ตอนที่ 6 กำไลปริศนา

2948 Words
หนึ่งเดือนผ่านไป วันเปิดกล้อง ภายในคฤหาสน์ตระกูลฮัว “หรงเอ๋อร์”เสียงทุ้มใหญ่ดังอยู่ข้างหูอย่างแผ่วเบา “ตื่นเถิดเจ้าถึงเวลาต้องออกเดินทางกันได้แล้ว”เสียงกระซิบของผู้ชายดังจากที่ไกลแสนไกลบอกชิดริมหู อืมมมม!!! เสียงงึมงำดังอยู่ในลำคอที่ถูกปลุกให้ตื่นจากการนอนหลับ “นอนขี้เซา!”เสียงทุ้มนุ่มละมุนดังอยู่ข้างหูอยู่เช่นเดิม “ขอห้านาทีพี่ใหญ่กำลังปรับสายตา”ฟู่หรงส่งเสียงงัวเงียตอบกลับไป “ถ้าไม่ตื่นข้าจะอุ่นเตียงกับเจ้าแล้วนะ ไม่รอถึงวันกราบไหว้ฟ้าดินอีกต่อไป”เสียงทุ้มใหญ่พูดทีเล่นทีจริง “เอาเตียงไปอุ่นทำไม ไมโครเวฟก็มีอีตาบ้าเอ้ย! ใครเขาพากันทำแบบนั้น”ฟู่หรงพูดพึมพำโต้ตอบกลับมาและเงียบเสียงลงไปอีกครั้งเมื่อเธอกำลังเริ่มหลับใหล ทันใดนั้นเอง กำไลหยกที่ฟู่หรงสวมติดข้อมืออยู่ตลอดเวลาและไม่สามารถถอดออกได้ กลับมีประกายระยิบระยับวูบวาบเกิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ พร้อมพื้นที่ว่างบนฟูกนอนยุบตัวลงคล้ายมีของหนักกดทับจนที่นอนชั้นดียวบลงไปจนลึกเพราะน้ำหนักที่ทิ้งลงมา มือใหญ่รับกับนิ้วเรียวสวยของผู้ชายที่ผ่านการจับอาวุธมาอย่างโชกโชน เอื้อมมือของเขาตรงเข้าลูบไล้แขนเรียวขาวผ่องขึ้นลงไปมาด้วยแรงพิศวาสที่มีต่อเธอไม่คลาดครา “หรงเอ๋อร์”เสียงทุ้มใหญ่เรียกหญิงสาวนุ่มนวลบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่ารักแสนรักที่มีต่อเธอมากมายเพียงใด อือออ…อือออออ เสียงฮึมฮัมดังอยู่ในลำคอของหญิงสาวด้วยความรำคาญเมื่อถูกปลุกให้ตื่นจากการนอนหลับ เมื่อเธอถูกมือหยาบหนากระด้างเฝ้าลูบไล้แขนอ่อนที่ขาวนวลเนียนผุดผ่องชวนให้สัมผัสและแนบชิดอยู่เช่นนั้น มีผู้ชายที่ไหนบ้างเล่าที่เห็นแล้วหัวใจไม่สั่นสะท้านเต้นระรัว “พี่ใหญ่ทำไมมือหยาบจังเลย..ไปทำอะไรมาเนี่ย ทำเหมือนลืมทาโลชั่นป้องกันมือด้านมานานเป็นสิบปีเลย”ฟู่หรงบ่นพึมพำตามความรู้สึกที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ร่างแสนสวยที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาและถูกเธอดึงจนปกคลุมไปถึงใบหน้าอยู่ในขณะนั้น มีเพียงท่อนแขนเรียวยาวที่สวมกำไลหยกเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาจากชายผ้าห่มดังกล่าว “ไม่ตื่นจูบนะ!”เสียงทุ้มนุ่มนวลกระซิบบอกเธอพร้อมโน้มตัวลงต่ำจนใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามอยู่ในระยะประชิดซึ่งมีเพียงผ้าห่มขวางกั้นเอาไว้เท่านั้น ประโยคดังกล่าวซึ่งเป็นเสียงผู้ชายทำให้ฮัวฟู่หรงที่นอนเอาผ้าห่มคลุมโปงอยู่ในขณะนั้นลืมตาขึ้นมาทันใด ด้วยเพราะได้ยินเสียงผู้ชายกำลังพูดกับเธอได้อย่างชัดเจน “เฮ้ย! ผู้ชายที่ไหนบุกเข้าห้องนอนของฉันเนี่ย!”หญิงสาวคิดในใจและสัมผัสกับน้ำหนักของตัวคนที่หนักอึ้งเอาการกำลังนั่งบนฟูกนอนข้างตัวเธออยู่ในเวลานี้ ฟู่หรงหายงัวเงียเป็นปลิดทิ้งเมื่อประสาทสัมผัสของเธอรู้สึกและได้ยินเสียงอย่างชัดเจน แขนที่อยู่ใต้ผ้าห่มอีกข้างตรงเข้าซุกใต้หมอนซึ่งมีปืนพกของเธอถูกเก็บไว้อยู่ในนั้น ทั้งฮัวมู่หลันและฮัวฟู่หรงเกิดในตระกูลของนักการเมือง แน่นอนว่าจะต้องมีบทบาทและปะทะกับผู้มีอิทธิพล สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกหลานผู้หญิงของตระกูลจึงถูกฝึกฝนให้เรียนรู้การต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้สองพี่น้องสามารถป้องกันตัวเองได้ยามมีสถานการณ์ที่เป็นภัยกับพวกเธอ และยิงปืนแม่นด้วยกันทั้งคู่เพียงแต่คนเป็นพี่จะชื่นชอบในสายบู้มากกว่าน้องสาวที่ไม่ชอบใช้กำลัง แต่ในขณะเดียวกันหากมีภัยอันตรายถึงตัวฮัวฟู่หรงเก่งกาจพอตัวเลยทีเดียว พรืดดด!!!! ปืนพกขนาด 9 มม.ที่มีกระสุนเต็มเม็กกาซีนถูกดึงออกมาจากใต้หมอนอย่างรวดเร็ว ฟิ้วววว !!!! ผ้าห่มผืนหนาสะบัดออกจากร่างงามแสนสวยที่สวมเพียงชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวยาว ผ้าชีฟองสีเนื้อบางเบาปิดบังเรือนร่างงามที่ไร้สิ้นชุดชั้นใน ด้วยเพราะฟู่หรงชอบนอนสบายๆ ไม่ยอมใส่ชุดชั้นในเพราะเธอรู้สึกว่ามันอึดอัด แกรก!!! เสียงปลดเซฟตี้ดังตามติดมาเตรียมพร้อมยิงเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้าเธอ แต่แล้วดาราสาวสวยกลับต้องชะงักงันอยู่กับที่เมื่อได้เห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าในเวลานี้ เหวอออ!!!! ฟู่หรงอุทานออกมาทันทีเมื่อดวงตาของเธอเห็นร่างผู้ชายสวมชุดเกราะโบราณสีดำทะมึน ตัวใหญ่มหึมาเส้นผมสีดำสนิทมีปอยผมตกลงปรกใบหน้า กำลังนั่งมองเธออย่างไม่คลาดสายตาอยู่ในขณะนั้นเมื่อเห็นร่างงามแสนสวยสวมเสื้อผ้าที่สามารถเห็นทะลุไปถึงสัดส่วนภายใต้ชุดนอนตัวยาวดังกล่าว หมับ!!!! ท่ามกลางอาการตื่นตระหนกที่เห็นผู้ชายในชุดเกราะโบราณกำลังนั่งจ้องหน้าเธออยู่ในขณะนั้น บุรุษจากความฝันหรือความจริงก็ไม่อาจรู้ได้ตรงเข้าจับปลายกระบอกปืนที่ปลดเซฟตี้เอาไว้พร้อมยิงออกไปได้ทุกเมื่อ ก่อนจะพลิกฝ่ามือของเขาด้วยความรวดเร็วตรงเข้าจับบริเวณข้อมือของฟู่หรงพร้อมดึงร่างงามแสนสวยเข้ามาหาร่างใหญ่มหึมาของเขาอย่างรวดเร็ว พลั่ก! ร่างของฟู่หรงปะทะเข้ากับร่างของผู้ชายในชุดเกราะโบราณ ท่อนแขนใหญ่ของเขารวบเอวเล็กคอดกิ่วเท่ามดตะนอยของเธอเอาไว้จนแนบชิดอยู่ในแผ่นอกกว้าง สามารถสัมผัสได้ถึงเนื้อหนังมนุษย์ของเขาและเสียงเต้นของหัวใจ หรงเอ๋อร์! เสียงเรียกชื่อของเธอดังออกมาท่ามกลางอาการตื่นตระหนกของฟู่หรงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนั้น ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดอ่านทำอะไร ผู้ชายตรงหน้าลงมือทำตามใจของตัวเองกับร่างงามตรงหน้าโดยที่อีกฝ่ายแทบตั้งตัวไม่ติด อุบ!!!! ริมฝีปากร้อนผ่าวประกบลงบนกลีบปากอวบอิ่มของฟู่หรงราวงูฉก พร้อมบดเบียดลงไปอย่างแนบแน่นและหนักหน่วง อู้วววว!!!! เสียงร้องอู้อี้ดังอยู่ในลำคอเมื่อฟู่หรงถูกผู้ชายตรงหน้าระดมจูบเธออย่างเร่าร้อน มือที่กำลังถือปืนอยู่ในเวลานั้นถูกมือของเขารวบเอาไว้แม้จะดูเหมือนเพียงกำเอาไว้หลวมๆ แต่มันกลับเหนียวแน่นยากที่จะสะบัดหลุดออกมาได้ ในขณะที่มืออีกข้างยังคงว่างอยู่จึงระดมทุบแผ่นหลังที่สวมชุดเกราะโบราณอยู่ในขณะนั้น ตุบ! ตุบ! ตุบ!!!! กำปั้นน้อยๆ ทุบลงแผ่นหลังติดต่อกันอย่างไม่ยั้ง แต่ดูเหมือนว่าแรงของเธอเท่ากับมดตะนอยเสียมากกว่าเพราะร่างใหญ่มหึมาไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ยังคงบดเบียดอยู่ที่ริมฝีปากจูบเธอราวกับว่าตายอดตายอยากมาจากไหนก็ไม่รู้ได้ จนฟู่หรงหายใจแทบไม่ทัน ริมฝีปากร้อนผ่าวระดมจูบฟู่หรงอย่างไม่ยั้งก่อนจะไล้ริมฝีปากหนา ไต่ไปตามพวงแก้มที่แสนหอมกรุ่นจนไปหยุดอยู่ตรงบริเวณติ่งหูของหญิงสาว ก่อนจะใช้ลิ้นโลมเลียอย่างแผ่วเบาพร้อมขบกัดด้วยความกระสันในอารมณ์ของแรงปรารถนาที่กำลังลุกโชนอย่างแรงกล้าอยู่ในขณะนี้ “หรงเอ๋อร์ของข้า! คิดถึงเจ้าเหลือเกิน! คิดถึงเหลือเกิน”เสียงกระซิบบอกชิดริมหูได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนจะไต่ริมฝีปากของเขาวกกลับไปบดเบียดกลีบปากอวบอิ่มของฟู่หรงด้วงแรงปรารถนาที่มีต่อเธอมากมายเหลือคณานับ ในขณะที่ฟู่หรงถึงกับหัวใจอ่อนยวบลงไปทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวของเขาที่บอกอย่างเว้าวอน เต็มไปด้วยความโหยหาเธอมาอย่างยาวนาน ไม่รู้ว่าความคิดถึงของเขานั้นผ่านวันเวลามามากน้อยเพียงไหน ทันใดนั้นเอง ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงกดรหัสตรงหน้าประตูห้องดังขึ้นเพื่อปลดล็อก ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ฮัวมู่หลันเจ๊ใหญ่จอมโหดของน้องสาวแสนสวยที่กำลังถูกสิ่งลี้ลับระดมจูบชนิดที่ว่าจู่โจมกันเลยทีเดียว แอดดด!!!! เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมร่างของฮัวมู่หลันกำลังเดินเข้ามาภายในห้อง ในขณะเดียวกันริมฝีปากร้อนผะผ่าวที่กำลังบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มของฟู่หรงอยู่ในเวลานั้น ค่อยๆ ลดระดับความแรงจนเหลือเพียงบางเบาพร้อมร่างผู้ชายในชุดเกราะโบราณค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ก่อนจะเลือนหายไปในที่สุดพร้อมร่างของฮัวมู่หลันก้าวเข้ามาภายในห้องนอนของน้องสาว “หรงเอ๋อร์ตื่นได้แล้ว! วันนี้มีคิวถ่ายซีนแรกเริ่มแปดโมงเช้ากันเลยนะ”เจ๊จอมโหดบอกน้องสาวก่อนจะหยุดยืนมองเมื่อพบว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับน้องสาวของเธอ “หรงเอ๋อร์!!!!”ฮัวมู่หลันเรียกน้องสาวพร้อมรีบวิ่งตรงเข้าไปหาแทบจะกระโดดก็ว่าได้ เมื่อฮัวมู่หลันเห็นน้องสาวของเธอนั่งคุกเข่าอยู่บนฟูกนอน ใบหน้าแสนสวยเงยขึ้น ดวงตากำลังมองเพดานเบื้องบนอยู่อย่างเลื่อนลอย ในขณะที่ภายในมือกลับถือปืนพกประจำตัวที่คุณพ่อของเธอมอบให้คนละกระบอกเพื่อเอาไว้ติดตัว และขออนุญาตมีไว้ครอบครองอย่างถูกต้องทุกอย่าง รวมไปถึงหากมีความจำเป็นต้องพกอาวุธปืนไปในสถานที่คิดว่าไม่ปลอดภัย คุณพ่อของเธอก็จัดการให้อย่างไร้สิ้นปัญหาอย่างสิ้นเชิง “หรงเอ๋อร์!! หรงเอ๋อร์เป็นอะไรไป+! หรงเอ๋อร์!!!”ฮัวมู่หลันส่งเสียงร้องเรียกน้องสาว แปะ! แปะ! แปะ! หญิงสาวใช้มือยกขึ้นตบใบหน้าของน้องไปมาค่อนข้างแรงเพื่อให้รู้สึกตัว เฮือกกก!!!! กายงามสะดุ้งสุดตัวพร้อมดวงตาที่เลื่อนลอยเริ่มกลอกไปมา ขนตายาวงอนเด้งกะพริบขึ้นลงชนิดที่ว่ารัวเป็นปืนกลเลยทีเดียว ใบหน้าค่อยๆ ก้มลงและพบว่าพี่สาวของเธอกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าพลางกวาดสายตามองไปทั่วห้องนอน “พี่ใหญ่!”ฟู่หรงส่งเสียงออกมา เฮ้อ! ฮัวมู่หลันถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโล่งอกเมื่อน้องสาวรู้สึกตัวขึ้นมาได้ “แกเป็นอะไรไปหรงเอ๋อร์ รู้ไหมว่าเมี่อครู่พี่ตกใจหมดเลย แล้วทำไมเอาปืนที่คุณพ่อให้มาถือไว้แบบนั้นแล้วยังปลดเซฟตี้ด้วย” ฮัวมู่หลันพูดพร้อมเอื้อมไปหยิบปืนพกออกจากมือของน้องสาว ซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงในยุคสมัยนี้ขึ้นเซฟตี้เอาไว้เหมือนเดิมท่ามกลางสายตาของฟู่หรงที่เห็นพี่สาวเก็บปืนพกประจำตัวของเธอ ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันก่อนจะตัดสินใจถามบางอย่างกลับไป “พี่ใหญ่เข้ามาเห็นอะไรในห้องมากกว่าหนูหรือเปล่า”ฟู่หรงถามพี่สาวด้วยเพราะต้องการคำตอบยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อครู่ที่ผ่านมานั้นแท้จริงแล้วเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ เจ๊ใหญ่จอมโหดขมวดคิ้วของเธอเข้าหากันเมื่อได้ยินน้องสาวถามขึ้นมาเช่นนั้น “มีอะไรเกิดขึ้นในห้องแกอย่างนั้นเหรอหรงเอ๋อร์ ถึงได้ถามแบบนี้ออกมา มีอะไรเกิดขึ้นกับแกใช่ไหม”ฮัวมู่หลันพูดพลางสำรวจไปทั่วห้องนอนของน้องสาว หากจะบอกว่ามีใครแอบลักลอบเข้ามาถึงภายในห้องนอนซึ่งอยู่บนชั้นสามของตัวคฤหาสน์ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะมีกล้องวงจรปิดติดทุกจุดในระยะทุกสิบเมตรเลยทีเดียว ยิ่งชั้นสามซึ่งเป็นชั้นส่วนตัวของสองพี่น้องเพียบพร้อมไปด้วยห้องนอน ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ทำประโยชน์ใช้สอยมากมาย ล้วนติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั้งหมด รวมไปถึงด้านนอกของตัวคฤหาสน์ก็ติดกล้องเอาไว้ไม่แตกต่างกัน หากมีคนแอบลักลอบเข้ามา จะต้องไปปรากฏที่ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นอน “หนูละเมอ!”ฟู่หรงตัดสินใจตอบพี่สาวกลับไปเป็นอย่างอื่น ด้วยเพราะแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ที่ผ่านมามันคือความฝันหรือเห็นภาพหลอนกันแน่ แต่ที่น่าประหลาดใจมากก็คือเหตุใดจึงรู้สึกว่ามันเหมือนจริง รสจูบยังตราตรึงอยู่บนริมฝีปากของเธอไม่จางหาย กลีบปากยังร้อนผ่าวเพราะถูกบดขยี้อย่างเร่าร้อน อีกทั้งจูบที่ได้รับนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตสาวของฮัวฟู่หรงเลยทีเดียว หา! เสียงอุทานของคนเป็นพี่ดังขึ้นเมื่อน้องสาวของเธอให้คำตอบกลับมา “ละเมออย่างนั้นเหรอหรงเอ๋อร์!”ฮัวมู่หลันถามย้ำกลับไปพลางมองใบหน้าแสนสวยน้องสาวเขม็ง “ละเมอแล้วถือปืนออกมาแบบนี้นะเหรอ มิหนำซ้ำแกยังปลดเซฟตี้พร้อมยิงออกไปด้วยนะหรงเอ๋อร์ ละเมออะไรกันนี่อันตรายเป็นบ้า!”เจ๊จอมโหดดุน้องสาวของเธอเสียงดังเลยทีเดียว ก่อนจะสังเกตเห็นริมฝีปากของฟู่หรงแดงเห่ออย่างเห็นได้ชัด “แล้วนี้ไปฟัดกับใครมาหรือยะปากถึงได้แดงเห่อเสียขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าละเมอกัดปากตัวเอง”หญิงสาวพูดพร้อมเอื้อมมือตรงเข้าจับปลายคางสวยให้เชิดขึ้นเพื่อสำรวจริมฝีปากอวบอิ่มของน้องสาวเพื่อมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น “ปากแดงเห่อไปหมดแล้วเนี่ย แกไปโดนใครจูบมาหรือเปล่าหรงเอ๋อร์”เจ๊จอมโหดถามน้องสาวของเธอ สิ้นเสียงของฮัวมู่หลัน ดวงตาของฟู่หรงเบิกกว้างขึ้นมาทันที อุบ! นิ้วเรียวงามยกขึ้นจับริมฝีปากของตัวเองทันใดเมื่อพี่สาวเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับริมฝีปาก พรวด!!! ฟู่หรงลุกพรวดพราดขึ้นจากที่นอนกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว วิ่งตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความงุนงงของมู่หลันที่เป็นน้องสาวมีอาการแปลกๆ เกิดขึ้น “หรงเอ๋อร์เป็นอะไร!”เสียงตะโกนถามไล่ตามหลังพร้อมลุกออกจากที่นอนรีบวิ่งตามน้องสาวไปทางห้องน้ำ ในขณะที่ฟู่หรงกำลังยืนมองเงาของตัวเองภายในห้องน้ำด้วยอาการที่เต็มไปด้วยความตกใจ พร้อมใช้มือแตะริมฝีปากของเธอเบาๆ ที่แดงช้ำไปหมดจนลามไปถึงปลายคาง “เป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ! นี่เราถูกผู้ชายจูบจริงหรือนี่ ละ..แล้ว...คนที่จูบไม่รู้ว่าเป็นผีหรือคน!”หญิงสาวพูดพึมพำพลางแตะริมฝีปากของตัวเองอยู่เช่นนั้นด้วยไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อเพราะหลักฐานมันฟ้อง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูห้องน้ำถูกเคาะติดต่อกัน “หรงเอ๋อร์แกเป็นอะไร!”มู่หลันส่งเสียงถามอยู่หน้าประตู “หนูไม่ได้เป็นอะไรพี่ใหญ่! แค่ตกใจที่ตื่นสายเดี๋ยวจะไปเข้าฉากไม่ทันนี่มันก็จะตีสี่แล้ว กว่าจะขับรถไปถึงกองถ่ายและยังต้องแต่งหน้าทำผมอีกก็เลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำนี่แหละ”ฟู่หรงตะโกนตอบพี่สาวกลับไป ฮัวมู่หลันพยักหน้าขึ้นลงเมื่อน้องสาวตะโกนตอบประโยคดังกล่าวกลับมาเช่นนั้น “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว! เดี๋ยวพี่ไปรอที่โต๊ะอาหารนะ แม่บ้านเตรียมอาหารเช้าและอาหารเที่ยงและของว่างให้เอาไปกินที่กองถ่ายเรียบร้อยแล้ว” “ค่ะพี่ใหญ่! เดี๋ยวหนูตามลงไป”หญิงสาวตะโกนตอบพี่สาว เสียงฝีเท้าเดินจากไปตรงหน้าบริเวณห้องน้ำก่อนจะได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้องนอน พร้อมร่างของฟู่หรงทรุดฮวบลงกับพื้นห้องน้ำในท่านั่งพับเพียบ มือจับขอบอ่างล้างหน้าอยู่เช่นนั้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา! ทำไมพักหลังมีเหตุการณ์ประหลาดปรากฏขึ้นอยู่บ่อยๆ ทั้งความฝันบ้าบออะไรก็ไม่รู้ และยังเรื่องผู้ชายในชุดเกราะนั้นอีก มีคนเห็นเขาเดินเคียงคู่กับเราอยู่ตลอดเวลาในวันพิธีบวงสรวง แล้วที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ตกลงโรคประสาทหลอนกำลังมาเยือนเราหรือว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมันคือความจริง” ฮัวฟู่หรงนั่งครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียดกับเรื่องลี้ลับที่เธอเพิ่งได้พานพบ ซึ่งหญิงสาวปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารอยจูบที่ฝากเอาไว้บนริมฝีปากของเธอนั้นเป็นหลักฐานชัดเจนที่บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝันแม้แต่น้อย จุมพิตของเขาประทับรอยตราตรึงซึ่งผู้ชายสวมชุดเกราะโบราณทิ้งรอยแห่งรักเอาไว้บนตัวเธอ “หรงเอ๋อร์ของข้า! คิดถึงเจ้าเหลือเกิน! ข้าคิดถึงเหลือเกิน...ข้าคิดถึง...” เสียงเพรียกหาดังเช่นเสียงกระซิบแผ่วดังมาจากที่ไกลแสนไกล เสียงดังกล่าวข้ามกาลเวลาอันยาวนาน ข้ามอดีตกาลอันแสนไกลโพ้น ข้ามสิ่งกีดขวางกั้นทุกอย่างที่เป็นอุปสรรค เพื่อต้องการพบกับสตรีที่เป็นทุกอย่างในชีวิตของบุรุษผู้กล้าจากแผ่นดินในโลกอดีต ทว่าช่างเป็นไปยากยิ่งนักที่ทั้งสองจะได้พานพบกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD