เรื่องดีๆ

1879 Words
สี่วันแล้วที่ฉันฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองยังอยู่ที่นี่และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน ทุกคนดีกับฉันมากๆ และเมื่อวานฉันก็ได้พบกับท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าของร่างนี้ด้วย มันทำให้ฉันรับรู้เลยว่าพวกท่านนั้นรักและห่วงใยอลิซขนาดไหน นี่ถ้าไม่ติดภารกิจที่ต้องประชุมประจำปีของทุกเผ่าพันธ์ให้เชื่อเลยว่าพวกท่านคงไม่ยอมก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์หลังนี้แน่นอน..... เกิดใหม่ได้เป็นลูกคุณหนูตกถังข้าวสารขนาดนี้มันก็ดีหน่อยๆ ปะวะ ดีกว่าตื่นขึ้นมาแล้วเกิดเป็นขอทานละกัน ฉันเริ่มที่จะเรียนรู้กับโลกใบนี้ให้มากขึ้น แม้จะมีความทรงจำเจ้าของร่างอยู่ก็เถอะ แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันไม่พอเพราะเจ้าของร่างคนเก่านั้นเหมือนกับกบในกะลาดีๆ นี่เอง ความรู้ทั่วไปที่มีก็น้อยนิดมากจนน่าสงสาร ไม่รู้ว่าเป็นถึงลูกสาวขุนนางได้ยังไง ฉันเลยต้องรีบหาความรู้ใส่ตัวเองให้เร็วที่สุด ถ้าเธอยังไม่อยากตายอีกครั้งเธอต้องรีบหาความรู้มาใส่ในหัวด่วนๆ และสิ่งที่ฉันสามารถเริ่มต้นได้โดยที่ไม่ให้ใครสงสัยเลยก็คือ......หนังสือนี่แหละ "โชคดีจริงๆ ที่ยังพอมีตู้หนังสือขนาดเล็กในห้องนอน....อืม...วันนี้อ่านเรื่องประวัติของเมืองก่อนแล้วกัน" ฉันพึมพำคนเดียวก่อนจะหยิบหนังสือมานอนอ่านบนเตียง.....เปิดอ่านไม่เท่าไหร่ก็ต้องร้องว๊าว ในใจ เพราะโลกใบนี้มันดีจริงๆ การอยู่รวมกันของเผ่าพันธ์ต่างๆ ยังสงบอยู่ อ้อไม่สินี่มันสมัยหลังสงครามครั้งใหญ่ต่างหาก ‘ดูเหมือนในอดีตการแบ่งแยกเผ่าพันธ์จะดูรุนแรงมากอยู่นะ’ เอ๊ะ…ที่ฉันอยู่ตอนนี้ก็คือโซนที่เผ่าพันธุ์รัติกาลปกครองอยู่ และเกือบครึ่งของทุกสปีชี่ที่หากินกับความมืดก็มากระจุกอยู่ที่นี่แฮะ.... "มีราชันปกครองโดยเผ่ารัติกาลแวมไพร์....อืม ๆ เป็นเผ่าเดียวกับเจ้าของร่างเลย" ดูยิ่งใหญ่มาก พอลองนึกค้นหาความทรงจำก็นึกออกเป็นบางอย่าง โห…ไม่ธรรมดาเลย ดีที่ครอบครัวนี้ไม่ใช่พวกเชื้อพระวงศ์ แต่ก็ยังเป็นถึงขุนนางชั้นสูงอยู่ดี ก็วุ่นพอกัน เฮ้อ…. เมื่อเปิดไปเรื่อย ๆ ฉันก็เจอเรื่องของเผ่าอื่นๆ ที่อาศัยในที่ต่างๆ ใกล้ไกลออกไป แต่เผ่าพันธุ์หลักๆ ที่มีบทบาททำหน้าที่ปกครองตามสี่ทิศของโลกใบนี้ก็จะมี ราชันรัติกาลแวมไพร์ ราชันมังกร ราชันเทพ และราชันมนุษย์ เมื่ออ่านเสร็จฉันก็สรุปตามความเข้าใจว่า..ปีศาจที่หากินตอนกลางคืนหรือพวกมีพลังความมืดจะชอบอยู่แถบพื้นที่การปกครองของเผ่าพันธ์แวมไพร์ และท่านพ่อของฉันก็เป็นหนึ่งในขุนนางที่มียศสูงจึงได้ช่วยดูแลดินแดนให้กับองค์ราชาด้วย ส่วนพวกปีศาจหากินตอนกลางวันหรือทั่วไปก็อยู่แถบที่เป็นเมืองของเผ่ามังกรปกครอง พวกเทพก็ตามตัวอยู่บนผืนนภาเป็นมิติที่อยู่บนท้องฟ้าแหล่งอาศัยของเผ่าเทพทั้งหลาย และพวกมนุษย์เผ่าพันธุ์สุดท้ายเป็นเผ่าพันธุ์ที่เปิดกว้างกว่าเผ่าพันธุ์ไหน ๆ ใครจะไปอยู่อาศัยก็ได้ทั้งนั้นขอแค่ไม่นำพาความเดือดร้อนไปให้ก็พอ และเพราะความใจกว้างนี้เองจึงถือว่าดินแดนของเผ่ามนุษย์เป็นดินแดนแห่งความเมตตาและกลายเป็นแหล่งรวมเด็กเลือดผสมต่างๆ เชียวละ เพราะปกติจะมีเพียงไม่กี่เผ่าที่จะสมสู่กับมนุษย์แล้วเกิดตั้งครรภ์ได้นะ โดยส่วนมากถ้าเกิดมีการตั้งครรภ์ เด็กที่ออกมามักจะเหมือนฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ตั้งแต่กำเนิด น้อยนักที่จะออกมาแบบเลือดผสม และพวกส่วนน้อยนี้เองก็มักจะถูกรังเกียจและโดนรังแกอยู่บ่อยๆ "โหดร้ายจริงๆ ฉันไม่อาจจะใช้ความรู้ในโลกนั้นมาตัดสินที่นี่ได้เลย" เธอนึกถึงโลกที่จากมาพวกลูกครึ่งนี่ถือว่าเป็นแรร์ไอเทมเลยนะ หญิงแท้หญิงข้ามเพศต่างก็พุ่งรบแย่งกันจีบเพื่อให้ได้สักคน...เหอะๆ แต่พอคิดดูแล้วเธอก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่าพวกนั้นจะเป็นแบบไหนกันบ้างนะ ทำไมต้องแบ่งแยกกันถึงขนาดนี้ “เจ้าของร่างนี่ก็แทบจะไม่สนใจคนพวกนั้นด้วยนี่ซิ ที่นึกได้ก็มีแค่ไม่กี่คนแถมยังเลือนรางอีก โอ๊ย” ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งก่อนที่จะมีคนเปิดเข้ามา นั่นก็คือพี่ชายสุดหล่อของเธอนั่นเอง "โถ่ท่านพี่อลันค่ะ ถ้าจะเคาะแค่นี้แล้วเปิดเลยทีหลังไม่ต้องเคาะก็ได้นะคะ" เธอแอบหยิกหลังเจ้าพี่ชายคนนี้เบาๆ อย่างหมั่นไส้ ถ้าหากเธอโป๊อยู่จะทำยังไง "ขอโทษนะอลิซพอดีพี่มีเรื่องดีๆ เลยรีบมาบอกน้องนะคะ แต่ถ้าน้องไม่พอใจพี่จะให้น้องลงโทษก็ได้นะ" ไม่พูดเปล่าพี่ชายสุดหล่อรีบเดินมานั่งบนเตียงพร้อมกับดึงคอเสื้อลง ก่อนจะยื่นคอขาวๆ มายั่วเย้าเธอเล่น อึก "ไม่ตลกเจ้าค่ะท่านพี่อลัน น้องก็กัดทุกวันอยู่แล้วไหมค่ะ" แหม่ๆ อย่ามาแกล้งฉันนะคุณพี่ชาย อย่านึกว่าฉันจะรู้ไม่ทัน ที่ฉันพูดไม่ได้เกินจริงเลยสักนิด เพราะตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง ทุกวันหลังจากนั้นฉันต้องได้ดื่มเลือดของท่านพี่อลันไม่อย่างนั้นร่างกายของฉันก็จะมีอาการเจ็บปวดออกร้อนไปทั้งตัวเหมือนผีโดนข้าวสารประมาณนั้น ซึ่งท่านพี่ก็ได้บอกฉันแล้วว่าถ้ากัดครบสามวันเมื่อไหร่มันก็จะหายไปเอง และเมื่อวานก็ครบสามวันตามกำหนดแล้ว ยังดีที่ร่างกายของแวมไพร์มันรักษาตัวเองด้วยความไวขั้นสุดยอด ไม่อย่างนั้นที่คอขาว ๆ ของท่านพี่คงเต็มไปด้วยรอยกัดแค่เผลอคิดก็ไม่อยากจะนึกภาพตามแล้วล่ะ "น้องว่าน้องไม่เป็นไรแล้วนะคะ อาการอื่นๆ ก็หายไปแล้วด้วย" ท่านพี่มีสีหน้าที่ดูนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจนเธอมองไม่ออก แต่พอกระพริบตาอีกทีก็กลับเห็นเป็นสีหน้าที่แสดงออกจะบึ้งตึงใส่เธอ....เอ่อฉันทำอะไรผิด "ใช่สิ......พี่ชายคนนี้คงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ที่นึกว่าน้องสาวจะชอบดื่มเลือดของตัวเอง หึ พี่คงจะสำคัญตัวผิด ถ้าอย่างนั้นอลิซก็พักผ่อนเถอะพี่ไม่กวนใจแล้ว" อ้าว...เฮ้ย!!!มาทำสาวน้อยอะไรตอนนี้ท่านพี่!! ยิ่งคุณพี่ชายพยายามทำหน้าเศร้ามันก็ยิ่งดูตลก โอ้ยฮา แต่ก็เอาเถอะสนองคนอยากเสียเลือดเสียเนื้อหน่อยก็ได้แหละ "อ่า.....ท่านพี่เจ้าค่ะอย่าพึ่งไป" ฉันรีบดึงมืออีกฝ่ายไว้....แต่เดี๋ยว เมื่อกี้คือแค่กระตุกเบาๆ เองนะ ทำไมทั้งตัวของท่านพี่ถึงได้ลอยมาใกล้ฉันขนาดนี้ นั่งตักเลยไหม....แหม่การละครเหลือเกินนะ แนะยังมีการกระตุกยิ้มทำหน้าซื่ออีก "ท่านพี่ยังไม่บอกเรื่องดีๆ เลยนะคะ" สีหน้าที่ดีใจเมื่อสักครู่กลับดูห่อเหี่ยวลงทันตา "ที่แท้ก็แค่อยากรู้เรื่องนี้เองหรอกเหรอ" "คริ คริ ไม่แกล้งแล้วเจ้าค่ะ งั้นน้องขอเติมพลังก่อนที่ท่านพี่ค่อยเล่าเรื่องดีๆ ให้น้องฟังนะคะ" ฉันเปลี่ยนอริยบทเป็นนั่งคล่อมตักท่านพี่ไว้เพื่อความสะดวกในการกิน..แค่ก ๆ เมื่อเงยหน้ามองท่านพี่ก็เห็นว่าอีกฝ่ายก็กำลังมองฉันอยู่ ทีอย่างนี้ถึงกับยิ้มแก้มปริ ...... อุค...ดาเมจรุนแรง ฉันที่เริ่มมีอาการหน้าร้อนๆ ก็ถึงกับเผลอใช้มือกระชากคอท่านพี่ลงมาก่อนจะกัดอย่างเร็ว "อะ..อลิซวันนี้รุนแรงจัง อืม......." เสียงครางของท่านพี่ที่ฟังกี่ทีก็จั๊กกะจี้หัวใจจริงๆ มันช่างเซ็กซี่เหลือทน กลิ่นเลือดและรสชาติยังสุดยอดเหมือนเดิมทำเอาเธอเคลิ้มไปตามสัญชาตญาณ อลันรู้สึกถึงสิ่งที่พุ่งพล่านปั่นป่วนภายในกายของตน และเขาเองก็กำลังพยายามอดทนให้ถึงที่สุด แม้จะเอาเปรียบหน่อยแต่นี่ก็ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าตนคือคู่ชีวิตคู่โชคชะตาของน้องสาว พันธะเลือดนี้ใช่ว่าทำกับใครก็ได้ตามใจ "อืม~~" เสียงครางของท่านพี่หลุดออกมาเมื่อฉันถอนเขี้ยวและกำลังใช้ลิ้นเล็กไล้คราบเลือดที่เปื้อนคออยู่ พี่ชายคนนี้แค่ส่งเสียงในลำคอมันก็ออกจะเซ็กซี่เกินไปแล้วจริง ๆ "พอแล้วเหรอค่ะ" ท่านพี่ถามพลางกอดฉันไว้หลวม ๆ ทำให้ฉันปีนลงจากตักของอีกฝ่ายไม่ได้ "ท่านพี่เจ้าค่ะปล่อยน้องก่อน" ความเขินพุ่งขึ้นขีดสุดหน้าเธอเริ่มร้อน ความเอียงอายทำให้ฉันได้แต่ก้มหน้าซบอกแน่นๆ ของท่านพี่เพียงเท่านั้น (มั่นใจว่าอายนะลูกสาว) "หึๆ หน้ารักจริงๆ น๊าเรานิ" ฉ่า ๆ ๆ จะให้เขินจนเลือดพุ่งเลยว่างั้น ยิ่งท่านพี่อลันพูดหยอกล้อเธอก็ยิ่งมุดอกซบซิกแพค แค่ก ๆ เอาซิถือว่าหายกันกับที่ล้อเธอเล่นแล้วกันนะ "อ่าๆ เรื่องดีๆ ที่พี่จะบอกก็คือพี่จะพาเราออกไปตลาดในเมือง ไปซื้อชุดสวยๆ มาใส่ในงานวันเกิดครบรอบ20ปีของพี่น่ะจำได้ไหมค่ะ" อุค...แดกจุกตาเถน!!!!!ฉันลืม ไม่ซิ ในสมองของยัยคนนี้มันจำได้แค่ลางๆ เองนี่ "แหะๆ คือ...น้องพึ่งหายป่วยเลยหลงๆ ลืมๆ นิดหน่อยค่ะ แต่น้องดีใจนะคะที่จะได้ฉลองวันเกิดกับท่านพี่อลันสุดหล่อคนนี้" อลันอมยิ้มกับท่าทางที่เก้อเขินอย่างไร้เดียงสาของน้องสาว ซึ่งมันดีกว่าแต่ก่อนมากจริง ๆ ดีมากจนเขาไม่อยากให้น้องสาวต้องจดจำกับเรื่องราวเหล่านั้นได้เลย "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ วันนี้น้องอยากได้อะไรพี่จะซื้อให้ทุกอย่างเลยนะคะ" งื้อออออสายเปย์ก็มาท่านพี่น่ารักอะ อลิซส่งยิ้มหวานให้อลันจนทำเอาชายหนุ่มเกือบอดใจไม่ไหวที่จะฟัดแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้างตรงหน้านี้ "ได้ค่ะน้องจะซื้อจนท่านพี่ถือไม่ไหวเลย คริ คริ" เสียงหัวเราะอันสดใสของน้องสาวช่างสะกดจิตใจของเขาเหลือเกิน...นี่มัน น่าหลงใหลเกินไปแล้ว ชักไม่อยากพาออกไปแล้วซิ อยู่ดีๆ อลิซก็รู้สึกเย็นวาบที่หลังแปลกๆ ก่อนที่เธอจะหันหลังกลับมามอง แต่เธอก็เห็นแค่ท่านพี่ทำหน้ายุ่งๆ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเคร่งเครียดอยู่คนเดียว 'เป็นอะไรอีกละทีนี้คุณพี่ชายสุดหล่อ'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD