน้ำตาร่วง เหมือนมีหนามแหลมคมทิ่มเข้ามาในใจ ระบมร้าวจนเธอแทบจะหยุดหายใจ ไม่ว่าตอนมีสติหรือไม่มีสติ พีรวัฒน์ก็ไม่เคยรักเธอเลย ไม่แม้แต่เศษเสี้ยวของหัวใจ
“น้ำหอมไม่มีวันหนีพี่พีไปไหนคะ น้ำหอมรักพี่พี”
ปนัดดาพูดด้วยความชอกช้ำใจ ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นอักษรา เธอก็จะเป็น ยอมเจ็บ ยอมทน ยอมโง่ทั้งที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะคำว่ารักคำเดียว
รักโดยไม่ลืมหูลืมตา ไม่พิจารณาสิ่งใดๆ
“พี่รักน้ำหอมที่สุดในโลก”
พีรวัฒน์พลิกกายสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง ก่อนจะระดมจูบไปทั่วดวงหน้าของปนัดดาที่เขาคิดว่าเป็นอักษราด้วยความรักและคิดถึง พรมจูบจนกระทั่งมาหยุดจุมพิตเรียวปากสาวอวบอิ่มเนิ่นนาน ซึ่งปนัดดาก็เต็มใจรับจูบของพีรวัฒน์ด้วยความเต็มใจ
เนิ่นนานกว่าที่เขาจะถอนปากให้ออกห่างปากสาว แต่มิวายจูบซ้ำๆ หลายครั้ง ในความรู้สึกของพีรวัฒน์กับการจุมพิตในครั้งนี้ ต่างกว่าครั้งไหน เพราะคิดว่าคนที่ตนเองจูบอยู่คืออักษรา ความรัก ความคิดถึงและโหยหาจึงถูกถ่ายทอดทุกครั้งที่เขาบดคลึงเรียวปาก ทุกจังหวะที่ลิ้นสะบัดพลิ้วลิ้นเล็ก เพลิงปรารถนาในกายก็พลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“น้ำหอมของพี่ หวานเหลือเกินคนดี”
พีรวัฒน์กล่าวชมรสชาติหวานหอมที่เขาได้รับจากโพรงปากสาว ปนัดดายิ้มทั้งน้ำตากับคำชมนั้น รู้เต็มอกว่าเขามองเห็นเธอเป็นใคร ทว่าปนัดดาไม่ใส่ใจคิด
“พี่พีขา หอมน้ำหอมทั้งตัวเลยนะคะ” ปนัดดาเว้าวอนเสียงพร่า ใช้ลำแขนโอบรอบลำคอหนา
“ได้สิจ๊ะที่รักของพี่”
พีรวัฒน์พูดเหมือนคนละเมอ ก้มหน้าจูบปากอวบอิ่มของปนัดดาอีกครั้ง มอบความอ่อนโยนและความรักที่เขามีต่ออักษราจนหมดหัวใจ ถ่ายทอดลงไปกับจุมพิตสะท้านทรวงในครั้งนี้ ปนัดดาถึงกับเคลิ้มไปกับจูบที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ
เปลือกตาของพีรวัฒน์หลับพริ้ม บรรจงจุมพิตสตรีใต้ร่างด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า เลือดลมในกายสูบฉีด ร้อนรุ่มจนเขาแทบทนไม่ไหว จะว่าไปเขารอเวลานี้มาหลายปี ต้องการจะจูบ จะลูบคลำร่างกายสะโอดสะองของอักษราทุกลมหายใจ ทว่าเขายับยั้งชั่งใจมาตลอด ให้เกียรติเธอเรื่อยมาแล้วคิดว่าเขาจะครอบครองร่างกายของอักษราในคืนวันแต่งงาน แต่วันที่เขาปรารถนามาไวกว่าที่คิด
พีรวัฒน์ถอนปากออกห่างจากปากนุ่มที่ตนบดจูบ เปลือกตาของพีรวัฒน์ค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เขาต้องการเห็นหน้าอักษราเวลานี้เหลือเกิน อยากจะเห็นว่าดวงหน้าเธอจะเป็นเช่นไร อาบซ่านแดงระเรื่อด้วยความเขินอายมากแค่ไหน ทันทีที่เขาลืมตาเขาก็พบว่า ใบหน้าของคนที่เขาจูบหาใช่อักษรา แต่เป็นสตรีอีกคนหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดจะรัก
แต่เดี๋ยวก่อน…เขาอาจจะดวงตาพร่ามัวจากพิษบรั่นดีที่ดื่มเข้าไป พีรวัฒน์จึงหลับตาแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทว่าภาพนั้นก็ยังคงเดิม
“เธอไม่ใช่น้ำหอม ไม่ใช่น้ำหอม”
พีรวัฒน์ผละจากร่างของปนัดดาราวกับเป็นของร้อน อีกฝ่ายหน้าซีดเผือด ดีดตัวลุกขึ้นนั่งเจ็บปวดใจยิ่งนักกับท่าทางรังเกียจของเขา
“น้ำหอมไงคะ ไม่ใช่คนอื่น” ปนัดดายอมเป็นเงาของอักษรา
“ไม่ใช่ ถึงฉันจะเมาแต่ฉันก็จำหน้าน้ำหอมได้ไม่มีวันลืม เธอไม่ใช่น้ำหอม” เสียงคนเมาพูดไม่หยุด เดินโซซัดโซเซไปนอนแผ่หลาบนโซฟาปลายเตียง
“เธอไม่ใช่น้ำหอม ไม่ใช่ น้ำหอมของพี่อยู่ไหน พี่คิดถึงน้ำหอมที่สุดเลย น้ำหอมจ๋า” เสียงของพีรวัฒน์ค่อยๆ เบาลง เช่นเดียวกับเปลือกตาที่ปิดสนิทแล้วหลับไปในที่สุด
“ฮือ…ฮือ…ฮือ ทำไม ทำไมพี่พีไม่หันมามองแต้วบ้าง ฮือ”
คนที่นั่งอยู่บนเตียงร้องไห้คร่ำครวญปานขาดใจ คำพูดและการกระทำทั้งหลายของพีรวัฒน์ติดอยู่ในตา ก้องอยู่ในหู เธอดีกับเขาทุกอย่าง มองข้ามในสิ่งที่เห็นและรับรู้ ปิดกั้นความจริงที่พยายามหลีกหนี ขอเพียงให้เขาอยู่กับเธอ แต่ทว่าสิ่งที่ปนัดดาได้รับคือความเจ็บปวดรวดร้าวตลอดมา