จางเถียนเถียนดาราสาวที่กำลังมาแรงไม่แพ้ฮัวฟู่หรงที่อยู่ในขณะนี้เช่นเดียวกัน ดวงตาจิกมองอดีตเพื่อนสนิทที่เข้ามาคบหากับเธอด้วยก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น
และยิ่งพยายามที่จะอยู่ให้เหนือกว่าฮั่วฟู่หรงมากขึ้นเท่าไร กลับราวกับว่ายิ่งไล่ตามอีกฝ่ายไม่ทัน จนความสัมพันธ์ของเพื่อนขาดสะบั้นลงเมื่อเธอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงและพยายามกีดกันเพื่อไม่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ให้ความสนใจฮัวฟู่หรง มอบบทบาทที่โดดเด่นและเหนือกว่าตัวเอง
ทว่าจางเถียนเถียนลืมไปว่าครอบครัวของอดีตเพื่อนรักเป็นตระกูลนักการเมือง และมีลุงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนทำให้มีอิทธิพลในสายงานบันเทิงจีน บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างไม่กล้างัดข้อกับกลุ่มนักการเมืองแม้แต่น้อยเพราะหมายความว่า ในภายภาคหน้าจะไม่มีที่ยืนในวงการนั้นเอง
ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจางเถียนเถียนจะพยายามขัดขวางเพื่อนรักไม่ให้มีหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้าเหนือกว่าเธออย่างไรก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าจะลงแรงไปเสียเปล่า นับวันยิ่งเกิดแรงริษยาและความชิงชังเพื่อนรักทวีความรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งเธอสามารถแย่งบทฮูหยินฮัวละครฟอร์มยักษ์แห่งปีมาครอบครองเพราะได้ยินวงในพูดกันว่า บทนี้โดดเด่นและเป็นตัวละครที่เดินเรื่องหลักมากกว่านางเอกตัวท้อปที่มารับบทนำในเรื่องนี้เสียอีก
แต่เพราะถูกฮัวฟู่หรงซ้อนแผนใช้อิทธิพลของครอบครัว ติดต่อสายข่าวในวงการบันเทิงรวมไปถึงนักข่าวให้ปล่อยข่าวออกไปว่าบทนี้คือตัวประกอบ ออกมาเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น ซึ่งหากให้ดาราที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมาสวมบทบาทนี้แทนที่จะรุ่งแต่จะกลายเป็นเป๊กเสียมากกว่า
“แกมันคนเจ้าเล่ห์! นางฟู่หรง”พูดพลางย่างสามขุมเดินตรงเข้ามาหาอดีตเพื่อนสนิท
ในขณะที่อีกฝ่ายเบ้ปากได้อย่างน่าหมั่นไส้พลางยักไหล่ไหวไปมา มองร่างของเพื่อนรักที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
“ก็ใครใช้ให้แกเกิดมาโง่! เพิ่งรู้ตัวอย่างนั้นเหรอว่าเสียรู้ให้แก่ฉันอีกจนได้ ถ้าเจ็บแค้นมากก็ไปตายเสียสิ! จะได้สิ้นเรื่อง”พูดพลางส่งเสียงหัวเราะหยามเหยียดในลำคอออกมาได้อย่างน่าตบจริงๆ
ในขณะที่สายตาของเพื่อนรักเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธผสมกับแรงเกลียดที่แสนจะชิงขังอดีตเพื่อนสนิท หากไม่ทำอะไรลงไปบ้างจะต้องอกแตกตายอย่างแน่นอน
“แกท้าทายเหรอนางฟู่หรง คิดหรือว่าฉันไม่กล้าทำอะไรแก อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าฆ่าแกตายคามือตระกูลฮัวจะมีปัญญาทำอะไรได้บ้าง!!!”จางเถียนเถียนพูดตวาดใส่หน้า
ดวงตาของเธอจ้องใบหน้าสวยเฉี่ยวสุดคมของอดีตเพื่อนที่เคยสนิท หากแม้นสามารถทำได้ตามความคิดของเธอแล้วละก็ร่างตรงหน้าของฮัวฟู่หรงจะต้องถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่มีชิ้นดี
ควับ! ร่างระหงของฮัวฟู่หรงหันกลับมายืนเผชิญหน้าอดีตเพื่อนสนิท พร้อมเชิดหน้าขึ้นสูงแสยะยิ้มหยามเหยียด ก่อนจะกางแขนทั้งสองข้างออกกว้างท้าทายอีกฝ่ายกลับไป
“มาสิ! อยากจัดการฉันมากไม่ใช่เหรอ ถ้าแกกล้าฆ่าฉัน ฉันก็กล้าที่จะยืดอกให้แกทำและรอดูต่อไปว่าผลที่ได้รับแกจะมีที่ยืนอยู่ในสังคมนี้ได้อีกหรือเปล่านางดาราขี้คุก!!!!”ฟู่หรงตวาดเสียงกร้าวดวงตาลุกโชนดั่งเปลวไฟ จ้องใบหน้าของจางเถียนเถียนจนขนทั่วกายของอีกฝ่ายพากันลุกตั้งชันขึ้นมาทันที
ดวงตาที่น่าหวาดหวั่นและประโยคสุดท้ายที่อดีตเพื่อนสนิทตวาดกลับมานั้นทำให้จางเถียนเถียน เริ่มก้าวเดินถอยลงเพื่อกลับไปตั้งหลักคิดบัญชีเพื่อนเก่าให้สาแก่ใจโดยที่ไม่มีใครสามารถจับได้ว่าเธอเป็นคนลงมือทำ
“เรื่องระหว่างแกกับฉันมันไม่จบเพียงแค่นี้หรอกฟู่หรง วงการนี้มีแกก็ต้องไม่มีฉัน! ถ้ามีฉันก็ต้องไม่มีแกเช่นกัน! อย่าคิดนะว่าจะได้ชูคอได้ก้าวขึ้นมาเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์ได้ ตระกูลฮัวของแกไม่ได้มีอิทธิพลครอบคลุมไปทั่วทั้งหมดหรอกเพราะตระกูลจางของฉันก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คนที่เหลืออยู่จะต้องเป็นฉันจำเอาไว้นางฟู่หรง!!!”จางเถียนเถียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ
ทันทีที่อดีตเพื่อนรักพูดจบลงเสียงหัวเราะด้วยความรู้สึกขบขันดังก้องออกมาที่ได้ยินคำข่มขู่ของอีกฝ่าย ก่อนจะหยุดลงอย่างฉับพลันพร้อมดวงตาลุกวาวอย่างน่าสะพรึงกลัว
“บังเอิญไม่ใช่โรงรับจำนำไม่รับฝาก! อยากฝากก็ไปที่อื่นแต่ไม่ใช่ฉัน ส่วนใครจะยืนหยัดอยู่แถวหน้าในวงการนี้ได้แกคิดว่าฉลาดมากกว่าฉันแล้วอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแกโง่กว่าฉันมาโดยตลอดนางเถียนเถียน!!!”สิ้นเสียงของฟู่หรง
หญิงสาวตะเบ็งเสียงหัวเราะออกมาดังกระหึ่มจนเพื่อนรักหน้าสั่นระริก ที่ถูกตอกหน้ากลับมาเช่นนั้นเพราะทุกอย่างที่ฟู่หรงพูดออกมาล้วนเป็นความจริง
ผัวะ!!! เสียงลูกบิดหมุนพร้อมประตูห้องแต่งตัวเปิดออกติดตามด้วยร่างของฮัวมู่หลันก้าสเดินเข้ามาภายในห้องดังกล่าว และทันทีที่ได้เห็นอดีตเพื่อนสนิทของน้องสาว
“นางงูพิษ! นางสตอเบอรี่จอมแหลเข้ามาในห้องนี้ตั้งใจหาเรื่องน้องสาวของฉันเหรอ! ว่าแล้วเชียวว่าทำไมตากระตุกตั้งแต่เช้าที่แท้จะมีเรื่องนี้เอง กล้ามาหาเรื่องถึงที่เลยอย่างนั้นเหรอ...มาเลยแก แม่จะตบให้จมูกซิลิโคนหักผิดรูปเลยคอยดูสิ!”เจ้ใหญ่สายมาเฟียของขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าจางเถียนเถียน
ข้างฝ่ายจางเถียนเถียนที่ตั้งใจเข้ามาหาเรื่องก่อน ยืนกลอกตามองหาทางออกเพื่อไปจากห้องแต่งตัวดังกล่าวให้เร็วที่สุด หาไม่แล้วจะต้องถูกตบจนสลบจากฝีมือของเจ๊จอมโหดซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของอดีตเพื่อนรักอย่างไม่ต้องสงสัย
“คนพี่ก็ป่าเถื่อนเอะอะก็ใช้กำลัง!คนน้องก็เจ้าเล่ห์ขี้โกง! คอยดูเถอะฉันจะฉีกหน้ากากแกสองคนให้ทั่วทั้งวงการได้รู้”
คำพูดของจางเถียนเถียนทำให้ฮัวมู่หลันหัวร้อนขึ้นมาทันที
“หน็อย! ความเลวของตัวเองมองไม่เคยเห็นจ้องแต่จะหาเรื่องคนอื่น ปากแบบนี้เอาลูกปืนไปกินดีไหมนางเถียนเถียน!!!”ฮัวมู่หลันตวาดดังก้องพร้อมล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเธอท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกของอีกฝ่าย
“พวกแกสองคนพี่น้องมันบ้า! ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”จางเถียนเถียนโวยวายพร้อมเสียงของฮัวฟู่หรงดังขึ้น
“พี่ใหญ่ปล่อยเขาไปเถอะ! อย่าให้มาเห่าหอนอยู่แถวนี้เลยน่ารำคาญ! อีกอย่างพิธีบวงสรวงใกล้จะเริ่มแล้วด้วยอย่าไปเสียเวลากับคนประเภทนี้อยู่ต่อไปอีกเลย”หญิงสาวพูดเตือน
คำพูดของน้องสาวทำให้เจ๊ใหญ่จอมหัวร้อนคิดขึ้นมาได้ว่าพิธีบวงสรวงกำลังจวนเจียนใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ดีขึ้นชื่อว่าฮัวมู่หลัน ฉายาเจ้าแม่จอมบู๊มาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียนประถมจนจบมหาวิทยาลัย คุณเธอก็ยังบู๊แหลกราญไม่มีเปลี่ยน ร่างอวบอิ่มเดินถอยห่างออกจากประตูเพื่อเปิดทางให้จางเถียนเถียนได้ออกไป
“ไปสิ! อุตส่าห์ปล่อยกลับบ้านแล้วไปเห่าแถวบ้านต่อเผื่อแกจะมีคู่กัดเพิ่ม”ฮัวมู่หลันพูดตอกหน้ากลับไป
ท่ามกลางอาการฮึดฮัดเป็นการใหญ่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นสุนัขที่กำลังบ้าเที่ยวอาละวาดไปทั่วอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยกลัวสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่ฮัวมู่หลันล้วงเข้าไปและตั้งท่าจะดึงออกมาพร้อมเสียงบางอย่างดังขึ้น
แกรก! เสียงคล้ายขึ้นไกปืนดังออกมาอย่างชัดเจน
“ไม่รีบไสหัวออกไป! เดี๋ยวแม่ยิงไส้แตกตรงนี้เลย!”ฮัวมู่หลันพูดพลางทำท่าจะดึงสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าสะพายขึ้นมา
“นางพวกบ้า!!!!”จางเถียนเถียนพูดพลางกรีดร้องออกมา
ร่างบอบบางรีบหันหลัง เปิดประตูวิ่งออกไปจากห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็วโดยมีสายตาของสองพี่น้องตระกูลฮัวมองตามหลังร่างที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นออกไปพร้อมเสียงของฮัวฟู่หรงดังขึ้น
“พี่ใหญ่เดี๋ยวนี้พกปืนไปไหนต่อไหนแบบนี้แล้วเหรอ เดี๋ยวก็โดนทางการหิ้วตัวไปทำความเข้าใจในห้องขังหรอก”คนเป็นน้องเตือนพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“คนบ้าที่ไหนจะพกปืนเดินร่อนไปทั่วเมืองแบบนั้น เสี่ยงเข้าคุกหัวโตมากกว่าสิบปีอีกนะฉันก็แค่แกล้งนางงูพิษเท่านั้นเอง ไม่คิดว่ามันจะกลัวลนลานถึงขนาดนั้น ป๊อดนี่หว่า”หญิงสาวพูดพร้อมดึงสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าสะพายออกมา
โค๊กกระป๋องถูกดึงออกมาจากกระเป๋าสะพายพลางยกแกว่งไปแกว่งมาอยู่ตรงหน้าน้องสาวเธอ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของฟู่หรงที่เห็นสิ่งที่อยู่ในมือของพี่สาวที่ไม่ใช่อาวุธปืนแต่เป็นขวดกระป๋องน้ำอัดลม
“พี่ใหญ่ก็แค่แกล้งนางเถียนเถียน เมื่อกี้ใช้เสียงมากไปหน่อยรู้สึกคอแห้งก็เลยล้วงเอากระป๋องน้ำอัดลม แค่ดีดตัวล็อคของกระป๋องแม่นั่นกลับกลัวจนขี้ขึ้นสมองวิ่งหนีไปเลยเห็นหรือเปล่า”ฮัวมู่หลันพูดพลางดึงตัวล็อคกระป๋องโค๊กออก
แกรก! ซ่า!!! เสียงตัวล็อกกระป๋องดังขึ้นพร้อมเสียงซ่าของน้ำอัดลมดังตามมาติดๆ ก่อนจะถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเพราะเจ๊จอมโหดใช้เสียงมากไปหน่อย
“ชื่นใจ! สักหน่อยไหมน้องสาว!”ฮัวมู่หลันพูดเลียนเสียงผู้ชายหยอกเย้าน้องสาวกลับไป ท่ามกลางเสียงหัวเราะของฟู่หรง
“สุดยอดเลยพี่ใหญ่สมชื่อเจ๊จอมโหดไม่เคยเปลี่ยน”ฟู่หรงพูดพลางยกหัวแม่นิ้วโป้งให้กับพี่สาว
“น้องสาวเจ๊ใครอย่าแตะถ้าไม่อยากตาย ถ้าน้องฉันมีแผลขึ้นมาละก็งานนี้ไม่มีตบแต่มีลูกปืนให้กินแน่”ฮัวมู่หลันพูดพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะรีบวางกระป๋องน้ำอัดลมลงบนโต๊ะพร้อมเดินตรงเข้าไปหาน้องสาวของเธออย่างรวดเร็ว
“รีบไปกันเถอะหรงเอ๋อร์ เหลืออีกแค่สิบนาทีพิธีบวงสรวงก็จะเริ่มแล้ว”หญิงสาวพูดพร้อมเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายส่วนตัวของน้องสาวนำมาสะพายไว้บนไหล่ของเธออีกหนึ่งใบ พร้อมใส่รหัสล็อคกระเป๋าลากซึ่งเก็บเครื่องมือทำมาหากินเอาไว้
หมับ! มือเรียวสวยของฟู่หรงตรงเข้าคล้องแขนพี่สาวพร้อมเดินออกจากห้องแต่งตัวไปด้วยกัน มุ่งหน้าไปยังพระราชวังจำลองซึ่งอยู่ภายในเหิงเตี้ยนเพื่อทำพิธีบวงสรวงตามคิวงานที่ได้วางเอาไว้
ฉับพลันกำไลหยกที่อยู่ในข้อมือของฟู่หรงปรากฎประกายวูบวาบระยิบระยิบขึ้นมาทันใด พร้อมมีบางสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับฮัวฟู่หรงอย่างไม่คาดคิด
ในขณะที่ร่างของสองพี่น้องเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ทีมงานในกองถ่ายและผู้คนที่อยู่ด้านนอกต่างหันกลับมามองเป็นตาเดียวกันด้วยเพราะปรากฏร่างสูงใหญ่ของผู้ชายสวมชุดเกราะโบราณ ถือดาบยาวเดินเคียงคู่มากับฮัวฟู่หรง สายตาเอาแต่เฝ้าจับจ้องอยู่แต่ดาราสาวดาวรุ่งอยู่ตลอดเวลา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกว่ามีความสุขเป็นยิ่งนัก
“โอโห่! ผู้ชายคนนี้สวมชุดเกราะโบราณได้สวยและขึ้นจริงๆ เลยเนอะ ตัวโตเบ้อเริ่ม ทั้งสูงทั้งใหญ่องอาจผึ่งผายรับบทไหนในเรื่องนี้นะอยากรู้จริงๆ หล่อกว่าคนที่มารับบทพระเอกเยอะเลย”
“นั่นนะสิ! เขาเล่นเป็นตัวละครอะไรในเรื่องนี้นะ ฉันอยากรู้จังเลย แต่ออกมาจากห้องแต่งตัวของนักแสดงหลัก คงจะมารับบทพระรองแต่มันจะใช่เหรอ คนที่มารับบทพระรองพวกเราก็รู้จักกันดี แล้วคนนี้เขาเป็นใครกันหรือว่าจะเป็นดาราหน้าใหม่”
เสียงผู้คนต่างพากันพูดเอ็ดอึงไปต่างๆ นานา แต่ละคนสันนิษฐานไปร้อยแปดพันประการแต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปนั้นได้ ว่าผู้ชายที่สวมเกราะโบราณเป็นใครกันแน่ ซึ่งจากชุดเกราะดังกล่าวบอกฐานะของผู้ที่สวมใส่อยู่ในขณะนั้นได้เป็นอย่างดีว่าเป็นถึงระดับแม่ทัพใหญ่เลยทีเดียว
ซึ่งในซีรีสเรื่องดังมีเพียงพระเอกของเรื่องเท่านั้นที่จะสวมชุดเกราะโบราณในลักษณะนี้ได้ บทบาทพระเอกของเรื่องถูกเปลี่ยนตัวกะทันหัน หรือเป็นตัวละครที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ซีรีสเรื่องดังกล่าวมีสีสันมากไปกว่าเดิมอย่างนั้นหรอกเหรอ แต่ที่ทุกคนล้วนต่างเห็นเหมือนกันทั้งหมดนั้นก็คือผู้ชายในชุดเกราะโบราณ เฝ้ามองแต่ฮัวฟู่หรงดาราสาวดาวรุ่งแต่เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่...แม้แต่จะเหลือบสายตาขึ้นมองผู้ใดทั้งสิ้น!