1
“ฮือ…ฮือ” เสียงร้องไห้ที่ดังมาทางสายโทรศัพท์เรียกความตกใจให้กับคนที่อยู่ปลายสายเป็นอย่างมาก หัวใจของคนเป็นพี่เหมือนมีใครเอามีดมากรีดเลยก็ว่าได้
“แต้วเป็นอะไร ใครทำแต้วบอกพี่มา พี่จะไปจัดการมัน?” เสียงเหี้ยมเกรียมของนายหัวปุณณ์เอ่ยถาม ใบหน้าคมคร้ามแข็งกระด้างน่ากลัว
“พี่ปุณณ์ มัน มัน…ฮือ”
ปนัดดาพูดได้เพียงเท่านี้ก็ปล่อยโฮยกใหญ่ ส่งผลให้คนที่รอคำตอบถึงกับนั่งไม่ติดพื้น การที่น้องสาวสุดที่รักร้องห่มร้องไห้หนักขนาดนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ใจของคนเป็นพี่ยิ่งเจ็บจี๊ดขึ้นหลายเท่า
“มีอะไรแต้ว บอกพี่มา บอกพี่มา?” เขาถามซ้ำๆ หลายรอบ
“พี่ปุณณ์ น้ำหอมมันแย่งแฟนแต้ว ฮือ…มันจะแย่งพี่พีไปจากแต้ว”
น้ำหอม ใครคือน้ำหอม แล้วน้ำหอมคนนี้มาแย่งคนรักของปนัดดาน้องสาวเขาได้อย่างไร ในเมื่อทั้งคู่จะแต่งงานกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“เดี๋ยวก่อนนะแต้ว พี่งงไปหมดแล้ว ใจเย็นๆ แล้วเล่าให้พี่ฟังตั้งแต่ต้นสิว่าคนที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วได้ยังไง”
เสียงพี่ชายถามมาตามสาย ปนัดดาหยุดร้องไห้ หยุดสะอื้น เปิดปากเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ปุณณ์ฟัง
สีหน้าของคนที่ฟังอยู่เข้มขึ้นทีละนิด มือใหญ่กำโทรศัพท์ไร้สายแน่น กรามทั้งสองข้างขบและเสียดสีกันจนเป็นสันนูน ที่แท้คนที่ชื่อน้ำหอมคือผู้หญิงไม่มียางอาย ใช้มารยายั่วยวนว่าที่น้องเขยของเขา จนทำให้พีรวัฒน์ทะเลาะกับปนัดดาบ่อยครั้ง แล้วเป็นที่มาของความเสียใจของน้องสาว
“พี่ปุณณ์ต้องจัดการให้แต้วนะคะ ไม่อย่างนั้นพี่พีต้องทิ้งแต้วไปอยู่กับมันแน่ๆ ค่ะ ฮือ” ปนัดดาเอ่ยบอกพี่ชายหลังจากเล่าทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง
“พี่จัดการให้แต้วแน่ๆ พี่ไม่ยอมให้ผู้หญิงที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วเด็ดขาด” คนที่รักน้องยิ่งชีพกล่าวเสียงเข้ม ปนัดดายิ้มแก้มแทบฉีก
“จริงๆ นะคะพี่ปุณณ์ พี่ปุณณ์อย่าโกหกแต้วนะคะ”
“พี่เคยโกหกแต้วเหรอ พี่พูดจริงทำจริงแต้วก็รู้”
ใช่ เธอรู้ดีว่าพี่ชายสุดที่รักของตนนั้นพูดจริงทำจริงและเป็นคนจริงมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถปกครองลูกน้องได้เด็ดขาดชนิดที่ไม่เคยมีปัญหาตามมาแม้ว่าลูกน้องส่วนมากจะเป็นพวกที่ผ่านคุกผ่านตะรางมาแล้วหลากหลายโทษทัณฑ์
“พี่ปุณณ์ต้องรีบจัดการให้แต้วนะคะ ก่อนที่มันจะแย่งพี่พีไปจากแต้ว พี่พีทำท่าจะหลงมันมากด้วย บึ้งตึงใส่แต้วทุกวันเลยค่ะ ฮือ”
ปนัดดาทำเสียงเศร้าพร้อมส่งเสียงร้องไห้ กระตุ้นให้พี่ชายทำตามคำพูดเร็วๆ เพื่อที่เธอจะได้สบายใจเรื่องของอักษรา หนามยอกใจ
“ไม่ต้องห่วงพี่จะจัดให้เสร็จภายในสามวัน” ปุณณ์บอกระยะเวลาให้น้องสาวสบายใจ
“แล้วพี่ปุณณ์จะจัดการมันยังไงคะ?”
“ขอพี่คิดดูก่อนก็แล้วกัน แค่ไม่ให้น้ำหอมมายุ่งกับพีไม่ใช่เหรอ?”
“แค่นั้นไม่พอค่ะ พี่ปุณณ์ต้องทำมากกว่านั้น พี่ปุณณ์ทำตามแผนที่แต้วคิดไว้นะคะ รับรองว่ามันไม่กล้ามายุ่งกับพี่พีแน่นอนค่ะ”
หากเธอจะคิดกำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นไปจากหัวใจ ต้องขจัดให้แบบถาวรจะได้ไม่กลับมาทิ่มแทงหัวใจของเธออีก
“วิธีไหนล่ะแต้ว?” พี่ชายถามกลับ
“ทำอย่างนี้นะคะพี่ปุณณ์…”
ปุณณ์นั่งฟังแผนการของน้องสาวด้วยท่าทีนิ่งเฉย แผนการของปนัดดาดูจะโหดร้ายไปสักหน่อย แต่เขาก็คิดว่ามันเหมาะสมกับพฤติกรรมชอบแย่งคนรักของคนอื่น สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่หญิงสาวชื่อเล่นว่า น้ำหอม ควรจะได้รับ
“ได้ ไม่มีปัญหา พี่จัดการให้” นายหัวสุดโหดพูดขึ้นหลังจากที่น้องสาวบอกเล่าแผนการจบ เขามีคติประจำใจว่า คนทำน้องสาวเขาเจ็บ คนผู้นั้นยิ่งเจ็บมากกว่า
ปนัดดายิ้มอย่างพอใจกับคำตอบรับของปุณณ์ “เดี๋ยวแต้วจะส่งรูปของมันไปให้พี่ปุณณ์ทางมือถือนะคะ”
เจ้าของเสียงพูดจบก็ตัดสายทิ้ง ต่อจากนั้นก็รีบส่งภาพถ่ายของศัตรูหัวใจที่เธอแอบถ่ายไว้ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของปุณณ์ทันที เพราะเขาเป็นคนเดียวที่จะทำให้คนที่ตนเองเกลียดชัง หลุดออกไปจากวงโคจรของพีรวัฒน์
“ไอ้เข้ ไอ้เข้โว้ย” เสียงเรียกราวกับฟ้าผ่า ทำให้เจ้าของชื่อรีบเร่งฝีเท้าวิ่งมาหาเจ้านายของตนทันที
“ครับนายหัว”
“พรุ่งนี้กูจะเข้ากรุงเทพฯ ไปบอกไอ้หลามกับไอ้เหลือมให้เตรียมตัว มึงด้วยนะ มึงไปกับกูด้วย” นายหัวจอมโหดสั่งลูกน้อง
“ครับนายหัว” เมื่อรับคำสั่งจากเจ้านายเรียบร้อย ไอ้เข้หรือสมศักดิ์ก็เดินไปยังบ้านพักคนงานที่อยู่ท้ายเกาะ
ปุณณ์ก้มหน้ามองภาพหญิงสาวแสนสวยบนหน้าจอมือถือที่ถูกส่งตรงมาจากโทรศัพท์ของน้องสาว เขาไม่คิดเลยว่า ผู้หญิงที่เขาเห็นจะมีนิสัยชอบแย่งคนรักของคนอื่น ยั่วยวนเก่งชนิดที่เรียกว่า ตัวแม่ เพราะลักษณะภายนอกดูเรียบร้อย แต่ก็อย่างว่า คนสมัยนี้ดูยาก หน้าตาสวยไม่ใช่ว่านิสัยจะสวยตามไปด้วย อาทิเช่นผู้หญิงที่เขากำลังมองเป็นต้น
“เธอได้เจอฉันแน่น้ำหอม”
............
“สวัสดีครับคุณครู” เสียงของเด็กชายชั้นอนุบาลสองทับหนึ่งดังขึ้น ขณะที่มือน้อยๆ พนมไหว้คุณครูอักษรา ครูสาวแสนสวยประจำโรงเรียนอนุบาลหมีน้อย
“สวัสดีครับน้องป๋อง” ครูสาวทักทายกลับ ยกมือรับไหว้และระบายยิ้มให้ผู้ปกครองที่เดินทางมาส่งบุตรหลาน “สวัสดีค่ะคุณยาย วันนี้มาส่งน้องป๋องเองหรือคะ?”
“ใช่จ้ะ พอดีว่าพ่อของน้องป๋องไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดและกลับดึก วันนี้ยายเลยต้องไปรับไปส่งเอง”
“ตอนเลิกเรียนคุณยายไม่ต้องมารับน้องป๋องนะคะ เดี๋ยวน้ำหอมจะไปส่งน้องป๋องที่บ้านเองค่ะ”
อักษราขันอาสา เพราะสงสารและเห็นใจคนสูงวัยตรงหน้าที่แข้งขาไม่ค่อยดี ต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดิน หากเธอเดินไปส่งน้องป๋องก็คงไม่ลำบากอะไร เนื่องจากบ้านของน้องป๋องอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น