จะเรียกว่าวันโลกาวินาศก็ย่อมได้
“ต้องไปรถแท็กซี่แล้วล่ะน้อง”
“มีมอเตอร์ไซค์คันอื่นไหมคะ พี่โทร. ตามให้หน่อย สิคะ”
“เดี๋ยวรอแป๊บนึง” คนพูดกดโทร. ออกก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ไม่มีใครรับสายเลยน้อง สงสัยวิ่งส่งลูกค้าอยู่ น้องไปแท็กซี่หรือรถคันอื่นเถอะ พี่ต้องหาที่ปะยางรถ”
“น้องจะไปแท็กซี่ทำไมกันคะ รถติดขนาดนี้ ถ้าจะไปแท็กซี่ไม่วิ่งมาโบกรถพี่หรอก”
“งั้นก็รถเมล์ คันนั้นเลย รีบไปเลยกำลังจะออกแล้ว” ได้ยินดังนั้นพิมพ์พิศาก็ยัดเงินใส่มือของวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะรีบวิ่งสี่คูณร้อยไปขึ้นรถเมล์ ในขณะที่รถเมล์ออกอย่างเฉียดฉิว
ชีวิตช่างตื่นเต้นเสียจริง พิมพ์พิศาเอ๊ย! หญิงสาวยืนหอบอยู่บนรถเมล์จนคนหันมามอง ดีที่เธอใส่รองเท้าส้นเตี้ยและเสื้อผ้าชุดทะมัดทะแมง ถ้าใส่ส้นสูงคงวิ่งขึ้นรถเมล์ไม่ได้แน่
“ทำไมเจ้านายไม่รับคุณพิมพ์ขึ้นรถตอนรถมอเตอร์ไซค์ยางรั่วครับ” ลุงสมบูรณ์เอ่ยถามเจ้านายหนุ่มด้วยความสงสัย เมื่อเจ้านายหนุ่มให้ขับรถตามตั้งแต่พิมพ์พิศานั่งรถออกมาจากบ้าน ด้วยรู้เขารู้ทางลัดจึงขับรถตามพิมพ์พิศาได้โดยไม่คลาดกัน และรู้ด้วยว่าเธอจะไปเส้นทางไหน
“ตามต่อไป ผมจะคอยดูว่าน้องพิมพ์จะเอายังไงต่อครับลุง” เปรมแอบนึกขำคู่หมั้นสาวในใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความเอ็นดูไม่น้อย ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้กันล่ะ เธอเป็นคู่หมั้นของเขา เขาย่อมจำเธอได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้ากัน แต่เธออยากปลอมตัว เขาก็เลยจัดให้เธอทำตามใจตัวเองอย่างที่ต้องการ
พิมพ์พิศาลงมาจากรถเมล์ด้วยสภาพดูไม่จืด เธอเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องโหนรถเมล์ไปทำงานก็คราวนี้ เพราะเกิดมาไม่เคยต้องขึ้นรถเมล์เลยสักครั้ง มีรถไปรับไปส่งตลอด กว่าจะถึงซอยที่แจ้งไปในเอกสารสมัครงาน เธอก็ต้องเดินเข้าซอยไปอีก แค่เห็นซอยเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าเหลือประมาณ
กัดฟันเดินเข้าไปอีกสักหน่อยก็ถึง เอาเถอะคงไม่มีใครตายเพราะการเดินหรอก ไม่เช่นนั้นคนที่ไม่มีรถราเหมือนคนอื่นก็คงหมดลมกันไปหมดโลกแล้ว
“ขึ้นรถสิ”
“ว้าย!” พิมพ์พิศาร้องออกมาอย่างตกใจ จู่ ๆ เขาก็โผล่มาทางด้านหลังของเธอ
ร่างสูงนั่งอยู่ในรถทางเบาะหลัง โดยมีลุงสมบูรณ์ขับรถให้เหมือนเคย ดวงตาคมกริบของเขากำลังมองมาที่เธอเขม็ง
“ท่านประธานมาเร็วจังเลยนะคะ” เธอรีบปาดเหงื่อที่หน้าผากของตัวเอง เกือบไปแล้วไง ถ้าเธอมาไม่ทัน ต้องโดนเขาสงสัยแน่ ๆ
พิมพ์พิศาเดินไปขึ้นรถของเขาอย่างอ่อนแรง ท่าทีของเธอทำให้เขาต้องหลุดขำออกมา
“คุณทำเหมือนวิ่งสี่คูณร้อยมาขึ้นรถผมเลย ถ้าผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ซอยนี้ ผมคงคิดว่าคุณเดินทางมาจากที่อื่น”
“พิมพ์จะเดินทางมาจากที่อื่นได้ยังไงกันคะ ท่านประธานชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลย” พิมพ์พิศาถึงกับสะดุ้งที่เขาพูดหยอกเธอแบบนั้น
“เหงื่อเต็มตัวขนาดนี้ คุณไปทำอะไรมา”
“พิมพ์เอ่อ... ก็วิ่งมายังไงคะ กลัวไม่ทัน เอ่อ... หมายถึงกลัวท่านประธานจะรอนานน่ะค่ะ” เธอปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาจากหน้าผากของตัวเอง
“ทีหลังไม่ต้องวิ่ง คุณต้องไปทำงานเป็นเลขาของผมจะไปในสภาพนี้หรือไง ที่สำคัญก็คือกลิ่นเหงื่อของคุณอาจจะไม่พึงประสงค์กับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าของผม”
“ค่ะ วันหลังจะไม่วิ่งแล้วค่ะ” พิมพ์พิศาตอบกลับไป พร้อมทั้งดมตัวเอง
“พิมพ์เหม็นเหรอคะ”
“ก่อนไปทำงานคุณต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ ผมก่อน” เขาไม่ตอบว่าเธอเหม็นหรือไม่เหม็น แต่พูดไปอีกทาง เหมือนเป็นการออกคำสั่งเสียมากกว่า
“ทำไมพิมพ์ต้องทำแบบนั้นด้วยค่ะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา
“คุณจะไปทำงานสภาพนี้เหรอคุณพิมพ์ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องหาเลขาใหม่แล้วกระมัง” ถ้าเขาทำแบบนั้นจริง ๆ เธอก็จะไม่มีทางสืบเรื่องราวของเขาได้เลย เธอจะโดนเขาไล่ออกตอนนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“ก็ได้ค่ะ” คิดได้ดังนั้น พิมพ์พิศาก็จำต้องตอบรับ
“ลุงสมบูรณ์ครับ ขับรถไปที่คอนโดของผมครับ”
“ครับคุณเปรม”
“คอนโดของผมอยู่ใกล้ที่ทำงาน”
“ดีจังเลยค่ะ มีคอนโดว่างให้เช่าบ้างไหมคะ พิมพ์อยากเช่าอยู่น่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลแบบนี้” พิมพ์พิศาคิดถึงหอพักห่างไกลจากบ้านและที่ทำงานเช่นนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้า ถ้าเธอต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่งนั่งรถมารอเขาที่นี่ทุกวันคงจะแทบสิ้นลมแน่ ๆ แต่ใช่ว่าเขาจะมารับเธอทุกวันเสียที่ไหน
ทำไมเธอลืมคิดถึงข้อนี้ไปนะ หญิงสาวอยากจะเขกหัวตัวเองแรงๆ
“ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน”
“รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้
“คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว”
“เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด
“รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่
“เพิ่งรู้นะคะนี่”
“คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย
“ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ
พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร
สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง
“ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี
“เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป
พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก
“เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว
เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน